เจอเพื่อนแถวบ้านที่เรียนจบ ม.6 ถามว่าเรียนจบปริญญาทำไม ในเมื่อจบมาเงินเดือนก็เท่ากัน จะตอบว่ายังไงดีคะ?

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนนะคะ ว่าดิฉันทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
เป็นงานที่ตรงตามสาขาที่จบซึ่งก็ถือว่าถนัด เข้างาน 10 โมง เลิกงาน 6 โมงเย็น (รวมเวลาพัก1ชั่วโมง)
หยุดวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดคามปฎิทิน เงินเดือนประมาณ 20,000 บาท
วันนึงได้บังเอิญเจอกับเพื่อนสมัยประถม (จบ ม.6)  ซึ่งทำงานเป็น Pc แบรนเสื้อผ้าในห้าง
เข้างานเป็นกะ (เท่าที่ถามก็ถ้าเข้างาน 10 โมงเลิก 1 ทุ่ม ) หยุดได้ 1 วันต่อสัปดาห์
ฐานเงินเดือน ประมาณ 9000 แต่ถ้าทำโอทีแทบทุกวัน (ทำงานตั้งแต่10โมงถึง 4 ทุ่ม)
+ คอมมิสชั่น ก็ประมาณเกือบๆ 2,0000 ก็ได้พูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาคนไม่ได้เจอกันนาน
พอมาถึงเรื่องงาน เค้าก็ถามว่าเราเงินเดือนเท่าไร พอเราตอบเค้าหัวเราะ แล้วพูดว่า
โอ้ย แล้วจะไปเรียนให้มันเสียเวลาทำไมในเมื่อเงินเดือนก็เท่าๆกัน เราก็พยายามบอกเค้า
ว่าลักษณะงาน สวัสดิการ วันหยุดพักผ่อนมันก็ต่างกัน เค้าก็บอกไม่เห็นจำเป็นอะไรขนาดนั้นเลย
จะทำเท่าไหน 1 เดือน ก็ได้เงินออกมาเท่าๆกัน
อยากรู้ว่าถ้าเป็นเพื่อนๆ จะตอบว่ายังไงคะ
ปล. ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกหรือเหยียดการศึกษาหรืออาชีพใดๆนะคะ แค่อยากรู้ว่าคนอื่นๆจะมีคำตอบยังไงหากเจอคำถามแบบนี้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 35
เวลาใครมาถามอะไร เรามักจะไม่ฟังแค่คำถามค่ะ
แต่จะดูไปถึงวัตถุประสงค์ที่เขาพูด/ถามนั้นด้วย

กรณีเพื่อนคุณ...
หากเขาพูด เพื่อปิดบังปมด้อยในใจตน
คือรู้สึกด้อยกว่า แต่ไม่พยามถีบตัวขึ้นสูง จึงใช้วิธีเหยียบย่ำคนอื่นซึ่งง่ายกว่า
(คนแบบนี้ในสังคมมีเยอะนะคะ)
_เราจะตอบว่า... นั่นสินะ พร้อมยิ้มหวานให้เขา อีกทั้งชวนคุยต่อไปถึงเรื่องที่เขาถนัด
เช่นเกี่ยวกับสินค้าที่เขาขาย.. ถามเชิงขอความรู้จากเขา เขาจะได้ภูมิใจและมีความสุข
บรรยากาศการสนทนาก็ไม่เสีย

หากเขาถามเพราะอยากรู้จริงๆ อยากถกปัญหาจริงๆ อยากเข้าใจจริง
เราจะตอบเหตุผล ตาม ความเห็นดีๆข้างต้นหลายความเห็นได้ให้ไว้แล้ว
ซึ่งข้อดีทั้งหลาย.. จขกท. ก็ทราบชัดเจนอยู่แล้ว

แต่สิ่งที่เราจะย้ำเพิ่มคือ ชี้ช่องทางการศึกษาต่อให้เขา
บอกเขาว่าเราพร้อมที่จะช่วยติวให้ แนะแนวให้ หรืออะไรก็ตามที่จะสนับสนุนเขาได้
แล้วส่งเสริมให้เขามั่นใจว่าไม่มีอะไรยาก เชื่อมั่นว่าเขาจะทำได้...

