หลายคนเคยตั้งคำถามแบบนี้ครับ ทำไมพระเจ้า .... (บลา บลา บลา ) ?
ผมเองก็เคยสงสัย และตั้งคำถามทำนองเดียวกัน แต่สิ่งที่ผมเรียนรู้คือ จริงๆแล้ว เราถามใคร?
ผมจะ break down ตรรกกะของคำถามทำนองนี้ครับ
ทำไม (Question) + บุคคลที่สาม (Subject) + .......... (Action)
คุณกำลังถามถึงบุคคลที่สาม (subject) อยู่ใช่มั้ยครับ แต่คุณถามคำถามกับ บุคคลที่สี่ ที่ห้า ที่หก... (different subjects)
คำตอบที่คุณได้คือ บุคคลที่สี่ ที่ห้า ที่หก นั้น คาดเดาว่า บุคคลที่สามคิดแบบนั้น แบบนี้ (Assumptions)
เหมือนผมจะถามว่า ทำไมไมเคิล ทำแบบนั้นแบบนี้ หรือไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ แล้วผมไปถามนิโคล คำตอบที่ได้ก็คือ ความคิดของนิโคล คิดว่าไมเคิลมีเหตุผลแบบนั้นแบบนี้ (ซึ่งมันก็ไม่ถูกหลักในการหาคำตอบ เพราะคุณหาไม่ถูกจุด)
ดังนั้นสิ่งที่ถูกต้องคือ ต้องถามกับบุคคลที่สามโดยตรงครับ
ถามไมเคิลเองโดยตรงว่าทำไม (ไมเคิลก็มีสิทธิ์ของเขาว่าจะตอบ รึไม่ตอบ - ถ้าไมเคิลไม่ตอบ ก็เรื่องของไมเคิล - ข้อสรุปคือคำถามของคุณก็ไม่ได้ถูกตอบแค่นั้นเอง)
หรือดูในสิ่งที่ไมเคิลบอกเกี่ยวกับตัวเขา (เช่น ไมเคิล อาจจะเขียนอธิบายในสิ่งที่เขาทำไว้ในไดอารี่ของเขา - คำถามของคุณอาจจะถูกตอบจากสิ่งที่ไมเคิลบอกไว้แล้วก็ได้)
พระเจ้าไม่ใช่ ไมเคิล จะไปถามพระเจ้าได้ยังไง ?
ผมว่า เกินกว่าครึ่งของคนบนโลกนี้เชื่อและนับถือพระเจ้า เขาเหล่านั้นคิดเองเออเอง กันหมดเหรอ? ประชากรที่เชื่อในพระเจ้าไม่มี นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ นักโบราณคดี ที่ เก่งๆ มีความรู้ เลยเหรอ พวกเขาเหล่านั้นไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับ Big bang หรือ Evolution theory เลยเหรอ หรือพวกเขารู้ว่ามีพระเจ้า และถามพระเจ้าโดยตรง เลยรู้ว่ามีจริง ลองถามพระเจ้าโดยตรงด้วยตัวคุณเองสิครับ
พระเจ้าบอกเรื่องราวของพระองค์ผ่านไบเบิ้ล ถ้าจะถามว่า ทำไมพระเจ้า .... อย่างนั้นอย่างนี้? หาคำตอบให้ถูกแหล่ง จากสิ่งที่พระเจ้าบอกเกี่ยวกับตัวท่านนั่นคือดูจากไบเบิ้ลสิครับ
แล้วถ้าหาคำตอบในไบเบิ้ลแล้ว พระเจ้าไม่บอกเหตุผลไว้ อธิฐานถามพระเจ้าด้วยตนเองแล้ว พระเจ้าไม่ตอบอะไร จะสรุปได้มั้ยว่าพระเจ้าไม่มีจริง
ถ้าบุคคลที่สาม ไม่ตอบคำถามคุณ หรือ ไม่ทำสิ่งที่คุณต้องการให้ทำ แสดงว่า บุคคลที่สามนั้น ไม่มีตัวตนเหรอครับ ?
