สวัสดีค้าบบบ...ชื่อ เท่ คับ หลังจากที่ได้รีวิวทริปตะลุยเที่ยวจีนกับเพื่อนที่โคตรลุยโคตรมัน กุ้ยหลิน-กวางโจว-จางเจียเจี้ย-ฉางซา 7 คืน 8 วันกันจบไปแล้ว วันนี้จะมาขอแชร์ประสบการณ์ของการไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนเป็นเวลา 1 เทอม ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอวกาศการบินกุ้ยหลิน ช่วงต้นมีนา - สิงหา 2016

สำหรับรีวิวทริปเที่ยวกุ้ยหลิน-กวางโจว-จางเจียเจี้ย-ฉางซา ติดตามได้ที่ลิ้งค์นี้เลยคับ
https://pantip.com/topic/35919511
ความฝันของคนที่ชอบเรียนภาษาคือ การได้ไปลองเป็นเด็กแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศซักครั้งในชีวิต เราเชื่ออย่างนี้จริงๆว่าซักวันเราจะได้ไป ฝันไว้ตั้งแต่เด็กๆตอนประถมเลย เวลาผ่านไปกว่า 10 ปี สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราตั้งหน้าตั้งตาคอยมาแสนนานก็ได้เกิดขึ้นจริง...
ในรีวิวนี้จะพูดถึงการเดินทางตั้งแต่วันแรก สภาพแวดล้อมของมหาลัย การเรียนการสอน หอพัก ชีวิตความเป็นอยู่ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆของเมืองกุ้ยหลินให้ทุกคนได้รู้ไว้เป็นข้อมูล เผื่อวันข้างหน้ามีใครสนใจอยากจะไปเรียนที่นี่ เอ้า...เริ่มมม
จำได้แม่นอยู่ในหัวใจเพราะมันเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกจุดหนึ่ง วันที่ 1 มีนา 2016 ตื่นตั้งแต่เช้ามืดอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินทางจาก อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ไปขึ้นเครื่องที่สนามบินขอนแก่นโดยมีครอบครัวไปส่งอย่างอบอุ่นและภูมิใจที่ลูกชายกำลังจะไปเรียนเมืองนอก บินไฟลท์ประมาณ 9 โมงเช้า ของ Thai Smile ถึงสุวรรณภูมิประมาณ 10 โมง ก่อนหน้าวันนี้โคตรใจจะขาด ตื่นเต้น นอนไม่หลับ นับวันนับเดือนรอเวลานี้มาตลอด แต่พอมาถึงวันนี้จริงๆแอบใจหาย โห ชีวิตเด็กบ้านนากำลังจะเปลี่ยนอย่างมหัศจรรย์ ถึงเวลาที่ต้องออกโบยบินสู่โลกกว้าง กอดพ่อแม่และญาติๆแอบซึ้งๆแล้วรีบอำลา ในใจบอกตัวเองว่า "จะไปเก็บเกี่ยวไปเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด"

เนื่องจากไฟลท์ที่บินไปกุ้ยหลินเทคออฟบ่ายโมง เราก็ควรถึงสุวรรณภูมิซัก 10 กว่าๆ และก็เป็นไปตามนั้น เครื่องออกจากขอนแก่นและลงที่สุวรรณภูมิตรงเวลาเป๊ะๆ พอถึงสนามบินก็รีบลงไปแลกตังที่ SuperRich ชั้นใต้ดิน ตอนนั้น 1 หยวน = 5.44 เจ็บลึกลงทรวง พอแลกตังเสร็จก็ขึ้นไปหาเพื่อนที่ชั้น 4 ความรู้สึกตอนนั้นคือโคตรดีใจเลย ฟินมาก เพราะเจอเพื่อนๆ คุยกันสนุกมาก จำรอยยิ้มและใบหน้าขอทุกคนได้ดี และที่ฟินที่สุดคือ ป้าเอาเงินหยวนมาให้อีกปึกนึง แทบอยากก้มลงกราบงามๆ 55+ ระหว่างนี้ก็รอรวมพล ไปกันทั้งหมด 29 คน เพื่อนก็ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศไป

พอซักพักก็อำลาคนที่มาส่งแล้วก็เข้าไปข้างใน เราเดินทางด้วยสายการบิน China Southern Airlines ที่ต้องบิน 2 ชม. ไปลงที่เมืองหนานหนิงก่อน ผ่าน ตม.ที่นั่น แล้วค่อยบินอีก 1 ชม. ไปลงที่เมืองกุ้ยหลิน ค่าเครื่องขาเดียว 6,500 บาท โหลดกระเป๋าได้ 2 ใบ ใบละ 23 กิโล ใครจะย้ายบ้านเรียนเชิญ

วีซ่าของพวกเรามหาลัยจัดการให้หมด เราแค่ไปกรอกข้อมูลใบยื่นขอวีซ่านักเรียนแบบ X2 เข้าออกได้ครั้งเดียว อยู่ในจีนได้ 180 วัน ช่วงนั้นอากาศที่กุ้ยหลินก็เย็นๆ เลยพากันใส่เสื้อกันหนาวระดับกลางๆ ช่วงที่รอขึ้นเครื่องต่างคนต่างก็ลุ้นและคิดในใจว่าที่นั่นจะเป็นยังไง บ้านเมืองเค้าจะต่างกับเราไหม เอาง่ายๆคือ ตื่นเต้น มีพลังสุดๆ เซิ้งได้กุเซิ้งไปแล้ววว


จากนั้นก็พากันขึ้นเครื่อง มองไปทางไหนก็มีแต่หน้าเพื่อนตัวเองเต็มลำ กุ้ยหลินมันใกล้ๆบ้านเรา เลยบินเครื่องเล็ก A320 หรือไม่ก็ Boeing 737 แต่พอมองไปข้างๆมีขุ่นแม่ลำใหญ่ A380 ของสายการบิน Emirates อยู่ ลำของเราดูจิ๊บๆไปเลย แม่ก็คือแม่ 55+ บอกนางไว้ในใจเดี๋ยวว่างๆจะแวะมาใช้บริการ

ช่วงที่กำลังเทคออฟก็แอบถ่ายรูปเก็บไว้ เผื่อเอาไว้ดูยามคิดถึงเมืองไทย อาหารไทย ภาษาไทย ถ่ายได้ถูกใจตัวเองสุดๆ

พอบินได้ระดับแล้ว แอร์สจ๊วตจีนก็เริ่มทะยอยเสิร์ฟอาหาร คิดในใจ เอ๊ะ เราควรพูดอังกฤษหรือจีนกับเค้าดี เอาจีนละกัน ฝึกภาษา สรุปว่ารอด ได้ตามที่พูดทุกอย่างไม่มีลงไม้ลงมือตบกันบนฟ้า พี่แอร์แอบมีเคร่งเรื่องให้ปิดมือถือตลอดเวลา แต่พอตอนนางเผลอก็แอบเอามาถ่ายรูปเก็บไว้นิดนึงแล้วจะไม่กวนละ

กินข้าวเสร็จไม่ทันไรก็จะแลนด์แล้ว มองไปข้างล่างเมืองหนานหนิงนี่ภูเขาเต็มเบย กัปตันตอนแรกก็ลงนิ่มๆ แต่ทำไมเครื่องไม่เห็นช้าลงซักที อยู่ดีๆนางก็ตรีนผี เบรกแรงๆจนทุกคนตกใจ เสียวป๊าบๆ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี จากนั้นก็พากันไปผ่าน ตม. แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น คนอื่นเค้าเดินไปปั๊บๆ แต่เรากับเพื่อนที่นั่งข้างกันถูกบอกไปให้ไปเดินมาใหม่ เพราะคลื่นความร้อนในตัวสูงเกิน กรูไม่ได้ป่วยนะ ฮะโหลล... แต่เพื่อนที่นั่งข้างกรูนี่สิเสรือกป่วย แล้วเราก็นั่งข้างมัน เอาแล้ววว งานนี้ โดนมันปล่อยเชื้อใส่แล้วอ่ะ... สุดท้ายโดนเชิญเข้าห้องพยาบาลทั้ง 2 คน ตรวจเสร็จเรารอด แต่เพื่อนไม่รอด ต้องรอตรวจน้ำลาย อาจารย์ก็ใจงามมาก เข้ามารอในห้องพยาบาลด้วย ไม่เคยจะหนีหายไปไหน กราบงามๆครับอาจารย์ อาจารย์อบอุ่นมากที่สุด ตรวจเสร็จก็ไปผ่าน ตม. เราก็พูดจีนตลอด ลองดูสิ สถานการณ์นี้ภาษาเราจะรอดไหม ตอนแรกก็กลัว แต่ก้าวข้ามความกลัวด้วยความกล้า ให้มันรู้ไปเลย สรุปฟังออกพูดได้ทุกคำ เจ้าหน้าที่ ตม.ชมด้วย กราบงามๆ ยิ้มบานๆ มันคือกำลังใจ
พอเดินไปขึ้นเครื่อง ภาพที่เห็นคือ ทุกคนรอเรา 2 คน ขออภัยจริงๆ เราไม่ได้เจตนา จากนั้นก็บินไปเมืองกุ้ยหลิน เมืองที่ขึ้นชื่อว่าภูเขาสายน้ำที่สวยที่สุดในโลก คราวนี้ขออันเชิญเพื่อนคนที่ป่วยไปนั่งคนเดียวอีกแถวนึง 55+ เวลาเมิงไอ จะได้ไม่ต้องเกรงใจไง

