ลิ้งค์ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/36173180
หลังจากผ่าตัดเสร็จประมาณ 1 เดือน เราก็เริ่มให้คีโมเข็มแรกวันที่ 22 ธค. 59 การให้คีโมครั้งแรก เรามีความกังวลอยู่มาก จิ้นไปเยอะว่าจะเป็นยังไงบ้างนะ ยุ้ยเองหาข้อมูลมามากพอสมควร ขอขอบคุณข้อมูลจากเพจมาเล็งความสุข โดยคุณเวย์ และเพจเมื่อหมอเป็นมะเร็ง โดยคุณหมอดาว
ข้อมูลที่ได้มาค่อนข้างละเอียดมาก ทำให้เรารู้ว่า เราอาจจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เราควรเตรียมตัว เตรียมใจรับมืออย่างไร แต่ถึงจะเตรียมใจไว้แล้ว ก็ยังอดกังวลไม่ได้อยู่ดีค่ะ ^^
ประสบการณ์การให้คีโมครั้งแรกของยุ้ย ครั้งแรกให้ที่เปาโลเหมือนเดิม ส่วนครั้งที่ 2-4 เปลี่ยนรพ.ย้ายตามสิทธิ์ประกันสังคมไปค่ะ แล้วยุ้ยจะมาเล่าถึงเรื่องการเปลี่ยนรพ.อีกทีนะคะ
การให้คีโมครั้งแรก ถือว่าเป็นครั้งที่ยากที่สุด เพราะเรากังวลและกลัวอยู่ในใจลึกๆ กลัวว่าจะแพ้มากไหม อาการจะมาเมื่อไหร่ ให้แล้วจะรู้สึกยังไง คิดไปสารพัดค่ะ
วันนั้นคุณพยาบาลเจาะเข็มสำหรับให้ยาก่อน แล้วเราก็มาตึกด้านหลัง สำหรับให้ยา ลืมไปแล้วว่าชั้นไหน ไปถึงพยาบาลก็ให้เราไปนอนรอในห้องพิเศษคู่ สามีเราก็อยู่ด้วยตลอด ขอบคุณกำลังใจสำคัญ ❤ พยาบาลแจ้งว่ารอผสมยาประมาณ 3 ชั่วโมงนะคะ ตอนเข้าไปในห้อง อีกเตียงยังว่าง เราก็นอนรอไปค่ะ ตอนแรกก็ไม่อะไร ยังเซลฟี่ได้อยู่เลย 555 พี่ที่ทำงานมาเยี่ยมก็คุยด้วยชิลๆ เวลาผ่านไปสัก 2 ชั่วโมงได้ ก็มีคุณป้าคนนึงเดินเข้ามา คุณป้ามาให้คีโมค่ะ พักเตียงข้างๆ แต่ตอนคุณป้าเข้ามา เรานี่ใจเสียเลย เพราะคุณป้าอาการไม่สู้ดีนัก คุณป้าน่าจะเป็นมะเร็งที่แถวๆ คอ ทำให้คุณป้าพูดไม่ถนัด คุณป้าก็ชวนคุย เราก็คุยกับคุณป้าสักพักนึง
สักพักก็มีเภสัชมาให้คำแนะนำ ว่าคีโมคืออะไร ยาที่เราให้วันนี้คือตัวไหน มีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง เราควรปฏิบัติตัวอย่างไร อาหารประเภทไหนทานได้บ้าง
วันนั้นเราให้ยาสูตร AC หรือคีโมน้ำแดง ที่คนขยาดกันนักหนา ผลข้างเคียงก็จะทำให้พะอืดพะอม อาเจียน อาจมีอาการท้องผูก หรือท้องเสียได้ เม็ดเลือดขาวจะต่ำในช่วงประมาณอาทิตย์ที่ 2 หลังจากรับยา และผมจะเริ่มร่วงมากในช่วง 2 อาทิตย์เช่นกัน และจะร่วงหนักขึ้นเรื่อยๆ (ของเราหมอบอกเลยว่า 3 อาทิตย์นะ)
