ถ้าชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่คิด จะทำยังไง

ชีวิตของคน ไม่มีใครไม่มีปัญหา เพียงแต่เรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ แก้ได้ แก้ไม่ได้ รับได้ รับไม่ได้
ถ้าแก้ได้ รับได้ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ล่ะ จะทำยังไงให้เราไม่จมปลักอยู่กับมัน

ขอแทนตัวเองว่าเอแล้วกันนะคะ
สำหรับเอเป็นปัญหาครอบครัวสุดเบสิคค่ะ คือคุณพ่อมีบ้านเล็ก ครอบครัวของเรามีกัน 4 คน พ่อ แม่ พี่สาวกับเอค่ะ ตั้งแต่เด็กเอคิดเสมอว่าครอบครัวของเราเป็นครอบครัวในอุดมคติ คือพ่อแม่อยู่ครบ ถึงจะไม่รวย แต่ก็มีที่ทางของตัวเอง พ่อกับแม่ก็ทำเกษตรส่งลูก ๆ เรียนไป ลูก ๆ ก็ตั้งใจเรียนกันไป อันนี้ไม่ได้โม้นะเรากับพี่สาวเรียนเก่งทั้งคู่ 555

เป็นเด็กโลก(ในครอบครัว)สวยมาตลอดทั้งชีวิต พ่อกับแม่ทะเลาะกันน้อยมาก และถึงทะเลาะกันก็ไม่เคยให้ลูก ๆ รับรู้ แป๊บ ๆ ก็ดีกัน(อันนี้แม่มาเล่าให้ฟังทีหลัง) บ้านเรามีแต่เสียงหัวเราะค่ะ เพราะพ่อเป็นคนอารมณ์ดีเสมอเมื่ออยู่กับบ้าน คอยแหย่แม่ หยอกลูก ดี๊ดีเนาะ จนเราโตนั่นแหละค่ะถึงได้รู้ว่า ชีวิตคือความไม่แน่นอนจริง ๆ

เล่าแบบย่อ ๆ นะคะเอกับพี่เป็นเด็กต่างจังหวัดสอบติดมหาลัยรัฐในกทม.เดียวกันทั้งคู่ เราก็มาอยู่หอพักกันสองคน ระหว่างนี้ล่ะค่ะเป็นเรื่องเพราะพ่อเริ่มมีบ้านเล็กตั้งแต่เราอยู่ปีหนึ่ง แต่กว่าเรากับพี่สาวจะรู้เรื่องผ่านไปเกือบปีเลยค่ะ ตอนที่รู้เรื่องครั้งแรกก่อนเข้าห้องสอบ 5 นาทีค่ะ (รู้ได้ยังไงไม่ขอเล่าละกันเนาะข้าม ๆ มันไป) พอรู้เท่านั้นมึนไปเลยค่ะ เดินเข้าห้องสอบไปแบบมึนนิด ๆ พยายามตั้งสติอยู่กับข้อสอบ สอบเสร็จก็รีบกลับหอเลยค่ะ โทรหาพี่สาวทันที พอเรารู้เรื่องกันแล้วเราก็คุยกับแม่ค่ะ

ความรู้สึกตอนนั้นเสียใจมากค่ะ รู้สึกเหมือนโลกถล่ม ผิดหวัง ไม่เข้าใจ ไม่อยากเห็นหน้าพ่อ ไม่อยากพูดกับพ่อ อยากอาละวาด คุยกับพี่กับแม่ก็ร้องไห้ มีแต่คำถามในหัวทำไมพ่อทำแบบนี้ ไม่รักแม่รักลูกแล้วเหรอ ถ้าพ่อกับแม่เลิกกันจะทำยังไง ถ้า....ถ้า....ถ้า... เครียดมากค่ะ แม่ก็เหมือนคนอัดอั้นตันใจค่ะ ไม่กล้าบอกลูก เก็บความรู้สึกความเสียใจไว้คนเดียว กลัวลูกเสียใจ แต่พอพวกเรารู้แม่ก็ตกใจ แต่สิ่งที่แม่เป็นห่วงและย้ำนักย้ำหนาให้เรียนให้จบ ยังไงก็ต้องเรียนจบ แม่ย้ำแต่คำนี้ คือเราสองคนก็เป็นห่วงความรู้สึกแม่ แม่จะเสียใจแค่ไหน เหนื่อยยากมาด้วยกันกลับทำกันได้ลงคอ คิดแทนแม่ทุกอย่าง อยากกลับไปหาเดี๋ยวนั้นแต่ก็ทำไม่ได้เพราะยังเป็นกลางเทอม ห่วงแม่ แต่แม่ดันห่วงเรา กลัวเราหุนหันพลันแล่นแล้วจะเสียการเรียน