ท้องฟ้ายามเย็นสวยเหลือเกิน เก็บภาพกันรัวๆ พอตอนเครื่องจะแลนด์ก็แอบคิด วานอ้อนวอนพี่กัปตันตรีนเบาๆ เอานุ่มๆนะคับ สรุปนุ่มจริง สวยงาม เพอร์เฟ็ค จะลงเครื่องก็เก็บภาพไว้ ทุกคนหลั่นล๊า ตื่นตาตื่นใจกับโลกใบใหม่นี้...



ในชีวิตคนเราจะมีซักกี่ครั้งเชียวที่จะได้ไปต่างประเทศกับเพื่อนๆเยอะขนาดนี้ รู้สึกว่าเราโชคดีและโลกนี้มหัศจรรย์มาก ทุกอย่างเป็นไปตามที่เคยคิดไว้ตอนประถม ขนลุกมากตอนนั้น เพราะหนาว ถุ๊ยยย... 55+ มหาลัยก็เตรียมรถบัสคันหนึ่งมารับที่สนามบินกุ้ยหลิน ซึ่งเดินทางไปมหาลัยประมาณ 1 ชม.

ภาพที่ขำที่สุดคือ เพื่อนๆทุกคนช่วยกันขนกระเป๋าขึ้นรถ ไม่ว่าจะเป็นเด็กเรียน เด็กดื้อ ผช. ผญ. ก็ช่วยกันอย่างสนุกสนาน จากที่อากาศเย็นๆก็ชักจะเริ่มร้อน ตอนที่อยู่บนรถก็ไม่ละสายตาจากวิวข้างทางเลย อ๋อ ทางด่วนบ้านเค้าเป็นแบบนี้ อ๋อ ตึกรางบ้านช่องเค้าเป็นแบบนี้ อ๋อ เมืองเค้าเป็นแบบนี้ อ๋อ ถนนหนทางเค้าเป็นแบบนี้ บลาๆ พอนั่งผ่านตัวเมืองก็เริ่มออกจากตัวเมือง เอ๊ะ? แล้วมหาลัยกรูล่ะอยู่ส่วนไหน? สรุปนั่งรถเข้าป่าเข้าดงไปจนถึงหุบเขา ถึงแล้วคับมหาลัยลัยของเรา ค่ำๆมืดๆกับอากาศเย็นๆ รับกุญแจหอ ซึ่งทุกคนได้ชั้น 5 ไม่มีลิฟ สวัสดี กระเป๋าที่เมิงหอบกันมาคนละ 2 ใบ ใบละ 23 โล งานงอกสิทีนี้ - -"
พอพากันขนของขึ้นห้องเสร็จก็ออกไปกินข้าวมื้อแรกในเมืองจีน ซึ่งร้านทะยอยปิดแล้วง่ะ แดรกอะไรก็ได้ หาดูจิมีไร สรุปลงเอยที่ร้านนี้เมนูนี้ เรียกว่าอะไรอย่าไปซี มีนิ้วก็ใช้ให้เกิดประโยชน์ ชี้ๆเอาโลด 55+

ซื้อของใช้ อุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆนานาๆ ลงทุนเปิดคำศัพท์เตรียมไว้ก่อนเลย น้ำยาล้างห้องน้ำ ล้างจาน ถูพื้น บลาๆ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ น้ำยาล้างห้องน้ำที่นี่ไม่มีรูปห้องน้ำอ่ะ ก็งงๆอันไหนล้างจาน อันไหนล้างห้องน้ำ ถ้าไม่แน่ใจให้ถามคนขายนะ เดี๋ยวจะได้เอาน้ำยาล้างห้องน้ำมาล้างจานนะ สติคับสติ

