ติดตามเรื่องราวทีมชาติมาอย่างเงียบๆ
อยากจะขออนุญาตตั้งกระทู้ ในฐานะติ่ง "ซิโก้" คนหนึ่ง ที่แอบเชียร์ "ซิโก้" มานาน
ผมคนหนึ่งที่เคยสบประมาทซิโก้ ในสมัยเข้ามาคุมทีมชาติใหม่ๆ เพราะการคุมสโมสร BBCU
ก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จอะไรมากมาย จนกระทั่งเข้ามาคุมทีมชาติ ก็ถูกแฟนบอลและสื่อต่างๆ สบประมาท
ว่าจะไปได้ซักกี่น้ำ เพราะซิโก้เข้ามาใหม่ๆ ก็ในทำนองปัจจุบัน คือ เป็นโค้ชขัดตาทัพ คนหนึ่ง ต่อจาก วินเฟรด เชพเฟอร์
ที่เวลานั้น มีปัญหากับสมาคม ในยุค วรวีร์
สิ่งแฟนบอลยอมรับ คือการสร้างระเบียบวินัย ทัศนคติและรูปแบบการเล่น ของทีมชาติไทย
จนกระทั่งประสบผลสำเร็จมากมาย และเรียกศรัทธาแฟนบอลให้กลับมา อย่างท่วมท้น
สิ่งที่ซิโก้ สร้างมากับมือ คือผลงาน และความดีที่ได้สร้างให้กับทีมชาติไทย
แต่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง มันไปต่อไม่ได้ ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง เท่าที่ทราบกันดี
เพราะซิโก้ ยังติดในรูปแบบการทำทีมแบบเดิมๆ คือ "ดรีมทีม" ในยุคบิ๊กหอย ซึ่งมันล้าสมัยไปแล้ว
ปัจจัยความสำเร็จของทีมชาติไทย ไม่ใช่ฝีมือซิโก้ ทั้งหมด มันยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาเกื้อหนุน
ให้ทีมชาติไทยประสบผลสำเร็จในปัจจุบัน เช่น การพัฒนาลีกปัจจุบัน อคาเดมีสโมสรต่างๆ
แม้ในยุค ซิโก้ ลีกเยาวชนอาจจะยังไม่ได้เป็นรูปธรรมมากนัก แต่ปัจจัยที่ฟุตบอลไทยลีก พัฒนามากกว่าแต่ก่อน
เป็นปัจจัยเกื้อหนุน ให้ทีมชาติพัฒนาตาม ที่เห็นชัดเจนมากที่สุด คือ สภาพความฟิตของนักเตะ
ที่วิ่งได้ 90 นาที ไม่มีหมด นั่นคือผลพวง ที่ได้จากไทยลแลนด์ลีก ในยุคปัจจุบัน
ซิโก้เป็นเพียงโค้ชคนหนึ่ง ที่เข้ามาปรุงแต่ง และเสริมความสำเร็จ ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
ด้วยการเสริมสร้างระเบียบวินัย ทัศนคติในการเล่น และความเป็นสุภาพบุรุษในสนาม
ไม่เกเรแถมมวยในสนามเหมือนเมื่อก่อน....