ส่วนฝ่ายบ้านน้อยก็เป็นคนรู้จักกันเป็นแม่ม่ายลูกติด สิ่งที่รู้มาคือผู้หญิงคนนี้ปล่อยตัวมาก ไม่ได้เป็นน้อยแค่พ่อของเรา แร่ให้ฟรีไปทั่ว แค่คิดก็รังเกียจและขอกล่าวถึงเพียงแค่นี้เพราะทุกวันนี้ก็ยังไม่ให้อภัย

ถ้าถามว่าตอนนั้นผ่านมาได้ยังไง ตอบได้เลยว่าทำใจให้นิ่งไว้ค่ะ เพราะเราเห็นแก่แม่ ยังไงก็จะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง ยังไงก็จะเรียนให้จบ เราร้องไห้แค่ครั้งเดียวตอนที่คุยกับแม่เรื่องพ่อครั้งแรก หลังจากนั้นก็ตั้งใจอยากเต็มที่ว่าจะไม่ทำตัวเป็นปัญหาแม่ต้องปวดหัวเพิ่ม หรือเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ต้องผิดหวังเสียใจอีก

สิ่งที่เอไม่ทำคือต่อว่าพ่อ ตัดพ้อพ่อ หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว กับพ่อก็พยายามทำตัวปกติเหมือนเดิมทั้งที่มันไม่เหมือนเดิม ถามคำตอบคำ ไม่บอกพ่อด้วยว่าเรารู้เรื่องหมดแล้ว แต่ก็ใช้ความเงียบแสดงให้รู้ว่าเรารู้แล้วว่าพ่อไปทำอะไรไว้ และไม่พอใจอย่างแรง  แรก ๆ ทำยากมากนะ แค่เห็นหน้าพ่อก็อยากตะโกน อยากอาละวาด อยากพาแม่หนีไปอยู่ไกล ๆ แต่ก็ไม่ทำ ท่องในใจ บาป บาป บาป
สิ่งที่เอทำคือให้กำลังใจแม่ เวลาที่อยู่กับแม่ก็ชวนแม่คุย ทำนู่นนี่ด้วยกันบางทีก็ทำตัวบ้า ๆ ให้แม่ได้หัวเราะ นอกนั้นคือปรับความคิดของตัวเอง คิดแค่ว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ถ้าพ่อจะเลิกกับแม่ก็จะไม่ห้าม พ่อจะไปมีใหม่ก็ไป แม่จะมีใหม่ก็มี เพราะถึงยังไงต่อไปเราก็ต้องมีชีวิตของเราเองเหมือนกัน เราต้องเข้มแข็ง เราไม่อยากใช้ความเป็นลูกบีบให้พ่อกับแม่ต้องอยู่ด้วยกันด้วยความไม่เต็มใจ ไม่อยากเป็นสาเหตุให้เค้าต้องมาทน เพราะจะเป็นทุกข์ทั้งคู่ ให้อยู่กันแบบสบายใจดีกว่า บอกตัวเองว่าถึงพ่อแม่จะไม่ได้รักกันแล้ว แต่ก็ยังรักเราที่เป็นลูกอยู่ดี แก้ไขกันที่ความคิดอย่างเดียวเพราะทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น 55555 ฟังดูอ่อนแอสุด ๆ เอก็ไม่รู้ว่าตอนที่แม่ถามว่า"ถ้าอย่ากันจะเป็นไรไหม" แล้วเราไม่ห้าม มันถูกหรือมันผิด ทุกวันนี้ก็ยังสงสัย

เรื่องนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว เอไม่เสียใจและให้อภัยพ่อแล้ว ส่วนแม่นั้นไม่สามารถเดาความคิดได้ 555 ถึงจะไม่หย่า(เพราะพ่อไม่ยอม) แต่ก็แยกกันอยู่ แยกกันทำงานเพียงแต่คอยช่วยเหลือกันบ้างตอนที่ต้องการ ถึงตอนนี้ความสัมพันธ์ก็ดีขึ้นมาก อยู่ร่วมบ้านกันได้ พูดคุยกันได้ แต่ก็อย่างที่บอกว่ามันไม่เหมือนเดิม

กระทู้นี้มีเจตนาแค่เพื่อคนที่อาจกำลังเจอแบบเดียวกัน แล้วไม่รู้จะทำยังไง อ่านแล้วอาจทำให้คุณสบายใจขึ้น
สำหรับเรื่องที่ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ให้ทำใจและทำความเข้าใจค่ะ ถ้าเราคิดว่ามันเป็นปัญหา มันก็จะเป็นปัญหา ถ้าเราคิดว่ามันไม่ใช่ มันก็จะไม่ใช่ ถ้าเราไม่ได้คิดถึงแต่ตัวเองเราอาจเจอทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย

ขอบคุณที่รับฟังค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่