ถือว่าตัดริบบิ้นเปิดฤดูกาล 2017 อย่างเป็นทางการไปแล้ว หลังจากการทดสอบรถอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่สนามเซปัง ประเทศมาเลเซียเปิดฉากขึ้น โดยการทดสอบรถในปีนี้จะยังคงยึดรูปแบบเดิมเหมือนปีที่แล้วคือ
เซปัง (มาเลเซีย) : 30 ม.ค. – 1 ก.พ.
ฟิลลิปส์ ไอส์แลนด์ (ออสเตเรีย) : 15 - 17 ก.พ.
โลเซล (กาตาร์) : 10 – 12 มี.ค.
นั่นหมายความว่าเหมือนทีมแข่งน่าจะพอใจกับการทดสอบรถหลายๆสนาม มากกว่าที่จะกลับมาทดสอบที่เซปังครั้งที่ 2 อีกครั้งเพื่อที่จะได้เปรียบเทียบผลการพัฒนารถได้โดยตรงเหมือนในช่วงหลายปีก่อนที่ผ่าน เหตุผลส่วนนึงน่าจะมาจากสภาพอากาศที่มาเลเซียในช่วงนี้มีฝนตกค่อนข้างบ่อย แต่ละโรงงานต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะในการทดสอบ ถ้าหากเจอฝนเข้ามาป่วนบ่อยๆมันไม่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน เงินก็ต้องจ่ายแต่รถไม่ได้วิ่ง
Ducati GP17
ปีนี้ก็เช่นเดียว ตั้งแต่การทดสอบปิดของนักแข่งทดสอบเมื่ออาทิตย์ก่อนนู้นแล้ว ที่โดนฝนเล่นงานไปถึง 2 วัน และจากที่ทางสนามเซปังเพิ่งจะทำการปรับปรุงผิวแทรคครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว การปรับปรุงระบบระบายน้ำของสนามถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการปรับปรุงครั้งนี้ ทว่ากลับมีปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นมา เพราะผิวแทรคในปีนี้แห้งช้ากว่าเดิมมากๆ ขนาดที่ว่าถ้ามีฝนตกหนักๆในตอนกลางคืน กว่าแทรคจะแห้งในวันถัดมาก็ต้องรอกันหลายชั่วโมงเลยทีเดียว ทั้งนี้สาเหตุน่าจะมาจากความพรุนของยางมะตอยที่ใช้ในการทำผิวแทรคนั้นมีไม่มากพอให้ความชื้นชึมผ่านลงไปได้ ต้องรอให้ความร้อนมาช่วยเป็นหลัก
Aprilia RS-GP
ที่เซปังจะเป็นการเจอกันเป็นครั้งแรกระหว่างรถกับนักแข่งที่ก็เพิ่งจะกลับมาฟิตซ้อมร่างกายและโดยส่วนใหญ่จะยังไม่เต็มร้อย โดยปกติแล้วทีมจะไม่ค่อยเน้นในเรื่องของเวลาในการทดสอบที่นี่มากนัก ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว นักแข่งทดสอบจะทำการทดสอบในเบื้องต้นก่อน ซึ่งใน 3 วันแรกนั้นยังมีรถที่มีปีกออกมาวิ่งกันอยู่พอสมควร เพื่อทำการเปรียบเทียบการตอบสนองของรถ ก่อนที่จะโยนไม้ต่อมาให้กับนักแข่งจริงๆ แต่เนื่องจากโดนฝนเล่นงานในการทดสอบปิด ทำให้นักแข่งทดสอบที่เร็วที่สุดในโลกอย่าง Stoner นั้นต้องมาร่วมทดสอบรถพร้อมกับบรรดานักแข่งในช่วงการทดสอบปกติด้วย ถือว่าเป็นกำไรของแฟนโมโตจีพีอย่างเราๆ เพราะเชื่อว่าแฟนโมโตจีพีส่วนใหญ่ยังคงอยากจะเห็นลีลาการบิดของยอดนักบิดเบอร์ 27 ผู้นี้อยู่
การได้รับบาดเจ็บในช่วงพรีซีซั่นนั้นเป็นอะไรที่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดเพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้วจะทำให้เสียโอกาสไปหลายต่อหลายอย่าง นั่นคือต้องระวังการล้ม ซึ่งที่เซปังปีนี้ก็ดูเหมือนบรรดานักแข่งจะระมัดระวังกันเป็นพิเศษ มีเพียงติโต้ ราบัทเท่านั้นที่ค่อนข้างโชคร้าย พลาดล้มค่อนข้างแรงที่โค้ง 7 ในการทดสอบวันที่ 2 จนต้องบินกลับไปทำการผ่าตัดรักษาที่บาร์เซโลน่าเป็นการด่วน อาการบาดเจ็บเบื้องต้นเท่าที่ทราบคือเข่าซ้ายและมือขวา ยังไงก็ขอให้หายไวๆนะ
แชมป์โลก MotoGP 2 สมัยเบอร์ 27
