สวัสดี มิตรสหายพันทิปทุกท่านค่ะ เกริ่นไว้ก่อนเลยว่าไม่ใช่กระทู้แรกที่เราตั้งในพันทิป แต่ก็เป็นกระทู้แรก (อ่าว) ที่มาแชร์ประสบการณ์ในการไปแลกเปลี่ยนและไปใช้ชีวิตในอินโดนีเซีย 1 เดือน ในโครงการ SEA Teacher Project by SEAMEO รุ่นที่ 3 ว้าวๆๆๆๆ สิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนกระทู้ก็คือ ไม่มีไรมากหรอกค่ะแต่รู้สึกประทับใจในประเทศนี้มากกกกกกกกกกกก และจะสานต่อ กระทู้ Diary Yogyakarta ซึ่งเป็นกระทู้ของรุ่นน้อง จขกท ที่ได้ไปแลกเปลี่ยนด้วยกันนั่นเอง

****** ขออภัยหากใช้คำหรือใช้ประโยคที่ไม่ถูกต้อง หรือ่านแล้วงง ก็ขออภัยด้วยเด้อค่า โอเคเริ่ม มีอะไรแลกเปลี่ยน
จขกท เองได้มีโอกาสเที่ยว ไปใช้ชีวิต เกือบทุกประเทศในอาเซียน ทุกประเทศที่ไปก็ดีงามหมดทุกประเทศล่ะค่ะ วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน การใช้ชีวิต ของกิน เรทเงิน บลาๆๆๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ทำถือว่าเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากห้องเรียน
แล้วทำไม จขกท ถึงชอบ อินโดนีเซียล่ะ? ก่อนที่จะบอกรายละเอียดนั้นขออนุญาตแชร์ความเป็นมาว่าทำไม จขกท ถึงได้ไปเหยียบแผ่นดิน อิเหนา ดีกว่าเนาะ
เริ่มที่ จขกท นั้นปัจจุบันเรียนครู อยู่ชั้นปีที่ 4 ในมหาวิทยาลัยครูทางภาคเหนือ เราเนี่ย (ขออนุญาตใช้คำแทนตัวเองว่าเรา กับ จขกท นะคะ)มีความคิดที่อยากจะแบ็คแพ็คไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวสักครั้งก่อนที่จะเริ่มสอนเต็มรูปแบบในโรงเรียน หรือที่เรียกว่า ฝึกสอน 1 ปีนั่นเอง เราเองก็ค้นหาข้อมูล วางแผนทางการเงินว่า เราควรไปไหนดี ที่ไหนปลอดภัย ควรค่าแก่เงินที่เสียไปอิอิ ก็ค้นหาในกระทู้พันทิปนี่ล่ะค่ะ จนมาลงล็อคที่ฮานอย , เวียดนาม และ
บาหลี , อินโดนีเซีย และอ่านกระทู้รีวิวนั่นล่ะทั้งวันทั้งคืน จนตัดสินว่าจะเก็บเงินไปเที่ยวที่บาหลี คิดไว้ว่าจะไปตอนช่วงเมษายนนี้ อ้อ ลืมบอกไปค่ะว่า ช่วงเวลาที่เราค้นหาข้อมูลนั้นอยู่ในช่วงปิดเทอมใหญ่ช่วง กรกฎาคม ปีที่แล้วค่ะ เลยมีเวลาว่างมานั่งคิดคิดนี่เรื่อยเปื่อย ฮ่าๆ
พอตัดสินใจได้แล้วว่า เราจะต้องเก็บตังค์ไปบาหลีให้ได้ ในงบ 15000 บาท ตั้งใจว่าจะหางานพาร์ทไทม์ทำช่วงเปิดเทอมและเก็บตังค์ไปเรื่อยๆ แบบนี้อะค่ะ หลังจากที่วางแผนเสร็จแล้ว ก็ขอป๊าม้า (อิอิ)ว่าเนี่ยหนูอยากไปเที่ยวบาหลี ก่อนจะออกฝึกสอน ไม่ต้องห่วงนะ เรื่องค่าใช้จ่ายนั้น หนูจะหางานพาร์ทไทม์ทำและไปเที่ยวเอง เมื่อป๊าม่าฟังปุ๊บถามคำเดียวว่า ไปกับใคร เราก็ยิ้มแหยะๆเลยว่า ไปคนเดียวค่า จากนั้นไม่ต้องเดาเลยว่าคำตอบจะออกมาเป้นยังไง NO อย่างเดียวค่า แซดมากๆๆ เศร้าไปหลายวันหลายคืนเลยทีเดียว ............
