ศตวรรษ ศรีสมบูรณ์ กิ่งดาว ดารณี วิวัย จิตต์แจ้ง เขียน

หนังสือพิมพ์มติตรัง วิวัย จิตต์แจ้งเขียนถึง หนุ่ม 100 ปี
ศตวรรษ ศรีสมบูรณ์ อดีตผู้จัดการโรงหนังผู้จัดการโรงแรม
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงแรมชั้น1 และกิ่งดาว ดารณี มิตร ชัยบัญชา

ฉบับนี้พิเศษสุดตามหาบุคคลเก่ง คนดัง ที่มีชื่อเสียงใต้ฟ้าเมืองไทย กระผม นายวิวัย จิตต์แจ้ง จะพามารู้จักกับคุณศตวรรษ ศรีสมบูรณ์ และคุณกิ่งดาว ดารณี อดีตนางเอกชื่อดังและเป็นคู่ชีวิตของมิตร ชัยบัญชา ผู้เขียนเคยทำงานกับพี่ทั้งสอง ที่โรงแรมชวลิตแอมบาสเดอร์ เป็นประชาสัมพันธ์ รุ่นน้อง จึงรู้จักทั้งสองท่านดี เป็นคนมีความรู้ความสามารถ ท่านได้สร้างตำนานการบันเทิง โดยมีเรื่องราวน่าศึกษามีผลงาน ทำงานด้วยความวิริยะอุตสาหะ ประสบความสำเร็จในการทำงาน จากฝีมือสติปัญญาล้วนๆ สร้างผลงานโด่งดังเป็นพรุแตกระดับประเทศ ที่ใครๆก็ต้องรู้จัก โดยเฉพาะคุณศตวรรษ ศรีสมบูรณ์ มีชื่อเสียงดังมาก มีหนังสือพิมพ์เขียนถึงแทบทุกวัน ชื่อเดิมคือ...

พนัส ศรีสมบูรณ์ อดีตน่าสนใจมากเป็นผู้จัดการโรงภาพยนตร์ถึง3แห่ง คือ โรงหนังบางแครามา โรงหนังเฉลิมพันธ์เธียรเตอร์ และโรงหนังประดิพัทธ์เธียเตอร์ เคยเป็นผู้บริหารโรงแรมชั้นหนึ่ง เช่นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิต โรงแรมเฟิร์ส โรงแรมแกรนเดอวิลส์วังบูรพา โรงแรมปอยหลวง จังหวัดเชียงใหม่ โรงแรมเคียงทะเล พัทยา ฟังแค่นี้ก็ต้องยกนิ้วให้แล้ว ท่านเป็นนักคิด นักเขียน นักอ่าน ตัวจริงขนานแท้ เคยทำนิตยสาร นักขาย และเคยร่วมงานกับคุณ สนธิ ลิ้มทองกุล หนังสือชีวิตต้องสู้ สมัยคุณไพบูลย์ สำราญภูติ เป็นกรรมการผู้จัดการ มีบรรณาธิการบริหารคือคุณ สันติ เศวตวิมล ร่วมงานกันมาแล้ว

คุณศตวรรษ ประสบความสำเร็จอย่างสูงในอาชีพ พี อาร์ และงานบริหารบุคคล มีชื่อเสียงกว่า30ปี ปัจจุบัน ค.ศ.2015 ไปดังทางโซเชี่ยลมีเดีย อินเตอร์เน็ต WWW.centuryboy หรือหนุ่ม100ปี ถ้าเปิดทางอินเตอร์เน็ตชื่อ ศตวรรษ ศรีสมบูรณ์ จะเห็นบล็อกที่ท่านเขียนไว้มากมาย ตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณ คุณศตวรรษ ทำงานให้กับคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของเบียร์ช้าง และเจ้าของโรงแรมอิมพีเรียลทั่วประเทศ คุณศตวรรษ ทำงานที่Holding Company และต่อด้วย ทีซีซี จำกัด ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทั่วไป ในเครือเบียร์ช้าง และเวลาหนึ่งเคยทำงานกับคุณไพบูลย์ สำราญภูติ นักบริหารชื่อดัง เช่นโครงการอสังหาริมทรัพย์ นิคมอุตสาหกรรม บางปู ปัจจุบันทำงานที่สมาคมบริหารโรงแรมไทย ตำแหน่งกรรมการ และประชาสัมพันธ์สมาคม

