คนส่วนใหญ่จะรู้จักทำเนียบขาว White House
แต่ก็ยังมีทำเนียบของผู้นำระดับโลกท่านอื่น ๆ
ซึ่งไม่น่าจะแปลกใจกับที่พำนักของพวกท่าน
จะต้องเป็นทำเนียบที่หรูหราเหมาะสมกับตำแหน่ง
มีพื้นที่จอดรถยนต์และเฮลิคอปเตอร์
ตลอดจนประดับด้วยงานศิลป์ที่ประเมินค่าไม่ได้
1.

Wikimedia Commons/Palácio do Planalto
Palácio da Alvorada in Brasília ในบราซิล
คือ ทำเนียบประธานาธิบดี ตั้งแต่ปีค.ศ.1956
อาคารที่ทันสมัยคล้ายรูปปีกนกสะท้อนกับสระว่ายน้ำ
และประติมากรรมของศิลปินบราซิล Alfredo Ceschiatti

Wikimedia Commons/Secretaria de Imprensa e Porta-Voz da Presidência da República
ทำเนียบที่ดูเรียบง่ายแห่งนี้
มีห้องชุดส่วนตัวจำนวนหลายห้อง
ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่
ห้องใต้ดินที่ใช้เป็นห้องประชุม
ห้องนั่งเล่นเกม คลังเก็บของ และห้องครัว
2.

Shutterstock/Frederic Legrand - COMEO
ไม่ไกลจาก Champs-Élysées สถานที่มีชื่อเสียงในมหานครปารีส
Élysée Palace (Palais de l'Élysée) คือ ทำเนียบประธานาธิบดี
ของสาธารณรัฐฝรั่งเศส ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1840
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส François Hollande พำนักที่นี่ตั้งแต่ปีค.ศ.2012

Shutterstock/Frederic Legrand - COMEO
ทำเนียบแห่งนี้(เดิมเป็นพระราชวัง) สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1722
ด้วยการบุทองคำ ห้องที่มีการตกแต่งภายในอย่างฟุ่มเฟือยที่สุด
คือ Salle des Fêtes (Hall of Festivities)
ห้องที่ประธานาธิบดีเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ทั้งยังใช้เป็นที่ทำการ ห้องประชุม และสถานที่จัดเลี้ยงรัฐพิธี

Wikimedia Commons/Leurent.t
ท้องทำงานของประธานาธิบดี
รู้จักกันในชื่อ Salon Doré (golden room)
เพราะบุทองคำที่ฝาผนัง ประตู โต๊ะ และเก้าอี้
3 .

Shutterstock/Golovlev Igor
Imperial Palace อยู่ใจกลางมหานครโตเกียว
ภายในมีสวนขนาดกว้างขวาง
ล้อมรอบด้วยคูเมืองและกำแพงหินหนา
เป็นที่ประทับของ Akihito จักรพรรดิ์ญี่ปุ่นและพระราชวงศ์
4.

AP Images
ทำเนียบขาว White House ในกรุงวอชิงตัน ดีซี
เป็นของประธานาธิบดีที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก
ห้องสำนักงานรูปไข่ Oval Office
คือที่ทำงานของประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ
ที่ซึ่งประธานาธิบดี Donald Trump ใช้สั่งการ
ประชุมทีมงาน รับรองผู้ทรงเกียรติและประมุขชาติต่าง ๆ

Reuters/Joshua Roberts
ทำเนียบขาวมีห้องรับประทานอาหาร 2 ห้อง
ห้องแรกสำหรับครอบครัวประธานาธิบดี
อีกห้องสำหรับงานเลี้ยงรับรองที่เป็นรัฐพิธี
5.

Shutterstock/Kudla
Moscow Kremlin คือ ป้อมปราการภายในเมือง
สร้างขึ้นระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 14-17
เป็นทำเนียบของประธานาธิบดีรัสเซีย

Shutterstock/Alexeyart
Senate Building อยู่ภายในป้อมปราการ Kremlin
คือทำเนียบของประธานาธิบดี Vladimir Putin
6.