กลับมาเข้าเรื่องดีกว่า พอเปิดภาคเรียนที่ 1 ในช่วงเกือบปลายเดือนสิงหา ก็ไม่มีอะไรมาก เรียนตามปกตินี่ล่ะค่ะ จนกระทั่งในช่วงเดือนตุลาคม ทางคณะได้เรียกประชุม เกี่ยวกับโครงการ SEA Teacher ผ่าง เสียงสวรรค์มาโปรด น้ำตาจะไหลจนถึงหัวเข่า ความจริง เราเองก็เคยได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับ โครงการนี้ในช่วง เดือน พฤษภาคม นั่นแหละ แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจ มองข้ามผ่านมันไปเฉยเลย แต่พอเรารู้ตัวเองเราอยากไปแดน อิเหนา ไม่ว่าโครงการจะให้เราไปพื้นที่ เรายอมหมด และได้เข้าร่วมประชุมในตามที่คณะเรียกมา เท่าที่จำได้มี 4 วิชาเอกที่เข้าร่วมประชุมด้วยกันคือ ภาษาอังกฤษ ปฐมวัย วิทยาศาตร์ คณิตศาสตร์
จากการประชุมทำให้เรารู้ว่า โครงการนี้ได้ดำเนินการมา 2 รุ่นแล้ว โดยรุ่นแรกเริ่มเดือนมกราคม ถึง กุมภาพันธ์ และ รุ่นถัดมา ก็คือช่วง กลาง กรกฎาคม - กลางสิงหาคม รุ่นละหนุ่งเดือนนั่นเอง และจัดขึ้นสองครั้งภายในปีเดียว ว้าวๆๆๆ โดยในการเข้าร่วมประชุมนั้นได้มี นศ รุ่น 2 ได้มาแชร์ประสบการณ์ในการแลกเปลี่ยนให้เราได้ฟัง เรานี่มือสั้นเลย อยากไปมากกกกกกกก พร่ำบอกเพื่อนว่า เราจะไป ยังไงเราก็จะไป ก็เลยได้สมัครตามขั้นตอนที่ทางโครงการกำหนดไว้ ขออนุญาตข้ามรายละเอียดขั้นตอนนี้นะคะ เพราะโครงการนี้ได้ร่วมมือกับหลายมหาวิทยาลัยทั้งใน ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ การดำเนินการนั้นอาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว
ข้ามมาถึงช่วงที่ ทางม.ได้ให้เราเลือกว่า จะเลือกลงพื้นที่ไหน และมหาลัยอะไรในอินโดนีเซียและฟิลิปินส์ พร้อมแจกแจงตารางการดำเนินโครงการและวันเวลาการเดินทาง โดยทางโครงการเริ่มวันที่ 15 มกราคม 2017 - 13 กุมภาพันธ์ 2017 นั่นหมายความว่า เราต้องเดินทางให้ไปถึงปลายทาง ภายในวันที่ 15 มกราคมนั่นเอง และกลับวันที่ 13 กุมภาพันธ์นั่นเอง
ถึงเวลาเลือกละ ในใจเราคิดแต่ว่าอยากลง จากาตาร์ กับบาหลี แต่พอพี่เจ้าหน้าที่เค้าให้ใบรายละเอียดมา ผ่าง สุราการ์ตา บันดาอาเจะห์ มาคัสซ่า ยอกยาการ์ตา บันดุง บันจามาซิน เซบู(ฟิลิปปินส์) อะไรเนี่ยไม่รู้จักสักเมือง T.T พี่เจ้าหน้าที่เค้าก้ได้เปิดแมพของแต่ละสถานที่ให้ดู ว่าแต่ละที่เป็นยังไง อะไรน่าสนใจบ้าง จึงตัดสินใจเลือกแบบไม่รู้ความเลยว่า เอายอกยาการ์ตาก็ได้วะ พ้องกับจาการ์ตาดีและอยู่เกาะเดียวกับจาการ์ตา คือ เกาะชวา คือตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆนะ ฮ่าๆ พร้อมกับรุ่นน้อง เอกวิทยาศาตร์อีกคน ที่เลือกที่เดียวกันและมหาลัยเดียวกัน
