ก่อนอื่นเลยก็ สวัสดีครับเพือนๆชาวพันทิป วันนี้ผมจะมาเล่าเรืองและรีวิวรถ (สำหรับความคิดและความรู้สึกของผมเองนะครับ)
เรือง สเป็คคงไม่พูดถึง ไม่ใช่รถไหม่แล้วนี้เนอะ  เอาเป็นว่าเกี่ยวกับการใช้งานของผมเองดีกว่า
ก่อนอื่นบอก เกี่ยวกับตัวผมเองก่อนดีกว่า  แต่ก่อน ผมออกเจ้า CB650F มาไหม่ๆ จะใช้คำว่า ห้าว ใน ความเร็วก็ว่าได้
แน่ล่ะ ก็ รถมันไปตามใจคน และผมก็ใช้มาซักพัก ขับได้ ซักระยะ ผมก็ พอจะรู้ถึงฟิวริ่งของ เจ้า CB650f
เป็นรถที่ขับ ไม่ง่าย ไม่ยากสำหรับมือไหม่ในตอนนั่น  ผมสูง 170 ก็ยังวางเท้า ลงพื่น 2 ข้างไม่เต็มเท่าไหร่ ถถถถ
น้ำหนักรถ  (สำหรับผม)ก็ยังหนักอยู่ดี ถถถถ จะขี่มากี่เดือนกี่ปีก็มีปัญหา ค่อมรถ ถอยหลัง ยาก พอควร แต่ก็ไม่ มีปัญหาอะไรมากนัก (ใจรัก)
ผมก็รู้สึก โอเครกับมันน่ะ  ก่อนหน้านั้นผม เริ่มจาก Msx สมัย ดำแดง ปีเก่า
และผมก็ชอบ แนวนี้มา เรือยๆ  ปลุกความเป็น ไบค์เกอร์ในตัวคุณ ฮ่าๆๆๆ
และผมก็ขับไปซักพัก  จน  ถึงในปีที่ Mslaz เกิดขึ้นในไทย  ผมนี้หลงรักเลย
และก็ได้ไปจัดมาอีกตามเคย  
พอ รถเริ่มไหญ่ขึ้น เริ่มมีความเป็น Big bike (มโน) เริ่มออก ทริป ขับไปเป็นกลุ่มๆ ออกทริปไกลขึ้นเรือยๆ
เจอเพือนที่ขับรถรุ่นๆเดียวกัน แลกเปลียนความคิด และ ใน วันหนึ่ง  จะว่าเป็นคำพูดที่ว่า  (ไม่พอมือ) ก็ได้นะ ถถถ แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว
ผมก็มีแฟน ซึ้ง  แฟนกับผม เริ่ม ออกทริปด้วยกัน และมีความรู้สึกว่า  (ปวดตู...)อยางแรง เวลาออกทริปไกลๆ 400-500 โล
และก็ได้ นั่งคิดกับแฟนว่า  จะเอา รุ่นอะไร ดี ก็ได้ เจ้า CB650F มานั่นแหละฮะ  ฟิวริ่ง ต่างกันเยอะ ทั้งท่านั่ง ความสบาย (ความมัน)
ก็อยางว่าแหละ มันเทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว M Slaz มันก็ ดีใน แบบของ Mslaz ใช้งานคนละแบบ แต่บางคนก็ใช้เจ้า M Slaz ออกทริปไกลๆได้
อันนั่นก็ ถือว่า เก่งเลยทีเดียว ครับ ที่ ทำได้  แต่ผมเอาไว้ทำงานก็ พอละ M Slaz ไม่กินน้ำมันมาก ประหยัด พอตัว ขับง่าย รถเบา
กลับเข้าเรือง CB650fต่อครับ ถถถถ ออกทะเลยาวและ  ผมก็ขับ CB650fได้ 3 เดือน ย่างเดือนที่ 4  สุดดท้ายเรืองที่ไม่น่าจะเกิด ก็ได้เกิดขึ้นกับผม
!!!!!!!!!!ชนครับ!!!!!!!!   จะว่าเป็นความประมาท ของคู่ กรณี ฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ก็ มีความประมาทของเราอยู่ด้วย
((((นั่นแหละฮะท่านผู้ชม)))  ยับเลยครับ  เรืองเกิดอยู่ว่า  ผมกำลังไปทำงาน แฟนถามผมว่า ไปทำบุญก่อนไม๊! แล้วค่อยไปทำงาน
ซึ่งเวลามันเหลือ อีก 2 ชัวโมงใน การขับรถไปทำงาน ผมก็ กลัวว่าท่าผม ไปทำบุญกับแฟนก่อน แล้วผมจะ มีเวลาเหลือน้อยในการ ขับรถไปทำงาน
ผมเลย ตอบไปว่า ไม่ไป เดียวเข้างานสาย !!!  และผมก็ ออกเลย  ใช้ความเร็ว ในการขับไปทำงานไม่เร็วมาก ถนน ต่างจังหวัดค่อนข้างโล่ง
