ตะลอนเที่ยวจีนกับเพื่อน โคตรลุย โคตรมัน 7 คืน 8 วัน กุ้ยหลิน - กวางโจว - จางเจียเจี้ย - ฉางซา ตอนที่ 1

สวัสดีคับเพื่อนๆทุกคน ชื่อ เท่ คับ วันนี้จะมาเขียนกระทู้แรกเพื่อแชร์ประสบการณ์เที่ยวด้วยตัวเองกับเพื่อนๆรวม 10 คน หาข้อมูลเอง จองตั๋วรถไฟเอง จองโรงแรมเอง ไปเอง มึนเอง หลงเอง วัวตายควายล้มก็งานนี้ แต่เที่ยวฟินและกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยน้าาา

ก่อนอื่นเลยคือ เราเรียนสาขา English-Chinese (Inter' Program) เลยได้มีโอกาสไปเป็นเด็กแลกเปลี่ยนที่ Guilin University of Aerospace Technology (桂林航天工业学院)เมืองกุ้ยหลิน มณฑลกว่างซี จำได้แม่นว่าบินไปวันที่ 1 มีนา 2016 เพราะตอนแลนด์ที่สนามบินเมืองหนานหนิงมันเสียวมากกกกก ตอนแรกลงนุ่มๆ อยู่ดีๆกัปตันก็ตรีนผี เบรกจนจมูกเพื่อนที่ทำมาโด่งๆเกือบฟาดกับเบาะข้างหน้า55+ ไปเรียนกันเป็นเวลา 1 เทอม ช่วงว่าง ช่วงวันหยุด (หรือช่วงที่อยากหยุดเอง) ก็เลยพอมีโอกาสออกหากิน เอ้ย! ออกเที่ยวไปตามเมืองต่างๆ ตอนนี้เรียนจบกลับมาไทยได้ 3-4 เดือนแล้ว เป็นติวเตอร์สอนอิ้งจีนผ่านไลฟ์ในเฟสบุ๊ค แต่ทำงานแล้วก็ยังคิดถึงช่วงที่ไปเรียนที่จีนอยู่ เพราะเป็นช่วงที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยเข้าโรงเรียน เข้ามหาลัยมา สุดท้ายเลยอยากเอาเรื่องราวการเร่ร่อนเที่ยวไปที่นั่นที่นี่กับความประทับใจต่างๆมาแชร์ และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับใครที่อยากไปเที่ยวจีนนะคับ

ทีนี้เข้าเรื่องโลด Go Go Go !!!

DAY 1 : Guilin to Guangzhou

ขอบอกเลยว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรเราเป็นเด็กเรียนมาก ไม่เคยคิดจะโดนเรียนง่ายๆ เพราะกลัวพลาดความรู้ที่ครูจะสอน ก่อนจะออกทริปใหญ่ในต่างแดนครั้งแรก เลยโทรหาจารย์จะขอลาเที่ยว 1 วันก่อนหยุดยาว คิดเผื่อไว้เลยว่าถ้าจารย์ไม่อนุญาตยังไงก็จะไป ไม่แคร์ ตะบะแตก โดดเป็นโดด ตบเป็นตบ จารย์ถามก่อนเลยว่าไปหลังเลิกคลาสได้ไหม? โนคับ จองตั๋วรถไฟแย้ววว ทำเสียงแข็งตอบนางไปแบบนี้ คุยไปคุยมาสรุปนางอนุญาต ความรู้สึกคือ เสียวๆ สั่นๆ บวกดีใจจะขาดเรียนครั้งแรกด้วยเหตุผล "จะไปเที่ยว" จากนั้นเรากับเพื่อนๆรวม 10 คน ก็เตรียมของ เตรียมพาสปอร์ต ตั๋วรถไฟ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ เงิน!!!!