ขั้นตอนต่อไป จองตั๋วบิน เรานี่คิดหนักมาก ดูแล้วดูอีกเครียดแล้วเครียดอีก อ๊ะ ก่อนเราจองตั๋วบิน เราได้บอกป๊าม้า เราว่า หนูขอไปแลกเปลี่ยน ที่ อินโด 1 เดือนนะแม่นะ ไม่ต้องห่วง มีเพื่อนไปด้วยหลายคน พักกับทางมหาลัย เค้าดูแลเราเป้นอย่างดีแน่นวล ซึ่งความจริง ม๊า เราค่อนข้างหนักใจพอสมควร แต่เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาอันมุ่งมั่นของเรานั้น แม่ก็บอกว่า โอเค อนุมัติ เราแทบกรี๊ดค่ะ กราบแทบเท้าขุ่นแม่ เราก็ทำการค้นหาเที่ยวบินเลยค่ะ คิดแล้วคิดอีก ค้นลึกแล้วลึกอีก เอาแบบประหยัดที่สุด ต่อกี่เครื่องก็ยอม จนได้ไทยไลอ้อนแอร์ แอร์เอเชียอินโด และ ไลอ้อนแม่ (อินโด) เรานี่ตื่นเต้นได้นั่งเครื่องหลายต่อ ชอบๆ โดยเริ่มที่ เชียงราย - ดอนเมือง ดอนเมือง - จากาตาร์ และ จากาตาร์ - ยอกยาการ์ตา ค่ะ ในราคาไปกลับ 12000 บาทนิดๆ
** ทางโครงการได้สนับสนุนค่าใช้จ่าย 10000 บาทค่ะ เราเลยนำเงินนี้มาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวตลอด 1 เดือนที่อยู่ในยอกยาค่ะ และไม่เสียค่าโครงการใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ
หลังจากที่จองตั๋วบินแล้ว เราก็ได้เขียนจดหมายไปยังอาจารย์ในมาหลัยที่เราเลือก พอส่งไป เอ้ะ ผ่านไป 7 วันทำไมไม่ตอบเมล ก็ฟอร์เวิร์ดไปอีกรอบ ก็ยังไม่ตอบ ในขณะที่เพื่อนอีกคนหนึ่ง ที่ลง ยอกยา เหมือนกันแต่คนละมหาลัย เค้าได้ถูกดึงเข้ากรุ๊ปไลน์กับทางนั้น พูดคุยอะไรกันเรียบร้อย อ่าว เราเลยจำเป็นต้องทำตามเพื่อน ฮ่าๆ โดยการแอดไลน์อาจารย์โดยใส่เบอร์โทรของเค้าเข้าไป แล้วก็ เจอ เลยก๊อปคำในอีเมล ส่งให้เขาไปทั้งดุ้นแบบนั้นล่ะ และแล้วเค้าก็อ่าน กรี๊ส ผ่านไป 10 นาที อ.ตอบกลับมาว่า เราได้อีเมล์จากคุณมานานแล้วและรับทราบแล้วด้วย อ่อค่ะ เข้าใจเลย คงเป็นธรรมเนียมของเขาที่จะไม่ตอบอีเมลกลับมา ซึ้งเลย โอเคโล่งแล้วค่ะ กว่าจะถึงขั้นตอนนี้ก็อยู่ในช่วง ปลายธันวาคมแล้ว หลังจากที่เราติดต่อกับม.ทางนั้นได้แล้ว ก็ไม่มีไรมากค่ะ ชิลๆ รอวันที่จะได้ไปกันค่ะ โดยช่วงที่รอเดินทางนั้น ไม่รู้สึกอะไร เฉยๆมาก แต่จริงๆแล้วก่อนเดินทาง 1 วันนั้น นอนไม่หลับกระสับกระส่าย ตาค้างอยู่บนที่นอน ไม่กล้าหลับ ใจนี้เต้นรัวๆๆๆๆเหมือนโด๊ปกระทิงหลายขวด ......และแล้ววันนั้นก็มาถึง