เมื่อสิ้นสุดการสนทนา
เราอาจได้มีโอกาสสร้างว่าที่บัณฑิต อันเป็นอนาคตของชาติเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งค่ะ

นานามาลัย
ความคิดเห็นที่ 18
ผมว่า  สิ่งที่มาในใจ   เค้าไม่ได้ต้องการดูถูกคุณเป็นอันดับแรกๆๆครับ    

ผมมองว่า  เค้าเพียงต้องการ   ต้องย้ำความรู้สึกตัวเอง    ถูกแล้วที่เค้าไม่ได้เรียนต่อ

เมตตา  ตัวเค้า  คือไม่ข่มไม่หาทางชนะ   มันเป็นสุขทั้งตัวคุณและตัวเค้า  
  
การที่คุณเรียนจบสูงกว่า   มันเปิดโลกคุณมากกว่าเค้าหลายเท่า   ทั้งโอกาสในอนาคต   เพื่อนในชั่นที่คุณเรียนสูงๆ  
หรือการที่สมองคุณได้ถูกพัฒนาขึ้นจากการเรียนสูงขึ้น    การเรียนไม่ได้หมายถึงแค่    ได้ความรู้ในสิ่งที่คุณเรียน   แต่สิ่งที่แฝงมาคือ  สมองคุณได้พัฒนาได้ฝึกฝนในสิ่งที่ยากขึ้นไปด้วย

ซึ่ง  คนที่เรียนน้อยกว่า  มีโอกาสน้อยกว่าคุณแน่ๆ   แต่คนที่เรียนน้อยกว่า  อาจมีบางคนเหตุผลที่ทำให้ไม่ได้  ซึ่งน่าใจ
แต่ถ้าพวกเค้า  หาช่องทางทำมาหากิน   มีความคิด  และขยัน  ก็มีรายได้สูงได้เช่นกันครับ
ความคิดเห็นที่ 4
จะต้องตอบอะไร. ตอบไปก็เหมือนดูถูกเขา.  เขาจบต่ำกว่าคุณเขาก็มีปมด้อยอยู่แล้ว.  คุณแค่ยิ้มๆ. เออออกับเขาไปตามมารยาทก็พอ

คนเราเรียนสูงกว่าก็ต่อยอดไปในอนาคตได้.  คุณทำงานไปเรื่อยๆ. ตำแหน่งก็เลื่อนสูงขึ้น. ฐานเงินเดือนก็สูงขึ้นไปด้วย

จบ ม6. แล้วจะเลื่อนตำแหน่งเป็นอะไร จากพนักงานขายก็เป็นหัวหน้าช๊อป.
ความคิดเห็นที่ 6
บอกไปสิครับว่า...

-ไปกู้เงินธนาคาร ทำบัตรเครดิต ธนาคารเขาเห็นเงินเดือนคุณ2หมื่นบาท แต่เขาจะเห็นเงินเดือนเพื่อนคุณแค่9พันบาท
-เงิน2หมื่นบาทนี่คุณได้โดยไม่ต้องทำโอที แต่เขาต้องทำ
-เงิน2หมื่นบาทนี่คุณได้โดยไม่อ้างอิงกับยอดขาย แต่ถ้าเขาขายของไม่ได้ เขาก็ได้ไม่ถึง
-คุณได้หยุดเสาร์-อาทิตย์ มีเวลาทำงานบ้าน ดูแลตัวเอง เรียนรู้ และหารายได้เสริม พัฒนาความสามารถ เพื่อนคุณได้หยุดแค่1วัน แค่ซักผ้าตากผ้าก็หมดแล้ว
-คุณทำงานตรงสาย ก็ก้าวหน้าตามสายงานไปเรื่อยๆทั้งตำแหน่งและรายได้ ส่วนตำแหน่งเพื่อนคุณจะตันแค่หัวหน้าสาขา ถ้าไม่เรียนเพิ่ม ไม่พัฒนาตัวเอง ทำๆไปไม่นานก็จะรู้ตัวว่าตำแหน่ง เงินเดือน ไปได้ถึงแค่นั้น ถ้าอยากเพิ่มรายได้ ก็ต้องลาออกไปเหมาเสื้อผ้าจากแพลตตินั่ม โรงเกลือ กวางเจา มาขายตลาดนัด
ความคิดเห็นที่ 45
ที่จริงจะเรียนหรือจะไม่เรียนต่างก็ไม่ผิดครับ แต่ถ้าถามผมจริงๆแล้ว คิดแบบนี้ Fail ทั้งคู่