เรื่องอาหารตามความเชื่อของเรา ผสมคำแนะนำของเภสัชและคุณหมอ ไม่จำเป็นต้องงดเนื้อสัตว์อะไร แต่เราอาจจะเลี่ยงอาหารทะเลบ้าง เนื่องจากกลัวไม่สด จะติดเชื้อเอา (ยุ้ยเคยติดเชื้อเพราะอาหารเป็นพิษมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน) อาหารให้เน้นปรุงสุก สด ใหม่ งดทานผักดิบ ต้องทานผักปรุงสุก งดทานโยเกิร์ต นมเปรี้ยว เพราะเราให้คีโมมา เม็ดเลือดขาวต่ำ เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ตามผักหรือแม้แต่ในนมเปรี้ยว โยเกิร์ต ก็อาจจะทำให้เราติดเชื้อได้ เพราะเราภูมิต่ำ ผลไม้ให้ทานผลไม้ที่ต้องปอกเปลือก ยุ้ยจะล้างผลไม้ก่อนปอกเสมอๆ หรือบางคนอาจจะทานพวกผักผลไม้นึ่งแทน เช่นฟักทองนึ่ง
ควรเลี่ยงของทอด ของมัน ด้วย 2 เหตุผล 1) คือช่วงให้คีโมมา พวกของมันๆ ทอดๆ จะกระตุ้นทำให้เราอยากอาเจียนมากขึ้น 2) คือไขมันพวกนี้สามารถเปลี่ยนไปเป็นฮอร์โมนได้ ซึ่งมะเร็งเต้านมที่ยุ้ยเป็นนั้น ตอบสนองต่อฮอร์โมน ควรเลี่ยงอาหารหรือผักที่มีกลิ่นฉุน ซึ่งมันกระตุ้นให้เราอยากอาเจียนเหมือนกันค่ะ แล้วก็งดของหมัก ของดอง ไม่กินน้ำแข็งนอกบ้าน โดยเฉพาะน้ำแข็งป่น หมอบอกว่าน้ำแข็งสกปรก เราอาจติดเชื้อได้
พอเภสัชอธิบายจบ ก็นอนรอต่อไปสักพัก คุณพยาบาลก็มาให้น้ำเกลือ ตอนนั้นรู้สึกอยากหนีกลับบ้านมากๆ เหมือนเด็กๆ เลย 555 แล้วก็มีฉีดยาแก้แพ้ก่อน สักพักยาก็มา เป็นกระปุกเล็กๆ 2 กระปุก กระปุกนึงน้ำสีแดง อีกกระปุกใสไม่มีสี ตอนให้น้ำแดงไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ
พอกระปุกแดงหมด ก็ให้กระปุกใสต่อ กระปุกนี้แอบจึ้ดขึ้นหัว บางคนบอกว่าคล้ายตอนกินวาซาบิ เราไม่ค่อยชอบเลย มันจึ้ด น้ำตาจะไหล (พิมพ์ไป นึกถึงแล้วก็รู้สึกพะอืดพะอม)
หลังจากที่ให้ยาเสร็จ จะยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่อีกสักพักก็เริ่มพะอืดพะอม แต่ยังกินข้าวได้ วันนั้นกินข้าวต้ม กลับมาบ้านก็อาเจียนเลย
พอวันที่ 2 รุ่งขึ้นนี่เริ่มมามากขึ้นค่ะ เริ่มทานไม่ค่อยได้ ทานข้าวได้ไม่กี่คำ ทานได้แต่ผลไม้ กับน้ำ
วันที่ 3 อาการเยอะสุด อาเจียนจนไม่มีอะไรจะอาเจียน ทานได้แต่น้ำกับผลไม้เหมือนเดิม
วันที่ 4-5 จะเริ่มดีขึ้นนิดนึง แต่ก็ยังพะอืดพะอมอยู่ตลอดเวลา
หลังจากนั้นถึงจะเริ่มทานก๋วยเตี๋ยวได้ ทานอาหารอ่อนๆ ได้
ช่วงอาทิตย์ที่ 2 เราจะเหนื่อยง่าย มีอยู่ช่วงนึงที่เหมือนจะปัสสาวะติดขัด ก็ไปหาหมอ หมอตรวจว่าอาจจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มีเก็บปัสสาวะไปเพาะเชื้อ ปรากฏว่าเชื้อที่เจอเป็นแบคทีเรียที่ดื้อยา แต่พบในปริมาณต่ำ แต่วันนั้นเม็ดเลือดขาวเราค่อนข้างต่ำ ประมาณ 2,000 คนปกติจะมีประมาณ 5,000 -10,000 ก็เลยโดนแอดมิดอยู่ 3-4 วัน ให้น้ำเกลือจนเส้นแตก โดนเจาะเลือดอยู่หลายรอบ สรุปสุดท้ายไม่พบเชื้อในเลือด ก็เลยได้ออกจากรพ.