[แชร์ประสบการณ์] นักเรียนไทย(ที่บ้าบอและติ๊งต๊อง)แลกเปลี่ยนที่เมือง Yogyakarta , Indonesia 1 เดือน พร้อมรายละเอียด
จขกท เองได้มีโอกาสเที่ยว ไปใช้ชีวิต เกือบทุกประเทศในอาเซียน ทุกประเทศที่ไปก็ดีงามหมดทุกประเทศล่ะค่ะ วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน การใช้ชีวิต ของกิน เรทเงิน บลาๆๆๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ทำถือว่าเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากห้องเรียน
แล้วทำไม จขกท ถึงชอบ อินโดนีเซียล่ะ? ก่อนที่จะบอกรายละเอียดนั้นขออนุญาตแชร์ความเป็นมาว่าทำไม จขกท ถึงได้ไปเหยียบแผ่นดิน อิเหนา ดีกว่าเนาะ
เริ่มที่ จขกท นั้นปัจจุบันเรียนครู อยู่ชั้นปีที่ 4 ในมหาวิทยาลัยครูทางภาคเหนือ เราเนี่ย (ขออนุญาตใช้คำแทนตัวเองว่าเรา กับ จขกท นะคะ)มีความคิดที่อยากจะแบ็คแพ็คไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวสักครั้งก่อนที่จะเริ่มสอนเต็มรูปแบบในโรงเรียน หรือที่เรียกว่า ฝึกสอน 1 ปีนั่นเอง เราเองก็ค้นหาข้อมูล วางแผนทางการเงินว่า เราควรไปไหนดี ที่ไหนปลอดภัย ควรค่าแก่เงินที่เสียไปอิอิ ก็ค้นหาในกระทู้พันทิปนี่ล่ะค่ะ จนมาลงล็อคที่ฮานอย , เวียดนาม และ
บาหลี , อินโดนีเซีย และอ่านกระทู้รีวิวนั่นล่ะทั้งวันทั้งคืน จนตัดสินว่าจะเก็บเงินไปเที่ยวที่บาหลี คิดไว้ว่าจะไปตอนช่วงเมษายนนี้ อ้อ ลืมบอกไปค่ะว่า ช่วงเวลาที่เราค้นหาข้อมูลนั้นอยู่ในช่วงปิดเทอมใหญ่ช่วง กรกฎาคม ปีที่แล้วค่ะ เลยมีเวลาว่างมานั่งคิดคิดนี่เรื่อยเปื่อย ฮ่าๆ
พอตัดสินใจได้แล้วว่า เราจะต้องเก็บตังค์ไปบาหลีให้ได้ ในงบ 15000 บาท ตั้งใจว่าจะหางานพาร์ทไทม์ทำช่วงเปิดเทอมและเก็บตังค์ไปเรื่อยๆ แบบนี้อะค่ะ หลังจากที่วางแผนเสร็จแล้ว ก็ขอป๊าม้า (อิอิ)ว่าเนี่ยหนูอยากไปเที่ยวบาหลี ก่อนจะออกฝึกสอน ไม่ต้องห่วงนะ เรื่องค่าใช้จ่ายนั้น หนูจะหางานพาร์ทไทม์ทำและไปเที่ยวเอง เมื่อป๊าม่าฟังปุ๊บถามคำเดียวว่า ไปกับใคร เราก็ยิ้มแหยะๆเลยว่า ไปคนเดียวค่า จากนั้นไม่ต้องเดาเลยว่าคำตอบจะออกมาเป้นยังไง NO อย่างเดียวค่า แซดมากๆๆ เศร้าไปหลายวันหลายคืนเลยทีเดียว ............
