จะทำอย่างไรดี ถ้าเจอครอบครัวแฟนแบบนี้
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะคะนี่เป็นกระทู้แรกของเรา อาจจะเขียนไม่รู้เรื่องบ้างอะไรบ้างยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ
เริ่มเรื่องเลยละกันค่ะ เราเป็นคนจังหวัดหนึ่งในภาคกลางที่เข้าไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐตั้งอยู่แถวๆ สนามหลวง พอจบมาทำงานสถาบันการเงินแห่งหนึ่งมาหลายปี และได้เรียนต่อจนจบระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง พื้นฐานครอบครัวพ่อแม่ทำเกษตรกรรม ชีวิตดูปกติดีค่ะ
จนได้มีโอกาสเจอแฟนคนนี้ เนื่องจากเพื่อนรุ่นพี่แนะนำให้รู้จัก บ้านอยู่จังหวัดทางภาคเหนือ จังหวัดที่คนไปเที่ยวเยอะๆ แหละค่ะ ระหว่างนั้นเค้าอยู่ที่บ้านภาคเหนือ เราอยู่กรุงเทพ ก็คบหา เดินทางไปมาหากันอยู่ช่วงหนึ่ง จนผ่านไปนานพอควร เราเริ่มแน่ใจว่าคนๆ นี้ที่เราจะแต่งงานด้วยแน่ๆ จึงย้ายไปอยู่ภาคเหนือ หางานที่นั่นทำเป็นเซลล์ที่ภาคเหนือ เพื่อที่จะได้อยุ่ใกล้เค้า ทุกอย่างก็ดูไปได้สวยค่ะ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราต้องฝากของไว้ที่บ้านเค้า ของที่ใช้เกี่ยวกับงานเรานั่นแหละค่ะ ทีนี้ปัญหาเกิดสิคะ แม่แฟนเราแอบเอาของเราไปใช้ ใช้เองไม่พอ เอาไปแจกอีกด้วย โดยที่ไม่มีการขอล่วงหน้าหรือบอกกล่าวใดๆทั้งสิ้น แฟนเรารู้เข้าเลยตำหนิ ทีนี้ละเป็นเรื่องเลยค่ะ แฟนเราเลยออกจากงานที่บ้านมาอยู่กับเราข้างนอก ยิ่งทำให้ทั้งพ่อทั้งแม่เค้าโมโหเอาเราไปด่าให้ญาติๆเค้าฟังทั้งตระกูล รวมถึงลูกน้องที่ทำงานที่บ้าน ว่าเรางก เห็นแก่ตัว หลอกลูกชายเค้า ปั่นหัวลูกชายเค้า เอาเราไปเปรียบเทียบกับแฟนน้องสาวบ้างล่ะ ทั้งๆที่วันนั้นเราไม่เคยพูด ไม่เคยด่าเค้าเลยซักคำ หลังๆ มารู้ว่าเค้าด่าขนาดว่าที่เรามีเงินเนี่ยเพราะเอาตัวเข้าแลก พูดง่ายๆ ภาษาชาวบ้านๆ คือ ขายตัวนั่นแหละค่ะ บางทีก็ไปเล่าให้คนอื่นฟังว่าพ่อเราหาเสี่ยแก่ๆ ไว้ให้เราแต่งงานด้วย ซึ่งแต่ละเรื่องคือเค้ามโนไปคนเดียวทั้งสิ้น นี่คือแค่บางส่วนนะคะเล่าหมดคงไม่ไหวกับสิ่งที่พวกเค้าทำ
ตอนหลังแฟนเราสงสารพ่อเลยอยากกลับไปช่วยงานที่บ้าน เลยตัดสินใจมาสร้างบ้านของตัวเองในพื้นที่ที่ยายยกให้ เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆ เราก็เห็นดีด้วยจะได้ไม่ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าเช่าหอ เงินที่สร้างหลักๆก็เงินเราค่ะ มีแม่แฟนกู้มาสมทบให้หลักหมื่นให้เราผ่อนคืนกันเอง เป็นบ้านหลังเล็กๆ ค่ะ ช่วยกันสร้างกันเอง จ้างช่างในบางส่วนที่ทำเองไม่ได้ หลักๆ คือทำเองค่ะ ตอนนี้เปิดร้านกาแฟเล็กๆ ในบ้าน กับพ่อแม่แฟนก็ต่างคนต่างอยู่ค่ะ เรื่องเหมือนจะผ่านไปด้วยดี บางทีก็มีหงุดหงิดใจบ้างที่แม่แฟนพยายามจะเข้ามาจุ้นจ้านในร้านเรา แต่เราก็เว้นระยะห่างกับเค้าพอสมควรทำให้เค้าเข้ามายุ่งกับเรามากไม่ได้ เจอหน้าก็คุยกับเค้าบ้าง เพื่อไม่ให้หน้าเกลียด จริงๆ เราก็ไม่ได้เกลียดไม่ได้ถือสาในสิ่งที่เค้าทำกับเราเท่าไหร่ ถือว่าให้มันจบๆ กันไปจะได้ไม่ติดค้างเป็นกรรมต่อกัน แต่เราก็ไม่อยากให้เค้าเข้ามาข้องเกี่ยวกับเราอีก เรากลัวมีปัญหาค่ะ
