สวัสดีครับ ผมชื่อตั๊ก ขอออกตัวว่านี่เป็นกระทู้แรกของผม ถ้ามีผิดพลาดตรงไหนขอโทษไว้ก่อนเลยครับ ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์ความอ้วนของผม ผมเคยอ่านมาแล้วหลายกระทู้ที่ห้องนี้ เลยอยากเขียนบันทึกไว้บ้างครับ
ผมไม่เคยผอมเลยครับ ตั้งแต่จำความได้ก็หุ่นประมาณนี้ตลอด ผมเป็นคนชอบกินครับ ยิ่งพอมาทำงาน งานของผมส่วนใหญ่ต้องนั่งหน้าคอมตลอดเวลา ไม่ค่อยได้มีกิจกรรมอะไรมาก แถมสิ่งที่ผมชอบทำเป็นประจำหลังเลิกงงานคือการกินหมูกระทะ กินบุฟเฟ่ต์ครับ ของโปรดเลย น้ำหนักเลยทุบสถิติสูงสุดอยู่ที่ 120 กิโลครับ ซึ่งก็ไม่เคยคิดจะลดนะครับ ผมมีความสุขกับการกินมากครับ
รูปสมัยวัยละอ่อน 55+
พอมาทำงานตัวก็ขยายเรื่อยๆ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่มีความคิดว่าจะลดเลยครับ
อะไรๆ ก็ดูอร่อยไปหมด 55+
ช่วงที่ผมหนัก 120 กิโลนี่ แรกๆ ก็ปกติดีครับ แต่หลังๆ ผมเริ่มเพลียง่าย รู้สึกไม่ค่อยสบายบ่อย เลยต้องไปหาหมอ ปรากฎว่าผมเป็นหลายโรคเลย ทั้งโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง แล้วก็เบาหวาน สาเหตุหลักๆ มาจากความอ้วนของผมนี่แหละครับ หมอให้ใบเตือนผมว่าต้องเริ่มลดน้ำหนักแล้วนะ ไม่งั้นแย่แน่
สงสัยต้องลดน้ำหนักจริงๆ สินะ..
ผมเลยเริ่มหันมาออกกำลังกาย กับกินคลีนครับ ไม่กินของทอด ไม่กินของมัน กินแต่ผัก ซึ่งการกินคลีนนี่ไม่อร่อยเลย แต่ก็ต้องทนครับ จะอร่อยหรือจะตายช้าๆ ต้องเลือกเอา ส่วนการออกกำลังกายผมออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30-45นาทีครับ ใช้วิธีเล่นเวทและเตะบอลกับเพื่อนเอาครับ ผมวางตารางตามนี้
ก่อนเล่นเวทจะเบิร์นก่อนครับโดยการปั่นจักรยานหรือไม่ก็วิ่ง 15 นาที แล้วค่อยไปลุยเวทครับ
- จันทร์ เล่นเวทแขน
- พุธ เล่นเวทอก
- เสาร์ เตะบอล
ที่ผมต้องเล่นเวทเพราะผมไม่อยากย้วย เคยเห็นคนที่ลดน้ำหนักได้เยอะ แต่พอเปิดเสื้อมานี่อย่างย่น
ผ่านไป 6 เดือน ผมลดได้จาก 120 กิโล เหลือ 100 กิโลครับ ผมดีใจมาก ผมไปหาหมอ หมอก็ชม แต่หมอก็ยังอยากให้ผมลดอีก ผมก็อยากลดต่อ คุณหมอบอกว่าเหมือนร่างกายผมเริ่มชินกับการที่ผมออกกำลังกายแบบนี้ กินเท่านี้ เริ่มเข้าสู่เซฟโหมด ทำยังงัยน้ำหนักก็ไม่ลงแล้วครับ แล้วผมก็เริ่มท้อ พอได้ยินรายการวู้ดดี้พูดถึงอาหารเสริมลดน้ำหนัก นำเข้าจากเกาหลี ซึ่งดูแล้วน่าเชื่อถือเพราะทั้งเจ้าของทั้งเภสัชออกมาพูดเอง
