ความคุ้มค่าของซูซูกิ แวนแวน 200 ในทัศนะของข้าพเจ้า


        ก่อนที่เราจะมาพูดถึงแวนแวน เรามานิยามมันก่อนว่ามันคือรถประเภทไหนกันแน่ ในความรู้สึกของผมแล้วแวนแวนนั้นคือรถครุยเซ่อร์ ส่วนนิยามที่เคยมีคนพูดไว้ สรุปได้ดังนี้

        “Cruiser เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการขับขี่ทางไกล หรือท่องเที่ยวความเร็วต่ำเป็นหลัก ไม่มีบังลม ไม่มีกระเป๋า เน้นความดิบ เถื่อน เสียงที่ดังกระหึ่ม และความอึดในการเดินทาง ท่านั่งที่ค่อนข้างสบาย แต่ยังกระด้างอยู่มาก เมื่อเทียบกับรถ Touring”

        สำหรับนิยามที่พูดถึงครุยเซ่อร์นี้ผมก็ว่าตรงกับแวนแวนทุกข้อยกเว้นเสียงดังกระหึ่ม ส่วนข้ออื่น ๆ ตรงหมด แต่ความดิบเถื่อนนี่ก็เปรียบเทียบไม่เป็น งั้นตีไปว่าดิบเถื่อนก่อนละกัน

        แต่ด้วยความที่เจ้าแวนแวนสามารถลุยทางดิน หลุม บ่อ โคลน ฯลฯ ได้ดีระดับหนึ่งจึงทำให้จัดได้ว่าเป็นรถประเภท Dual purpose ก็ได้ด้วย

        จากรูปทรงของแวนแวนที่ดูเหมือนจะเป็นรถครุยเซ่อร์ด้วยเช่นกัน ทั้งชุดไฟหน้ากลม ชุดไฟเลี้ยว โช้คหน้า ล้อ บังโคลน และส่วนของเบาะคนซ้อนที่กว้างคล้ายโซฟา แต่รถคันนี้ก็ยังมีบางส่วนที่ทำให้พูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำว่ามันคือรถครุยเซ่อร์หรือทำให้มันดูไม่เหมือนรถครุยเซอร์ทั่ว ๆ ไปนั่นก็คือถังน้ำมันที่เล็กลีบไปกลับตัวรถ ไม่ดูใหญ่นูนสูงขึ้นมาถึงระดับท้องของผู้ขับขี่ ทำให้รถคันนี้ดูมิติไม่ใหญ่เหมือนครุยเซ่อร์ทั่วไป และด้วยเบาะที่พาดยาวขึ้นไปถึงครึ่งถังน้ำมัน คล้ายกับรถโมตาดพวก ksr หรือ msx ไป ทำให้บางคนอาจจะคิดว่ามันคือรถโมตาดไปก็เป็นได้

        ล้อหลังที่ใหญ่ก็ทำให้ดูแตกต่างจากรถครุยเซ่อร์ทั่วไปเช่นกัน และลายดอกยางเดิมที่เป็นวิบากก็ทำให้แวนแวนถอยห่างออกมาจากคำว่ารถครุยเซ่อร์มากยิ่งขึ้นไปอีก

        เมื่อพิจารณารูปทรงทั้งหมดแล้ว ผมก็ลงความเห็นว่ามันคือรถครุยเซ่อร์ที่ดูแปลก ๆ แต่ผมชอบนะที่ล้อหลัง บังโคลนหลัง เบาะท้ายคนซ้อน และท่อดูใหญ่สมส่วนกันพอดี ทำให้รถคันนี้ดูใหญ่กว่ารถบ้านทั่วไป


        ในเรื่องการขับขี่ ในตัวแวนแวน 200 ที่ใช้ทดสอบ เมื่อขับที่รอบสูงรถจะสั่นมาก บางครั้งสั่นจนรำคาญทำให้ผมไม่อยากที่จะเร่งความเร็วเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะมันจะหมดสนุกและหมดความสบายไป ปัญหาอาจจะมาจากแวนแวน 200 ไม่มีการถ่วงน้ำหนักที่ปลายแฮนด์มาให้ หรือบางคนก็บอกว่าเพราะท่อมันอั้น ต้องไปผ่าท่อถึงอาการสั่นจะหาย หรือต้องใช้ท่อแต่ง

        การขับขี่ในเมืองถือว่าดีเลยครับ เครื่องนิ่มมาก ใส่เกียร์ปล่อยคลัชถูกจังหวะรถวิ่งนิ่มเหมือนออโต้เลย ขี่ยืนพื้นผมว่าซัก 60-70 กำลังดีครับ บิดเร่งไปที่ 80-90 มาไวดี ใช้แซงได้ ขี่ซอกแซกรถติดได้ดี เลื้อยตามไฟแดงไม่ต้องเอาขาลง ปล่อยรถไหลบังคับง่ายไม่เทอะทะ  เข้าเกียร์ง่ายและลื่นดีครับ จอดรถติดไฟแดงใส่เกียร์ว่าง พอจะออกตัวกดเกียร์หนึ่งไม่ได้ก็มีบ้าง ต้องเลื่อนรถนิดนึง แต่นาน ๆ เจอที