หอพักโคตรดี โคตรประทับใจ 1 ห้องใหญ่ นอนได้ 3 คน มีห้องโถง 1 ห้อง ห้องนอน 2 ห้อง ซึ่งเป็นห้องนอนใหญ่มีแอร์ 1 ห้องที่นอนได้ 2 คน กับห้องนอนเดี่ยว 1 ห้องที่มีพัดลมให้ เรานอนห้องเดี่ยว มีห้องครัว 1 ห้องน้ำ 1 มีเฟอร์นิเจอร์ให้ ตู้เสื้อผ้า ชุดเตียงนอน เครื่องนอน โต๊ะทำงาน และก็มีเครื่องซักผ้า 1 กาน้ำร้อน 1 เครื่องถังน้ำดื่ม 1 มีน้ำอุ่นซึ่งเป็นระบบเปิดก๊อกน้ำร้อนกับน้ำเย็นผสมกันเอาเอง ก็ฝึกปรับอยู่หลายครั้งกว่าจะได้อุณหภูมิที่ต้องการ บางวันอาบจนตัวแดง55+ น้ำร้อนต้องซื้ออาบโดยใช้การ์ดแบบเติมเงิน แล้วเอาไปวางแปะบนหัวเครื่องกระจายน้ำร้อน น้ำเย็นฟรี ไฟฟ้าราคาถูกโคตร จีนเค้าทรัพยากรณ์เยอะ ฟินๆ
วันนี้ก็ล้างห้องน้ำ ทำความสะอาดห้อง แล้วก็นอนหลับพักผ่อนคับ ผ่านไปแล้วสำหรับวันที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตอีกจุดหนึ่ง พูดถึงเรื่องนี้ทีไรหัวใจชุ่มฉ่ำทุกที นึกถึงเรื่องราวที่เราประทับใจบ่อยๆ แล้วสิ่งดีๆจะยิ่งเพิ่มขึ้น...
แล้วจะรีบมาเล่าตอนต่อไปให้ฟังนะคับ จะพาสำรวจมหาลัยและกิจกรรมช่วงสัปดาห์แรก ที่นี่จะมีรับน้องหรือเปล่า รอติดตาม...
ขอบคุณมากๆคับที่อ่านจนจบ ขอให้มีคามสุข ขอให้สนุกที่สุด...
[CR] ประสบการณ์ชีวิตนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่ Guilin University of Aerospace Technology เมืองกุ้ยหลิน มณฑลกว่างซี ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/35919511
ความฝันของคนที่ชอบเรียนภาษาคือ การได้ไปลองเป็นเด็กแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศซักครั้งในชีวิต เราเชื่ออย่างนี้จริงๆว่าซักวันเราจะได้ไป ฝันไว้ตั้งแต่เด็กๆตอนประถมเลย เวลาผ่านไปกว่า 10 ปี สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราตั้งหน้าตั้งตาคอยมาแสนนานก็ได้เกิดขึ้นจริง...
ในรีวิวนี้จะพูดถึงการเดินทางตั้งแต่วันแรก สภาพแวดล้อมของมหาลัย การเรียนการสอน หอพัก ชีวิตความเป็นอยู่ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆของเมืองกุ้ยหลินให้ทุกคนได้รู้ไว้เป็นข้อมูล เผื่อวันข้างหน้ามีใครสนใจอยากจะไปเรียนที่นี่ เอ้า...เริ่มมม