ใช้ความเร็วยืนพื้น  80-100 ผมวิ่งชิดซ้ายมา เรือยๆ รถไม่หนามาก ก็ไม่ได้คิดอะไร  พอมาถึงจุดเกิดเหตุ เป็น ยูเทิร์น มีกระบะคู่กรณี กำลังขับมา
ผมเห็นแล้วแหละว่าเขาจะยูเทิร์น แต่เราไปจะถึงเขาอยู่แล้วอะ เลยไม่ได้คิดว่าเขาจะ ออกมา แบบนั่น  นั่นแหละที่ผมประมาทคือ ไม่คิดเหตุการณ์ร่วงหน้า
ว่าท่าเขาออกมา  เราควรจะ ลดความเร็วไว้ก่อน แต่ความเคยชินเลยทำให้ผมวิ่งยาวต่อไป และทันใดนั้น     สิ่งที่ไม่คิดว่าจะออก ดัน วิ่งตรงมาแบบไม่เห็น
ว่าผม กำลังผ่านไป เหมือน มองไปอีกทางนึง  ระยะที่ตัดหน้า  ประมาณ 3-4 เมตร ผมหัก ซ้าย กะให้ลงข้างทางสุดชีวิต แต่! รถหนักครับ โยกไปนิดเดียว
ผมไม่กำเบรคเลย ตัดสินใจ กระโดด!! ออกจากรถ แต่ ไม่พ้น ครับ ติดช่วง ขาซ้าย  ฟาด ถังน้ำมัน รถตัวเอง  แต่ผมคิดว่า ท่าผมไม่กระโดด คง แย่
เพราะรถเขาเป็น กระบะยกสูง ล้อโต  พอชนปุ๊บ ผมกระโดน ก็ ลอยข้าม ฝากระโปรง รถเขาไป ตอนนั่นผมยังไม่รู้สึกว่าเจ็บ อะไร แค่ ชาที่ มือนิดหน่อย
ผมลอยสูงมาก มีสติ อยู่ตลอดเวลา  แต่ สิ่งที่เจ็บคือ  ตอนที่ผมร่วง ลงมาแล้ว ขา ฟาดพื้นนี้แหละครับ ผมรู้สึก ว่าขา มันขยับไม่ได่ทั้ง 2 ข้าง
ข้างซ้ายหนักสุดคือ ตรงข้อนิ่วก้อย เท้า ซ้าย แตก  หัวเข่าขวาเป็นแผล ลึก แต่ไม่มาก เย็บ แค่ 8เข็ม  แผลช่วงบนตั้งแต่เอวมา ไม่มีเลยครับ แขนไม่มีลอยถลอก เลย  ต้องขอบคุณ หมวก และถุงมือ  และเสื้อหนา ที่ช่วยเอาไว้  ไม่ได้นอนโรงพยาลครับ ใส่เฝื่อก อ่อนเสร็จ ก็ออกและไปโรงพักเลยครับ
คู่กรณี ยอมรับผิด  และรับผิดชอบทั้งหมด ครับผม  ทำให้ผมเข้าใจเลยว่า  ต้องระวังมากกว่านี้ไม่ว่าที่ไหน  เมือไหร่ ตั้งแต่ออกจากบ้าน
มี อันตราย อยู่ตลอดเวลา รอบข้าง  รอรถซ่อม จนเสร็จ   ประมาณ 2เดือนเกือบ 3เดือน ก็ได้รับรถครับ  นานพอดูอยู่  และหลังจากรับรถ
ลองขับและใช้งานมา รถนิ่ง เหมือนเดิม  ไม่มีอะไรผิดปกติ เคลืองก็ยังคงเงียบเหมือนตอน แรก ไม่มีอะไรผิดปกติ    แต่ที่มีก็ จำพวก  
ฟิวขาดบ้าง   ไฟ ABS กระพริบบ้าง  และก็ หายไปเลย ไม่เคยกระพริบอีกเลย  ให้ช่างเช็คแล้ว  จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีปัญหาเลย
ผมยังรักเจ้า  650f เหมือนเดิม แต่ก็ นะ ความรู้สึกก็คือรถ ชนแล้วอะสำหรับเรา แต่ให้ พี่ๆ หรือน้องๆ ขับ ก็ บอกว่าก็ เหมือนเดิม ไม่มีอะไร แปลกไป
ผมก็อยากฝากไว้ เท่านี้แหละครับ สำหรับ ประสบการณ์ที่ผม มีกับรถที่เจอมา
ทุกที่ มีความอันตรายอยู่ตลอด  เราทำให้โอกาศเกิดอุบัติเหตุลดน้อยลงไม่ได้
แต่เรา ทำให้โอกาศรอดของเรามีมากขึ้น ได้  โดยการ สวมหมวก  ชุดป้องกัน หรืออะไรก็ตามแต่
ขอให้ชาว ไบค์เกอร์ทุกคนขับขี่ปลอดภัยนะครับ
ฝากรูป ภาพ ไว้ด้วยครับผม
ประจวบ-กระบี่