Wikimedia Commons/Jorge Láscar
ทำเนียบประธานาธิบดีฮานอย ในเวียตนาม
สร้างขึ้นสมัยข้าหลวงใหญ่อินโดจีนในปี ค.ศ.1906
(ช่วงที่เวียตนามตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส)
ทุกวันนี้ใช้เป็นสถานที่รับรองของรัฐการ

Wikimedia Commons/Jrwooley6
บ่อปลาคาร์พที่ล้อมรอบทำเนียบ
กับอาคารยุคอาณานิคมของฝรั่งเศสในอินโดจีน
ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส
และมีความโดดเด่นเหมือนอยู่ในยุโรป
7.

Shutterstock/Neil Mitchell
แม้ว่า Queen Elizabeth II จะไม่ใช่ผู้นำอย่างเป็นทางการของอังกฤษ
แต่พระองค์ทรงประทับที่ Buckingham Palace ในมหานครลอนดอน
ซึ่งเป็นของราชวงศ์อังกฤษตั้งแต่ปีค.ศ. 1837

Wikimedia Commons/Henry Layard
ภายในมีห้องถึง 775 ห้อง แยกหลัก ๆ ได้คือ
ห้องบรรทมพระราชวงศ์ 52 ห้อง
ห้องนอนข้าราชบริพาร 188 ห้อง
ห้องทำงาน 92 ห้อง
และห้องน้ำ 78 ห้อง
8.

Wikimedia Commons/Sergeant Tom Robinson
Theresa May นายกรัฐมนตรีอังกฤษพำนักอยู่ที่
ทำเนียบ Downing Street 10 ในมหานครลอนดอน
กับ Philip สามีของเธอ
9.

Wikimedia Commons/Ex13
ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan ของตุรกี
พำนักอยู่ใน Ak Saray (หรือเรียกว่า White Palace) ในนคร Ankara ตุรกี
ทำเนียบแห่งนี้มีมูลค่าก่อสร้างราว 615 ล้านเหรียญสหรัฐ
มีห้องพักมากกว่า 1,100 ห้อง
มีขนาดใหญ่กว่าทำเนียบขาว
และพระราชวังแวร์ซาย(ฝรั่งเศส)
10.

Shutterstock/Giancarlo Liguori
Bellevue Palace เดิมเป็นพระราชวัง
ที่ก่อสร้างแบบนีโอคลาสสิก
ตั้งอยู่ใจกลางมหานครเบอร์ลิน
เป็นทำเนียบของประธานาธิบดีเยอรมนีตั้งแต่ปีค.ศ.1994
ประธานาธิบดี Frank-Walter Steinmeier พำนักอยู่ที่นี่
สร้างขึ้นเมื่อในปี ค.ศ.1785
เพื่อเป็นที่ประทับของพระอนุชา
พระเจ้าเฟรเดอริคมหาราช (Frederick the Great)
ต่อมาได้แปลงเป็นโรงเรียนข้าราชสำนัก
โดยพระเจ้าไกเซอร์วิลเฮล์ม ที่ 2 (Kaiser Wilhelm II)
และเคยเป็นพิพิธภัณฑ์ภายใต้การปกครองของนาซีเยอรมัน
11.

Shutterstock/Peter Probst
Quirinal Palace ในกรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี
เป็นหนึ่งในสามของทำเนียบประธานาธิบดี
มีขนาดใหญ่ประมาณ 20 เท่าของทำเนียบขาว
เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปา 30 พระองค์
กษัตริย์อิตาลี 4 พระองค์ และประธานาธิบดีอิตาลี 12 ท่าน

Wikimedia Commons
ปัจจุบันประธานาธิบดีอิตาลี Sergio Mattarella
ได้เปิดให้พระราชวังเดิม ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16
ที่มีห้องถึง 1,200 ห้อง ให้ประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชม
และเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการศิลปะทั้งแบบชั่วคราวและถาวร
12.

Wikimedia Commons/Michael Gredenberg
ตั้งอยู่บนเนินเขาใน Vaduz ลิกเทนสไตน์
ปราสาท Vaduz คือที่ประทับส่วนพระองค์ของ
Prince Hans-Adam II of Liechtenstein
จะเปิดให้ผู้มีเกียรติเข้าเยี่ยมชมได้ในวันที่ 15 สิงหาคมของทุกปี
ซึ่งเป็นวันชาติลิกเตนสไตน์ Liechtenstein's National Day
โดยพระราชพิธีจะจัดขึ้นในบริเวณสนามหญ้า/สวนของปราสาท
13.

