เราควรจะไปต่อ หรือหยุดไว้แค่นี้คะ

เรื่องของเรากับคนๆนึงความจริงมันก็นานมาแล้วค่ะ ขอแทนชื่อเค้าเป็น ด. นะคะ
คือ เรารู้สึกว่า เรากับเค้ามีอะไรที่แตกต่างกันเยอะ เราเคยคบกันค่ะ แต่ได้แค่ไม่กี่เดือนก็ต้องเลิก เพราะเค้าไม่ได้ดูแลไม่ได้ใส่ใจ วันๆเอาแต่เล่นเกมส์ จขกท. เป็นคนที่การเรียนไม่ได้แย่ค่ะ แต่เค้าจะเกรดไม่ค่อยดี ถ้าถามว่าละไปชอบกันได้ไงเล่า 555 คือตอนนั้นรู้จักกันผ่านเพื่อนๆค่ะ ด.เป็นคนน่ารัก ตลก จขกท.ชอบคนแบบนี้มากเลย555 ก็เลยได้คุยกัน เพื่อนๆก็เชียร์ให้คบกันมาตลอด จนวันนึงเค้าก็มาขอเราเป็นแฟนตามระเบียบ แต่ในช่วงนั้นคือไม่ได้ดูแล ใส่ใจ เอาแต่เล่นเกม เราก็เลยรู้สึก เสียใจอยู่พอสมควร น้อยใจบ้าง แต่ก็ไม่มีการง้อหรืออะไรใดๆทั้งสิ้น พอมาถึงจุดๆนึงที่ไม่มั่นใจ ว่าเค้ารักเราจริงๆรึเปล่า ก็เลยตัดสินใจถามไปตรงๆ เพื่อที่จะได้ชัดเจนกันไปเลย เราจำแชทไม่ได้ละเอียดมากแต่ก็ประมาณนี้ค่ะ
เรา : ด.มั่นใจรึเปล่าว่าชอบเรา เราว่าทุกสิ่งที่ด.ทำ มันดูไม่ใช่เลย อยากให้ไปลองคิดดูดีๆ
ด. : ไม่รู้สิ
เรา : ตรงๆเถอะนะ
ด. : งั้นกลับไปเป็นเพื่อนกันเถอะ
เรา : อื้ม
แล้วเราก็มารู้ทีหลังค่ะว่าที่วันนั้นเค้ามาขอเราเป็นแฟนน่ะ เพราะเพื่อนเราไปยุยงเค้า ไปบังคับเค้าอะไรประมาณนี้ค่ะ
ตอนนั้นรู้สึกแย่มากๆ เหมือนสิ่งที่คิดมาเป็นเรื่องที่คิดไปเองคนเดียว
แต่ต่อจากนั้นหลายเดือนต่อเราก็ได้คุยกันอีกครั้ง เพราะเพื่อนปรึกษาปัญหาในกลุ่มกันค่ะ
พอคุยกันเค้าก็สารภาพกับเราว่าตอนนั้น ถ้าย้อนกลับไปได้ก็อยากย้อนกลับไป เพราะถ้าเราตอนนี้เป็นเราตอนนั้น เราจะไม่ทำแบบนั้น
คุยกันไปกันมา ก็สรุปกันได้ประมาณว่ายังชอบกันอยู่ แต่ยังไม่อยากกลับไปตอนนี้ ก็เลยโอเค เราลืมบอกค่ะ ด.ไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ เคยส่องเฟซ เค้าไม่แอดคนไหนเลยค่ะ55 นอกจากคนในบ้าน และคุณครูหลายๆท่าน
เราก็โอเคค่ะ เลยกลับมาคุยกันครั้งที่สอง
ถามว่าเค้าเปลี่ยนไปมากแค่ไหน 10% เองมั้งคะ555 เรารู้สึกว่าเค้าก็ยังให้ความสำคัญกับเกม และเพื่อนๆมาก ไม่ใช่ว่ากขจท. ไม่เข้าใจชีวิตของผู้ชายนะ เข้าใจดีเลย ถึงไม่อยากไไปเรียกร้องอะไรมมาก แต่ที่ผิดคือใจเราเอง ที่คิดคาดหวังไปหมด
สิ่งที่ทำทุกอย่างในระหว่างการคุยครั้งที่สอง หวงกัน ก็ความจริงเป็นสิทธิของเรามั้ย ก็ไม่ค่ะ55
ทำให้จขกท. คิดไปอีกรอบว่าเราน่าจะอยู่ในสถานะที่เรียกว่า "เพื่อนก็ไม่ใช่ แฟนก็ไม่เชิง"
แต่เราเป็นคนคาดหวัง ชอบให้เค้าทำนั่นทำนี่ พูดสิ่งที่เราอยากได้ยิน เช่นเป็นห่วง คิดถึง ซึ่งถึงจุดๆนึงที่เค้าก็พูดตรงๆว่า เค้าไม่ชอบ เค้ารู้สึกว่ามันยาก
จขกท.ก็เลยสงสัยด. ว่าการพูดความรู้สึกนี่มันยากเหรอ มันอึดอัดเหรอ หรือไม่ได้รู้สึกจริงๆ
ครั้งนี้เป็นการเคลียร์ครั้งที่สอง เรากลับไปไม่คุยกันอีกครั้ง
ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องที่เราคิดไปเอง
