สมุนไพรไม่ได้ "ขม" เสมอไป ?

เมื่อก่อนนะ ขึ้นชื่อว่า สมุนไพร เราชอบรู้สึกว่า มันต้อง "ขม" แน่ๆ
พวกเราเองก็จะได้ยินมาจากบรรดาคนเฒ่า คนแก่ คนโบราณ มักจะพูดว่า "หวานเป็นลม ขมเป็นยา" และแน่นอน สมุนไพร ทุกชนิดมีฤทธิ์เป็นยา ทั้งร้อน และเย็นเพื่อปรับสมดุลธาตุในร่างกาย จะแตกต่างกันไปที่สรรพคุณเฉพาะตัว
วันนี้ผมขอนำเสนอ ไอ้เม็ดแดงๆ ส้มๆ ที่มันอยู่ใน น้ำแกงตุ๋นสมุนไพร
ใช่แล้ว "เก๋ากี้" นั่นเองเองเองเอง!!!!!

                      ทุกวันนี้ "เก๋ากี้" ได้ถูกนำเสนอให้เป็นส่วนหนึ่งใน "ซูเปอร์ฟู้ด" ด้วยสรรพคุณทีเด็ดอย่างวิตามินซี วิตามินเอ และสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มแคโรทีนอยด์ แต่เมื่อเอาเก๋ากี้ตากแห้งนั้นเมื่อเทียบจากน้ำหนักที่เท่ากัน จะให้เบต้าแคโรทีนสูงกว่าแครอท และมีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึงห้าร้อยเท่า
                      ซึ่งวิตามินซีนั้นทุกวันนี้เรารู้กันดีว่าเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงอานุภาพในด้านคงความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารที่สำคัญมากมาย ช่วยป้อนออกซิเจน  ใส่เกียร์ความแรงในการออกกำลังกาย แถมยังลดอาการปวดเมื่อยหลังออกกำลังกายอีกด้วย
ยิ่งใส่ ต้มแซ่บสมุนไพรนะ ยิ่งเพิ่มรสชาติของน้ำแกงได้อร่อยขึ้นไปอีกอะ  สรุปแล้ว "มันไม่ขมเลย" แถมยังได้ประโยชน์อีกด้วย

ทิ้งท้ายไว้สักหน่อย....
ภาษิตจีนบทหนึ่งกล่าวถึง เก๋ากี้ ไว้ว่า "เก๋ากี้โลกอยู่ที่เมืองจีน เก๋ากี้จีนต้องที่หนิงเซี่ย" อธิบายเพื่อความเข้าใจง่ายๆ ว่าแหล่งกำเนิดและแหล่งผลิตเก๋ากี้ที่สำคัญของจีนและของโลก อยู่ในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย

ว่าแต่ ใครเห็นด้วยก็แชร์กันได้นะ หรือ มีสมุนไพรไหนอีกที่ไม่ขม ก็แน่นนำมาได้นะครับ