ท่านเกิด จังหวัดนครปฐม วันที่14พฤษภาคม พ.ศ.2481 วันเสาร์ เดือนหก ปีขาล เรียนจบจากวิทยาลัยเพาะช่างปีพ.ศ.2502 เป็นคนที่มีหัวศิลปะ เป็นอาร์ติส จึงสมัครเป็นครูที่โรงเรียนนาคประสิทธิ์ ต่อมาได้ทำงาน
ที่....หอสมุดแห่งชาติ เริ่มงาน 1 ตุลาคม พ.ศ.2505 ตำแหน่ง บรรณารักษ์ ชั้นจัตวา(ซี3) ความฝันสำเร็จแล้ว เป็นคนชอบอ่านหนังสือ ตั้งใจจะทำงานที่นี่
ตลอดไปเพราะมีความสุข แต่ฟ้าลิขิต ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป เป็นบรรณารักษ์ได้6ปี ได้ลาออกปีพ.ศ.2511 ได้งานใหม่ที่ไทยทีวี สีช่อง3 ของคุณวิชัย มาลีนนท์ เป็นงานที่ท้าทายพนัส ศรีสมบูรณ์ ต้องคว้าไว้เมื่อมีโอกาส ได้ประสบการณ์มากที่ช่อง3 เพราะเป็นสื่อโทรทัศน์ ทำงานอยู่ฝ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ จึงเรียนรู้ได้หมด คุณศตวรรษ โดยธาตุแท้ และในจิตใจมีอารมณ์ศิลปินเต็มตัว ชอบอ่าน เขียนหนังสือ ฟังเพลง เป็นคนรักหนังมากถ้าว่างจะไปดูหนังดูที่เฉลิมเขตร์ เช่นเรื่องเบนเฮอร์ 80 วันรอบโลก พอว่างก็ อ่าน


หนังสือ คุณศตวรรษเล่าว่า ตอนเป็นเด็กอยู่ชั้นประถม4 ได้อ่านหนังสือแปลเล่มแรกในชีวิต ชื่อ บูชืโด เป็นเรื่องชาวญี่ปุ่น ความหนา 100กว่าหน้า ประมาณ10ขวบ และมีหนังสือ พลนิกร กิมหงวน แต่งโดย ป.อินทปาลิต หนังสือเสือดำ เสือฝ้าย ตอนเด็กๆชอบมาก เหตุผลนี้เองที่บ่งบอกว่าเป็นคนรักหนัง รักการอ่าน มีจินตนาการและความฝันตั้งแต่เด็ก และวันหนึ่งชีวิตก็เปลี่ยนอีก ลาออกจากช่อง3 มาเป็นผู้จัดการโรงภาพยนตร์ เพราะหัวใจส่วนลึกเพรียกหา ชอบตามฝัน โรงหนังนี่แหละทำให้คุณศตวรรษ มองโลกกว้าง ภาพยนตร์ยังทำให้เกิดปัญญา และเรียนรู้หลายอย่างที่ไม่รู้จึงเป็นผู้จัดการโรงหนัง 3โรงเลย ประสบความสำเร็จทุกโรง เพราะมีครีเอทีฟ ความคิดสร้างสรรค์ ตั้งแตเรียนเพาะช่าง


มติตรังอยากให้คุณศตวรรษ เล่าเรื่องการทำโรงหนังเพราะหอภาพยนตร์แห่งชาติ กำลังรวบรวมเรื่องนี้อยู่ น่าสนใจ คืออย่างนี้ครับ .. การบริหารโรงภาพยนตร์นั้นต้องใช้ความรู้ความสามารถ เพราะโรงหนังมีกิจกรรมเยอะ
หน้าที่ผู้จัดการ ต้องดูแลทั้งหมด เน้นระบบแสงเสียง ต้องจัดโปรแกรมหนังให้ต่อเนื่อง จัดทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ใบปลิว ภาพโปสเตอร์ จัดรถแห่หนังตระเวน ควบคุมบริหารบุคคล ค่าใช้จ่ายต่างๆ น้ำไฟฟ้า เงินเดือน สิ่งสำคัญคือต้องทำคัทเอาท์ใหญ่เขียนด้วยสีน้ำมัน สีโปสเตอร์ติดไว้หน้าโรง สำคัญที่สุดคือหานักพากษ์ ดีๆมาพากษ์หนัง ในยุค40กว่าปีก่อน ระหว่าพ.ศ.2510-2520