เอาจริงๆ ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจพวกนี้เลยครับ แต่เหมือนพอหมดสิ้นหนทางก็เลยอยากจะลอง ซึ่งผมยังไปหาคุณหมอทุกๆ 3 เดือนครับ เพื่อเช็คสุขภาพ เพราะถ้าเป็นอะไรมาก็ไม่คุ้มกันเลย โดยผมก็ยังคุมอาหาร และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยนะครับ พอผ่านไป 2 เดือน ปรากฎว่าเวิร์คครับ เหมือนพอร่างกายเจอวิธีใหม่ๆ มันคง งง 55+ น้ำหนักผมเลยลดอีกครับ จาก 100 กิโล เหลือ 90 กิโล ลงมา 10 กิโลเลยครับ คราวนี้เรียกความมั่นใจผมกลับมาได้เลย
จากแต่ก่อนต้องใส่เสื้อไซส์ XXL ตอนนี้ใส่ไซส์ L ได้แล้วครับ คือเมื่อก่อนจะซื้อเสื้อผ้าทีต้องไปซื้อตามช้อปที่เป็นไซส์ฝรั่งอย่าง เอ็กพอร์ต อิมพอร์ต แต่ตอนนี้ซื้อห้างปกติได้แล้ว ซื้อแชปส์ก็ใส่ได้ เอวนี่จาก 44 นิ้วเหลือ 36 นิ้วครับ ใส่กางเกงขาเดฟได้ด้วย 55+ ดีใจมาก สุขภาพดีขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น แล้วก็แอคทีฟมากขึ้น คือตอนอ้วนๆ ผมนี่ง่วงนอนตลอด แอบงีบประจำแต่ตอนนี้คือมีกิจกรรมเยอะขึ้น อยากทำโน่นทำนี่ ชีวิตเปลี่ยนไปเลยครับ หมอก็บอกว่าอย่ากลับไปอ้วนอีก ผมก็คงไม่กลับไปอ้วนอีกแล้วครับ เพราะกว่าจะลงแต่ละโลนี่เล่นเอาเหนื่อยเลย
ก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆ ที่กำลังพยายามลดน้ำหนักอยู่ อย่าท้อครับ วิธีบางคนอาจไม่เหมาะกับเรา ให้หาวิธีที่เหมาะกับเราและไม่ทรมานครับ ที่สำคัญอย่าลืมการออกกำลังกายและกินอาหารให้เหมาะสม ขอให้ทุกคนลดได้ตามที่ตั้งใจนะครับ ผมเอาใจช่วย
ในที่สุด ผมก็ลดได้ 30 กิโล!!!!
สุดท้าย ผมขออวดรูป Before & After ไว้หน่อย ให้เห็นเป็นพัฒนาการน้ำหนักของผม เผื่อจะเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังลดอยู่ ผมทำได้ คุณก็ต้องทำได้ครับ เพื่อสุขภาพของเรา สู้!
แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก จาก 120 กก. เหลือแค่ 90 กก. ใน 6 เดือน!
ผมไม่เคยผอมเลยครับ ตั้งแต่จำความได้ก็หุ่นประมาณนี้ตลอด ผมเป็นคนชอบกินครับ ยิ่งพอมาทำงาน งานของผมส่วนใหญ่ต้องนั่งหน้าคอมตลอดเวลา ไม่ค่อยได้มีกิจกรรมอะไรมาก แถมสิ่งที่ผมชอบทำเป็นประจำหลังเลิกงงานคือการกินหมูกระทะ กินบุฟเฟ่ต์ครับ ของโปรดเลย น้ำหนักเลยทุบสถิติสูงสุดอยู่ที่ 120 กิโลครับ ซึ่งก็ไม่เคยคิดจะลดนะครับ ผมมีความสุขกับการกินมากครับ
รูปสมัยวัยละอ่อน 55+
พอมาทำงานตัวก็ขยายเรื่อยๆ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่มีความคิดว่าจะลดเลยครับ
อะไรๆ ก็ดูอร่อยไปหมด 55+
ช่วงที่ผมหนัก 120 กิโลนี่ แรกๆ ก็ปกติดีครับ แต่หลังๆ ผมเริ่มเพลียง่าย รู้สึกไม่ค่อยสบายบ่อย เลยต้องไปหาหมอ ปรากฎว่าผมเป็นหลายโรคเลย ทั้งโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง แล้วก็เบาหวาน สาเหตุหลักๆ มาจากความอ้วนของผมนี่แหละครับ หมอให้ใบเตือนผมว่าต้องเริ่มลดน้ำหนักแล้วนะ ไม่งั้นแย่แน่
สงสัยต้องลดน้ำหนักจริงๆ สินะ..