วันนี้แต่ละคนดูกระดี๊กระด๊ามาก โดยเฉพาะ "กรูเองคับ" พากันลากกระเป๋าลงมาจากหอชั้น 5 มาขึ้นรถเมล์ใน ม. เพื่อที่จะไปสถานีรถไฟ Guilin Bei Zhan (桂林北站)นี่คือภาพบรรยากาศที่กำลังนั่งรถเมย์คับ เกินครึ่งคันเป็นพวกผมเอง สภาพรถตอนนั้นวิ่งไปนี่นึกว่าล้อจะหลุด ตกหลุมนี่มีร่วงนะ สะหนงสนิมตามเพดาน55+ แต่ที่เริ่ศคือนางมีเสียงบอกสถานีเหมือน BTS เลยนะ จอดทุกป้าย ไม่โกง

ระหว่างที่ไปสถานีรถไฟนั้น เราก็ผ่านออกมาจากหุบเขา ป่าช้า ทุ่งไร่ทุ่งนาออกมาจนเข้าเมือง (คงไม่ต้องสาธยายว่า ม.เราอยู่ตรงไหน วิวสวยมาก เขาล้อมจ้าาา) พอถึงสถานีรถไฟ เราก็งงๆกันไม่รู้จะไปเข้าประตูช่องไหน เอาไว้ก่อน ช่างมัน ขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกก่อนเนาะ คนจีนมองเต็ม แต่ใครจะว่าไงอย่าไปแคร์ ถ่ายแมร่งเลย ฟาดดด


หลังจากถ่ายรูปพอหอมปากหอมคอ 2-3 ร้อยรูป เราก็ไปตรวจสัมภาระ พร้อมตั๋วกับพาสปอร์ต พอผ่านเข้าไปจะมีมอนิเตอร์ใหญ่ๆบอกว่า รถไฟเรา เที่ยวกี่โมง รหัสอะไร เดินทางจากไหน ไปไหน ให้ไปนั่งรอที่ห้องไหน ขึ้นรถชานชลาไหน ประมาณนี้ พอดูเสร็จก็ไปตามนั้น และนี่คือห้องนั่งรอของขบวนเรา คนเยอะชิ๊บหายยยคับ



ระหว่างนี้เราก็ไปหากิน ดื่มน้ำ ปัสสาวะ บลาๆๆ แต่ขอบอกว่าห้องน้ำไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด มันก็เข้าได้อยู่ แต่กลิ่นอาจจะแรงๆหน่อย ประมาณกลิ่นฉี่กับบุหรี่รวมกัน เป็นงงๆ มึนๆ  ก่อนถึงเวลาขึ้นรถประมาณ 10-15 นาที เค้าจะประกาศให้เข้าแถวเช็คตั๋วแล้วเดินไปขึ้นรถไฟคับ เอาตั๋วสอดเข้าเครื่องเหมือนสอดบัตร BTS แล้วประตูจะเปิด เราก็แค่เดินมั่นๆหน้า ผ่านไปเลย ชิลๆ

เวลาเดินไปขึ้นรถไฟกรุณามีสติด้วยนะคับ เพราะมันมีหลายชานชลา ลงผิดช่องชีวิตบรรลัย รถไฟของเราเป็นแบบเร็ว D Train วิ่งไม่เกิน 250 กม./ชม. แต่ไม่ใช่แบบความเร็วสูง G Train วันนั้นนั่งแบบ Second Class ที่นั่งมีแถวละ 5 เบาะ กว้าง นั่งสบาย มันนิ่มมากแม้วิ่งเร็ว ความรู้สึกตอนนั้นคือตื่นเต้นมากจะได้นั่งรถไฟดีๆ เก๋ๆ ถ่ายรูปกันสนั่นสิคับจะเหลือเรอะ เราใช้เวลาเดินทางจาก Guilin Bei Zhan ไป Guangzhou Nan Zhan รวม 2:30 ชม. ระหว่างทางก็นั่งชมวิวไป เล่นมือถือไปเรื่อย แต่เนื่องจากมันลอดอุโมงค์บ่อย มากกว่า 10 อุโมงค์ สัญญาณเน็ตเลยไม่ดี แต่พอแบตจะหมดเราก็เสียบปลั๊กชาร์ตตรงเบาะได้เลย แทบกราบบบ มันเริ่ศจริงๆ

พอถึงสถานีกวางโจวใต้ เราก็อึ้งกันมากว่า เฮ้ยยยย นี่มันสนามบินหรือสถานีรถไฟ มันใหญ่มากกกกก อลังมากกก แต่ยังไงเราก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปตามธรรมเนียม ก็ตามเคย...มีแต่คนมอง แต่อย่าไปแคร์คับ ถ่ายโลดดด...เอาเลยลูกกก