เราเลิกคุยกันครั้งนี้ เราเฮิร์ทยาวๆเลยค่ะ รูปเค้าก็ดูตลอด รู้สึกไม่กล้าลบเพราะมันสำคัญมาก กว่าเราจะได้เจอกันทีก็ลำบาก เพราะคนละโรงเรียน เวลาไม่ค่อยตรงกัน เราเรียน เค้าเรียน บ้านเราค่อนข้างเคร่ง แต่ไม่ใช่ว่าเราไปเจอละไม่บอกพ่อแม่นะ บ้านเราเป็นบ้านที่มีอะไรก็คุยกันหมด เพราะฉะนั้น เค้าก็รู้หมด สิ่งที่เรารู้สึก ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ยากอยู่ดี555
เราพยายามไม่คิดอะไร ก่อกำแพงความสตรองเอาไว้เต็มที่ แต่ถึงจะสตรองแค่ไหน อุกกาบาตชน เขื่อนก็แตกค่ะ
จู่ๆ ด. ก็ทักเรามา พยายามทักมาทุกวัน แล้วให้เหตุผลประมาณว่าคิดถึง
ฟีลลิ่งคล้ายๆเพลงหน่วง แต่ไม่ได้มีคนที่สามเข้ามาแทรกค่ะ มันเรื่องของความรู้สึกของเราทั้งสองคนเอง
เราเองก็ไม่อยากคิดไปเองคนเดียวอีกแล้ว ครั้งนี้เราก็เลยถามตรงๆ เค้าก็บอกเราประมาณว่ายังชอบอยู่จริงๆ
จนมาถึงวันนึง เราได้คุยกันแบบเปิดปากอย่างจริงจังว่า เรารู้สึกยังไงมาตลอด เค้ารู้สึกยังไงจริงๆแล้ว ก็คือโทรศัพท์กัน
มีหลายประเด็นมากๆเลยค่ะ แต่เราเอาคร่าวๆเนอะ
เรา : เราไม่เข้าใจ ว่ากลับมาทำไม
ด.  : คิดถึงจริงๆ
เรา : แล้วเราจะมั่นใจได้ยังไงว่ามันจะไม่จบแบบเดิมอีก มันเหนื่อยนะ
ด.  : ไม่หรอก เราจะพยายามปรับตัวนะ
ทีนี้เราก็คุยกันไปมา จนมาถึงเรื่องข้อเสียของอีกฝ่ายที่ค่ิยโอเค
ด. : แต่เราไม่ค่อยโอเค กับนิสัย (จขกท.) ตรงที่ชอบให้เราทำอะไรเยอะๆ ทั้งๆที่เรารู้สึกว่าสิ่งที่เราทำเราคัดกรองมาดีแล้ ไม่ต้องเติมอะไรแล้ว ต่อไปนี้ปรับตัวเข้าหากันนะ
จะยังไงดีล่ะ เราเป็นคนอย่างนี้อยู่แล้วด้วย จขกท. รู้สึกว่า นิสัยที่แก้ไม่ได้เลยจริงๆคือ เราชอบคาดหวังที่จะให้เค้าแสดงออกบ้างว่ารักเรา ชอบเรา คิดถึงเรา
จขกท.รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่แก้ไม่ได้ ถึงแม้จะพยายาม แต่ก็ห้ามความคิดไม่ได้จริงๆ
อันนี้ประเด็นแรกที่กลัว
ประเด็นที่สอง เราไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรขนาดนั้น เพราะสถานะที่เราเป็นอยู่มันไม่มีสถานะชัดเจน ถ้าอยู่ๆวันนึงจะเลิกคุยกับเรา เค้าก็ไม่ผิดอะไร
ประเด็นที่สาม เราไม่มีความมั่นใจในการลงทุนกับครั้งนี้100%  เพราะแน่นอนค่ะ ถ้านักธุรกิจขาดทุนกับที่ลงไปในเดิมๆถึงสองรอบ รอบที่สามก็คงไม่ลงให้ร้อยเปอร์เซนต์แล้วค่ะ
ประเด็นที่ สี่ เราก็เลยลองบอกเค้าไปว่า ถ้าเข้ากันไม่ได้จริงๆ พยายามแค่ไหนมันก็ไม่เข้าล็อค ฝืนเปล่าๆ เหนื่อยก็พักเถอะ ด.ก็ตอบใส่เราประมาณว่า อย่าพูดแบบนี้สิ ...
แต่ตอนนี้จขกท.เหมือนรู้สึกอยู่ในสถานะที่จะไปต่อก็ไม่ไหว จะกลับไปก็ไม่ทันแล้ว
ถ้าเป็นแฟนมันก็ยังพอมีสิทธิอะไรอยู่บ้าง แต่เราว่ามันก็ฝืนกันอยู่ดี เพราะเค้าชอบอยู่กับเพื่อน เล่นเกม มากกว่า ส่วนเราจะชอบคุย ชวนคอล ชวนไปนู่นไปนี่ จขกท. ควรจะหยุด หรือไปต่อคะ
หรือควรจะทำอย่างไรต่อดี ขอคำแนะนำด้วยนะคะ
ผิดพลาดไม่เหมาะสมประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่