จำได้แม่นอยู่ในหัวใจเพราะมันเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกจุดหนึ่ง วันที่ 1 มีนา 2016 ตื่นตั้งแต่เช้ามืดอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินทางจาก อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ไปขึ้นเครื่องที่สนามบินขอนแก่นโดยมีครอบครัวไปส่งอย่างอบอุ่นและภูมิใจที่ลูกชายกำลังจะไปเรียนเมืองนอก บินไฟลท์ประมาณ 9 โมงเช้า ของ Thai Smile ถึงสุวรรณภูมิประมาณ 10 โมง ก่อนหน้าวันนี้โคตรใจจะขาด ตื่นเต้น นอนไม่หลับ นับวันนับเดือนรอเวลานี้มาตลอด แต่พอมาถึงวันนี้จริงๆแอบใจหาย โห ชีวิตเด็กบ้านนากำลังจะเปลี่ยนอย่างมหัศจรรย์ ถึงเวลาที่ต้องออกโบยบินสู่โลกกว้าง กอดพ่อแม่และญาติๆแอบซึ้งๆแล้วรีบอำลา ในใจบอกตัวเองว่า "จะไปเก็บเกี่ยวไปเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด"
เนื่องจากไฟลท์ที่บินไปกุ้ยหลินเทคออฟบ่ายโมง เราก็ควรถึงสุวรรณภูมิซัก 10 กว่าๆ และก็เป็นไปตามนั้น เครื่องออกจากขอนแก่นและลงที่สุวรรณภูมิตรงเวลาเป๊ะๆ พอถึงสนามบินก็รีบลงไปแลกตังที่ SuperRich ชั้นใต้ดิน ตอนนั้น 1 หยวน = 5.44 เจ็บลึกลงทรวง พอแลกตังเสร็จก็ขึ้นไปหาเพื่อนที่ชั้น 4 ความรู้สึกตอนนั้นคือโคตรดีใจเลย ฟินมาก เพราะเจอเพื่อนๆ คุยกันสนุกมาก จำรอยยิ้มและใบหน้าขอทุกคนได้ดี และที่ฟินที่สุดคือ ป้าเอาเงินหยวนมาให้อีกปึกนึง แทบอยากก้มลงกราบงามๆ 55+ ระหว่างนี้ก็รอรวมพล ไปกันทั้งหมด 29 คน เพื่อนก็ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศไป
พอซักพักก็อำลาคนที่มาส่งแล้วก็เข้าไปข้างใน เราเดินทางด้วยสายการบิน China Southern Airlines ที่ต้องบิน 2 ชม. ไปลงที่เมืองหนานหนิงก่อน ผ่าน ตม.ที่นั่น แล้วค่อยบินอีก 1 ชม. ไปลงที่เมืองกุ้ยหลิน ค่าเครื่องขาเดียว 6,500 บาท โหลดกระเป๋าได้ 2 ใบ ใบละ 23 กิโล ใครจะย้ายบ้านเรียนเชิญ
วีซ่าของพวกเรามหาลัยจัดการให้หมด เราแค่ไปกรอกข้อมูลใบยื่นขอวีซ่านักเรียนแบบ X2 เข้าออกได้ครั้งเดียว อยู่ในจีนได้ 180 วัน ช่วงนั้นอากาศที่กุ้ยหลินก็เย็นๆ เลยพากันใส่เสื้อกันหนาวระดับกลางๆ ช่วงที่รอขึ้นเครื่องต่างคนต่างก็ลุ้นและคิดในใจว่าที่นั่นจะเป็นยังไง บ้านเมืองเค้าจะต่างกับเราไหม เอาง่ายๆคือ ตื่นเต้น มีพลังสุดๆ เซิ้งได้กุเซิ้งไปแล้ววว
จากนั้นก็พากันขึ้นเครื่อง มองไปทางไหนก็มีแต่หน้าเพื่อนตัวเองเต็มลำ กุ้ยหลินมันใกล้ๆบ้านเรา เลยบินเครื่องเล็ก A320 หรือไม่ก็ Boeing 737 แต่พอมองไปข้างๆมีขุ่นแม่ลำใหญ่ A380 ของสายการบิน Emirates อยู่ ลำของเราดูจิ๊บๆไปเลย แม่ก็คือแม่ 55+ บอกนางไว้ในใจเดี๋ยวว่างๆจะแวะมาใช้บริการ
ช่วงที่กำลังเทคออฟก็แอบถ่ายรูปเก็บไว้ เผื่อเอาไว้ดูยามคิดถึงเมืองไทย อาหารไทย ภาษาไทย ถ่ายได้ถูกใจตัวเองสุดๆ