โดยเฉพาะโรงชั้นสองสมัยนั้น คนดูนิยมมากเพราะมีการพากษ์สด และต่อมามีการอัดเทป เรื่องเดียวฉายหลายโรง สมัยก่อนเป็นฟิล์มใช้หลายม้วน จึงเกิดธุรกิจขนย้ายหนัง เรียกว่าม้าเร็ว ด่วนพิเศษ วิ่งหนังโดยเฉพาะ ต่อมามีอาชีพบุ๊คเกอร์เกิดขึ้นในวงการหนัง หมายถึงคนกลางที่ติดต่อเจ้าของหนัง หรือบริษัทจัดจำหน่าย เพื่อป้อนหนังให้กับโรงต่างๆ


เป็นผู้จักการโรงหนัง ก็ต้องจ้างบุ๊คกอร์เหมือนกันเป็นคนคอยจัดหาหนังมาฉาย เขารับเป็นบุ๊คเกอร์ให้หลายโรง มีรายได้ดีมาก บุ๊คเกอร์เก่งต้องมีความสัมพันธ์ที่ดี กับแต่ละบริษัท เพราะสามารถพูดคุยจองหนัง ได้หนังใหม่ดีๆที่เพิ่งออกจากโรงชั้นหนึ่ง มาฉายในทันที เรื่องดังๆสมัยนั้น โรงหนังบางแคมาอันดับต้นๆ กินเรียบเช่นหนัง บรุ๊ซลี เดวิด เจียง เฉินหลง หนุ่มซินตึ้ง มีหนังฝรั่ง คาวบอย มีชาล บอลสัน สตีฟ แมคควีน รับรองคนแน่นทุกเรื่อง พากษ์ไทย โดยเฉพาะหนังเรื่อง เดอะ ก็อตฟาเธอร์ มารอน แบรนโด ยิ่งฉายยิ่งแน่น หรือเดชไอ้ด้วน ฯลฯ

ผู้จัดการต้องมีลูกเล่นอย่างหนึ่งคือจ่ายพิเศษให้บุ๊คเกอร์ หาหนังใหม่ๆมาให้ มาฉายได้ทันที อย่างโปสเตอร์ใบปิดหนัง เขาจะเอามาให้ก่อนเพื่อประชาสัมพันธ์ บางทีเคยมีแอบไปถอดป้ายคัทเอาท์ตามสี่แยก ถึงบอกผู้จัดการโรงหนังต้องไหวพริบและลูกเล่นลูกชนสารพัด ระบบการฉายหนังสมัยนั้นมี2วิธี คือเช่ามาฉาย กำไรขาดทุนรับผิดชอบเอง หรือวิธีฉายแล้วแบ่งกันระหว่างโรงหนังกับเจ้าของหนัง เป็น60หรือ40 เรียกว่าเช็คเกอร์ ส่วนเรื่องการพากษ์สำคัญมาก ยอดนิยมคือ พรพจน์-รัชนีวรรณ อันดับหนึ่งพากษ์ดีมากๆ


รายได้เดือนละหลายหมื่น พากษ์หลายโรง ต่อมามีการพากษ์อัดเสียงเกิดขี้น ต้องพากษ์ล่วงหน้าอัดใส่เทป ไปฉายได้หลายโรง ยังมีชีพหนังอีกคือ คนวิ่งหนังใช้มอเตอร์ไซค์คันใหญ่รวมกลุ่มได้ประมาณ20คัน มีหน้าที่ส่งหนังตามโรงต่างๆ วิ่งตามคิวกำหนดทุกวัน ตอนนี้สำคัญมากถ้าวิ่งส่งหนังมาไม่ทัน เรียกว่าจอขาว คนดูจะโห่ ผู้จัดการต้องเตรียมหนัง หนังตลก มาขัดตาทัพ เผื่อฟิล์มมาไม่ทัน สมัยนั้นมีคิววิ่งหนังหลายเจ้า คิวที่ใหญ่เขามีรถในตัววิ่งหนัง50คัน แบ่งเป็นสายๆทั่วกรุงเทพฯ ถึงสามารถรับคิวหนังจากบริษัทจัดจำหน่ายได้มาก และกระจายฟิล์มได้ทั่ว ผู้จัดการโรงหนังทำงานไม่ได้พัก มาทำงานเช้ากลับบ้านดึกๆ