        เจอปัญหาเมื่อเครื่องร้อน เห็นว่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องสองสามรอบก็หาย ส่วนตัวผมตั้งแต่ใช้งานมาเจอปัญหานี้ครั้งเดียวเองครับ เคยเจอรถดับกลางอากาศสองครั้ง แต่พอกดสตาร์ทก็มาเลยโดยไม่อิดออด

        ในการขี่ทางไกลถือว่าสบายและไม่ปวดเมื่อยเลยครับ ด้วยเพราะเป็นรถที่ยางใหญ่ทั้งหน้าหลัง ทำให้การขับขี่นิ่งมากเมื่อขี่ความเร็วรอบไม่สูง บางทีขี่ทางไกล ๆ รู้สึกตัวอีกที อ้าว! ถึงแล้วเหรอเนี่ย และด้วยท่านั่งหลังตรง แฮนด์กว้างทำให้เวลาเลี้ยวจะใช้แรงจากหัวไหล่ได้ง่ายและสบายกว่าสำหรับการค้ำน้ำหนักตัวที่ทิ้งลงโค้ง เวลาขี่เจอหลุมหรือลูกระนาดใช้การยกตัวขึ้นแล้วรูดผ่านไปได้อย่างสบายและไม่กระเทือนอะไรเลย

        ผมลองไปบิดขึ้นดอยทางไปสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ดอยเส้นนี้เป็นเส้นที่รถไม่มากนัก ยิ่งโดยเฉพาะวันธรรมดาไม่ใช่ช่วงเทศกาลนี่ถนนโล่งมาก ถนนเป็นยางมะตอยที่เรียบกริบเหมือนเพิ่งราดไปไม่นาน วิวธรรมชาติดูร่มรื่นและสวยงามมาก จะเห็นแปลงเกษตรสลับกันไปดูเงียบสงบดีครับ และถนนเส้นนี้มีของดีอยู่ช่วงนึงครับ คือโค้งเจ็ดพับ เป็นโค้งที่แปลกดี หากนักบิดท่านใดมีโอกาสมาเชียงใหม่ก็มาลองวิ่งเส้นนี้กันได้นะครับ

        แวนแวน 200 เป็นรถที่ทอร์คมาไวตามแรงบิด ดังนั้นในย่านความเร็ว 0-80 นั้นไม่มีอืดแน่นอน ในย่านความเร็วนี้ให้ความรู้สึกบิดแล้วมา เพิ่มความสนุกสนานในการขี่  ทางเนินขึ้นเขาใช้เกียร์สามบิดขึ้นและแช่ไว้ที่เกียร์สี่ก็ยังให้ความรู้สึกแรงของรถที่ไม่ตกลงไป ผมไปทดลองขี่ขึ้นดอยไปทางสะเมิง เชียงใหม่ มีโค้งคดเคี้ยวหักศอกบ้าง แต่ด้วยความที่ใช้ความเร็วต่ำอยู่แล้วจึงทำให้ขี่ได้อย่างต่อเนื่อง

        ขาลงดอยผมลงทางดอยแม่ริม ผ่านปางช้างแม่สา ถนนเส้นนี้เริ่มจะมีบ้านเรือนผู้คน มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะ จึงมีรถหนาแน่นบ้าง ทางโค้งบนดอยนี้ไม่คดเคี้ยวเท่าทางสะเมิง ทางโค้งรับองศาทำความเร็วได้ดี ผมใช้ความเร็ว 60-70 วิ่งไหลลงได้เลย ทางลงจากเขาสามารถปล่อยไหลลงมาแล้วพลิกรถเข้าโค้งได้อย่างสบายเลยครับ ด้วยล้อที่ใหญ่ทำให้การรักษาสมดุลของรถทำได้ดี รู้สึกถึงความสมดุลของรถเมื่ออยู่ในโค้ง ไม่มีอาการหวาวแม้จะแบนโค้งมากเท่าไหร่ก็ตาม ง่ายและไม่เกร็งเมื่อพลิกรถ ด้วยน้ำหนักรถที่เบาจึงใช้แรงไม่มาก