ปัญหาเริ่มมามีอีกครั้งเมื่อแฟนเราเริ่มรับงานเอง ไม่รับเงินเดือนจากพ่อ เพื่อที่จะได้ฝึกตัวเองให้รับงานเองได้ แล้วก็เพื่อรายได้ที่มากขึ้น เพราะเราต้องเก็บเงินแต่งงานกันเอง เนื่องจากเราเคยคุยกับพ่อแม่แฟนเรื่องแต่งงานแล้วพ่อแม่แฟนเค้าไม่ไปขอพ่อแม่เราให้ค่ะ ไม่ให้เงินไปแต่งงานด้วย เค้าบอกว่าขนาดลูกสาว น้องสาวของแฟนเราอะค่ะยังไม่เรียกสินสอดเลยมาอยู่ด้วยกันที่บ้านเฉยๆ ไม่เห็นต้องไปขอ เราก็อธิบายว่าที่บ้านเราพ่อแม่เราคงรับไม่ได้ถ้าไม่ไปขอ เงินสินสอดก็แค่เป็นพิธีพอแต่งแล้วก็คืนให้ลูกอยู่ดี ซึ่งเราก็ต้องคืนให้เค้า เค้าก็ไม่ยอมค่ะ เราเลยตัดสินใจไม่พึ่งเค้าทั้งคู่ ทำงานเก็บเงินกันเอง อย่างน้อยเราก็ทำให้พ่อแม่เราสบายใจไม่อายชาวบ้าน เราถือว่าเป็นหน้าที่ลูกที่เราต้องทำ
ที่พีคที่สุดคือพ่อแฟนพยายามที่จะทำให้เราทนไม่ได้กับการอยู่ที่นี่ ด้วยการกดดันแฟนเราเรื่องงาน กลั่นแกล้งให้ทำงานไม่ได้ ล็อคตู้อุปกรณ์ให้แฟนเราไม่มีอุปกรณ์ทำงาน เพื่อให้เราเลิกกับแฟนไปเพื่อที่แฟนเราจะได้กลับไปทำงานให้เค้าเหมือนเดิม แล้วก็ยึดบ้านหลังนี้ที่เราเป็นคนลงเงิน ลงแรง ลงใจ ในการสร้างมันขึ้นมากับแฟนแค่ 2 คนเท่านั้น ยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่ นี่คือสิ่งที่เราเจอมาค่ะ
จะทำอย่างไรดี ถ้าเจอครอบครัวแฟนแบบนี้
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะคะนี่เป็นกระทู้แรกของเรา อาจจะเขียนไม่รู้เรื่องบ้างอะไรบ้างยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ
เริ่มเรื่องเลยละกันค่ะ เราเป็นคนจังหวัดหนึ่งในภาคกลางที่เข้าไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐตั้งอยู่แถวๆ สนามหลวง พอจบมาทำงานสถาบันการเงินแห่งหนึ่งมาหลายปี และได้เรียนต่อจนจบระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง พื้นฐานครอบครัวพ่อแม่ทำเกษตรกรรม ชีวิตดูปกติดีค่ะ
จนได้มีโอกาสเจอแฟนคนนี้ เนื่องจากเพื่อนรุ่นพี่แนะนำให้รู้จัก บ้านอยู่จังหวัดทางภาคเหนือ จังหวัดที่คนไปเที่ยวเยอะๆ แหละค่ะ ระหว่างนั้นเค้าอยู่ที่บ้านภาคเหนือ เราอยู่กรุงเทพ ก็คบหา เดินทางไปมาหากันอยู่ช่วงหนึ่ง จนผ่านไปนานพอควร เราเริ่มแน่ใจว่าคนๆ นี้ที่เราจะแต่งงานด้วยแน่ๆ จึงย้ายไปอยู่ภาคเหนือ หางานที่นั่นทำเป็นเซลล์ที่ภาคเหนือ เพื่อที่จะได้อยุ่ใกล้เค้า ทุกอย่างก็ดูไปได้สวยค่ะ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราต้องฝากของไว้ที่บ้านเค้า ของที่ใช้เกี่ยวกับงานเรานั่นแหละค่ะ ทีนี้ปัญหาเกิดสิคะ แม่แฟนเราแอบเอาของเราไปใช้ ใช้เองไม่พอ เอาไปแจกอีกด้วย โดยที่ไม่มีการขอล่วงหน้าหรือบอกกล่าวใดๆทั้งสิ้น แฟนเรารู้เข้าเลยตำหนิ ทีนี้ละเป็นเรื่องเลยค่ะ แฟนเราเลยออกจากงานที่บ้านมาอยู่กับเราข้างนอก