Coolcaesar
อาคารแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1904
โดยรัฐบาลของประธานาธิบดี José Batlle y Ordoñez
ประดับด้วยหินอ่อนที่มีเฉดสี 27 สี
ที่ขุดและตัดแต่งจากเหมืองในอุรักวัย
ออกแบบโดยสถาปนิกอิตาลี
Vittorio Meano กับ Gaetano Moretti
และมีประติมากรรมภาพนูนต่ำ/สูงของ José Belloni
สร้างเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 25 สิงหาคม 1925
เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี
ของการประกาศเอกราชจากกษัตริย์สเปน
เป็นสถานที่รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ของประธานาธิบดี José Serrato
ได้รับการประกาศว่าเป็นอนุสรณ์สถานของชาติ ในปี ค.ศ.1975
โดยประธานาธิบดี Juan María Bordaberry
และใช้เป็นทำเนียบประธานาธิบดีอุรุกวัย
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/zP2lW8
https://goo.gl/JrGOs8
เรื่องเล่าไร้สาระ
Jose Mujica อดีตประธานาธิบดีอุรุกวัย
ได้ชื่อว่าเป็นประธานาธิบดีที่ยากจนที่สุดในโลก
ท่านไม่ยอมพำนักในทำเนียบประธานาธิบดี
ท่านยอมขับรถยนต์โฟล์คเต่าคันเก่า ๆ
ไปกลับที่ทำงานเพื่อมานอนที่บ้านไร่ของภริยา
ที่ตั้งอยู่บนถนนลูกรัง
นอกเขตเมืองหลวง Montevideo
ท่านมี Manuela สุนัขสามขาเฝ้าบ้าน
กับตำรวจอารักขาเพียง 2 นาย
ครอบครัวท่านเวลาซักอบรีดเสื้อผ้าก็ทำกันที่นอกบ้าน
น้ำก็นำขึ้นมาจากสระในไร่ที่รกเรื้อไปด้วยวัชพืช
ทั้งสองคนต่างทำงานบนที่ดินด้วยตนเอง
เช่น ขับรถยนต์ ขับรถแทร็กเตอร์
ปราบหญ้า/วัชชพืช และปลูกดอกไม้ต่าง ๆ
ท่านใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายดูเหมือนว่าซอมซ่อ/ยากจน
ท่านบริจาค 90% ของ 12,000 เหรียญสหรัฐ
ซึ่งเป็นเงินเดือนของประธานาธิบดีเพื่อการกุศลทุกเดือน
ท่านได้รับเลือกตั้งในปีค.ศ.2009
หลังจากใช้เวลาช่วงปีค.ศ.1960-1970
เป็นนักรบกองโจรฝ่ายซ้าย Tupamaros ในอุรักวัย
ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนักรบปฏิวัติคิวบา
(เช กูวาร่า กับ ฟิเดล คาสโตร)
ท่านเคยถูกฝ่ายรัฐบาลยิงถึง 6 ครั้ง
และติดคุกเป็นเวลา 14 ปี (ช่วงปีค.ศ.1970-1985)
เคยผ่านช่วงระยะเวลาที่ยาวนาน/ทรมานมากที่สุดในคุก
โดยถูกขังเดี่ยวภายใต้สภาพห้องขังที่ไม่เอื้ออำนวย
ไม่มีหนังสือให้อ่านเลยแม้แต่เล่มเดียวเป็นเวลา 7 ปี
ท่านถูกปล่อยตัวให้เป็นอิสระในปีค.ศ.1985
เมื่อประเทศอุรุกวัยเดินหน้าเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย

Jose's interview - URUGUAY - #HUMAN
ประธานาธิบดี Mujica กล่าวว่า
" หลายปีที่ผ่านมาในคุก
ผมได้ตกผลึกทางความคิด
เกี่ยวกับการใช้ชีวิต
ผมถูกเรียกว่า
ประธานาธิบดีที่ยากจน
แต่ผมไม่รู้สึกว่ายากจนเลย
คนที่ยากจน
คือ พวกคนที่ทำแต่งานเท่านั้น
เพื่อพยายามที่จะใช้ชิวิตอย่างหรูหรา
และมักจะต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ
นี่คือหลักการอิสรภาพ
หากคุณไม่มีทรัพย์สินมากมายแล้ว
คุณไม่จำเป็นต้องทำงานตลอดชีวิตเหมือนกับเป็นทาส
เพียงเพื่อจะได้จะมีทรัพย์สิน
และต้องหวงแหนทรัพย์สินเหล่านั้น
ด้วยเหตุนี้(การไม่มีทรัพย์สินมาก)
คุณจะมีเวลาว่างสำหรับชีวิตตนเองมากขึ้น
ผมอาจจะเป็นคนแก่ที่ดูประหลาด
แต่นี่เป็นทางเลือกที่มีอิสรภาพ "
หมายเหตุ
ท่านออกกฎหมายให้การสูญกัญชาไม่ผิดกฎหมาย
เป็นประเทศแรกในโลกที่อนุญาตเรื่องนี้
เพราะท่านบอกว่า
กัญชาไม่เลวร้ายหรอก
แต่พวกที่เลวร้าย คือ
ผู้ค้ายารายใหญ่
และผู้ชักชวนให้คนอื่นติดยา
ท่านอนุญาตให้ออกกฎหมายทำแท้งได้
แม้ว่าจะถุกคัดค้านอย่างหนักก็ตาม
เพราะพลเมืองส่วนใหญ่ในประเทศ
นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค
ท่านไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้งในสมัยที่ 3 ได้อีกแล้ว
และตอนนี้ท่านรับเงินบำนาญจากทางรัฐการ
ส่วนรถยนต์โฟล์คของท่านก็มีคนมาประมูลซื้อไปแล้ว
ด้วยจำนวนเงินที่สูงกว่าราคาประเมินมาก
และท่านก็บริจาคเงินทั้งหมดให้กับกิจการสาธารณะ
ทำเนียบผู้นำ 13 ประเทศ
แต่ก็ยังมีทำเนียบของผู้นำระดับโลกท่านอื่น ๆ
ซึ่งไม่น่าจะแปลกใจกับที่พำนักของพวกท่าน
จะต้องเป็นทำเนียบที่หรูหราเหมาะสมกับตำแหน่ง
มีพื้นที่จอดรถยนต์และเฮลิคอปเตอร์
ตลอดจนประดับด้วยงานศิลป์ที่ประเมินค่าไม่ได้
Wikimedia Commons/Palácio do Planalto
Palácio da Alvorada in Brasília ในบราซิล
คือ ทำเนียบประธานาธิบดี ตั้งแต่ปีค.ศ.1956
อาคารที่ทันสมัยคล้ายรูปปีกนกสะท้อนกับสระว่ายน้ำ
และประติมากรรมของศิลปินบราซิล Alfredo Ceschiatti
Wikimedia Commons/Secretaria de Imprensa e Porta-Voz da Presidência da República
ทำเนียบที่ดูเรียบง่ายแห่งนี้
มีห้องชุดส่วนตัวจำนวนหลายห้อง
ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่
ห้องใต้ดินที่ใช้เป็นห้องประชุม
ห้องนั่งเล่นเกม คลังเก็บของ และห้องครัว
ไม่ไกลจาก Champs-Élysées สถานที่มีชื่อเสียงในมหานครปารีส
Élysée Palace (Palais de l'Élysée) คือ ทำเนียบประธานาธิบดี
ของสาธารณรัฐฝรั่งเศส ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1840
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส François Hollande พำนักที่นี่ตั้งแต่ปีค.ศ.2012
Shutterstock/Frederic Legrand - COMEO
ทำเนียบแห่งนี้(เดิมเป็นพระราชวัง) สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1722