พอบินได้ระดับแล้ว แอร์สจ๊วตจีนก็เริ่มทะยอยเสิร์ฟอาหาร คิดในใจ เอ๊ะ เราควรพูดอังกฤษหรือจีนกับเค้าดี เอาจีนละกัน ฝึกภาษา สรุปว่ารอด ได้ตามที่พูดทุกอย่างไม่มีลงไม้ลงมือตบกันบนฟ้า พี่แอร์แอบมีเคร่งเรื่องให้ปิดมือถือตลอดเวลา แต่พอตอนนางเผลอก็แอบเอามาถ่ายรูปเก็บไว้นิดนึงแล้วจะไม่กวนละ
กินข้าวเสร็จไม่ทันไรก็จะแลนด์แล้ว มองไปข้างล่างเมืองหนานหนิงนี่ภูเขาเต็มเบย กัปตันตอนแรกก็ลงนิ่มๆ แต่ทำไมเครื่องไม่เห็นช้าลงซักที อยู่ดีๆนางก็ตรีนผี เบรกแรงๆจนทุกคนตกใจ เสียวป๊าบๆ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี จากนั้นก็พากันไปผ่าน ตม. แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น คนอื่นเค้าเดินไปปั๊บๆ แต่เรากับเพื่อนที่นั่งข้างกันถูกบอกไปให้ไปเดินมาใหม่ เพราะคลื่นความร้อนในตัวสูงเกิน กรูไม่ได้ป่วยนะ ฮะโหลล... แต่เพื่อนที่นั่งข้างกรูนี่สิเสรือกป่วย แล้วเราก็นั่งข้างมัน เอาแล้ววว งานนี้ โดนมันปล่อยเชื้อใส่แล้วอ่ะ... สุดท้ายโดนเชิญเข้าห้องพยาบาลทั้ง 2 คน ตรวจเสร็จเรารอด แต่เพื่อนไม่รอด ต้องรอตรวจน้ำลาย อาจารย์ก็ใจงามมาก เข้ามารอในห้องพยาบาลด้วย ไม่เคยจะหนีหายไปไหน กราบงามๆครับอาจารย์ อาจารย์อบอุ่นมากที่สุด ตรวจเสร็จก็ไปผ่าน ตม. เราก็พูดจีนตลอด ลองดูสิ สถานการณ์นี้ภาษาเราจะรอดไหม ตอนแรกก็กลัว แต่ก้าวข้ามความกลัวด้วยความกล้า ให้มันรู้ไปเลย สรุปฟังออกพูดได้ทุกคำ เจ้าหน้าที่ ตม.ชมด้วย กราบงามๆ ยิ้มบานๆ มันคือกำลังใจ
พอเดินไปขึ้นเครื่อง ภาพที่เห็นคือ ทุกคนรอเรา 2 คน ขออภัยจริงๆ เราไม่ได้เจตนา จากนั้นก็บินไปเมืองกุ้ยหลิน เมืองที่ขึ้นชื่อว่าภูเขาสายน้ำที่สวยที่สุดในโลก คราวนี้ขออันเชิญเพื่อนคนที่ป่วยไปนั่งคนเดียวอีกแถวนึง 55+ เวลาเมิงไอ จะได้ไม่ต้องเกรงใจไง
ท้องฟ้ายามเย็นสวยเหลือเกิน เก็บภาพกันรัวๆ พอตอนเครื่องจะแลนด์ก็แอบคิด วานอ้อนวอนพี่กัปตันตรีนเบาๆ เอานุ่มๆนะคับ สรุปนุ่มจริง สวยงาม เพอร์เฟ็ค จะลงเครื่องก็เก็บภาพไว้ ทุกคนหลั่นล๊า ตื่นตาตื่นใจกับโลกใบใหม่นี้...
ในชีวิตคนเราจะมีซักกี่ครั้งเชียวที่จะได้ไปต่างประเทศกับเพื่อนๆเยอะขนาดนี้ รู้สึกว่าเราโชคดีและโลกนี้มหัศจรรย์มาก ทุกอย่างเป็นไปตามที่เคยคิดไว้ตอนประถม ขนลุกมากตอนนั้น เพราะหนาว ถุ๊ยยย... 55+ มหาลัยก็เตรียมรถบัสคันหนึ่งมารับที่สนามบินกุ้ยหลิน ซึ่งเดินทางไปมหาลัยประมาณ 1 ชม.