ยิ่งทำให้ทั้งพ่อทั้งแม่เค้าโมโหเอาเราไปด่าให้ญาติๆเค้าฟังทั้งตระกูล รวมถึงลูกน้องที่ทำงานที่บ้าน ว่าเรางก เห็นแก่ตัว หลอกลูกชายเค้า ปั่นหัวลูกชายเค้า เอาเราไปเปรียบเทียบกับแฟนน้องสาวบ้างล่ะ ทั้งๆที่วันนั้นเราไม่เคยพูด ไม่เคยด่าเค้าเลยซักคำ หลังๆ มารู้ว่าเค้าด่าขนาดว่าที่เรามีเงินเนี่ยเพราะเอาตัวเข้าแลก พูดง่ายๆ ภาษาชาวบ้านๆ คือ ขายตัวนั่นแหละค่ะ บางทีก็ไปเล่าให้คนอื่นฟังว่าพ่อเราหาเสี่ยแก่ๆ ไว้ให้เราแต่งงานด้วย ซึ่งแต่ละเรื่องคือเค้ามโนไปคนเดียวทั้งสิ้น นี่คือแค่บางส่วนนะคะเล่าหมดคงไม่ไหวกับสิ่งที่พวกเค้าทำ
ตอนหลังแฟนเราสงสารพ่อเลยอยากกลับไปช่วยงานที่บ้าน เลยตัดสินใจมาสร้างบ้านของตัวเองในพื้นที่ที่ยายยกให้ เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆ เราก็เห็นดีด้วยจะได้ไม่ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าเช่าหอ เงินที่สร้างหลักๆก็เงินเราค่ะ มีแม่แฟนกู้มาสมทบให้หลักหมื่นให้เราผ่อนคืนกันเอง เป็นบ้านหลังเล็กๆ ค่ะ ช่วยกันสร้างกันเอง จ้างช่างในบางส่วนที่ทำเองไม่ได้ หลักๆ คือทำเองค่ะ ตอนนี้เปิดร้านกาแฟเล็กๆ ในบ้าน กับพ่อแม่แฟนก็ต่างคนต่างอยู่ค่ะ เรื่องเหมือนจะผ่านไปด้วยดี บางทีก็มีหงุดหงิดใจบ้างที่แม่แฟนพยายามจะเข้ามาจุ้นจ้านในร้านเรา แต่เราก็เว้นระยะห่างกับเค้าพอสมควรทำให้เค้าเข้ามายุ่งกับเรามากไม่ได้ เจอหน้าก็คุยกับเค้าบ้าง เพื่อไม่ให้หน้าเกลียด จริงๆ เราก็ไม่ได้เกลียดไม่ได้ถือสาในสิ่งที่เค้าทำกับเราเท่าไหร่ ถือว่าให้มันจบๆ กันไปจะได้ไม่ติดค้างเป็นกรรมต่อกัน แต่เราก็ไม่อยากให้เค้าเข้ามาข้องเกี่ยวกับเราอีก เรากลัวมีปัญหาค่ะ
ปัญหาเริ่มมามีอีกครั้งเมื่อแฟนเราเริ่มรับงานเอง ไม่รับเงินเดือนจากพ่อ เพื่อที่จะได้ฝึกตัวเองให้รับงานเองได้ แล้วก็เพื่อรายได้ที่มากขึ้น เพราะเราต้องเก็บเงินแต่งงานกันเอง เนื่องจากเราเคยคุยกับพ่อแม่แฟนเรื่องแต่งงานแล้วพ่อแม่แฟนเค้าไม่ไปขอพ่อแม่เราให้ค่ะ ไม่ให้เงินไปแต่งงานด้วย เค้าบอกว่าขนาดลูกสาว น้องสาวของแฟนเราอะค่ะยังไม่เรียกสินสอดเลยมาอยู่ด้วยกันที่บ้านเฉยๆ ไม่เห็นต้องไปขอ เราก็อธิบายว่าที่บ้านเราพ่อแม่เราคงรับไม่ได้ถ้าไม่ไปขอ เงินสินสอดก็แค่เป็นพิธีพอแต่งแล้วก็คืนให้ลูกอยู่ดี ซึ่งเราก็ต้องคืนให้เค้า เค้าก็ไม่ยอมค่ะ เราเลยตัดสินใจไม่พึ่งเค้าทั้งคู่ ทำงานเก็บเงินกันเอง อย่างน้อยเราก็ทำให้พ่อแม่เราสบายใจไม่อายชาวบ้าน เราถือว่าเป็นหน้าที่ลูกที่เราต้องทำ
ที่พีคที่สุดคือพ่อแฟนพยายามที่จะทำให้เราทนไม่ได้กับการอยู่ที่นี่ ด้วยการกดดันแฟนเราเรื่องงาน กลั่นแกล้งให้ทำงานไม่ได้ ล็อคตู้อุปกรณ์ให้แฟนเราไม่มีอุปกรณ์ทำงาน เพื่อให้เราเลิกกับแฟนไปเพื่อที่แฟนเราจะได้กลับไปทำงานให้เค้าเหมือนเดิม แล้วก็ยึดบ้านหลังนี้ที่เราเป็นคนลงเงิน ลงแรง ลงใจ ในการสร้างมันขึ้นมากับแฟนแค่ 2 คนเท่านั้น ยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่ นี่คือสิ่งที่เราเจอมาค่ะ