ซิโก้เป็นเพียง ส่วนหนึ่งที่มาเติมเต็ม ไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดของความสำเร็จ
ความดีทั้งหลายที่ซิโก้สร้างมา แฟนบอลส่วนใหญ่ต่างยอมรับ ในสิ่งที่ซิโก้สร้างมา
และภาพความเป็น ฮีโร่ ของซิโก้ ยังติดตาเด็กๆ และเยาวชน แฟนบอลชาวไทย
การยอมลาออกจากโค้ชทีมชาติ ก็ถือว่าเป็นสปิริตอย่างหนึ่ง
ที่ลดกระแสต่อต้านที่ผลงานย่ำแย่ในเวทีระดับเอเซีย
ผมไม่บังอาจสอนสังฆราช แต่ในมุมมองของผม ซิโก้ ควรสงบปากสงบคำ พูดให้น้อย
แม้ว่าจะมีเรื่องอัดอั้นตันใจในหลายๆ เรื่อง การออกมาพูดผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้ตัวเองดูดี
ในขณะเดียวกัน คำพูดที่ออกมาเหมือนจะโยนบาปให้กับ สมาคม และคนอื่น
ถึงแม้จะไม่ใช้คำพูดตรงๆ แต่ลักษณะการพูด ผมว่าใครๆ ก็ดูออก …
การออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกสมาคม ประธานเทคนิค และ บริษัท อิโคโน่
มันไม่ได้ช่วยให้ซิโก้ดูดีขึ้น แต่มันกำลังจะกลับมาทำลายตัวซิโก้เอง
จริงๆ ผมเชียร์โค้ชไทยนะ ผมอยากให้โค้ชไทย พัฒนาไปสู่ระดับโลก แต่เมื่อมันถึงทางตัน มันไปต่อไม่ได้
ซิโก้ ควรยอมถอยเปิดทางให้คนอื่นเข้ามาบริหาร แต่ไม่ใช่มาออกสื่อ จิกกัดคนอื่น ว่าตัวเองเก่งคนเดียว
อย่าให้ภาพฮีโร่ในสายตาเด็กๆ และเยาวชน ที่สร้างมากับมือ ต้องมาถูกลบด้วยเท้าของตัวเอง
ซิโก้ยังต้องอยู่ในเส้นทางอีกนาน อนาคตอาจต้องได้ร่วมงานกันอีก
การพูดให้ตัวเองดูดี แต่คนอื่นดูแย่ นอกจากจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง มันยังสร้างศรัตรู โดยไม่รู้ตัว
ควรปล่อยให้สมาคมและ คณะทำงาน ลองอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง ผมมองว่า มันยังดีกว่ารูปแบบเดิมๆ วิธีการแบบเดิมๆ
ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ อย่างน้อยๆ เราก็ได้เรียนรู้วิธีการทำงานจากมืออาชีพระดับโลก
ซิโก้ควรหยุดก่อนที่จะไม่เหลือภาพ “ฮีโร่” ในสายตาแฟนบอลไทยและเยาวชน
✤ "โค้ชซิโก้" ภาพฮีโร่ กำลังจะถูกลบด้วยเท้าของตัวเอง
อยากจะขออนุญาตตั้งกระทู้ ในฐานะติ่ง "ซิโก้" คนหนึ่ง ที่แอบเชียร์ "ซิโก้" มานาน
ผมคนหนึ่งที่เคยสบประมาทซิโก้ ในสมัยเข้ามาคุมทีมชาติใหม่ๆ เพราะการคุมสโมสร BBCU
ก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จอะไรมากมาย จนกระทั่งเข้ามาคุมทีมชาติ ก็ถูกแฟนบอลและสื่อต่างๆ สบประมาท
ว่าจะไปได้ซักกี่น้ำ เพราะซิโก้เข้ามาใหม่ๆ ก็ในทำนองปัจจุบัน คือ เป็นโค้ชขัดตาทัพ คนหนึ่ง ต่อจาก วินเฟรด เชพเฟอร์
ที่เวลานั้น มีปัญหากับสมาคม ในยุค วรวีร์
สิ่งแฟนบอลยอมรับ คือการสร้างระเบียบวินัย ทัศนคติและรูปแบบการเล่น ของทีมชาติไทย
จนกระทั่งประสบผลสำเร็จมากมาย และเรียกศรัทธาแฟนบอลให้กลับมา อย่างท่วมท้น
สิ่งที่ซิโก้ สร้างมากับมือ คือผลงาน และความดีที่ได้สร้างให้กับทีมชาติไทย
แต่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง มันไปต่อไม่ได้ ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง เท่าที่ทราบกันดี
เพราะซิโก้ ยังติดในรูปแบบการทำทีมแบบเดิมๆ คือ "ดรีมทีม" ในยุคบิ๊กหอย ซึ่งมันล้าสมัยไปแล้ว
ปัจจัยความสำเร็จของทีมชาติไทย ไม่ใช่ฝีมือซิโก้ ทั้งหมด มันยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาเกื้อหนุน
ให้ทีมชาติไทยประสบผลสำเร็จในปัจจุบัน เช่น การพัฒนาลีกปัจจุบัน อคาเดมีสโมสรต่างๆ
แม้ในยุค ซิโก้ ลีกเยาวชนอาจจะยังไม่ได้เป็นรูปธรรมมากนัก แต่ปัจจัยที่ฟุตบอลไทยลีก พัฒนามากกว่าแต่ก่อน
เป็นปัจจัยเกื้อหนุน ให้ทีมชาติพัฒนาตาม ที่เห็นชัดเจนมากที่สุด คือ สภาพความฟิตของนักเตะ
ที่วิ่งได้ 90 นาที ไม่มีหมด นั่นคือผลพวง ที่ได้จากไทยลแลนด์ลีก ในยุคปัจจุบัน
ซิโก้เป็นเพียงโค้ชคนหนึ่ง ที่เข้ามาปรุงแต่ง และเสริมความสำเร็จ ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
ด้วยการเสริมสร้างระเบียบวินัย ทัศนคติในการเล่น และความเป็นสุภาพบุรุษในสนาม
ไม่เกเรแถมมวยในสนามเหมือนเมื่อก่อน....
