คงต้องขอออกตัวก่อน เพราะตามนิสัยพี่น้องคนไทยเรา จะถนัดขีดเส้นแบ่งข้างผู้แสดงความเห็นโดยมองข้าม "เนื้อความ" ที่เขาเสนอ ทำนองว่าเอ็งไม่พวกข้าก็พวกมัน ก็คงต้องขอบอกว่าผมไม่ใช่แฟนคลับซิโก้ และเป็นคนแรกๆ ที่แอบหน้าแหกเบาๆ ที่เจ้าตัว ซิโก้ ทำผลงานได้ดีกว่าทีมชาติไทยยุค วินฟรีด เชเฟอร์ เพราะผมไม่เชื่อจริงๆ ว่าจะมีโค้ชคนไทยทำผลงานได้ดีกว่าโค้ชต่างประเทศ ความรู้ความเข้าใจของคนไทยกับคนยุโรป หรือญี่ปุ่นเกาหลี ผมเชื่อมาตลอดว่าห่างกันไกล
อ้อ และผมอายุหลักเลขสามแล้วครับ ก็ดูทีมชาติมาทันปิยะพงศ์ตอนปลายๆ ได้กระโดดโลดเต้นไปกับลูกยิงของ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ใส่เกาหลีใต้ปี 1998 นั่นล่ะครับ
อย่างหนึ่งเกี่ยวกับทีมชาติ ที่ต่างจากสโมสรก็คือ พวกทีมชาติไม่สามารถยกระดับตัวเองได้แบบชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือภายในระยะเวลาอันสั้น
อย่างแมนฯซิตี้ หรือปารีส ที่ใช้เงินเสกความสำเร็จได้ในพริบตา ซึ่งกับทีมชาตินั้น แน่นอนเลยว่าเราคงบังคับให้จู่ๆ เกิดเด็กนักบอลระดับเทพภายในระยะเวลาไม่กี่ปีไม่ได้ ทีมชาติ อย่างไรเสียก็ต้องพึ่งพิงความสามารถของนักฟุตบอลสัญชาตินั้นๆ ที่มีอยู่ ณ เวลานั้น
ถึงได้มีการพูดว่า "รากฐาน" ที่สำคัญ ก็คือฟุตบอลลีก เพื่อจูงใจให้เด็กรุ่นใหม่อยากทำอาชีพนี้ มีสโมสร มีเอกชนลงทุนสร้างศูนย์ฝึก มีโค้ช เจ้าหน้าที่ บุคคลากรเก่งๆ เข้ามา เพื่อเหตุปลายยอดสุดก็คือ "เพื่อก่อกำเนิดบุคลากร หรือ นักฟุตบอล ที่มีคุณภาพขึ้นมา" ซึ่งพวกนี้ใช้เงินเสกเหมือนสโมสรไม่ได้
แต่แน่นอน คุณภาพของลีก ไม่ได้มีเพื่อยกระดับของนักฟุตบอล ณ เวลานั้นๆ แบบชนิดทันทีทันใดและก้าวกระโดด
ฟุตบอลที่พัฒนาขึ้นในตอนนี้ "ความคาดหวัง" จริงๆ ควรจะเป็นนักฟุตบอลรุ่นถัดๆ ไป ที่จะก่อกำเนิดบนรากฐานของลีกที่แข็งแกร่ง มีโค้ช มีสโมสร มีบุคลากรที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ขั้นแรก ไม่ใช่คาดหวังจากนักฟุตบอลรุ่นเก่าในยุคปัจจุบันว่าจู่ๆ จะติดไนตรัส พัฒนาขึ้นมาแบบก้าวกระโดดได้ เพราะพวกเขาก็เกิดมาบนซากของลีกไทยกึ่งอาชีพในยุคที่คนดูโหรงเหรงนั่นเอง