พอเดินเข้าไปในสถานี นำทางโดยไกด์เบอร์1 ซึ่งก็คือกรูเอง พาเพื่อนไปหาทางออก เดินไปแบบงงๆ ทันใดนั้นลุงเจ้าหน้าที่ก็กวักมือเรียก มาทางนี้ๆๆๆ เราก็เดินไป ลุงก็ขอดูพาสปอร์ต แถมทักมาอีกว่า "อ้าว คนไทยหรอ" "ใช่คับลุง" พอเห็นเราพูดจีนได้นางก็กะจะชวนคุยยาวเลยมั้งไม่ปล่อยกรูไปซักที ถามนั่นโน่นนี่55+ จากนั้นกรุ๊ปเราก็เดินมุดลงสู่สถานีรถไฟใต้ดิน



พอเดินลงมา ตกใจมาก คนเยอะมว๊ากกก (บอกตัวเองกรูควรชินได้แล้วนะ) พากันเดินหาที่ซื้อตั๋ว จะหยอดตู้ก็ดูงงๆ ตอนแรกไม่คิดไรมากเพราะเราเด็กเซียน BTS ในเมืองกรุง แต่พอมาเจอแผนที่รถไฟใต้ดินที่นี่ถึงกับเอ๋อแดรก แมร่ง มึนตึบ ตอนนี้กรูอยู่ตรงไหนคับ? แล้วจะไปไหน? สถานีอะไร? โชคดี บุญยังมีไหวพริบยังเหลือ เปิดใช้แผนที่ Baidu เช็คข้อมูล กราบป๋ายตู้งามๆสามที แล้วก็ไปซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ เพราะเราซื้อ 10 ใบ





พอนั่งใต้ดินมาถึงสถานี Changgang (昌岗站)ซึ่งอยู่ติดกับโรงแรมที่เราจะพัก เดินขึ้นมาข้างบน สิ่งที่สั่งเกตได้คือ ถนนหนทางสะอาด รถไม่ติด อากาศกำลังดีเย็นๆ ก็พากันลากกระเป๋าเดินหาที่พัก เดินวนไปแว๊บแรกไม่เจอ เลยเปิดดูแผนที่ป๋ายตู้สุดที่รัก นางก็บอกว่าอยู่ตรงนี้ล่ะ ถึงแล้ว ถูกแล้ว ทุกคนก็ช่วยกันมองหาว่าอีโรงแรมชื่อนี้มันอยู่ตรงไหน ถามยามนางก็ชี้ไปทางโน่น พอถึงตรงโน้นยามอีกคนก็ชี้มาทางนี้ ก็พากันเดินวนแบบโง่ๆ 3-4 รอบ จากอากาศเย็นๆกรูเริ่มร้อน... ไม่ไหวละเดินผ่าตึกแล้วก็แล้ว ไม่มีโรงแรมชื่อนี้ ตัดสินใจโทรหารีเซพชั่น นางบอกว่าจะลงมารับ ให้มาเจอกันตรงนี้ๆๆนางบอก



ในที่สุดก็ถึงโรงแรมซักทีซึ่งมันก็คือ อีตึกที่เราเดินวนๆกันแบบโง่ๆนี่แหละ แต่มันเป็นโรงแรมที่เช่าทำธุรกิจเฉพาะบางชั้นเท่านั้น เคนะ? เก็ทนะ? ก็เพิ่งรู้พร้อมกันนี่แหละ และยิ่งไปกว่านั้นมันมีทางเชื่อมใต้ดินกับสถานีรถไฟใต้ดินเลย กดลิฟลงได้เลย สาดดดด เสียโง่ เดินวนตั้งนาน55+ แต่พอเห็นห้องพักแล้วก็ดีใจ และฟินมากได้ชั้นสูงๆด้วย คิดในใจวิวต้องสวยแน่ๆเบยยยย สรุปฟ้ามืด ลมพายุตั้งเค้าเหมือนฝนจะตก สวัสดี!!!