กลับมาเข้าเรื่องดีกว่า พอเปิดภาคเรียนที่ 1 ในช่วงเกือบปลายเดือนสิงหา ก็ไม่มีอะไรมาก เรียนตามปกตินี่ล่ะค่ะ จนกระทั่งในช่วงเดือนตุลาคม ทางคณะได้เรียกประชุม เกี่ยวกับโครงการ SEA Teacher ผ่าง เสียงสวรรค์มาโปรด น้ำตาจะไหลจนถึงหัวเข่า ความจริง เราเองก็เคยได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับ โครงการนี้ในช่วง เดือน พฤษภาคม นั่นแหละ แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจ มองข้ามผ่านมันไปเฉยเลย แต่พอเรารู้ตัวเองเราอยากไปแดน อิเหนา ไม่ว่าโครงการจะให้เราไปพื้นที่ เรายอมหมด และได้เข้าร่วมประชุมในตามที่คณะเรียกมา เท่าที่จำได้มี 4 วิชาเอกที่เข้าร่วมประชุมด้วยกันคือ ภาษาอังกฤษ ปฐมวัย วิทยาศาตร์ คณิตศาสตร์
จากการประชุมทำให้เรารู้ว่า โครงการนี้ได้ดำเนินการมา 2 รุ่นแล้ว โดยรุ่นแรกเริ่มเดือนมกราคม ถึง กุมภาพันธ์ และ รุ่นถัดมา ก็คือช่วง กลาง กรกฎาคม - กลางสิงหาคม รุ่นละหนุ่งเดือนนั่นเอง และจัดขึ้นสองครั้งภายในปีเดียว ว้าวๆๆๆ โดยในการเข้าร่วมประชุมนั้นได้มี นศ รุ่น 2 ได้มาแชร์ประสบการณ์ในการแลกเปลี่ยนให้เราได้ฟัง เรานี่มือสั้นเลย อยากไปมากกกกกกกก พร่ำบอกเพื่อนว่า เราจะไป ยังไงเราก็จะไป ก็เลยได้สมัครตามขั้นตอนที่ทางโครงการกำหนดไว้ ขออนุญาตข้ามรายละเอียดขั้นตอนนี้นะคะ เพราะโครงการนี้ได้ร่วมมือกับหลายมหาวิทยาลัยทั้งใน ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ การดำเนินการนั้นอาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว
ข้ามมาถึงช่วงที่ ทางม.ได้ให้เราเลือกว่า จะเลือกลงพื้นที่ไหน และมหาลัยอะไรในอินโดนีเซียและฟิลิปินส์ พร้อมแจกแจงตารางการดำเนินโครงการและวันเวลาการเดินทาง โดยทางโครงการเริ่มวันที่ 15 มกราคม 2017 - 13 กุมภาพันธ์ 2017 นั่นหมายความว่า เราต้องเดินทางให้ไปถึงปลายทาง ภายในวันที่ 15 มกราคมนั่นเอง และกลับวันที่ 13 กุมภาพันธ์นั่นเอง
ถึงเวลาเลือกละ ในใจเราคิดแต่ว่าอยากลง จากาตาร์ กับบาหลี แต่พอพี่เจ้าหน้าที่เค้าให้ใบรายละเอียดมา ผ่าง สุราการ์ตา บันดาอาเจะห์ มาคัสซ่า ยอกยาการ์ตา บันดุง บันจามาซิน เซบู(ฟิลิปปินส์) อะไรเนี่ยไม่รู้จักสักเมือง T.T พี่เจ้าหน้าที่เค้าก้ได้เปิดแมพของแต่ละสถานที่ให้ดู ว่าแต่ละที่เป็นยังไง อะไรน่าสนใจบ้าง จึงตัดสินใจเลือกแบบไม่รู้ความเลยว่า เอายอกยาการ์ตาก็ได้วะ พ้องกับจาการ์ตาดีและอยู่เกาะเดียวกับจาการ์ตา คือ เกาะชวา คือตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆนะ ฮ่าๆ พร้อมกับรุ่นน้อง เอกวิทยาศาตร์อีกคน ที่เลือกที่เดียวกันและมหาลัยเดียวกัน