ไทยลีก จริงๆ ต้องบอกว่าเพิ่งพัฒนาขึ้นแบบ "หมาดๆ" จริงๆ หากเรานึกย้อนไปยุคที่เราอาจจะอยากเรียกว่ายุคไดโนเสาร์ พูดถึงตำนานของทีมอย่าง สินธนา, ทหารอากาศ (ก่อนเปลี่ยนเป็นแอร์ฟอซ), บีอีซี เทโร, หรือธนาคารกรุงไทย พวกนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปลายยุค 90s ต่อต้นยุคปี 2000 ที่ผ่านมานี่เองนะครับ
กระแสแรงเว่อร์ของ ชลบุรี คว้าแชมป์ลีก เพิ่งเมื่อปี 2007 นี่เอง
เห็นแฟนบอลโหยหา "ความพัฒนา" ผมกลับคิดว่าการเล่นในรอบ 12 ทีมสุดท้ายคัดฟุตบอลโลกที่เรากำลังทำอยู่นี่แหละ คือ พัฒนาการ อย่างหนึ่งนะ
แต่แน่นอน ในอีกมุมหนึ่ง ก็มีแฟนบอลบางส่วนมองว่านี่คือมาตรฐานปกติของเรา เราติดภาพกับการห่วยกว่านั้น จริงๆ เราควรเอาชนะพวก ญี่ปุ่น, เกาหลี, ซาอุ, ยูเออี, ออสเตรเลีย ฯลฯ ได้ ซึ่งจริงๆ ผมก็อยากอยู่แล้วนะ แค่ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาพื้นฐานอะไรมาให้หวังในจุดนั้นได้
ไทยลีกพัฒนามาเยอะจากเมื่อก่อน แต่ทุกวันนี้เราอยู่จุดไหน?
ไทยลีก พัฒนาแค่ไหน เอาจุดนี้ก่อนดีกว่า เพราะเห็นแฟนบอลหลายๆ คนอ้างอิงว่าฟุตบอลไทยพัฒนามาไกลมาก (จึงหวังว่าทีมชาติจะทำได้ดีกว่านี้) โดยดูจากไทยลีก ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าแค่วัดจากอดีตจากสภาพลีกกึ่งอาชีพนั่น หรือเปรียบเทียบกับลีกต่างๆ ในเอเชียจริงๆ
ตอนนี้อับดับโลกทีมชาติไทย อยู่ที่อันดับ 18 ของเอเชีย (127 ของโลก)
ส่วน AFC Club Competitions Ranking ซึ่งวัดผลงานสโมสรตัวแทนของแต่ละชาติในเวที ACL และ AFC Cup นั้น ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 10
ใน 50 อันดับสโมสรที่ดีที่สุดในเอเชีย มีตัวแทนจากไทยลีก 3 ทีม คือ เมืองทอง ยูไนเต็ด (8), บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (25), และ ชลบุรี (33) ส่วนนอกนั้นก็เป็นสารพัดสโมสรจาก ญี่ปุ่น, เกาหลี, ซาอุฯ, กาต้าร์, จีน, ยูเออี, อิหร่าน อย่างที่พอจะเดากันได้
ผู้ชมเฉลี่ยของไทยลีกฤดูกาลล่าสุด 2016 อยู่ที่ 5,428 คน/นัด (เจลีก 17,028 คน/นัด ปี 2015)
นับตั้งแต่ปี 2009 มีฤดูกาลเดียว ที่นักฟุตบอลไทยได้ตำแหน่งดาวซัลโว คือ ธีรศิลป์ แดงดา (ร่วมกับเคลตัน ปี 2012) นอกนั้นต่างชาติครองหมด
ถือว่าพอมีข้อมูลประกอบให้พอจะนึกภาพออกได้รางๆ ว่าเราอยู่ประมาณไหนในเอเชีย
ทีนี้มาดูต่อ เห็นคนบอกว่าอยากเห็น "พัฒนาการ" โดยการปลดโค้ชซิโก้ เราต้องดูต่อว่า "หน้าที่" และ "ความคาดหวัง" ของโค้ชคืออะไร?
