บริษัทไม่ค่อยได้ทำอะไร ในสภาพการเมืองและการออกกฎหมายเช่นนี้ ปิดบริษัทดีหรือไม่

มีบริษัทที่จดทะเบียนไว้ครับ  สัก 10 ปี  ไม่ค่อยได้ทำอะไร   เดินงบเปล่ามากหลายปี
เสียค่าส่งบัญชีเพื่อรักษาสถานะบริษัท  ปีละประมาณ 1 หมื่นบาท

ตอนแรกรักษาไว้ก็ยังได้พอใช้ทำอะไรบ้าง   ก็ถือว่า OK

แต่ปี 57 58 59 นี่มา   ช่องทางในการหากินต่างๆถูกริดรอน   ทั้งทางเศรษฐกิจ   กฎหมาย และนอกกฎหมาย
ไปเปิดออฟฟิศที่ไหน  มีหน้าร้าน   มีออฟฟิศ  ก็มีมือที่มองไม่เห็นมาริดรอน    ทั้งบริษัทโดยตรง  และบริษัทคู่ค้า
จากที่เดิมที  ก็ได้กำไรน้อยอยู่แล้ว    กลายเป็นว่า รายได้ไม่มี  เพราะคู่ค้าไปไม่รอด  โดนแบบเดียวกัน
เปิดหน้าร้าน  ออฟฟิศ  มีพนักงานนิดหน่อย   ก็ง่ายต่อการมองเห็น  และการถูกริดรอน

ในใจคิดว่า อยากจะจดปิดบริษัท    แล้วทำธุรกิจในแบบเงียบๆแล้วครับ    หาพวกที่ไม่ต้องส่งงบอะไร
ได้มาก็เข้าบัญชี  บุคคลธรรมดา   กด ATM ออก  ไม่ต้องไปยุ่งกับพร้อมเพย์      คิดว่า  อำนาจเถื่อนคงไม่อาจ
ตามมาเจอได้หรอก

แต่มาบางกระแสจากคู่ค้าที่ปรึกษาบอกว่า   ตอนนี้สรรพากรจ้องพวกบุคคลธรรมดา
มาเปิดในแบบบริษัทปลอดภัยกว่า     ใครมีข้อมูล  อะไรยังไง  มาแชร์กันหน่อยคัรบ

ป.ล.  พวกความเห็น   คุณต้องปรับตัว  ชนะทุกสิ่ง  ไปกระทู้หน้านะครับ
ไอ้แบบ  คุณต้องปรับตัว   แต่ตัวเองเป็นลูกจ้างอยู่   ไปเล่นกันที่อื่น   ขอคนที่มีประสบการณ์จริงนะครับ