        ระบบเบรก ดรัมเบรกหลังใช้สำหรับชะล้อรถเท่านั้น ดิสก์เบรกหน้าใช้สำหรับหยุดรถ ด้วยเบรกหลังที่ไม่ได้ดั่งใจเท่าไหร่ จึงต้องพยายามประครองด้วยเบรกหน้าทุกครั้งเมื่อคิดจะเหยียบเบรกหลัง ในการชะลอความเร็วของรถ เบรคหลังก็ยังไม่สามารถชะลอความเร็วได้ตามใจนึกเท่าไหร่ ต้องใช้เอ็นจิ้นเบรกช่วยด้วยอีกแรง แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรสำหรับดรัมเบรกที่แถมมาให้ ก็พอใช้งานได้ครับไม่ได้ดูน่าเกลียดอะไร

        ความรู้สึกในการขี่ ตรงเหมือนนิยามของรถครุยเซ่อร์ที่ว่าไว้ข้างต้น รถคันนี้สามารถขับขี่ทางไกลได้สบาย ๆ เลยครับ จะขี่ข้ามจังหวัดซัก 200-300 โลก็ยังรู้สึกไม่เมื่อยล้า ผมทดลองขี่รวดเดียว 80 โลขึ้นดอยผสมในเมืองรวดเดียว 2 ชั่วโมง เมื่อกลับมาถึงบ้านยังรู้สึกสบาย ๆ เหมือนยังไม่ได้เริ่มขี่รถเลย ไม่เมื่อยล้า ไม่ปวดหลัง แต่อาจจะมีอาการมือและแขนชาจากการสั่นของตัวรถบ้าง ถ้าขี่มานาน ๆ ด้วยความเร็วแล้วแช่ แวนแวน 200 ไม่ทิ้งอาการเหนื่อยไว้ให้ผู้ขับขี่เท่าไหร่ครับ

        
        เปรียบเทียบเรื่องความคุ้มค่า แวนแวน 200 จัดว่าเป็นรถเล็กที่ราคาแพงกว่าราคาเฉลี่ยของรถบ้านไปประมาณ 2 เท่า ผมตีว่ารถเล็กหรือรถบ้านราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5-6 หมื่น แต่ว่าทั้งประสิทธิภาพการขับขี่ ความทนทาน ความสบาย และความดูดีนั้นมีคุณค่าเกินกว่ารถบ้านทั่วไปมากกว่า 2 เท่าอย่างแน่นอน ด้านประสิทธิภาพของรถในเรื่องเครื่องยนต์ แรงบิดที่สั่งได้ เครื่องสามารถวิ่งได้ทางไกลต่อเนื่องไม่มีบ่น ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนของเครื่องยนต์ เป็นรถมอเตอร์ไซค์เล็กที่บิดแล้วมาให้อารมณ์เหมือนรถบิ๊กไบค์ได้ระดับหนึ่ง ผมว่าคุ้มค่ากว่ารถระดับ 5-6 หมื่นไป 3 เท่าครับ

        ด้านความทนทาน ผมคิดว่าแวนแวน 200 สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานเกิน 15 ปีครับโดยไม่พังไปก่อน ถ้าดูแลบำรุงรักษาตลอดนะ เครื่องหัวฉีดที่ทนทานถึงขนาดที่ศูนย์รับประกันให้ถึง 5 ปีหรือ 5 หมื่นกิโลเมตร รับประกันอุปกรณ์ระบบหัวฉีดทั้ง กล่องควบคุม เรือนลิ้นเร่ง เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ เซ็นเซอร์วัดปริมาณออกซิเจน เซนเซอร์ตรวจวัดตำแหน่งลิ้นเร่ง ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง

        ขนาดศูนย์ยังมั่นใจขนาดนี้ ผมว่าความทนทานของเครื่องยนต์น่าจะ 3 เท่าของระยะรับประกันจากศูนย์ น่าจะใช้งานได้ยาวนานถึง 15 ปีหรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และผมยังมั่นใจว่าทั้งตัวเครื่องและเครื่องยนต์จะมีการสึกหรอน้อยมากเพราะแต่ละชิ้นส่วนน่าจะทนทานตามมาตรฐานการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ศูนย์รับประกันทั้งคัน 3 ปีหรือ 3 หมื่นกิโลเมตร แต่เฉพาะระบบหัวฉีดที่ให้ถึง 5 ปีหรือ 5 หมื่นกิโลเมตรครับ ดังนั้นอะไหล่ต่าง ๆ ก็ไว้ใจพี่ยุ่นได้เช่นกันครับ