ด้วยการบุทองคำ ห้องที่มีการตกแต่งภายในอย่างฟุ่มเฟือยที่สุด
คือ Salle des Fêtes (Hall of Festivities)
ห้องที่ประธานาธิบดีเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ทั้งยังใช้เป็นที่ทำการ ห้องประชุม และสถานที่จัดเลี้ยงรัฐพิธี
Wikimedia Commons/Leurent.t
ท้องทำงานของประธานาธิบดี
รู้จักกันในชื่อ Salon Doré (golden room)
เพราะบุทองคำที่ฝาผนัง ประตู โต๊ะ และเก้าอี้
Shutterstock/Golovlev Igor
Imperial Palace อยู่ใจกลางมหานครโตเกียว
ภายในมีสวนขนาดกว้างขวาง
ล้อมรอบด้วยคูเมืองและกำแพงหินหนา
เป็นที่ประทับของ Akihito จักรพรรดิ์ญี่ปุ่นและพระราชวงศ์
AP Images
ทำเนียบขาว White House ในกรุงวอชิงตัน ดีซี
เป็นของประธานาธิบดีที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก
ห้องสำนักงานรูปไข่ Oval Office
คือที่ทำงานของประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ
ที่ซึ่งประธานาธิบดี Donald Trump ใช้สั่งการ
ประชุมทีมงาน รับรองผู้ทรงเกียรติและประมุขชาติต่าง ๆ
Reuters/Joshua Roberts
ทำเนียบขาวมีห้องรับประทานอาหาร 2 ห้อง
ห้องแรกสำหรับครอบครัวประธานาธิบดี
อีกห้องสำหรับงานเลี้ยงรับรองที่เป็นรัฐพิธี
Shutterstock/Kudla
Moscow Kremlin คือ ป้อมปราการภายในเมือง
สร้างขึ้นระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 14-17
เป็นทำเนียบของประธานาธิบดีรัสเซีย
Shutterstock/Alexeyart
Senate Building อยู่ภายในป้อมปราการ Kremlin
คือทำเนียบของประธานาธิบดี Vladimir Putin
Wikimedia Commons/Jorge Láscar
ทำเนียบประธานาธิบดีฮานอย ในเวียตนาม
สร้างขึ้นสมัยข้าหลวงใหญ่อินโดจีนในปี ค.ศ.1906
(ช่วงที่เวียตนามตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส)
ทุกวันนี้ใช้เป็นสถานที่รับรองของรัฐการ
Wikimedia Commons/Jrwooley6
บ่อปลาคาร์พที่ล้อมรอบทำเนียบ
กับอาคารยุคอาณานิคมของฝรั่งเศสในอินโดจีน
ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส
และมีความโดดเด่นเหมือนอยู่ในยุโรป
Shutterstock/Neil Mitchell
แม้ว่า Queen Elizabeth II จะไม่ใช่ผู้นำอย่างเป็นทางการของอังกฤษ
แต่พระองค์ทรงประทับที่ Buckingham Palace ในมหานครลอนดอน
ซึ่งเป็นของราชวงศ์อังกฤษตั้งแต่ปีค.ศ. 1837
Wikimedia Commons/Henry Layard
ภายในมีห้องถึง 775 ห้อง แยกหลัก ๆ ได้คือ
ห้องบรรทมพระราชวงศ์ 52 ห้อง
ห้องนอนข้าราชบริพาร 188 ห้อง
ห้องทำงาน 92 ห้อง
และห้องน้ำ 78 ห้อง
Wikimedia Commons/Sergeant Tom Robinson
Theresa May นายกรัฐมนตรีอังกฤษพำนักอยู่ที่
ทำเนียบ Downing Street 10 ในมหานครลอนดอน
กับ Philip สามีของเธอ
Wikimedia Commons/Ex13
ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan ของตุรกี
พำนักอยู่ใน Ak Saray (หรือเรียกว่า White Palace) ในนคร Ankara ตุรกี
ทำเนียบแห่งนี้มีมูลค่าก่อสร้างราว 615 ล้านเหรียญสหรัฐ