หน้าที่ของโค้ช ง่ายๆ ก็คือการทำผลงานทีมชาติให้ได้ผลดี สร้างผลการแข่งขันที่ดี แต่ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีใครคาดหวังว่าโค้ชทีมชาติจะยกระดับฟุตบอลทั้งประเทศ หรือพัฒนาระดับลีก อะไรแบบนั้น คนละหน้าที่กัน
ลีกที่ดี รากฐานที่ดี นำมาซึ่งนักฟุตบอลที่ดี แล้วโค้ชจึงค่อยใช้ผลผลิตเหล่านี้มาทำทีมชาติให้ได้ผลงานดี
ดังนั้น ถ้าอยากให้ซิโก้ออก มันต้องมีเหตุผลเดียวที่สมเหตุผล คือ คิดว่าเรามีเครื่องมือ มีอุปกรณ์ ซึ่งคือนักฟุตบอล ที่ดี ดีพอ ดีมาก ที่จะนำมาซึ่งผลงานในสนามที่ดีกว่านี้ ถ้าพูดลอยๆ ว่า "พัฒนา" ผมว่ามันเป็นวลีเลื่อนลอย ต้องชี้วัดให้ได้ว่าพัฒนาแบบไหน
สรุป ฟันธงเปรี้ยงเดียว แฟนบอลบางส่วนเชื่อว่า ด้วยไทยลีกตอนนี้ ด้วยคุณภาพนักกีฬาที่เรามีในตอนนี้ เราควรทำผลงานในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้ายได้ดีกว่านี้ ใช่หรือไม่ เอาสั้นๆ ง่ายๆ ไม่ยาก
จะสังเกตว่าผมไม่ได้เอ่ยถึงผลงานในอดีตเลยนะ ผมไม่เคยเชื่อเรื่องหนี้บุญคุณอะไร หรือเอาผลงานห่วยๆ ในอดีตของทีมชาติมาอ้าง ผมเคยเห็นคนให้ความเห็นว่านี่เป็น "ครั้งที่สองในประวัติศาสตร์" ที่ทีมชาติไทยเข้ามาถึงรอบนี้ แต่ก็โดนตอกกลับว่าอย่าติดภาพกับอดีต ตอนนี้เราเปลี่ยนไปแล้ว เราดีขึ้นกว่าเดิมมาก
แต่ไอเจ้า "ดีขึ้นกว่าเดิมมาก" นี่แหละที่ต้องมาทำให้เห็นภาพจริงๆ จังๆ ว่ามันดีแค่ไหน เราควรทำได้ดีกว่านี้จริงๆ หรือไม่ ซึ่งลองยกข้อมูลประกอบคร่าวๆ เกี่ยวฟุตบอลไทยมาเมื่อข้างต้น
ผมว่าแฟนบอลที่อยากให้ซิโก้ออก ก็กระมิดกระเมี้ยน ตอบได้ไม่เต็มเวลาถูกถามตรงๆ ว่าเอ่ยชื่อคู่แข่งที่เราเจอในช่วงที่ผ่านมานี่หวังผล "ชนะ" จริงๆ เหรอ? กล้าพูดได้จริงๆ จากใจใช่มั้ยว่า โค้ชที่ดี สามารถยกระดับทั้งทีมชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือได้?
แต่แน่นอน การวิจารณ์เรื่องการจัดตัว วางแผน ฯลฯ นั้นทำกันได้อยู่แล้วครับ แต่ที่ไม่มีแฟนบอลที่ไหนในโลกเค้าไล่โค้ชด้วยสาเหตุว่าจัดตัวไม่ถูกใจ วางแผนไม่ถูกใจ ก็เพราะฟุตบอลมันไม่ใช่สูตรสำเร็จบนหน้ากระดาษ ไม่ใช่คณิตศาสตร์ที่ใส่สูตรแทนที่กันได้ ทั้งโค้ชเค้าถึงวัดจาก "ผลงาน"
จะจัดตัวอย่างไร ดร็อปใคร ส่งใคร วางแผนอย่างไร เอาเลย ขอแค่ทำผลงานให้ได้ออกมาดีก็พอ จบ
ถ้าดูฟุตบอลจริงๆ นะ ผมว่าเรื่องนี้ไม่น่าเข้าใจยาก พรีเมียร์ลีก, บุนเดสลีกก้า, ลาลีกา ฯลฯ ดูบอลกันมา น่าจะเข้าใจ ถ้าโค้ชจัดตัวไม่ถูกใจ ดันผลงานดี เอ้าก็ต้องตามนั้น
มีใครเห็นแฟนบอลแมนฯยูไนเต็ดออกมาไล่มูรินโญ่เพราะไม่ให้ชไวนี่ลงทั้งที่ทีมสาละวนอยู่กับอันดับ 5-6 มั้ยล่ะครับ?