หรือมันก็เรื่องของเขาที่จะไม่ตอบ ไม่ทำตามคำสั่งคุณ
ทำไมพระเจ้า ...... ?
ผมเองก็เคยสงสัย และตั้งคำถามทำนองเดียวกัน แต่สิ่งที่ผมเรียนรู้คือ จริงๆแล้ว เราถามใคร?
ผมจะ break down ตรรกกะของคำถามทำนองนี้ครับ
ทำไม (Question) + บุคคลที่สาม (Subject) + .......... (Action)
คุณกำลังถามถึงบุคคลที่สาม (subject) อยู่ใช่มั้ยครับ แต่คุณถามคำถามกับ บุคคลที่สี่ ที่ห้า ที่หก... (different subjects)
คำตอบที่คุณได้คือ บุคคลที่สี่ ที่ห้า ที่หก นั้น คาดเดาว่า บุคคลที่สามคิดแบบนั้น แบบนี้ (Assumptions)
เหมือนผมจะถามว่า ทำไมไมเคิล ทำแบบนั้นแบบนี้ หรือไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ แล้วผมไปถามนิโคล คำตอบที่ได้ก็คือ ความคิดของนิโคล คิดว่าไมเคิลมีเหตุผลแบบนั้นแบบนี้ (ซึ่งมันก็ไม่ถูกหลักในการหาคำตอบ เพราะคุณหาไม่ถูกจุด)
ดังนั้นสิ่งที่ถูกต้องคือ ต้องถามกับบุคคลที่สามโดยตรงครับ
ถามไมเคิลเองโดยตรงว่าทำไม (ไมเคิลก็มีสิทธิ์ของเขาว่าจะตอบ รึไม่ตอบ - ถ้าไมเคิลไม่ตอบ ก็เรื่องของไมเคิล - ข้อสรุปคือคำถามของคุณก็ไม่ได้ถูกตอบแค่นั้นเอง)
หรือดูในสิ่งที่ไมเคิลบอกเกี่ยวกับตัวเขา (เช่น ไมเคิล อาจจะเขียนอธิบายในสิ่งที่เขาทำไว้ในไดอารี่ของเขา - คำถามของคุณอาจจะถูกตอบจากสิ่งที่ไมเคิลบอกไว้แล้วก็ได้)
พระเจ้าไม่ใช่ ไมเคิล จะไปถามพระเจ้าได้ยังไง ?
ผมว่า เกินกว่าครึ่งของคนบนโลกนี้เชื่อและนับถือพระเจ้า เขาเหล่านั้นคิดเองเออเอง กันหมดเหรอ? ประชากรที่เชื่อในพระเจ้าไม่มี นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ นักโบราณคดี ที่ เก่งๆ มีความรู้ เลยเหรอ พวกเขาเหล่านั้นไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับ Big bang หรือ Evolution theory เลยเหรอ หรือพวกเขารู้ว่ามีพระเจ้า และถามพระเจ้าโดยตรง เลยรู้ว่ามีจริง ลองถามพระเจ้าโดยตรงด้วยตัวคุณเองสิครับ
พระเจ้าบอกเรื่องราวของพระองค์ผ่านไบเบิ้ล ถ้าจะถามว่า ทำไมพระเจ้า .... อย่างนั้นอย่างนี้? หาคำตอบให้ถูกแหล่ง จากสิ่งที่พระเจ้าบอกเกี่ยวกับตัวท่านนั่นคือดูจากไบเบิ้ลสิครับ
แล้วถ้าหาคำตอบในไบเบิ้ลแล้ว พระเจ้าไม่บอกเหตุผลไว้ อธิฐานถามพระเจ้าด้วยตนเองแล้ว พระเจ้าไม่ตอบอะไร จะสรุปได้มั้ยว่าพระเจ้าไม่มีจริง
ถ้าบุคคลที่สาม ไม่ตอบคำถามคุณ หรือ ไม่ทำสิ่งที่คุณต้องการให้ทำ แสดงว่า บุคคลที่สามนั้น ไม่มีตัวตนเหรอครับ ?
หรือมันก็เรื่องของเขาที่จะไม่ตอบ ไม่ทำตามคำสั่งคุณ