มีห้องพักมากกว่า 1,100 ห้อง
มีขนาดใหญ่กว่าทำเนียบขาว
และพระราชวังแวร์ซาย(ฝรั่งเศส)
Shutterstock/Giancarlo Liguori
Bellevue Palace เดิมเป็นพระราชวัง
ที่ก่อสร้างแบบนีโอคลาสสิก
ตั้งอยู่ใจกลางมหานครเบอร์ลิน
เป็นทำเนียบของประธานาธิบดีเยอรมนีตั้งแต่ปีค.ศ.1994
ประธานาธิบดี Frank-Walter Steinmeier พำนักอยู่ที่นี่
สร้างขึ้นเมื่อในปี ค.ศ.1785
เพื่อเป็นที่ประทับของพระอนุชา
พระเจ้าเฟรเดอริคมหาราช (Frederick the Great)
ต่อมาได้แปลงเป็นโรงเรียนข้าราชสำนัก
โดยพระเจ้าไกเซอร์วิลเฮล์ม ที่ 2 (Kaiser Wilhelm II)
และเคยเป็นพิพิธภัณฑ์ภายใต้การปกครองของนาซีเยอรมัน
Shutterstock/Peter Probst
Quirinal Palace ในกรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี
เป็นหนึ่งในสามของทำเนียบประธานาธิบดี
มีขนาดใหญ่ประมาณ 20 เท่าของทำเนียบขาว
เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปา 30 พระองค์
กษัตริย์อิตาลี 4 พระองค์ และประธานาธิบดีอิตาลี 12 ท่าน
Wikimedia Commons
ปัจจุบันประธานาธิบดีอิตาลี Sergio Mattarella
ได้เปิดให้พระราชวังเดิม ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16
ที่มีห้องถึง 1,200 ห้อง ให้ประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชม
และเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการศิลปะทั้งแบบชั่วคราวและถาวร
Wikimedia Commons/Michael Gredenberg
ตั้งอยู่บนเนินเขาใน Vaduz ลิกเทนสไตน์
ปราสาท Vaduz คือที่ประทับส่วนพระองค์ของ
Prince Hans-Adam II of Liechtenstein
จะเปิดให้ผู้มีเกียรติเข้าเยี่ยมชมได้ในวันที่ 15 สิงหาคมของทุกปี
ซึ่งเป็นวันชาติลิกเตนสไตน์ Liechtenstein's National Day
โดยพระราชพิธีจะจัดขึ้นในบริเวณสนามหญ้า/สวนของปราสาท
Coolcaesar
อาคารแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1904
โดยรัฐบาลของประธานาธิบดี José Batlle y Ordoñez
ประดับด้วยหินอ่อนที่มีเฉดสี 27 สี
ที่ขุดและตัดแต่งจากเหมืองในอุรักวัย
ออกแบบโดยสถาปนิกอิตาลี
Vittorio Meano กับ Gaetano Moretti
และมีประติมากรรมภาพนูนต่ำ/สูงของ José Belloni
สร้างเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 25 สิงหาคม 1925
เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี
ของการประกาศเอกราชจากกษัตริย์สเปน
เป็นสถานที่รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ของประธานาธิบดี José Serrato
ได้รับการประกาศว่าเป็นอนุสรณ์สถานของชาติ ในปี ค.ศ.1975
โดยประธานาธิบดี Juan María Bordaberry
และใช้เป็นทำเนียบประธานาธิบดีอุรุกวัย
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/zP2lW8
https://goo.gl/JrGOs8
เรื่องเล่าไร้สาระ
Jose Mujica อดีตประธานาธิบดีอุรุกวัย
ได้ชื่อว่าเป็นประธานาธิบดีที่ยากจนที่สุดในโลก