ซิโก้เป็นเพียง ส่วนหนึ่งที่มาเติมเต็ม ไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดของความสำเร็จ
ความดีทั้งหลายที่ซิโก้สร้างมา แฟนบอลส่วนใหญ่ต่างยอมรับ ในสิ่งที่ซิโก้สร้างมา
และภาพความเป็น ฮีโร่ ของซิโก้ ยังติดตาเด็กๆ และเยาวชน แฟนบอลชาวไทย
การยอมลาออกจากโค้ชทีมชาติ ก็ถือว่าเป็นสปิริตอย่างหนึ่ง
ที่ลดกระแสต่อต้านที่ผลงานย่ำแย่ในเวทีระดับเอเซีย
ผมไม่บังอาจสอนสังฆราช แต่ในมุมมองของผม ซิโก้ ควรสงบปากสงบคำ พูดให้น้อย
แม้ว่าจะมีเรื่องอัดอั้นตันใจในหลายๆ เรื่อง การออกมาพูดผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้ตัวเองดูดี
ในขณะเดียวกัน คำพูดที่ออกมาเหมือนจะโยนบาปให้กับ สมาคม และคนอื่น
ถึงแม้จะไม่ใช้คำพูดตรงๆ แต่ลักษณะการพูด ผมว่าใครๆ ก็ดูออก …
การออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกสมาคม ประธานเทคนิค และ บริษัท อิโคโน่
มันไม่ได้ช่วยให้ซิโก้ดูดีขึ้น แต่มันกำลังจะกลับมาทำลายตัวซิโก้เอง
จริงๆ ผมเชียร์โค้ชไทยนะ ผมอยากให้โค้ชไทย พัฒนาไปสู่ระดับโลก แต่เมื่อมันถึงทางตัน มันไปต่อไม่ได้
ซิโก้ ควรยอมถอยเปิดทางให้คนอื่นเข้ามาบริหาร แต่ไม่ใช่มาออกสื่อ จิกกัดคนอื่น ว่าตัวเองเก่งคนเดียว
อย่าให้ภาพฮีโร่ในสายตาเด็กๆ และเยาวชน ที่สร้างมากับมือ ต้องมาถูกลบด้วยเท้าของตัวเอง
ซิโก้ยังต้องอยู่ในเส้นทางอีกนาน อนาคตอาจต้องได้ร่วมงานกันอีก
การพูดให้ตัวเองดูดี แต่คนอื่นดูแย่ นอกจากจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง มันยังสร้างศรัตรู โดยไม่รู้ตัว
ควรปล่อยให้สมาคมและ คณะทำงาน ลองอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง ผมมองว่า มันยังดีกว่ารูปแบบเดิมๆ วิธีการแบบเดิมๆ
ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ อย่างน้อยๆ เราก็ได้เรียนรู้วิธีการทำงานจากมืออาชีพระดับโลก
ซิโก้ควรหยุดก่อนที่จะไม่เหลือภาพ “ฮีโร่” ในสายตาแฟนบอลไทยและเยาวชน