        ความทนทานอีกอย่างหนึ่งของแวนแวน 200 ที่อยากจะพูดถึงนั่นก็คือโฉมครับ ด้วยรูปโฉมทรงเรโทร คลาสสิคคงจะทำให้มันคงไม่ตกรุ่นหรือดูล้าสมัยภายใน 10 ปีนี้หรอก หรือเผลอ ๆ อาจจะเป็นทรงอมตะไปเลยก็เป็นได้ ในขณะที่โฉมของรถบ้านทั่วไปจะมีการเปลี่ยนโฉมเป็นประจำทุก ๆ ปีหรือสองปีอยู่แล้ว ทำให้รถบ้านเหล่านั้นไม่สามารถดึงดูดสายตาของผู้พบเห็นได้เลย ในขณะที่แวนแวน 200 นั้นยังดูโดดเด่นบนท้องถนนแม้เวลาจะล่วงผ่านไปนานเท่าใดก็ตาม

        ผมว่าอายุของรถบ้านระดับราคา 5-6 หมื่นนั้นเมื่อผ่าน 5 ปีไปก็เริ่มจะขี่ไม่สนุกแล้วครับ เครื่องยนต์อาจจะลดกำลังลงไปตามอายุ หรือระบบขับเคลื่อนที่เริ่มเสื่อม ตัวถังพลาสติกก็คงเก่าและเศร้าหมองไปตามกาลเวลาและฟ้าฝนที่เคยเจอ ดังนั้นความคุ้มค่าในเรื่องความทนทานระหว่างแวนแวน 200 กับรถบ้านระดับราคา 5-6 หมื่น ผมให้แวนแวนเหนือกว่าไป 3.5 เท่าครับ

        ความสบายในการขี่ รถออโต้ได้ขึ้นชื่อเรื่องความสบายในการขับขี่ในเมือง บิดอย่างเดียวไม่ต้องพะวงเรื่องรอบ ไม่ต้องมัวสับเกียร์ขึ้นลงให้วุ่นวาย โฉบเฉี่ยวปรู๊ดปร๊าดในการจราจรที่ติดขัด แต่สำหรับแวนแวนนั้นก็ไม่ได้ดูแย่ไปกว่ารถออโต้มากเท่าไหร่ ด้วยเกียร์ที่สับสบายและคลัชที่นุ่มลื่นไหลไม่ฝืด ทำให้ผู้ขับขี่แวนแวนไม่รู้สึกปวดเมื่อยมือเมื่อขับขี่ในเมือง และด้วยการเดินเบาของรถที่นิ่งดูมั่นคง ทำให้แวนแวนเลื้อยไหลไปตามช่องว่างของรถยนต์ที่จอดติดไฟแดงไปได้อย่างสบาย ๆ

        การขี่ในทางตรงที่ความเร็ว 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยความเร็วระดับนี้ของแวนแวนที่ยังมีม้าเหลือไว้สำหรับเร่งแซง ให้ความรู้สึกสบายไม่เหนื่อย พร้อมท่านั่งที่สบายกว่าเมื่อเทียบกับรถเล็ก ในเรื่องความสบายในการขับขี่ผมให้แวนแวน 200 สบายกว่ารถเล็กระดับ 5-6 หมื่นไป 2 เท่าครับ

        
        สรุปแล้วซูซูกิ แวนแวน 200 เป็นรถที่คุ้มค่ามากครับในฐานะที่เป็นรถเล็กรถบ้าน ถ้าหากใครที่กำลังคิดจะซื้อรถเล็กไว้ใช้สักคัน แวนแวน 200 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ ราคาแพงกว่ารถเล็กทั่วไปประมาณ 2 เท่า แต่ความคุ้มค่านั้นคุ้มกว่าหลายเท่านัก สามารถมาใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย อัตราการกินน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 30 กิโลเมตรต่อลิตร คำบำรุงรักษาและราคาอะไหล่ก็ถูกเหมือนรถเล็กทั่วไป

        และสำหรับคนที่อยากจะซื้อบิ๊กไบค์มาลองขี่ดู แต่อาจกลัวที่จะไม่ค่อยมีเวลาขี่บ้าง หรือกลัวเรื่องงบบานปลายบ้าง ผมว่าลองซื้อแวนแวน 200 มาขี่ก็ตอบสนองความสนุกได้ระดับที่น่าพอใจครับ ถ้าคิดว่ามันยังไม่สุดก็ค่อย ๆ อัพซีซีขึ้นไปก็ได้ หรือบางทีคุณอาจอยากที่จะหยุดอยู่กับเจ้า 200 cc ตัวนี้ก็เป็นได้ครับ เพราะเจ้าแวนแวน 200 ตัวนี้มีเสน่ห์เหลือเกิน

****เป็นการรีวิวที่เขียนเป็นบทความอวยรถที่ตัวเองเพิ่งซื้อมา หากใครมีข้อโต้แย้งใด ๆ สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ครับ ข้อมูลต่าง ๆ ในบทความนี้ไม่สามารถใช้ในการอ้างอิงใด ๆ ได้ เขียนตามความรู้สึกและสิ่งที่เคยได้ยินมาครับ ผิดพลาดประการใดขออภัย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่