ผมเลยเริ่มหันมาออกกำลังกาย กับกินคลีนครับ ไม่กินของทอด ไม่กินของมัน กินแต่ผัก ซึ่งการกินคลีนนี่ไม่อร่อยเลย แต่ก็ต้องทนครับ จะอร่อยหรือจะตายช้าๆ ต้องเลือกเอา ส่วนการออกกำลังกายผมออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30-45นาทีครับ ใช้วิธีเล่นเวทและเตะบอลกับเพื่อนเอาครับ ผมวางตารางตามนี้
ก่อนเล่นเวทจะเบิร์นก่อนครับโดยการปั่นจักรยานหรือไม่ก็วิ่ง 15 นาที แล้วค่อยไปลุยเวทครับ
- จันทร์ เล่นเวทแขน
- พุธ เล่นเวทอก
- เสาร์ เตะบอล
ที่ผมต้องเล่นเวทเพราะผมไม่อยากย้วย เคยเห็นคนที่ลดน้ำหนักได้เยอะ แต่พอเปิดเสื้อมานี่อย่างย่น
ผ่านไป 6 เดือน ผมลดได้จาก 120 กิโล เหลือ 100 กิโลครับ ผมดีใจมาก ผมไปหาหมอ หมอก็ชม แต่หมอก็ยังอยากให้ผมลดอีก ผมก็อยากลดต่อ คุณหมอบอกว่าเหมือนร่างกายผมเริ่มชินกับการที่ผมออกกำลังกายแบบนี้ กินเท่านี้ เริ่มเข้าสู่เซฟโหมด ทำยังงัยน้ำหนักก็ไม่ลงแล้วครับ แล้วผมก็เริ่มท้อ พอได้ยินรายการวู้ดดี้พูดถึงอาหารเสริมลดน้ำหนัก นำเข้าจากเกาหลี ซึ่งดูแล้วน่าเชื่อถือเพราะทั้งเจ้าของทั้งเภสัชออกมาพูดเอง
เอาจริงๆ ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจพวกนี้เลยครับ แต่เหมือนพอหมดสิ้นหนทางก็เลยอยากจะลอง ซึ่งผมยังไปหาคุณหมอทุกๆ 3 เดือนครับ เพื่อเช็คสุขภาพ เพราะถ้าเป็นอะไรมาก็ไม่คุ้มกันเลย โดยผมก็ยังคุมอาหาร และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยนะครับ พอผ่านไป 2 เดือน ปรากฎว่าเวิร์คครับ เหมือนพอร่างกายเจอวิธีใหม่ๆ มันคง งง 55+ น้ำหนักผมเลยลดอีกครับ จาก 100 กิโล เหลือ 90 กิโล ลงมา 10 กิโลเลยครับ คราวนี้เรียกความมั่นใจผมกลับมาได้เลย
จากแต่ก่อนต้องใส่เสื้อไซส์ XXL ตอนนี้ใส่ไซส์ L ได้แล้วครับ คือเมื่อก่อนจะซื้อเสื้อผ้าทีต้องไปซื้อตามช้อปที่เป็นไซส์ฝรั่งอย่าง เอ็กพอร์ต อิมพอร์ต แต่ตอนนี้ซื้อห้างปกติได้แล้ว ซื้อแชปส์ก็ใส่ได้ เอวนี่จาก 44 นิ้วเหลือ 36 นิ้วครับ ใส่กางเกงขาเดฟได้ด้วย 55+ ดีใจมาก สุขภาพดีขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น แล้วก็แอคทีฟมากขึ้น คือตอนอ้วนๆ ผมนี่ง่วงนอนตลอด แอบงีบประจำแต่ตอนนี้คือมีกิจกรรมเยอะขึ้น อยากทำโน่นทำนี่ ชีวิตเปลี่ยนไปเลยครับ หมอก็บอกว่าอย่ากลับไปอ้วนอีก ผมก็คงไม่กลับไปอ้วนอีกแล้วครับ เพราะกว่าจะลงแต่ละโลนี่เล่นเอาเหนื่อยเลย
ก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆ ที่กำลังพยายามลดน้ำหนักอยู่ อย่าท้อครับ วิธีบางคนอาจไม่เหมาะกับเรา ให้หาวิธีที่เหมาะกับเราและไม่ทรมานครับ ที่สำคัญอย่าลืมการออกกำลังกายและกินอาหารให้เหมาะสม ขอให้ทุกคนลดได้ตามที่ตั้งใจนะครับ ผมเอาใจช่วย
ในที่สุด ผมก็ลดได้ 30 กิโล!!!!
สุดท้าย ผมขออวดรูป Before & After ไว้หน่อย ให้เห็นเป็นพัฒนาการน้ำหนักของผม เผื่อจะเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังลดอยู่ ผมทำได้ คุณก็ต้องทำได้ครับ เพื่อสุขภาพของเรา สู้!