ช่วงที่อยู่รพ.นี้ เป็นช่วงที่เราผมร่วงหนัก นั่งอยู่เฉยๆ ก็ร่วง ถ้าเอามือสาง ผมจะร่วงติดมือมาเป็นกำๆ อย่างกับในละคร จิ้นไปว่าเราเป็นนางเอกเกาหลีที่ป่วยเป็นมะเร็ง อารมณ์ประมาณ Love Story in Harvard 5555
กลับมา ค่ะ กลับมา เรียกสติตัวเองกลับมาก่อน คือเราจะบอกว่าอย่ารอให้ผมร่วงหนักขนาดนั้นเลยค่ะ มันจะทำให้เราจิตตก เราอยากจะไปโกนผมมาก แต่ติดแอดมิดอยู่ พอออกจากรพ.ตอนนั้นผมเริ่มร่วงมากแล้ว ดันไม่อยากไปร้านตัดผมเพื่อโกนผม กลัวช่างแถวบ้านจะถาม ไม่อยากตอบคำถามใครค่ะตอนนั้น ช่วงนั้นอารมณ์แปรปรวนนิดนึง มีจิตตกบ้างงี้ สรุปว่าคืนนั้นเอากรรไกรตัดผม มาตัดผมตัวเองเลยค่ะ ให้สั้นมากๆๆ แล้วก็แอบลองเอาบัตตาเลี่ยนตัวเล็กของสามีมาลองตัดเอง แต่กลัวมันบาดค่ะ ใจไม่กล้าพอ เลยนอนก่อนทั้งผมแหว่งๆ นั่นแหละค่ะ
เข้ามาก็ให้สามีโกนให้ แต่เวลาใช้บัตตาเลี่ยนโกนมันจะไม่เกลี้ยงจะเป็นตอๆ ส่วนผมเราที่ร่วงไปแล้วจะร่วงทั้งโคน ผมก็เลยดูเหมือนแหว่งๆ ก็เป็นแบบนั้นอยู่หลายวัน จนวันนึงก็เอามีดโกนหนวดมาโกนเองเลยค่ะ เกลี้ยงเรียบร้อย สบายแฮร์ จะบอกว่าพอโกนผมแล้วชีวิตดีขึ้นเยอะเลยค่ะ ไม่ต้องจิตตกเพราะผมร่วง ไม่มีเส้นผมทุกทั่วทุมบ้าน
ช่วงอาทิตย์ที่ 3 หลังจากให้คีโมมาเราจะเริ่มดีขึ้น กินอะไรได้เกือบปกติ อ้อช่วงที่กินไม่ได้ก็พยายามกินเอ็นชัวร์ค่ะ จากนั้นก็วนลูป ให้ยาเข็มถัดไป
เข็มที่ 2-4 มีอาการแตกต่างกันในแต่ละครั้งที่ให้ สำหรับเราครั้งที่ยากสุด คือครั้งแรก ครั้งที่แย่ที่สุดคือครั้งที่ 3 (5วัน ที่แทบกินอะไรไม่ได้เลย เลยได้โรคกระเพาะแถมมาอีก) ครั้งท้ายๆ จะเป็นร้อนใน มีอาการร้อนวูบวาบมากขึ้น เล็บเริ่มดำ เป็นแผลง่าย
แชร์ประสบการณ์ตรง เมื่อฉันเป็นมะเร็งเต้านมตอนที่ 2 การให้คีโม
หลังจากผ่าตัดเสร็จประมาณ 1 เดือน เราก็เริ่มให้คีโมเข็มแรกวันที่ 22 ธค. 59 การให้คีโมครั้งแรก เรามีความกังวลอยู่มาก จิ้นไปเยอะว่าจะเป็นยังไงบ้างนะ ยุ้ยเองหาข้อมูลมามากพอสมควร ขอขอบคุณข้อมูลจากเพจมาเล็งความสุข โดยคุณเวย์ และเพจเมื่อหมอเป็นมะเร็ง โดยคุณหมอดาว
ข้อมูลที่ได้มาค่อนข้างละเอียดมาก ทำให้เรารู้ว่า เราอาจจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เราควรเตรียมตัว เตรียมใจรับมืออย่างไร แต่ถึงจะเตรียมใจไว้แล้ว ก็ยังอดกังวลไม่ได้อยู่ดีค่ะ ^^