ภาพที่ขำที่สุดคือ เพื่อนๆทุกคนช่วยกันขนกระเป๋าขึ้นรถ ไม่ว่าจะเป็นเด็กเรียน เด็กดื้อ ผช. ผญ. ก็ช่วยกันอย่างสนุกสนาน จากที่อากาศเย็นๆก็ชักจะเริ่มร้อน ตอนที่อยู่บนรถก็ไม่ละสายตาจากวิวข้างทางเลย อ๋อ ทางด่วนบ้านเค้าเป็นแบบนี้ อ๋อ ตึกรางบ้านช่องเค้าเป็นแบบนี้ อ๋อ เมืองเค้าเป็นแบบนี้ อ๋อ ถนนหนทางเค้าเป็นแบบนี้ บลาๆ พอนั่งผ่านตัวเมืองก็เริ่มออกจากตัวเมือง เอ๊ะ? แล้วมหาลัยกรูล่ะอยู่ส่วนไหน? สรุปนั่งรถเข้าป่าเข้าดงไปจนถึงหุบเขา ถึงแล้วคับมหาลัยลัยของเรา ค่ำๆมืดๆกับอากาศเย็นๆ รับกุญแจหอ ซึ่งทุกคนได้ชั้น 5 ไม่มีลิฟ สวัสดี กระเป๋าที่เมิงหอบกันมาคนละ 2 ใบ ใบละ 23 โล งานงอกสิทีนี้ - -"
พอพากันขนของขึ้นห้องเสร็จก็ออกไปกินข้าวมื้อแรกในเมืองจีน ซึ่งร้านทะยอยปิดแล้วง่ะ แดรกอะไรก็ได้ หาดูจิมีไร สรุปลงเอยที่ร้านนี้เมนูนี้ เรียกว่าอะไรอย่าไปซี มีนิ้วก็ใช้ให้เกิดประโยชน์ ชี้ๆเอาโลด 55+
ซื้อของใช้ อุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆนานาๆ ลงทุนเปิดคำศัพท์เตรียมไว้ก่อนเลย น้ำยาล้างห้องน้ำ ล้างจาน ถูพื้น บลาๆ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ น้ำยาล้างห้องน้ำที่นี่ไม่มีรูปห้องน้ำอ่ะ ก็งงๆอันไหนล้างจาน อันไหนล้างห้องน้ำ ถ้าไม่แน่ใจให้ถามคนขายนะ เดี๋ยวจะได้เอาน้ำยาล้างห้องน้ำมาล้างจานนะ สติคับสติ
หอพักโคตรดี โคตรประทับใจ 1 ห้องใหญ่ นอนได้ 3 คน มีห้องโถง 1 ห้อง ห้องนอน 2 ห้อง ซึ่งเป็นห้องนอนใหญ่มีแอร์ 1 ห้องที่นอนได้ 2 คน กับห้องนอนเดี่ยว 1 ห้องที่มีพัดลมให้ เรานอนห้องเดี่ยว มีห้องครัว 1 ห้องน้ำ 1 มีเฟอร์นิเจอร์ให้ ตู้เสื้อผ้า ชุดเตียงนอน เครื่องนอน โต๊ะทำงาน และก็มีเครื่องซักผ้า 1 กาน้ำร้อน 1 เครื่องถังน้ำดื่ม 1 มีน้ำอุ่นซึ่งเป็นระบบเปิดก๊อกน้ำร้อนกับน้ำเย็นผสมกันเอาเอง ก็ฝึกปรับอยู่หลายครั้งกว่าจะได้อุณหภูมิที่ต้องการ บางวันอาบจนตัวแดง55+ น้ำร้อนต้องซื้ออาบโดยใช้การ์ดแบบเติมเงิน แล้วเอาไปวางแปะบนหัวเครื่องกระจายน้ำร้อน น้ำเย็นฟรี ไฟฟ้าราคาถูกโคตร จีนเค้าทรัพยากรณ์เยอะ ฟินๆ
วันนี้ก็ล้างห้องน้ำ ทำความสะอาดห้อง แล้วก็นอนหลับพักผ่อนคับ ผ่านไปแล้วสำหรับวันที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตอีกจุดหนึ่ง พูดถึงเรื่องนี้ทีไรหัวใจชุ่มฉ่ำทุกที นึกถึงเรื่องราวที่เราประทับใจบ่อยๆ แล้วสิ่งดีๆจะยิ่งเพิ่มขึ้น...
แล้วจะรีบมาเล่าตอนต่อไปให้ฟังนะคับ จะพาสำรวจมหาลัยและกิจกรรมช่วงสัปดาห์แรก ที่นี่จะมีรับน้องหรือเปล่า รอติดตาม...
ขอบคุณมากๆคับที่อ่านจนจบ ขอให้มีคามสุข ขอให้สนุกที่สุด...