จะเริ่มไงดี กระทู้รอบก่อนเคยต้องการทราบหนทางที่จะแก้ปัญหาเรื่องการผ่อนบ้าน ก็ต้องขอบคุณคนที่สะกิดความไม่แน่ใจของตัวเราวันนั้น ตอนที่อ่านก็รู้สึกขัดใจ แต่เอามานั่งทบทวนคิด ก็เห็นว่า เออน่าจะจริงอยู่ (คนดื้อบางทีสอนไม่ฟัง แต่พอโดนติหรือด่านี่ดันเก็บมาคิด แปลกนะ) จึงตัดสินใจทำมันสักอย่างที่พอทำได้เพื่อให้ทุกสิ่งผ่านพ้นมาได้ คือเริ่มด้วยเข้าโปรแกรมปรับโครงสร้างหนี้ ลดการผ่อนบ้านเสีย 24 เดือน มาผ่อนแต่ดอก ที่ 23,000 บาท ถ้วนๆ ต่อเดือน เน้นว่ามันคือดอกเท่านั้นไม่มีส่วนใดที่ไปตัดต้นเลยจริงๆ
ก่อนหน้าที่จะทำมีความกลัวเพราะหลายคนเขียนเอาไว้ว่ามันเป็นวิธิการที่เรียกว่าไม่เกิดประโยชน์ต่อลูกหนี้เพราะท้ายที่สุดเวลามันก็จะหดหายไปหมด นี่ก็ 10 เดือนแล้ว ก็พยายามอย่างที่สุดที่จะรอดพ้นกับการประคับประคองปัญหาให้อยู่ในการที่ควบคุมคะ แต่มันไม่ง่ายนัก มาถึง ณ จุดที่เป็นหนี้บัตรเครดิต ร่วม 7 แสนกว่าบาท ตอนโน้นเรื่องบ้านดูจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเรา มาตอนนี้ปัญหานั้นกลับย่อส่วนเล็กลงและมีช่องว่างให้มองหาโอกาสที่จะขายพร้อมคนเช่า หรือไปหาเงินมาลงทุนทำมันให้เป็นบ้านเช่าระยะสั้นๆ ซะ ก็ต้องปรับที่ใจตัวเราสำหรับเงินที่ส่งเข้าแต่ละเดือนมันก็เป็นเหมือนเราจ่ายค่าเช่าให้แบงค์แต่ไม่ได้อยู่ จ่ายไปคะคิดไว้ว่าเจ้าหนี้คนไหนๆ ก็ย่อมต้องได้กำไรให้มากที่สุด แม้แต่หากเราทำอะไรเราก็หวังกำไรมากเหมือนเค้าแหละ รถผ่อนมาตอนนี้ก็เหลือไม่ถึงแสนแล้ว ก็เลยตั้งใจจะเอารถรีไฟแนนซ์ เพื่อเอาเงินมาลงทุน บางส่วนใช้ตัดยอดหนี้ลง คือต้องมีวินัย ระมัดระวังเพิ่มทุกเรื่อง คือเราไปเบิก ”เงินอนาคต” มาใช้ คำนี้เป็นคำสุภาพนะคะ แต่เป็นอีกคำหนึ่งที่มีความหมายหยาบคายมากอยู่ในความคิดส่วนตัวของเรา คุณๆ อาจโชคดีที่ไม่ได้ทำเช่นเรา แสดงว่าคุณมีบุญ แต่คนเราต้นทุนต่างกัน ส่วนตัวไม่ค่อยเอยปากหยิบยืมเงินทอง หรือนำปัญหาที่เราเจอไปขอความช่วยเหลือจากคนในครอบครัว เราฝึกตัวเองให้คิดและทำแบบนี้เสมอมา คือไม่นำความเดือดร้อนไปสู่พวกเค้า เป็นมาตั้งแต่จำความได้เลย ปรากฎว่าทำการรี่รถตามที่ต้องการไม่สำเร็จในตอนนี้เพราะเค้าต้องการคนค้ำเนื่องจากมีประวัติ 90 วันล่าช้าการผ่อนส่งบ้าน ก็ไม่รู้จะโทษใครได้ เราไม่ใช่คนตั้งกฎ (แต่เราผิดเองก็ได้นะ)
เอาเป็นว่าถ้าหากเจอผ่อนบ้านไม่ไหวคุณควรเจรจาเรื่องปรับไม่ปรับโครงสร้างให้เสร็จภายใน 2 เดือนนะ ถ้าช้ากว่านั้นเบี้ยปรับโครตโหดมหาศาล ธนาคารเค้าไม่ได้มายอมลูกหนี้ง่ายๆ ไม่ว่าจะดราม่าชีวิตสักแค่ไหนเค้าก็คำนึงถึงผลประโยชน์เป็นที่ 1 ไม่ต้องไปวิงวอนอะไรยึดยาว เว้นแต่เส้นใหญ่คะ เส้นใหญ่มีจริง ถ้าขี้กาขี้ไก่ไปทำสิ่งใดก็ไม่เป็นผลนะ มันจะไม่ 90 วันได้ไงคำตอบสุดท้ายว่าผ่านไม่ผ่านเรื่อง คุณจะได้รับก็วันสุดท้ายของทุกเดือน วันสุดท้ายของรอบเดือน การตัดสินใจสำหรับเราไม่มีเวลานักหรอกนะ ถ้าเจ้าหนี้ให้คำตอบคุณในวันสุดท้ายนั่นคือคุณต้องตอบรับยอมรับเท่านั้น แต่เราดันตอบว่า “ขอคิดดูก่อน” เกินวินาทีเดียวก็คือเกินคะ เค้ามีสูตรสำเร็จมาดักไว้หมดแร้วคะ สัญญาคุณไม่ต้องไปเครียดกับมันนักคุณแพ้คดีทั้งล่องขึ้นลงถ้าไปถึงศาลอะ มันรัดกุมครอบคลุมสัญญาหลักทั้งหมดคะ ใครมายุให้ปล่อยเน่า ก็ตรึกตรองให้ถ้วนสักไม่น้อย บางที่แรงยุก็อาจจะเป็นดาบทิ่มแทงได้ภายหลัง
รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เพื่อทางรอด หรือเพื่อเข้าสู่ทางตัน
ก่อนหน้าที่จะทำมีความกลัวเพราะหลายคนเขียนเอาไว้ว่ามันเป็นวิธิการที่เรียกว่าไม่เกิดประโยชน์ต่อลูกหนี้เพราะท้ายที่สุดเวลามันก็จะหดหายไปหมด นี่ก็ 10 เดือนแล้ว ก็พยายามอย่างที่สุดที่จะรอดพ้นกับการประคับประคองปัญหาให้อยู่ในการที่ควบคุมคะ แต่มันไม่ง่ายนัก มาถึง ณ จุดที่เป็นหนี้บัตรเครดิต ร่วม 7 แสนกว่าบาท ตอนโน้นเรื่องบ้านดูจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเรา มาตอนนี้ปัญหานั้นกลับย่อส่วนเล็กลงและมีช่องว่างให้มองหาโอกาสที่จะขายพร้อมคนเช่า หรือไปหาเงินมาลงทุนทำมันให้เป็นบ้านเช่าระยะสั้นๆ ซะ ก็ต้องปรับที่ใจตัวเราสำหรับเงินที่ส่งเข้าแต่ละเดือนมันก็เป็นเหมือนเราจ่ายค่าเช่าให้แบงค์แต่ไม่ได้อยู่ จ่ายไปคะคิดไว้ว่าเจ้าหนี้คนไหนๆ ก็ย่อมต้องได้กำไรให้มากที่สุด แม้แต่หากเราทำอะไรเราก็หวังกำไรมากเหมือนเค้าแหละ รถผ่อนมาตอนนี้ก็เหลือไม่ถึงแสนแล้ว ก็เลยตั้งใจจะเอารถรีไฟแนนซ์ เพื่อเอาเงินมาลงทุน บางส่วนใช้ตัดยอดหนี้ลง คือต้องมีวินัย ระมัดระวังเพิ่มทุกเรื่อง คือเราไปเบิก ”เงินอนาคต” มาใช้ คำนี้เป็นคำสุภาพนะคะ แต่เป็นอีกคำหนึ่งที่มีความหมายหยาบคายมากอยู่ในความคิดส่วนตัวของเรา คุณๆ อาจโชคดีที่ไม่ได้ทำเช่นเรา แสดงว่าคุณมีบุญ แต่คนเราต้นทุนต่างกัน ส่วนตัวไม่ค่อยเอยปากหยิบยืมเงินทอง หรือนำปัญหาที่เราเจอไปขอความช่วยเหลือจากคนในครอบครัว เราฝึกตัวเองให้คิดและทำแบบนี้เสมอมา คือไม่นำความเดือดร้อนไปสู่พวกเค้า เป็นมาตั้งแต่จำความได้เลย ปรากฎว่าทำการรี่รถตามที่ต้องการไม่สำเร็จในตอนนี้เพราะเค้าต้องการคนค้ำเนื่องจากมีประวัติ 90 วันล่าช้าการผ่อนส่งบ้าน ก็ไม่รู้จะโทษใครได้ เราไม่ใช่คนตั้งกฎ (แต่เราผิดเองก็ได้นะ)
เอาเป็นว่าถ้าหากเจอผ่อนบ้านไม่ไหวคุณควรเจรจาเรื่องปรับไม่ปรับโครงสร้างให้เสร็จภายใน 2 เดือนนะ ถ้าช้ากว่านั้นเบี้ยปรับโครตโหดมหาศาล ธนาคารเค้าไม่ได้มายอมลูกหนี้ง่ายๆ ไม่ว่าจะดราม่าชีวิตสักแค่ไหนเค้าก็คำนึงถึงผลประโยชน์เป็นที่ 1 ไม่ต้องไปวิงวอนอะไรยึดยาว เว้นแต่เส้นใหญ่คะ เส้นใหญ่มีจริง ถ้าขี้กาขี้ไก่ไปทำสิ่งใดก็ไม่เป็นผลนะ มันจะไม่ 90 วันได้ไงคำตอบสุดท้ายว่าผ่านไม่ผ่านเรื่อง คุณจะได้รับก็วันสุดท้ายของทุกเดือน วันสุดท้ายของรอบเดือน การตัดสินใจสำหรับเราไม่มีเวลานักหรอกนะ ถ้าเจ้าหนี้ให้คำตอบคุณในวันสุดท้ายนั่นคือคุณต้องตอบรับยอมรับเท่านั้น แต่เราดันตอบว่า “ขอคิดดูก่อน” เกินวินาทีเดียวก็คือเกินคะ เค้ามีสูตรสำเร็จมาดักไว้หมดแร้วคะ สัญญาคุณไม่ต้องไปเครียดกับมันนักคุณแพ้คดีทั้งล่องขึ้นลงถ้าไปถึงศาลอะ มันรัดกุมครอบคลุมสัญญาหลักทั้งหมดคะ ใครมายุให้ปล่อยเน่า ก็ตรึกตรองให้ถ้วนสักไม่น้อย บางที่แรงยุก็อาจจะเป็นดาบทิ่มแทงได้ภายหลัง