ประสบการณ์การให้คีโมครั้งแรกของยุ้ย ครั้งแรกให้ที่เปาโลเหมือนเดิม ส่วนครั้งที่ 2-4 เปลี่ยนรพ.ย้ายตามสิทธิ์ประกันสังคมไปค่ะ แล้วยุ้ยจะมาเล่าถึงเรื่องการเปลี่ยนรพ.อีกทีนะคะ
การให้คีโมครั้งแรก ถือว่าเป็นครั้งที่ยากที่สุด เพราะเรากังวลและกลัวอยู่ในใจลึกๆ กลัวว่าจะแพ้มากไหม อาการจะมาเมื่อไหร่ ให้แล้วจะรู้สึกยังไง คิดไปสารพัดค่ะ
วันนั้นคุณพยาบาลเจาะเข็มสำหรับให้ยาก่อน แล้วเราก็มาตึกด้านหลัง สำหรับให้ยา ลืมไปแล้วว่าชั้นไหน ไปถึงพยาบาลก็ให้เราไปนอนรอในห้องพิเศษคู่ สามีเราก็อยู่ด้วยตลอด ขอบคุณกำลังใจสำคัญ ❤ พยาบาลแจ้งว่ารอผสมยาประมาณ 3 ชั่วโมงนะคะ ตอนเข้าไปในห้อง อีกเตียงยังว่าง เราก็นอนรอไปค่ะ ตอนแรกก็ไม่อะไร ยังเซลฟี่ได้อยู่เลย 555 พี่ที่ทำงานมาเยี่ยมก็คุยด้วยชิลๆ เวลาผ่านไปสัก 2 ชั่วโมงได้ ก็มีคุณป้าคนนึงเดินเข้ามา คุณป้ามาให้คีโมค่ะ พักเตียงข้างๆ แต่ตอนคุณป้าเข้ามา เรานี่ใจเสียเลย เพราะคุณป้าอาการไม่สู้ดีนัก คุณป้าน่าจะเป็นมะเร็งที่แถวๆ คอ ทำให้คุณป้าพูดไม่ถนัด คุณป้าก็ชวนคุย เราก็คุยกับคุณป้าสักพักนึง
สักพักก็มีเภสัชมาให้คำแนะนำ ว่าคีโมคืออะไร ยาที่เราให้วันนี้คือตัวไหน มีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง เราควรปฏิบัติตัวอย่างไร อาหารประเภทไหนทานได้บ้าง
วันนั้นเราให้ยาสูตร AC หรือคีโมน้ำแดง ที่คนขยาดกันนักหนา ผลข้างเคียงก็จะทำให้พะอืดพะอม อาเจียน อาจมีอาการท้องผูก หรือท้องเสียได้ เม็ดเลือดขาวจะต่ำในช่วงประมาณอาทิตย์ที่ 2 หลังจากรับยา และผมจะเริ่มร่วงมากในช่วง 2 อาทิตย์เช่นกัน และจะร่วงหนักขึ้นเรื่อยๆ (ของเราหมอบอกเลยว่า 3 อาทิตย์นะ)
เรื่องอาหารตามความเชื่อของเรา ผสมคำแนะนำของเภสัชและคุณหมอ ไม่จำเป็นต้องงดเนื้อสัตว์อะไร แต่เราอาจจะเลี่ยงอาหารทะเลบ้าง เนื่องจากกลัวไม่สด จะติดเชื้อเอา (ยุ้ยเคยติดเชื้อเพราะอาหารเป็นพิษมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน) อาหารให้เน้นปรุงสุก สด ใหม่ งดทานผักดิบ ต้องทานผักปรุงสุก งดทานโยเกิร์ต นมเปรี้ยว เพราะเราให้คีโมมา เม็ดเลือดขาวต่ำ เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ตามผักหรือแม้แต่ในนมเปรี้ยว โยเกิร์ต ก็อาจจะทำให้เราติดเชื้อได้ เพราะเราภูมิต่ำ ผลไม้ให้ทานผลไม้ที่ต้องปอกเปลือก ยุ้ยจะล้างผลไม้ก่อนปอกเสมอๆ หรือบางคนอาจจะทานพวกผักผลไม้นึ่งแทน เช่นฟักทองนึ่ง
