เล่าประสบการณ์ติดสนามบินฮ่องกง 32 ชั่วโมง ทั้งหนี ทั้งวิ่ง ทั้งด่า

เรื่องเกิดขึ้นวันที่ 16 มกราคมครับ ตามแพลนผมต้องต่อเครื่องกับ Emirates จาก Hong Kong ไป Portugal (เนื่องจากจองตั๋วกรุงเทพ-ฮ่องกงกับ Cathay Pacific ไว้นานแล้ว ทริปโปรตุเกสแทรกมาทีหลัง) ขณะที่ยืนรอบอร์ดดิ้งพาสตรงเคาท์เตอร์ transfer พนักงานบอกว่า "เที่ยวบินถึงโปรตุเกสก่อนวีซ่าเริ่มใช้ได้ 12 ชั่วโมง คุณไม่สามารถบินไฟล์ทนี้ได้" นาทีนั้นใจผมหล่นไปอยู่ตาตุ่มเพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับตัว พนักงานอธิบายต่อว่า ตามกฏสายบิน ถ้าวีซ่าผู้โดยสารมีปัญหาสายบินจะไม่อนุญาติให้เช็คอินตั้งแต่ต้นทางไม่ว่าในกรณีใดๆ ผมอึ่งไปพักใหญ่เลยเพราะวีซ่ามันยังใช้ไม่ได้จริงๆ ตามที่พนักงานบอก... ผมพลาดเองจริงๆ

พนักงานเลยเสนอทางเลือก 1. โทรเปลี่ยนตั๋วกับเอเจนซี่ที่ผมซื้อตั๋ว (ค่าเปลี่ยนตก 3 หมื่นกว่าบาท) 2. ติดต่อเคาท์เตอร์ Cathay Pacific เอาเองเพื่อขอความช่วยเหลือ (ผมบินมาฮ่องกงด้วย Cathay Pacific)

ผมเลือกข้อสองครับ ผมเล่าปัญหาตามคำแนะนำ Emirates แต่ฝั่ง Cathay ก็เล่นส่ายหัวไม่ให้ให้ความช่วยเหลือใดๆ หนำซ้ำเมื่อผมขอให้พนักงาน Emirates ช่วยคุยเขากลับคุยเป็นภาษาจีนก่อนจะเดินหนีไม่แยแสผม (อันนี้โกรธมาก) ผมรีบเดินกลับไปเคาท์เตอร์ Emirates จำได้ว่าตอนนั้นโมโหเลือดขึ้นหน้าแล้วไม่รู้ว่าด่าอะไรไปบ้าง พนักงาน Emirates ได้แต่บอกว่าให้นั่งรอไปก่อนเดี่ยวจะมีเจ้าหน้าที่มาหา... นั่งรอพักใหญ่จนใจเริ่มไม่ดีเพราะใกล้เวลาเครื่องออกเต็มที่ ผมกัดฟันลองใช้ E-Ticket ในแอพดู ถ้าผ่านจุดตรวจไปไม่แน่ก็อาจได้ขึ้นเครื่อง ผมรีบวิ่ง ง ง ง แต่... รู้ตัวอีกทีตั๋ว E-Ticket ปลิวหายไปจากหน้าจอแล้ว ใช่ครับ ถูกแคนเซิลอย่างเป็นทางการ โดนเทเฉยซะงั้น ผมทำอะไรไม่ได้เลย โทรติดต่อ call center Emirates ที่ไทยก็ยืนยันว่าตั๋วจากฮ่องกงโดนแคนเซิลแล้วแต่ขากลับยังคอนเฟิร์มอยู่ ถ้ายังอยากเดินทางต้องโทรหาเอเจนซีเพื่อเลื่อนตั๋ววิธีเดียว... ผมนั่งหายใจยาว ว ว ว จินตนาการว่าชาติที่แล้วไปสร้างกรรมกับพนักงานอะไรไว้

ผมถอดใจกลับบ้าน เพราะคงไม่มีเงินเสียค่าเลื่อนตั๋วสามหมื่นกว่าแน่นอน ผมเลยเดินไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอออกจากสนามบิน แต่รู้มั้ยว่าการที่ผู้โดยสารจะออกสนามบินหลังผ่าน ต.ม. เป็นเรื่องยากมาก เจ้าหน้าที่เลยสอบสวนปัญหากันใหญ่โต ผมจำได้ว่านั่งรอเกือบ 8ชั่วโมง นั่งแบบใร้จุดหมาย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้ออกจากสนามบินหรือถูกส่งตัวกลับไทย สภาพชีวิตแทบไม่ต่างจาก Viktor Navorski เรื่อง The Terminal รอได้ก็รอไป... รอแล้วรอเล่าจนถึงห้าทุ่ม ในที่สุดก็มีข่าวดี ทีม Cathay Pacific เดินมาหาพร้อมข่าวดีว่า ทาง Cathay ยอมรับความผิดที่ตรวจสอบวีซ่าไม่ละเอียดตั้งแต่ต้นทาง พวกเขารับผิดชอบด้วยการออกตั๋วใบใหม่ไปโปรตุเกสวันที่ 17 และเปิดโรงแรมกับให้ Voucher อาหารสองมื้อ ผมพูดไม่ออกได้แต่ขอบคุณพนักงานทุกคนที่ช่วยเหลือ อันที่จริงพวกเขาไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือผมด้วยซ้ำแต่คงเพราะจรรยาบรรณในอาชีพเลยช่วยเหลือเต็มที่... ยังไงต้องขอบคุณทีม Cathay Pacific และพนักงานชื่อ Shanon ที่ช่วยเหลือผมจนได้เดินทางต่อครับ

เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว ผมถือว่าเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ให้กับตัวและหวังว่าเรื่องราวของผมจะเป็นประโยช์นกับใครหลายคนต่อไปนะครับ
1.ตรวจวีซ่าวันรับเล่มให้ละเอียดก่อนออกสถานทูต อ่านมันทุกบรรทัด มีอะไรผิดได้แก้ไขทัน
2.เลี่ยงจองตั๋วกับเอเจนซี่ เพราะสายการบินและเอเจนซี่แชร์ข้อมูลไม่เท่ากัน (ขนาดราคาตั๋ว สายการบินยังไม่รู้เลยว่าผมจ่ายไปกี่บาท) เสียเวลาต้องโทรเล่าข้อมูลทั้งสองฝั่ง ทางที่ดีซื้อตรงกับสายการบิน จบปัญหาเร็วกว่าครับ
3.ถ้าตั๋วขาไปโดนแคนเซิล รีบทำ Reconfirm ตั๋วขากลับทันที ผมสืบมาได้ว่าถ้ายังระบบไม่แคนเซิลตั๋วขากลับ พนักงานต้องแจ้งผู้โดยสารเรื่อง Reconfirm Ticket เป็นสิทธิ์ของเราที่จะต้องได้เดินทาง ไม่งั้นซวยติด Noshow ทั้งบุ๊กกิ้งครับ
4.ผมเองก็ผิด ที่ควรรอบคอบมากกว่านี้ เศร้า

ออ... ขากลับผมก็ไม่ได้บินนะครับตั๋วติด Noshow ตั้งแต่ฮ่องกง ทำใจซื้อตั๋วใหม่สองหมื่นกว่าบาทกลับไทยสดๆ ที่สนามบินลิสบอน เศร้า
ต้องขอบคุณพนักงาน emirates ฮ่องกงที่ไม่ยอมให้บอกข้อมูลเรื่อง reconfirm ตั๋วขากลับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่