บอกว่าจบ ม.6 แล้วได้เงินพอๆกับ ป.ตรี? เคยเห็นพวกเทพๆที่รู้จักเลือกบริษัทแล้วอัพเงินตัวเองเป็นหรือเปล่าล่ะ? พวกที่ได้เงิน 40000-60000 แล้วยังบอกว่าเงินไม่พอใช้น่ะ? หรือพวกที่เอาเงินไปเข้าสังคมแล้วหาเส้นสายต่อน่ะ เคยรู้หรือเปล่าว่าคนพวกนี้เขามีอยู่? มีกระทั้งพวกที่ยอมทุบกระปุกเงินตัวเองไปซื้อตำแหน่ง (ไม่ได้ใต้โต๊ะ) ได้มาทั้งเงินทั้งอำนาจทั้งเส้นสาย เขาไม่สนหรอกครับว่าจะต้องจบอะไร ความสำเร็จมันบอกทุกอย่างอยู่แล้ว

ถ้ามองแค่เรียนให้จบมาหางานคุณก็จะได้แค่กระดาษมาแค่ใบหนึ่ง ถ้าเรียนเพราะสนุกและสนใจคุณก็จะได้ความรู้ ถ้าเรียกเพราะอยากเปิดโลกก็จะได้เส้นสาย เพราะไอ้พวกที่เคยอยู่ในห้องเดียวกันกับคุณมาก่อนน่ะ ก็ต้องมีบ้างสักคนแหละที่ได้เป็นคนใหญ่คนโตไปแล้ว

แต่ถ้ามีสิ่งที่อยากทำ รู้แล้วว่าตัวเองจะต้องทำอะไร ไม่เรียนตรีก็ไม่แปลกครับ... บ้านมีกิจการ พ่อแม่มีความรู้ ส่งกิจการต่อให้ลูกไปเลยก็ยังได้ ร้านค้าบางร้านที่ขายแต่ของราคาถูกๆแต่มีคนเข้าตลอดน่ะ บ้านใหญ่รถหรูยิ่งกว่าพนักงานเงินเดือนอีก การเรียนต่อคือการเปิดโลกเปิดมุมมองครับ ถ้ามองว่าจะไปเอากระดาษมาหางาน คุณก็จะได้แค่นั่นแหละ ไปเป็นเครื่องมือให้บริษัทอีกที ส่วนเรื่องเงินคุณไม่ต้องห่วงครับ อยู่ไปสักสิบปีต่อให้ไม่มีผลงานโดดเด่นก็จะได้อัพไปเอง มากกว่าเพื่อนที่ต้องทำ OT แน่นอน หมายความว่าถ้าพอใจกับเงิน 30000-40000 น่ะนะ

บางอาชีพเนี่ยรู้หรือเปล่าครับว่าเงินน้อยมาก ได้แค่ราวๆ 15000 แต่คนทำกลับมีเงินไปเที่ยวต่างประเทศได้ทุกปี เพราะรับงานนอกได้เรื่อยๆ เงินดียิ่งกว่าเงินเดือน แต่ใช้งานหลักเป็นประตูเปิดหาโอกาส เพราะฉนั้นเงินเดือนน้อยไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ พวกบริษัทเล็กๆที่ดูไม่สำคัญก็ไม่ได้หมายความว่าแย่อะไรนะครับ เพราะถ้าคุณไปโดดเด่นตรงนั้นได้ ก็หมายความว่าเขาต้องพึ่งคุณ จะได้รับความให้เกียติและเงินเดือนสูงๆไปเอง

เพราะฉะนั้นถ้ามองการศึกษาเป็นแค่เงินเดือนที่ตัวเองมี ชีวิตก็จะอยู่แค่นั่นครับ... ซึ่งที่จริงแล้วก็ไม่ได้ผิดอะไรนะ แต่อย่ามาบ่นว่าผิดหวังแล้วกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่