เรื่องของเรื่องคือ ผมพาลูกสาวไปโรงพยาบาล เพราะแกชอบเป็นหอบประจำ ต้องพาไปพ่นยาบ่อยๆ
ก็เหมือนทุกครั้งที่ไปห้องฉุกเฉิน ผมอุ้มลูกไปแจ้งอาการกับพยาบาลว่าลูกเป็นหอบบ่อยๆ วันนี้พอผมกลับถึงบ้าน ลูกก็มีอาการไอเยอะขึ้น แล้วดูแกหายใจเร็วๆเหนื่อยๆ ผมจึงรีพามาโรงพยาบาล
จากนั้นเค้าก็ให้ลูกผมไปนั่งพ่นยา ส่วนผมก็ออกไปสูบบุหรี่รอที่หน้า รพ.
เมื่อผมได้ยินเสียงประกาศเรียกผู้ปกครอง เด็กหญิง ....ผมก็เดินไฝเข้าไป เห็นหมอผู้ชาย กำลังนั่งเขียนๆใบสั่งยาของลูกผมอยู่ ผมจึงเข้าไปนั่งข้างโต๊ะหมอ
ตอนนั้น หมอเหมือนทำท่าทางหายใจฟึดฟัด แล้วหันมามองหน้าผม แล้วเค้าก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงแข็งๆว่า "ถอยไปไกลๆเลย หมอเหม็น" พร้อมกับแสดงท่าทางไม่พอใจ จากนั้นก็หาว่าผมเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกเป็นหอบ เพราะสูบบุหรี่
ผมก็บอกไปแล้วว่าไม่เคยสูบบุหรี่ในบ้านเลย ผมสูบนอกบ้านตลอด ไม่น่าจะเกี่ยว หมอก็ไม่ฟัง เขียนใบสั่งยาลายมือหวัดๆแล้วยื่นให้ผมไปรับยา และบอกปิดท้ายว่า ลูกผมจะไม่ทีวันดีขึ้นหรอก ถ้าผมไม่เลิกบุหรี่
คนเป็นหมอแสดงท่าทางรังเกลียดคนไข้แบบนี้ได้ยังไงกัน พูดจาไม่ดีเลย
"ถอยไปไกลๆเลย หมอเหม็น" คนเป็นหมอพูดแบบนี้กับญาติคนไข้ได้ด้วยหรอ
ก็เหมือนทุกครั้งที่ไปห้องฉุกเฉิน ผมอุ้มลูกไปแจ้งอาการกับพยาบาลว่าลูกเป็นหอบบ่อยๆ วันนี้พอผมกลับถึงบ้าน ลูกก็มีอาการไอเยอะขึ้น แล้วดูแกหายใจเร็วๆเหนื่อยๆ ผมจึงรีพามาโรงพยาบาล
จากนั้นเค้าก็ให้ลูกผมไปนั่งพ่นยา ส่วนผมก็ออกไปสูบบุหรี่รอที่หน้า รพ.
เมื่อผมได้ยินเสียงประกาศเรียกผู้ปกครอง เด็กหญิง ....ผมก็เดินไฝเข้าไป เห็นหมอผู้ชาย กำลังนั่งเขียนๆใบสั่งยาของลูกผมอยู่ ผมจึงเข้าไปนั่งข้างโต๊ะหมอ
ตอนนั้น หมอเหมือนทำท่าทางหายใจฟึดฟัด แล้วหันมามองหน้าผม แล้วเค้าก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงแข็งๆว่า "ถอยไปไกลๆเลย หมอเหม็น" พร้อมกับแสดงท่าทางไม่พอใจ จากนั้นก็หาว่าผมเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกเป็นหอบ เพราะสูบบุหรี่
ผมก็บอกไปแล้วว่าไม่เคยสูบบุหรี่ในบ้านเลย ผมสูบนอกบ้านตลอด ไม่น่าจะเกี่ยว หมอก็ไม่ฟัง เขียนใบสั่งยาลายมือหวัดๆแล้วยื่นให้ผมไปรับยา และบอกปิดท้ายว่า ลูกผมจะไม่ทีวันดีขึ้นหรอก ถ้าผมไม่เลิกบุหรี่
คนเป็นหมอแสดงท่าทางรังเกลียดคนไข้แบบนี้ได้ยังไงกัน พูดจาไม่ดีเลย