ไอเรื่อง "การบริหารภายในทีม" นี่มันเป็นปัญหาโลกแตกของทั้งโลกฟุตบอลครับ โค้ชแต่ละคนมีสไตล์การคุมทีมต่างกัน ตั้งแต่เรื่องนอกสนาม กฏ วินัย ระเบียบ การฝึกซ้อม ฯลฯ มาจนถึงวิธีการเล่นและแท็คติค ซึ่งแฟนบอลไม่มีใครเค้ามาอะไรมากกับตรงนี้ เพราะสุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ "ผลงานในสนาม" แค่นั้นล่ะครับ
เราถึงกลับมาที่จุดเดิมว่า ผลงานของทีมชาติไทยในตอนนี้ ดีไม่พอใช่หรือไม่
ถ้า ใช่ ดีไม่พอ ก็แปลว่าเชื่อว่าคุณภาพนักกีฬาในไทยลีกตอนนี้ เชื่อใช่ไหมว่าเราสามารถทำผลงานได้ดีกว่านี้?
"เอาคนที่ดีกว่าเข้ามาพัฒนา" คำพูดยอดฮิต ผมถึงได้ถามข้างต้นว่า "พัฒนาอะไร?" หน้าที่ของโค้ชทีมชาติ คือหยิบเอานักกีฬาเท่าที่มีในตอนนั้น เอามาจัดทีมลงเล่น และสร้างผลการแข่งขัน เท่านั้นเอง
ผมถึงได้งง ว่าถ้าอยากไปเป็นระดับต้นๆ ของเอเชียนี่ มันควรจะเริ่มจากการทำ "ไทยลีก" ให้ได้ระดับต้นๆ ของเอเชียก่อน ไม่ใช่หรือไร?
เห็นหลายท่านบอก อย่าไปติดภาพกับความห่วยของทีมชาติในอดีต ผมก็คิดว่าเราไม่ควรไปติดภาพกับความห่วยของไทยลีกในอดีตเช่นกัน จะได้เห็นความเป็นจริงว่า ไทยลีก อยู่ในระดับไหน อยู่ในระดับที่มันเป็นกำลังขับเคลื่อนทีมชาติไทยไปถึงจุดที่คุณคาดหวังได้แล้วจริงๆ หรือ?
อยากให้ทีมชาติพัฒนา ไม่ยากครับ เข้าไปดูบอลไทยลีกในสนาม หรือดูในทีวียามไม่ว่าง อุดหนุนสโมสร เอาเงินเข้าไปในระบบ ในลีก เพื่อให้ลีกพัฒนา และพาทีมชาติเข้มแข็ง ถ้าหากลีกพัฒนาแล้ว แต่ทีมชาติยังทำผลงานได้ไม่ดี นั่นแหละ เราถึงค่อยกลับมาเล่นงานโค้ชทีมชาติ เพราะแปลว่าคุณมีของดีแล้ว แต่ใช้งานไม่เป็น
กับสภาพไทยลีก ที่ยัง "ห่างชั้น" กับลีกระดับต้นๆ ของเอเชีย การคาดหวังให้ทีมชาติก้าวขึ้นไปเป็นทีมระดับต้นๆ ของเอเชีย ก็ไม่ต่างจากฝันลมๆ แล้งๆ ที่ไม่มีหลักยึดจับในความเป็นจริง และอาจพึ่งพาได้กับ "ช้างเผือก" ที่นานๆ ที่จะเกิดขึ้นมา ไม่ใช่ "มาตรฐาน" ที่แท้จริง
ซิโก้ออกก็ดีแล้วครับ ถึงจุดนึง ที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันและไม่สามารถหาจุดร่วมได้ ก็คงพูดได้แค่ว่า "หากคิดว่าทำได้ดีกว่า ก็ลองดู"
จะยังเชียร์ทีมชาติไทยต่อไป(อยู่แล้ว) จะหวังว่าคนที่เกี่ยวข้องจะช่วยกันยกระดับไทยลีกให้ดียิ่งๆ ขึ้น ซึ่ง "แฟนบอล" นี่แหละเป็นส่วนสำคัญ "ที่สุด" เลย
และหวังว่า ซิโก้ จะใช้เวลาจากนี้พัฒนาตัวเองในฐานะโค้ช สั่งสมประสบการณ์ เพื่อให้เป็นโค้ชที่ยิ่งดีและเก่งขึ้นไปกว่านี้ครับ
ขอบคุณซิโก้ ขอให้โชคดี
บางที ถ้าทีมชาติไทยไม่ได้ผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายคัดบอลโลกนี้ ซิโก้คงไม่ต้องลาออก