พอพักเอากัน เอ้ย!! เอาแรงกันซักพัก เราก็จะออกล่ากันละ โดยที่แรกที่พลาดไม่ได้ก็คือ ถนนคนเดินเป่ยจิงลู่ (北京路步行街)ก็พากันกดลิฟของโรงแรมลงชั้นใต้ดินเลย ไปกันแบบสวยๆงามๆดูฉลาด แล้วก็เพิ่งรู้ว่าแมร่งโคตรสะดวก จากนั้นก็พากันซื้อบัตรรถไฟใต้ดินแบบไม่จำกัดรอบ 3 วัน อย่างที่บอกไม่เคยมีคำว่า "ราบรื่น" ในทริปนี้คับ เนื่องจากไปกัน 10 คน 5-6 คนแรกซื้อตั๋วได้เรียบร้อย แล้วมันก็หมด เจ้าหน้าที่บอกไปซื้อที่เค้าเตอร์อีกฝั่งนึงนะจ๊ะ เราก็เดินไป ซื้อได้อีก 2-3 คน แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกให้เดินมาซื้อฝั่งนี้อีก สรุปเอาไง? ตบไม่ตบ? 55+

เมื่อถึงสถานีใกล้ๆถนนคนเดินเป่ยจิงลู่ เราก็พากันเดินไปตามทาง บังเอิญเหลือบมองไปเห็นรถเมล์ไฟฟ้าที่มีสายไฟเกาะไปตามทาง ยอมรับว่าไม่เคยเห็น รู้สึกทึ่งว่า เฮ้ย บ้านเมืองเค้าพัฒนาไปไกลแล้วอ่ะ พอถึงถนนคนเดินก็พากันเก็บภาพ บรรยากาศก็โรแมนติก เย็นๆ คนเยอะดี คึกคักดี และที่สำคัญกรูเป็นตากล้อง ไม่มีเรา งอลลล


เราก็พากันเดินดูของ กินข้าว ของบางอย่างก็แพงกว่าที่ไทย บางอย่างก็ถูกกว่า ส่วนมากจะเดินๆดู ยังไม่ซื้อ เพราะรีบไปเที่ยวต่ออีกที่ ซึ่งเป็นหอคอยที่ต้องไปถ้าไปกวางโจว ชื่อว่า Canton Tower(广州塔)ระหว่างทางก็มีเหตุการณ์น่าทึ่งอีกละ เหมือนเปิดโลกทัศน์เลยซึ่งก็คือ ไปนั่งรถไฟใต้ดินที่มันเป็นกระจกใสทั้งขบวน มองเห็นข้างนอกหมดเลย มันน่ารักและตื่นตาตื่นใจมาก วิวข้างนอกคือเห็นแต่อุโมงค์มืดๆ55+

ตอนที่เดินชมวิวตรงลานจตุรัส สูดอากาศที่กำลังเย็นสบาย ก็มีน้องนักศึกษาสาวคนไทยมาทัก เพราะได้ยินเราพูดไทยกัน น้องเค้าเฟรนลี่มาก ช่วยถ่ายรูปรวมแบบครบ 10 คน หน้าใครรอดไม่รอด ไม่รู้ เอาเป็นว่าเจ้าของกระทู้เลือกรูปที่ตัวเองปังสุดละ จากนั้นน้องก็พาไปชมวิวบนตึก 4 Season ด้วย พิเศษสุดๆคือ ไปแบบฟรีๆ ดีงาม พระราม 9 พระราม 10 ก็ว่าไป พร้อมส่งกลับถึงโรงแรม ขอให้เจริญๆนะลูกกก...สาธุ



จบทริปสำหรับวันแรด เอ้ย!! วันแรกคับ อยากบอกว่าถ้าเราไม่มีความกล้าที่ตัดสินใจออกเที่ยวในวันนั้น...ช่วงเวลาที่มีความสุขไปกับเพื่อนๆแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น "กล้า...แล้วเราจะผ่านความกลัวไปสู่ความตื่นเต้นในชีวิต"

ขอบคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้ ถ้ามีคำถาม คำแนะนำ คอมเม้นมาได้เลยนะค้าบ เดี๋ยวจะมาเขียนต่อเร็วๆนี้ค้าบ กราบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่