ผู้จัดการโรงหนังต้องยกให้คุณพนัส ศรีสมบูรณ์ สุดยอด ส่วนการเป็นผู้จัดการโรงแรมของคุณพนัสเป็นได้อย่างไร และมาทำงานร่วมกับคุณกิ่งดาว ดารณี ได้อย่างไร วันหนึ่งเขาอ่านพบข่าวในหนังสือพิมพ์บ้านเมือง..
ว่าโรงเรียนการประชาสัมพันธ์ สังกัดกรมประชาสัมพันธ์ โดยอาจารย์อรุณ งามดี ผู้อำนวยการโรงเรียน ประกาศรับสมัครเข้าอบรมหลักสูตรการประชาสัมพันธ์ธุรกิจแผนใหม่ รุ่นหนึ่ง เรียนเสาร์ อาทิตย์ 6เดือนจบ ด้วยความสนใจคุณศตวรรษ ข้องใจเพียงคำเดียวว่า Public Relations มีความหมายอย่างไร จึงส่งใบสมัครเขารับ30คน ส่วนใหญ่มาจากห้างสรรพสินค้า บริษัทดนตรีสยามกลการ โรงแรมชั้น1 ธนาคารกสิกรไทย และจากโรงหนัง มี


ศตวรรษ ศรีสมบูรณ์ ข้ามาคนเดียว สมัครเป็นคนสุดท้าย หลังจากเรียนจบแล้ว อยากเปลี่ยนงาน จึงปรึกษากับประธานรุ่น ท่านคือคุณแมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ท่านเป็นนายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และเป็นผู้จัดการบริษัทสยามกลการ หลังจากได้คุยปรึกษาท่าน คุณแมนรัตน์ เขียนจดหมายฝากไปให้พบ คุณชวลิต ทั่งสัมพันธ์ เป็นท่านประธานกรรมการ โรงแรมชวลิต และแอมบาสเดอร์ ประมาณปีพ.ศ.2515 ไปพบเลขาฯที่โรงแรมชวลิตตอนนี้ผู้เขียนตั้งชื่อว่า “กำเนิดนักประชาสัมพันธ์ชื่อดัง(พนัส ศรีสมบูรณ์)” ได้พบท่านประธาน15นาที

คุณชวลิตสัมภาษณ์ด้วยตนเองดูท่านน่าเกรงขาม ออกนักเลงๆ พูดตรงๆ คุณชวลิตดูโงวเห้ง พึมพำในลำคอว่า คนนี้แหละที่ผมต้องการ และสั่งให้ลงมาพบผู้จัดการประชาสัมพันธ์ทันที คุณศตวรรษ บอกว่าตอนนั้นหัวใจเต้นแรงตึ๊บ ตึ๊บ เพราะได้ตำแหน่งเป็นรองผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ เป็นผู้บริหาร เล่นเอาผู้จัดการโรงหนังเก่าตัวสั่นออกอาการหนาวๆอย่างเห็นได้ชัด ไปพบคุณกิ่งดาว ดารณี ตำแหน่งผู้จัดการประชาสัมพันธ์
ได้ร่วมงานกันตั้งวันนั้น คุณกิ่งดาว มอบหมายให้ทำหน้าที่ติดต่อสื่อมวลชนทุกฉบับ และทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทำงานมาได้ครบ1ปี คุณกิ่งดาวย้ายไปเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลโรงแรมแอมบาสเดอร์ ในเครือเดียวกัน คุณศตวรรษเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์แทน ในขณะนั้นยังใช้ชื่อพนัส ศรีสมบูรณ์ ได้โชว์ฝีมือและผลงานจนโรงแรมชวลิตดังมาก มีข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวัน คุณศตวรรษ ใช้หลักการที่เรียนมาเช่น โหมข่าว จัดทำข่าว คิดข่าว สร้างข่าว ถือเป็นกลยุทธ์ ทำให้โรงแรมติดอับดับ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร คุณศตวรรษใช้คำว่า ครบเครื่องเรื่องประชาสัมพันธ์มืออาชีพ

ต่อในคอมเม้นนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่