ท่านไม่ยอมพำนักในทำเนียบประธานาธิบดี
ท่านยอมขับรถยนต์โฟล์คเต่าคันเก่า ๆ
ไปกลับที่ทำงานเพื่อมานอนที่บ้านไร่ของภริยา
ที่ตั้งอยู่บนถนนลูกรัง
นอกเขตเมืองหลวง Montevideo
ท่านมี Manuela สุนัขสามขาเฝ้าบ้าน
กับตำรวจอารักขาเพียง 2 นาย
ครอบครัวท่านเวลาซักอบรีดเสื้อผ้าก็ทำกันที่นอกบ้าน
น้ำก็นำขึ้นมาจากสระในไร่ที่รกเรื้อไปด้วยวัชพืช
ทั้งสองคนต่างทำงานบนที่ดินด้วยตนเอง
เช่น ขับรถยนต์ ขับรถแทร็กเตอร์
ปราบหญ้า/วัชชพืช และปลูกดอกไม้ต่าง ๆ
ท่านใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายดูเหมือนว่าซอมซ่อ/ยากจน
ท่านบริจาค 90% ของ 12,000 เหรียญสหรัฐ
ซึ่งเป็นเงินเดือนของประธานาธิบดีเพื่อการกุศลทุกเดือน
ท่านได้รับเลือกตั้งในปีค.ศ.2009
หลังจากใช้เวลาช่วงปีค.ศ.1960-1970
เป็นนักรบกองโจรฝ่ายซ้าย Tupamaros ในอุรักวัย
ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนักรบปฏิวัติคิวบา
(เช กูวาร่า กับ ฟิเดล คาสโตร)
ท่านเคยถูกฝ่ายรัฐบาลยิงถึง 6 ครั้ง
และติดคุกเป็นเวลา 14 ปี (ช่วงปีค.ศ.1970-1985)
เคยผ่านช่วงระยะเวลาที่ยาวนาน/ทรมานมากที่สุดในคุก
โดยถูกขังเดี่ยวภายใต้สภาพห้องขังที่ไม่เอื้ออำนวย
ไม่มีหนังสือให้อ่านเลยแม้แต่เล่มเดียวเป็นเวลา 7 ปี
ท่านถูกปล่อยตัวให้เป็นอิสระในปีค.ศ.1985
เมื่อประเทศอุรุกวัยเดินหน้าเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย
Jose's interview - URUGUAY - #HUMAN
ประธานาธิบดี Mujica กล่าวว่า
" หลายปีที่ผ่านมาในคุก
ผมได้ตกผลึกทางความคิด
เกี่ยวกับการใช้ชีวิต
ผมถูกเรียกว่า
ประธานาธิบดีที่ยากจน
แต่ผมไม่รู้สึกว่ายากจนเลย
คนที่ยากจน
คือ พวกคนที่ทำแต่งานเท่านั้น
เพื่อพยายามที่จะใช้ชิวิตอย่างหรูหรา
และมักจะต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ
นี่คือหลักการอิสรภาพ
หากคุณไม่มีทรัพย์สินมากมายแล้ว
คุณไม่จำเป็นต้องทำงานตลอดชีวิตเหมือนกับเป็นทาส
เพียงเพื่อจะได้จะมีทรัพย์สิน
และต้องหวงแหนทรัพย์สินเหล่านั้น
ด้วยเหตุนี้(การไม่มีทรัพย์สินมาก)
คุณจะมีเวลาว่างสำหรับชีวิตตนเองมากขึ้น
ผมอาจจะเป็นคนแก่ที่ดูประหลาด
แต่นี่เป็นทางเลือกที่มีอิสรภาพ "
หมายเหตุ
ท่านออกกฎหมายให้การสูญกัญชาไม่ผิดกฎหมาย
เป็นประเทศแรกในโลกที่อนุญาตเรื่องนี้
เพราะท่านบอกว่า
กัญชาไม่เลวร้ายหรอก
แต่พวกที่เลวร้าย คือ
ผู้ค้ายารายใหญ่
และผู้ชักชวนให้คนอื่นติดยา
ท่านอนุญาตให้ออกกฎหมายทำแท้งได้
แม้ว่าจะถุกคัดค้านอย่างหนักก็ตาม
เพราะพลเมืองส่วนใหญ่ในประเทศ
นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค
ท่านไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้งในสมัยที่ 3 ได้อีกแล้ว
และตอนนี้ท่านรับเงินบำนาญจากทางรัฐการ
ส่วนรถยนต์โฟล์คของท่านก็มีคนมาประมูลซื้อไปแล้ว
ด้วยจำนวนเงินที่สูงกว่าราคาประเมินมาก
และท่านก็บริจาคเงินทั้งหมดให้กับกิจการสาธารณะ