ควรเลี่ยงของทอด ของมัน ด้วย 2 เหตุผล 1) คือช่วงให้คีโมมา พวกของมันๆ ทอดๆ จะกระตุ้นทำให้เราอยากอาเจียนมากขึ้น 2) คือไขมันพวกนี้สามารถเปลี่ยนไปเป็นฮอร์โมนได้ ซึ่งมะเร็งเต้านมที่ยุ้ยเป็นนั้น ตอบสนองต่อฮอร์โมน ควรเลี่ยงอาหารหรือผักที่มีกลิ่นฉุน ซึ่งมันกระตุ้นให้เราอยากอาเจียนเหมือนกันค่ะ แล้วก็งดของหมัก ของดอง ไม่กินน้ำแข็งนอกบ้าน โดยเฉพาะน้ำแข็งป่น หมอบอกว่าน้ำแข็งสกปรก เราอาจติดเชื้อได้
พอเภสัชอธิบายจบ ก็นอนรอต่อไปสักพัก คุณพยาบาลก็มาให้น้ำเกลือ ตอนนั้นรู้สึกอยากหนีกลับบ้านมากๆ เหมือนเด็กๆ เลย 555 แล้วก็มีฉีดยาแก้แพ้ก่อน สักพักยาก็มา เป็นกระปุกเล็กๆ 2 กระปุก กระปุกนึงน้ำสีแดง อีกกระปุกใสไม่มีสี ตอนให้น้ำแดงไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ
พอกระปุกแดงหมด ก็ให้กระปุกใสต่อ กระปุกนี้แอบจึ้ดขึ้นหัว บางคนบอกว่าคล้ายตอนกินวาซาบิ เราไม่ค่อยชอบเลย มันจึ้ด น้ำตาจะไหล (พิมพ์ไป นึกถึงแล้วก็รู้สึกพะอืดพะอม)
หลังจากที่ให้ยาเสร็จ จะยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่อีกสักพักก็เริ่มพะอืดพะอม แต่ยังกินข้าวได้ วันนั้นกินข้าวต้ม กลับมาบ้านก็อาเจียนเลย
พอวันที่ 2 รุ่งขึ้นนี่เริ่มมามากขึ้นค่ะ เริ่มทานไม่ค่อยได้ ทานข้าวได้ไม่กี่คำ ทานได้แต่ผลไม้ กับน้ำ
วันที่ 3 อาการเยอะสุด อาเจียนจนไม่มีอะไรจะอาเจียน ทานได้แต่น้ำกับผลไม้เหมือนเดิม
วันที่ 4-5 จะเริ่มดีขึ้นนิดนึง แต่ก็ยังพะอืดพะอมอยู่ตลอดเวลา
หลังจากนั้นถึงจะเริ่มทานก๋วยเตี๋ยวได้ ทานอาหารอ่อนๆ ได้
ช่วงอาทิตย์ที่ 2 เราจะเหนื่อยง่าย มีอยู่ช่วงนึงที่เหมือนจะปัสสาวะติดขัด ก็ไปหาหมอ หมอตรวจว่าอาจจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มีเก็บปัสสาวะไปเพาะเชื้อ ปรากฏว่าเชื้อที่เจอเป็นแบคทีเรียที่ดื้อยา แต่พบในปริมาณต่ำ แต่วันนั้นเม็ดเลือดขาวเราค่อนข้างต่ำ ประมาณ 2,000 คนปกติจะมีประมาณ 5,000 -10,000 ก็เลยโดนแอดมิดอยู่ 3-4 วัน ให้น้ำเกลือจนเส้นแตก โดนเจาะเลือดอยู่หลายรอบ สรุปสุดท้ายไม่พบเชื้อในเลือด ก็เลยได้ออกจากรพ.