อ้อ และผมอายุหลักเลขสามแล้วครับ ก็ดูทีมชาติมาทันปิยะพงศ์ตอนปลายๆ ได้กระโดดโลดเต้นไปกับลูกยิงของ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ใส่เกาหลีใต้ปี 1998 นั่นล่ะครับ
อย่างหนึ่งเกี่ยวกับทีมชาติ ที่ต่างจากสโมสรก็คือ พวกทีมชาติไม่สามารถยกระดับตัวเองได้แบบชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือภายในระยะเวลาอันสั้น
อย่างแมนฯซิตี้ หรือปารีส ที่ใช้เงินเสกความสำเร็จได้ในพริบตา ซึ่งกับทีมชาตินั้น แน่นอนเลยว่าเราคงบังคับให้จู่ๆ เกิดเด็กนักบอลระดับเทพภายในระยะเวลาไม่กี่ปีไม่ได้ ทีมชาติ อย่างไรเสียก็ต้องพึ่งพิงความสามารถของนักฟุตบอลสัญชาตินั้นๆ ที่มีอยู่ ณ เวลานั้น
ถึงได้มีการพูดว่า "รากฐาน" ที่สำคัญ ก็คือฟุตบอลลีก เพื่อจูงใจให้เด็กรุ่นใหม่อยากทำอาชีพนี้ มีสโมสร มีเอกชนลงทุนสร้างศูนย์ฝึก มีโค้ช เจ้าหน้าที่ บุคคลากรเก่งๆ เข้ามา เพื่อเหตุปลายยอดสุดก็คือ "เพื่อก่อกำเนิดบุคลากร หรือ นักฟุตบอล ที่มีคุณภาพขึ้นมา" ซึ่งพวกนี้ใช้เงินเสกเหมือนสโมสรไม่ได้
แต่แน่นอน คุณภาพของลีก ไม่ได้มีเพื่อยกระดับของนักฟุตบอล ณ เวลานั้นๆ แบบชนิดทันทีทันใดและก้าวกระโดด
ฟุตบอลที่พัฒนาขึ้นในตอนนี้ "ความคาดหวัง" จริงๆ ควรจะเป็นนักฟุตบอลรุ่นถัดๆ ไป ที่จะก่อกำเนิดบนรากฐานของลีกที่แข็งแกร่ง มีโค้ช มีสโมสร มีบุคลากรที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ขั้นแรก ไม่ใช่คาดหวังจากนักฟุตบอลรุ่นเก่าในยุคปัจจุบันว่าจู่ๆ จะติดไนตรัส พัฒนาขึ้นมาแบบก้าวกระโดดได้ เพราะพวกเขาก็เกิดมาบนซากของลีกไทยกึ่งอาชีพในยุคที่คนดูโหรงเหรงนั่นเอง
ไทยลีก จริงๆ ต้องบอกว่าเพิ่งพัฒนาขึ้นแบบ "หมาดๆ" จริงๆ หากเรานึกย้อนไปยุคที่เราอาจจะอยากเรียกว่ายุคไดโนเสาร์ พูดถึงตำนานของทีมอย่าง สินธนา, ทหารอากาศ (ก่อนเปลี่ยนเป็นแอร์ฟอซ), บีอีซี เทโร, หรือธนาคารกรุงไทย พวกนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปลายยุค 90s ต่อต้นยุคปี 2000 ที่ผ่านมานี่เองนะครับ
กระแสแรงเว่อร์ของ ชลบุรี คว้าแชมป์ลีก เพิ่งเมื่อปี 2007 นี่เอง
เห็นแฟนบอลโหยหา "ความพัฒนา" ผมกลับคิดว่าการเล่นในรอบ 12 ทีมสุดท้ายคัดฟุตบอลโลกที่เรากำลังทำอยู่นี่แหละ คือ พัฒนาการ อย่างหนึ่งนะ
แต่แน่นอน ในอีกมุมหนึ่ง ก็มีแฟนบอลบางส่วนมองว่านี่คือมาตรฐานปกติของเรา เราติดภาพกับการห่วยกว่านั้น จริงๆ เราควรเอาชนะพวก ญี่ปุ่น, เกาหลี, ซาอุ, ยูเออี, ออสเตรเลีย ฯลฯ ได้ ซึ่งจริงๆ ผมก็อยากอยู่แล้วนะ แค่ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาพื้นฐานอะไรมาให้หวังในจุดนั้นได้
ไทยลีกพัฒนามาเยอะจากเมื่อก่อน แต่ทุกวันนี้เราอยู่จุดไหน?
