ถ้าคิดว่าจะด่าโตโยต้า ท่านคิดผิด ผมกำลังจะชม ถ้าคิดว่าจะมีรูปให้ดูประกอบ ท่านคิดผิด ผมบัตรผ่าน ไม่มีรูป ต้องนึกเอาเอง แต่รับรองเป็นประโยชน์แน่นอน
สืบเนื่องจากเดือนก่อน รถ civic fd ของคนใกล้ชิด ได้ไปลุยน้ำ แล้วรถดับ ทั้งๆที่ระดับน้ำก็ไม่สูงมาก น้ำถูกดูดโดยท่ออากาศเข้าหม้อกรองอากาศ ผ่านกรองอากาศจนเปียกชุ่ม และน้ำเข้าเครื่องยนต์ ลูกสูบอัดน้ำไม่ได้เพราะเป็นของเหลว จึงทำให้ก้านสูบที่ต่อกับลูกสูบคดงอ เครื่องพัง
(ผมเคยตั้งกระทู้ถามไปครั้งนึงว่าซ่อมมาจะหายมั๊ย บัดนี้ผลการซ่อมปรากฏว่าหายขาดทุกประการ เหมือนเดิมไม่แตกต่าง อะไหล่ก็เปลี่ยนตามประกันอนุมัติ มิได้แปลกแหวกแนวอะไร เป็นตัวอย่างเผื่อใครเครื่องพังก้านสูบคดเพราะน้ำเข้า ก็พอมั่นใจได้ว่ามันสามารถหายขาดได้ปกติ ไม่ต้องกังวล ประเด็นนี้ของงดดราม่าแล้วนะครับ)
คราวนี้ประเด็นของรูมหัศจรรย์มันอยู่ที่ว่า กระผมมีความสงสัยเป็นอย่างยิ่ง civic fd ลุยน้ำไม่สูงเลย น้ำถูกดูดจ๊วบเข้าเครื่องอย่างกับหลอดดูดน้ำ ในขณะที่อัลติสของผม เคยลุยน้ำปี 54 น้ำระดับสูงกว่าที่ fd ไปลุยมาพอสมควร เครื่องผมไม่ดับ รถผมไม่เห็นเป็นอะไรเลย ทำไม? ผมก็เลยไปเพ่งพินิจพิจารณารถอัลติสของผม ปรากฏว่า ท่ออากาศระดับต่ำสุดที่น้ำเข้าได้ของ altis กับ civic fd มันอยู่ระดับต่ำพอๆกัน ไม่ได้แตกต่างกันนัก แล้วทำไม ผมลุยน้ำสูงกว่า fd ตั้งเยอะ รถผมไม่เห็นดับ แถมน้ำก็ไม่เข้าเครื่อง ผมส่องอยู่นานทีเดียว จึงพบว่า
"เปิดหม้อกรองอากาศ ดึงกรองอากาศออก จะพบรูเล็กๆ รูนึง อยู่ตรงพื้นหม้อกรอง ตอนแรกนึกว่ารูนี้มันมาจากแม่พิมพ์คนละชุดเขาขี้เกียจเปลี่ยน แต่ไม่ใช่ มันเป็นรูที่โตโยต้าตั้งใจให้มันเป็นรู เพระเอาไว้ป้องกันน้ำถูกดูดเข้าเครื่อง ดูดยังไงน้ำก็ไม่ขึ้น คล้ายๆ กับหลอดดูดน้ำที่หลอดมันปริแตก ดูดยังไงน้ำก็ไม่เข้าเครื่องครับ เว้นเสียแต่ว่าระดับน้ำจะสูงถึงขนาดปิดรูนี้ ซึ่งผมวัดระดับดูแล้ว ถ้าน้ำถึงรู คนนั่งในรถน้ำประมาณเอวเกือบอกครับ"
ลองจินตนาการดูนะครับ แล้วลองไปเปิดหม้อกรองอากาศของท่านดูกันว่า มีรูมหัศจรรย์อยู่รึเปล่า ถอดแผ่นกรองอากาศออกก่อนนะครับ มันจะอยู่ข้างล่าง ถ้าไม่มี แล้วพอเข้าใจที่ผมอธิบาย อยากจะเอาไขควงไปเจาะให้มันป็นรูก็ไม่ว่ากัน เผื่อเวลาโดนน้ำท่วม น้ำรอระบายใน กทม จะได้ไม่ต้องเครื่องพังง่ายๆ เป็นเรื่องไม่ไกลเกินตัว