ช่วงที่อยู่รพ.นี้ เป็นช่วงที่เราผมร่วงหนัก นั่งอยู่เฉยๆ ก็ร่วง ถ้าเอามือสาง ผมจะร่วงติดมือมาเป็นกำๆ อย่างกับในละคร จิ้นไปว่าเราเป็นนางเอกเกาหลีที่ป่วยเป็นมะเร็ง อารมณ์ประมาณ Love Story in Harvard 5555
กลับมา ค่ะ กลับมา เรียกสติตัวเองกลับมาก่อน คือเราจะบอกว่าอย่ารอให้ผมร่วงหนักขนาดนั้นเลยค่ะ มันจะทำให้เราจิตตก เราอยากจะไปโกนผมมาก แต่ติดแอดมิดอยู่ พอออกจากรพ.ตอนนั้นผมเริ่มร่วงมากแล้ว ดันไม่อยากไปร้านตัดผมเพื่อโกนผม กลัวช่างแถวบ้านจะถาม ไม่อยากตอบคำถามใครค่ะตอนนั้น ช่วงนั้นอารมณ์แปรปรวนนิดนึง มีจิตตกบ้างงี้ สรุปว่าคืนนั้นเอากรรไกรตัดผม มาตัดผมตัวเองเลยค่ะ ให้สั้นมากๆๆ แล้วก็แอบลองเอาบัตตาเลี่ยนตัวเล็กของสามีมาลองตัดเอง แต่กลัวมันบาดค่ะ ใจไม่กล้าพอ เลยนอนก่อนทั้งผมแหว่งๆ นั่นแหละค่ะ
เข้ามาก็ให้สามีโกนให้ แต่เวลาใช้บัตตาเลี่ยนโกนมันจะไม่เกลี้ยงจะเป็นตอๆ ส่วนผมเราที่ร่วงไปแล้วจะร่วงทั้งโคน ผมก็เลยดูเหมือนแหว่งๆ ก็เป็นแบบนั้นอยู่หลายวัน จนวันนึงก็เอามีดโกนหนวดมาโกนเองเลยค่ะ เกลี้ยงเรียบร้อย สบายแฮร์ จะบอกว่าพอโกนผมแล้วชีวิตดีขึ้นเยอะเลยค่ะ ไม่ต้องจิตตกเพราะผมร่วง ไม่มีเส้นผมทุกทั่วทุมบ้าน
ช่วงอาทิตย์ที่ 3 หลังจากให้คีโมมาเราจะเริ่มดีขึ้น กินอะไรได้เกือบปกติ อ้อช่วงที่กินไม่ได้ก็พยายามกินเอ็นชัวร์ค่ะ จากนั้นก็วนลูป ให้ยาเข็มถัดไป
เข็มที่ 2-4 มีอาการแตกต่างกันในแต่ละครั้งที่ให้ สำหรับเราครั้งที่ยากสุด คือครั้งแรก ครั้งที่แย่ที่สุดคือครั้งที่ 3 (5วัน ที่แทบกินอะไรไม่ได้เลย เลยได้โรคกระเพาะแถมมาอีก) ครั้งท้ายๆ จะเป็นร้อนใน มีอาการร้อนวูบวาบมากขึ้น เล็บเริ่มดำ เป็นแผลง่าย