ไทยลีก พัฒนาแค่ไหน เอาจุดนี้ก่อนดีกว่า เพราะเห็นแฟนบอลหลายๆ คนอ้างอิงว่าฟุตบอลไทยพัฒนามาไกลมาก (จึงหวังว่าทีมชาติจะทำได้ดีกว่านี้) โดยดูจากไทยลีก ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าแค่วัดจากอดีตจากสภาพลีกกึ่งอาชีพนั่น หรือเปรียบเทียบกับลีกต่างๆ ในเอเชียจริงๆ
ตอนนี้อับดับโลกทีมชาติไทย อยู่ที่อันดับ 18 ของเอเชีย (127 ของโลก)
ส่วน AFC Club Competitions Ranking ซึ่งวัดผลงานสโมสรตัวแทนของแต่ละชาติในเวที ACL และ AFC Cup นั้น ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 10
ใน 50 อันดับสโมสรที่ดีที่สุดในเอเชีย มีตัวแทนจากไทยลีก 3 ทีม คือ เมืองทอง ยูไนเต็ด (8), บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (25), และ ชลบุรี (33) ส่วนนอกนั้นก็เป็นสารพัดสโมสรจาก ญี่ปุ่น, เกาหลี, ซาอุฯ, กาต้าร์, จีน, ยูเออี, อิหร่าน อย่างที่พอจะเดากันได้
ผู้ชมเฉลี่ยของไทยลีกฤดูกาลล่าสุด 2016 อยู่ที่ 5,428 คน/นัด (เจลีก 17,028 คน/นัด ปี 2015)
นับตั้งแต่ปี 2009 มีฤดูกาลเดียว ที่นักฟุตบอลไทยได้ตำแหน่งดาวซัลโว คือ ธีรศิลป์ แดงดา (ร่วมกับเคลตัน ปี 2012) นอกนั้นต่างชาติครองหมด
ถือว่าพอมีข้อมูลประกอบให้พอจะนึกภาพออกได้รางๆ ว่าเราอยู่ประมาณไหนในเอเชีย
ทีนี้มาดูต่อ เห็นคนบอกว่าอยากเห็น "พัฒนาการ" โดยการปลดโค้ชซิโก้ เราต้องดูต่อว่า "หน้าที่" และ "ความคาดหวัง" ของโค้ชคืออะไร?