ขอบคุณครับที่อ่าน ถ้าผมเข้าใจอะไรผิดเกี่ยวกับรูนี้ ก็ติแย้งได้นะครับ ไม่ว่ากัน ถือว่าแลกเปลี่ยนความรู้กัน
รู มหัศจรรย์ ดีไซน์บายโตโยต้า เพื่อคนไทย
สืบเนื่องจากเดือนก่อน รถ civic fd ของคนใกล้ชิด ได้ไปลุยน้ำ แล้วรถดับ ทั้งๆที่ระดับน้ำก็ไม่สูงมาก น้ำถูกดูดโดยท่ออากาศเข้าหม้อกรองอากาศ ผ่านกรองอากาศจนเปียกชุ่ม และน้ำเข้าเครื่องยนต์ ลูกสูบอัดน้ำไม่ได้เพราะเป็นของเหลว จึงทำให้ก้านสูบที่ต่อกับลูกสูบคดงอ เครื่องพัง
(ผมเคยตั้งกระทู้ถามไปครั้งนึงว่าซ่อมมาจะหายมั๊ย บัดนี้ผลการซ่อมปรากฏว่าหายขาดทุกประการ เหมือนเดิมไม่แตกต่าง อะไหล่ก็เปลี่ยนตามประกันอนุมัติ มิได้แปลกแหวกแนวอะไร เป็นตัวอย่างเผื่อใครเครื่องพังก้านสูบคดเพราะน้ำเข้า ก็พอมั่นใจได้ว่ามันสามารถหายขาดได้ปกติ ไม่ต้องกังวล ประเด็นนี้ของงดดราม่าแล้วนะครับ)
คราวนี้ประเด็นของรูมหัศจรรย์มันอยู่ที่ว่า กระผมมีความสงสัยเป็นอย่างยิ่ง civic fd ลุยน้ำไม่สูงเลย น้ำถูกดูดจ๊วบเข้าเครื่องอย่างกับหลอดดูดน้ำ ในขณะที่อัลติสของผม เคยลุยน้ำปี 54 น้ำระดับสูงกว่าที่ fd ไปลุยมาพอสมควร เครื่องผมไม่ดับ รถผมไม่เห็นเป็นอะไรเลย ทำไม? ผมก็เลยไปเพ่งพินิจพิจารณารถอัลติสของผม ปรากฏว่า ท่ออากาศระดับต่ำสุดที่น้ำเข้าได้ของ altis กับ civic fd มันอยู่ระดับต่ำพอๆกัน ไม่ได้แตกต่างกันนัก แล้วทำไม ผมลุยน้ำสูงกว่า fd ตั้งเยอะ รถผมไม่เห็นดับ แถมน้ำก็ไม่เข้าเครื่อง ผมส่องอยู่นานทีเดียว จึงพบว่า
"เปิดหม้อกรองอากาศ ดึงกรองอากาศออก จะพบรูเล็กๆ รูนึง อยู่ตรงพื้นหม้อกรอง ตอนแรกนึกว่ารูนี้มันมาจากแม่พิมพ์คนละชุดเขาขี้เกียจเปลี่ยน แต่ไม่ใช่ มันเป็นรูที่โตโยต้าตั้งใจให้มันเป็นรู เพระเอาไว้ป้องกันน้ำถูกดูดเข้าเครื่อง ดูดยังไงน้ำก็ไม่ขึ้น คล้ายๆ กับหลอดดูดน้ำที่หลอดมันปริแตก ดูดยังไงน้ำก็ไม่เข้าเครื่องครับ เว้นเสียแต่ว่าระดับน้ำจะสูงถึงขนาดปิดรูนี้ ซึ่งผมวัดระดับดูแล้ว ถ้าน้ำถึงรู คนนั่งในรถน้ำประมาณเอวเกือบอกครับ"
ลองจินตนาการดูนะครับ แล้วลองไปเปิดหม้อกรองอากาศของท่านดูกันว่า มีรูมหัศจรรย์อยู่รึเปล่า ถอดแผ่นกรองอากาศออกก่อนนะครับ มันจะอยู่ข้างล่าง ถ้าไม่มี แล้วพอเข้าใจที่ผมอธิบาย อยากจะเอาไขควงไปเจาะให้มันป็นรูก็ไม่ว่ากัน เผื่อเวลาโดนน้ำท่วม น้ำรอระบายใน กทม จะได้ไม่ต้องเครื่องพังง่ายๆ เป็นเรื่องไม่ไกลเกินตัว
ขอบคุณครับที่อ่าน ถ้าผมเข้าใจอะไรผิดเกี่ยวกับรูนี้ ก็ติแย้งได้นะครับ ไม่ว่ากัน ถือว่าแลกเปลี่ยนความรู้กัน