ขั้นตอนต่อไป จองตั๋วบิน เรานี่คิดหนักมาก ดูแล้วดูอีกเครียดแล้วเครียดอีก อ๊ะ ก่อนเราจองตั๋วบิน เราได้บอกป๊าม้า เราว่า หนูขอไปแลกเปลี่ยน ที่ อินโด 1 เดือนนะแม่นะ ไม่ต้องห่วง มีเพื่อนไปด้วยหลายคน พักกับทางมหาลัย เค้าดูแลเราเป้นอย่างดีแน่นวล ซึ่งความจริง ม๊า เราค่อนข้างหนักใจพอสมควร แต่เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาอันมุ่งมั่นของเรานั้น แม่ก็บอกว่า โอเค อนุมัติ เราแทบกรี๊ดค่ะ กราบแทบเท้าขุ่นแม่ เราก็ทำการค้นหาเที่ยวบินเลยค่ะ คิดแล้วคิดอีก ค้นลึกแล้วลึกอีก เอาแบบประหยัดที่สุด ต่อกี่เครื่องก็ยอม จนได้ไทยไลอ้อนแอร์ แอร์เอเชียอินโด และ ไลอ้อนแม่ (อินโด) เรานี่ตื่นเต้นได้นั่งเครื่องหลายต่อ ชอบๆ โดยเริ่มที่ เชียงราย - ดอนเมือง ดอนเมือง - จากาตาร์ และ จากาตาร์ - ยอกยาการ์ตา ค่ะ ในราคาไปกลับ 12000 บาทนิดๆ
** ทางโครงการได้สนับสนุนค่าใช้จ่าย 10000 บาทค่ะ เราเลยนำเงินนี้มาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวตลอด 1 เดือนที่อยู่ในยอกยาค่ะ และไม่เสียค่าโครงการใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ
หลังจากที่จองตั๋วบินแล้ว เราก็ได้เขียนจดหมายไปยังอาจารย์ในมาหลัยที่เราเลือก พอส่งไป เอ้ะ ผ่านไป 7 วันทำไมไม่ตอบเมล ก็ฟอร์เวิร์ดไปอีกรอบ ก็ยังไม่ตอบ ในขณะที่เพื่อนอีกคนหนึ่ง ที่ลง ยอกยา เหมือนกันแต่คนละมหาลัย เค้าได้ถูกดึงเข้ากรุ๊ปไลน์กับทางนั้น พูดคุยอะไรกันเรียบร้อย อ่าว เราเลยจำเป็นต้องทำตามเพื่อน ฮ่าๆ โดยการแอดไลน์อาจารย์โดยใส่เบอร์โทรของเค้าเข้าไป แล้วก็ เจอ เลยก๊อปคำในอีเมล ส่งให้เขาไปทั้งดุ้นแบบนั้นล่ะ และแล้วเค้าก็อ่าน กรี๊ส ผ่านไป 10 นาที อ.ตอบกลับมาว่า เราได้อีเมล์จากคุณมานานแล้วและรับทราบแล้วด้วย อ่อค่ะ เข้าใจเลย คงเป็นธรรมเนียมของเขาที่จะไม่ตอบอีเมลกลับมา ซึ้งเลย โอเคโล่งแล้วค่ะ กว่าจะถึงขั้นตอนนี้ก็อยู่ในช่วง ปลายธันวาคมแล้ว หลังจากที่เราติดต่อกับม.ทางนั้นได้แล้ว ก็ไม่มีไรมากค่ะ ชิลๆ รอวันที่จะได้ไปกันค่ะ โดยช่วงที่รอเดินทางนั้น ไม่รู้สึกอะไร เฉยๆมาก แต่จริงๆแล้วก่อนเดินทาง 1 วันนั้น นอนไม่หลับกระสับกระส่าย ตาค้างอยู่บนที่นอน ไม่กล้าหลับ ใจนี้เต้นรัวๆๆๆๆเหมือนโด๊ปกระทิงหลายขวด ......และแล้ววันนั้นก็มาถึง