หน้าที่ของโค้ช ง่ายๆ ก็คือการทำผลงานทีมชาติให้ได้ผลดี สร้างผลการแข่งขันที่ดี แต่ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีใครคาดหวังว่าโค้ชทีมชาติจะยกระดับฟุตบอลทั้งประเทศ หรือพัฒนาระดับลีก อะไรแบบนั้น คนละหน้าที่กัน
ลีกที่ดี รากฐานที่ดี นำมาซึ่งนักฟุตบอลที่ดี แล้วโค้ชจึงค่อยใช้ผลผลิตเหล่านี้มาทำทีมชาติให้ได้ผลงานดี
ดังนั้น ถ้าอยากให้ซิโก้ออก มันต้องมีเหตุผลเดียวที่สมเหตุผล คือ คิดว่าเรามีเครื่องมือ มีอุปกรณ์ ซึ่งคือนักฟุตบอล ที่ดี ดีพอ ดีมาก ที่จะนำมาซึ่งผลงานในสนามที่ดีกว่านี้ ถ้าพูดลอยๆ ว่า "พัฒนา" ผมว่ามันเป็นวลีเลื่อนลอย ต้องชี้วัดให้ได้ว่าพัฒนาแบบไหน
สรุป ฟันธงเปรี้ยงเดียว แฟนบอลบางส่วนเชื่อว่า ด้วยไทยลีกตอนนี้ ด้วยคุณภาพนักกีฬาที่เรามีในตอนนี้ เราควรทำผลงานในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้ายได้ดีกว่านี้ ใช่หรือไม่ เอาสั้นๆ ง่ายๆ ไม่ยาก
จะสังเกตว่าผมไม่ได้เอ่ยถึงผลงานในอดีตเลยนะ ผมไม่เคยเชื่อเรื่องหนี้บุญคุณอะไร หรือเอาผลงานห่วยๆ ในอดีตของทีมชาติมาอ้าง ผมเคยเห็นคนให้ความเห็นว่านี่เป็น "ครั้งที่สองในประวัติศาสตร์" ที่ทีมชาติไทยเข้ามาถึงรอบนี้ แต่ก็โดนตอกกลับว่าอย่าติดภาพกับอดีต ตอนนี้เราเปลี่ยนไปแล้ว เราดีขึ้นกว่าเดิมมาก
แต่ไอเจ้า "ดีขึ้นกว่าเดิมมาก" นี่แหละที่ต้องมาทำให้เห็นภาพจริงๆ จังๆ ว่ามันดีแค่ไหน เราควรทำได้ดีกว่านี้จริงๆ หรือไม่ ซึ่งลองยกข้อมูลประกอบคร่าวๆ เกี่ยวฟุตบอลไทยมาเมื่อข้างต้น
ผมว่าแฟนบอลที่อยากให้ซิโก้ออก ก็กระมิดกระเมี้ยน ตอบได้ไม่เต็มเวลาถูกถามตรงๆ ว่าเอ่ยชื่อคู่แข่งที่เราเจอในช่วงที่ผ่านมานี่หวังผล "ชนะ" จริงๆ เหรอ? กล้าพูดได้จริงๆ จากใจใช่มั้ยว่า โค้ชที่ดี สามารถยกระดับทั้งทีมชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือได้?
แต่แน่นอน การวิจารณ์เรื่องการจัดตัว วางแผน ฯลฯ นั้นทำกันได้อยู่แล้วครับ แต่ที่ไม่มีแฟนบอลที่ไหนในโลกเค้าไล่โค้ชด้วยสาเหตุว่าจัดตัวไม่ถูกใจ วางแผนไม่ถูกใจ ก็เพราะฟุตบอลมันไม่ใช่สูตรสำเร็จบนหน้ากระดาษ ไม่ใช่คณิตศาสตร์ที่ใส่สูตรแทนที่กันได้ ทั้งโค้ชเค้าถึงวัดจาก "ผลงาน"
จะจัดตัวอย่างไร ดร็อปใคร ส่งใคร วางแผนอย่างไร เอาเลย ขอแค่ทำผลงานให้ได้ออกมาดีก็พอ จบ
ถ้าดูฟุตบอลจริงๆ นะ ผมว่าเรื่องนี้ไม่น่าเข้าใจยาก พรีเมียร์ลีก, บุนเดสลีกก้า, ลาลีกา ฯลฯ ดูบอลกันมา น่าจะเข้าใจ ถ้าโค้ชจัดตัวไม่ถูกใจ ดันผลงานดี เอ้าก็ต้องตามนั้น
มีใครเห็นแฟนบอลแมนฯยูไนเต็ดออกมาไล่มูรินโญ่เพราะไม่ให้ชไวนี่ลงทั้งที่ทีมสาละวนอยู่กับอันดับ 5-6 มั้ยล่ะครับ?
ไอเรื่อง "การบริหารภายในทีม" นี่มันเป็นปัญหาโลกแตกของทั้งโลกฟุตบอลครับ โค้ชแต่ละคนมีสไตล์การคุมทีมต่างกัน ตั้งแต่เรื่องนอกสนาม กฏ วินัย ระเบียบ การฝึกซ้อม ฯลฯ มาจนถึงวิธีการเล่นและแท็คติค ซึ่งแฟนบอลไม่มีใครเค้ามาอะไรมากกับตรงนี้ เพราะสุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ "ผลงานในสนาม" แค่นั้นล่ะครับ
เราถึงกลับมาที่จุดเดิมว่า ผลงานของทีมชาติไทยในตอนนี้ ดีไม่พอใช่หรือไม่
ถ้า ใช่ ดีไม่พอ ก็แปลว่าเชื่อว่าคุณภาพนักกีฬาในไทยลีกตอนนี้ เชื่อใช่ไหมว่าเราสามารถทำผลงานได้ดีกว่านี้?
"เอาคนที่ดีกว่าเข้ามาพัฒนา" คำพูดยอดฮิต ผมถึงได้ถามข้างต้นว่า "พัฒนาอะไร?" หน้าที่ของโค้ชทีมชาติ คือหยิบเอานักกีฬาเท่าที่มีในตอนนั้น เอามาจัดทีมลงเล่น และสร้างผลการแข่งขัน เท่านั้นเอง
ผมถึงได้งง ว่าถ้าอยากไปเป็นระดับต้นๆ ของเอเชียนี่ มันควรจะเริ่มจากการทำ "ไทยลีก" ให้ได้ระดับต้นๆ ของเอเชียก่อน ไม่ใช่หรือไร?
เห็นหลายท่านบอก อย่าไปติดภาพกับความห่วยของทีมชาติในอดีต ผมก็คิดว่าเราไม่ควรไปติดภาพกับความห่วยของไทยลีกในอดีตเช่นกัน จะได้เห็นความเป็นจริงว่า ไทยลีก อยู่ในระดับไหน อยู่ในระดับที่มันเป็นกำลังขับเคลื่อนทีมชาติไทยไปถึงจุดที่คุณคาดหวังได้แล้วจริงๆ หรือ?
อยากให้ทีมชาติพัฒนา ไม่ยากครับ เข้าไปดูบอลไทยลีกในสนาม หรือดูในทีวียามไม่ว่าง อุดหนุนสโมสร เอาเงินเข้าไปในระบบ ในลีก เพื่อให้ลีกพัฒนา และพาทีมชาติเข้มแข็ง ถ้าหากลีกพัฒนาแล้ว แต่ทีมชาติยังทำผลงานได้ไม่ดี นั่นแหละ เราถึงค่อยกลับมาเล่นงานโค้ชทีมชาติ เพราะแปลว่าคุณมีของดีแล้ว แต่ใช้งานไม่เป็น
กับสภาพไทยลีก ที่ยัง "ห่างชั้น" กับลีกระดับต้นๆ ของเอเชีย การคาดหวังให้ทีมชาติก้าวขึ้นไปเป็นทีมระดับต้นๆ ของเอเชีย ก็ไม่ต่างจากฝันลมๆ แล้งๆ ที่ไม่มีหลักยึดจับในความเป็นจริง และอาจพึ่งพาได้กับ "ช้างเผือก" ที่นานๆ ที่จะเกิดขึ้นมา ไม่ใช่ "มาตรฐาน" ที่แท้จริง
ซิโก้ออกก็ดีแล้วครับ ถึงจุดนึง ที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันและไม่สามารถหาจุดร่วมได้ ก็คงพูดได้แค่ว่า "หากคิดว่าทำได้ดีกว่า ก็ลองดู"
จะยังเชียร์ทีมชาติไทยต่อไป(อยู่แล้ว) จะหวังว่าคนที่เกี่ยวข้องจะช่วยกันยกระดับไทยลีกให้ดียิ่งๆ ขึ้น ซึ่ง "แฟนบอล" นี่แหละเป็นส่วนสำคัญ "ที่สุด" เลย
และหวังว่า ซิโก้ จะใช้เวลาจากนี้พัฒนาตัวเองในฐานะโค้ช สั่งสมประสบการณ์ เพื่อให้เป็นโค้ชที่ยิ่งดีและเก่งขึ้นไปกว่านี้ครับ
ขอบคุณซิโก้ ขอให้โชคดี