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจในช่วงพรีซีซั่นนี่คือหลังจากการห้ามใช้ปีกเพื่อเพิ่มแรงกดด้านหน้าของตัวรถ โรงงานต่างๆต้องเร่งหาทางออกแบบรถใหม่เพื่อมาชดเชยส่วนนี้ที่จะขาดหายไป จากตอนแรกที่อาจจะมีคนตั้งข้อสงสัยว่ามันมีประโยชน์จริงมั้ย แต่ถึงตอนนี้กลายเป็นว่าทุกคนยอมรับแล้วว่าเจ้า Wing หรือปีกนั้นมันช่วยเพิ่มเสถียรภาพของรถได้จริงๆโดยเฉพาะในจังหวะเร่งทำความเร็วหลังออกจากโค้งที่นักแข่งมักจะต้องเจอกับปัญหาล้อหน้ายกอยู่เป็นประจำ พออุปกรณ์ชิ้นนี้หายไปแถมยังมีกฏใหม่ที่อนุญาติให้แต่ละโรงงานสามารถอัพเกรดแฟร์ริ่งได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้นเพิ่มเข้ามาอีก ทำให้แต่ละทีมต้องพยายามเก็บความลับและใช้เวลาในการพัฒนาแฟร์ริ่งและพวกระบบอากาศพลศาสตร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในการเปิดตัวนักแข่งและสีรถใหม่ของทีม Yamaha และ Ducati นั้น ผู้สันทัดกรณีมองว่า Yamaha นั้นย้อนใช้รถปี 2015 หรือ 2014 ในการถ่ายรูป ในส่วนของ Ducati นั้น ตัว Chassis เหมือนจะเป็นรถใหม่ แต่พวกแฟร์ริ่งและอุปกรณ์อื่นๆนั้นยังใช้ของตัว GP16 ทั้งนี้ก็เพื่อปกปิดความลับที่กำลังพัฒนาอยู่ การเปิดตัวรถใหม่จริงๆ เราจะได้เห็นกันที่กาตาร์เลย ถ้าไม่ใช่ในสัปดาห์แข่งก็อาจจะเป็นระหว่างการทดสอบครั้งสุดท้าย เพราะถึงเวลานั้น ก็น่าจะเหลือเวลาไม่มากพอที่ทีมคู่แข่งจะก๊อปปี้และทดสอบได้ทันก่อนเปิดฤดูกาล
Honda RC213V
ในการทดสอบครั้งนี้ ใครขนอะไรมาทดสอบบ้าง? ดูคาติเรียกเสียงฮือฮาในการทดสอบด้วยกล่องใส่สลัดและฮอทดอกสีดำที่ติดอยู่ท้ายรถ ห้า ห้า ถึงแม้จะมีการคาดเดากันไปต่างๆนาๆ แต่จนถึงตอนนี้ ก็ไม่มีใครกล้าออกมาฟันธงว่าเจ้ากล่องดำปริศนานี้มันคืออะไร และแน่นอนว่าทางดูคาตินั้นปิดปากเงียบ ไม่ได้ออกมาบอกหรือเปิดเผยหน้าถึงวัตถุประสงค์ของไอ้กล่องประหลาดนี่แต่ประการใด ทั้งนี้ดูคาตินั้นทำการทดสอบรถทั้ง 2 เวอร์ชั่นทั้งที่มีกล่องและไม่มี
กล่องใส่ข้าวต้มมัด?
ในส่วนของตัวรถนั้น ดูคาติเหมือนค่อนข้างจะพอใจกับฐานของรถแล้วล่ะ ไม่ได้ขนรถมาหลายเวอร์ชั่นเหมือนเช่นปีที่แล้ว แต่ทีมทดสอบของดูคาตินั้นก็ยังใหญ่ที่สุดเหมือนเดิม นอกจากกล่องดำอเนกประสงค์นี้แล้ว ลุงจี้ก็ได้ออกมาบอกกับบรรดาสื่อแล้วว่า เรายังมีอาวุธลับที่ยังไม่เปิดเผยอยู่ ก็คงต้องรอดูต่อไปว่ามันคืออันหยัง
ขณะที่ Yamaha เอง ก็เหมือนจะได้แนวทางในการพัฒนารถแล้วเช่นกัน เนื่องจากก่อนปิดฤดูกาลนั้น ทาง Rossi และ Vinales ได้มีโอกาสได้ทดสอบเครื่องยนต์ตัว Prototype ไปแล้วถึง 2 ครั้ง Yamaha ที่เปิดตัวแฟร์ริ่งแบบติดปีก(ข้างใน) ในการทดสอบครั้งนี้ด้วย ทั้ง Rossi และ Vinales ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดถึงแฟร์ริ่งตัวใหม่นี้ แต่รอสซี่บอกแค่ว่ามันสวย ก็แหงสิ เฮียแกเคยไปด่าปีกของดูคาติไว้ว่ามันทำให้รถขี้เหร่นี่นา ห้า ห้า
Inside-wing
จริงๆคอนเซ็ปของแฟร์ริ่งแบบนี้ ก็ได้ถูกคาดเดากันไว้แล้วล่ะว่าน่าจะมีการพัฒนาออกมาเพื่อทดสอบแน่ๆ ไม่ให้อยู่ข้างนอกใช่มั้ย ก็ยัดมันไว้ข้างในเลยละกัน อิอิ โดยก่อนการทดสอบจะเริ่มต้นขึ้น Yamaha ก็ได้ส่งแบบให้กับทาง Technical Director ของ MotoGP ตรวจสอบก่อนแล้ว และก็ได้รับอนุมัติไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าไม่ผิดกฎกติการแต่อย่างใด เพราะตัวแฟร์ริ่งยังเป็นวัสดุแผ่นเดียว ไม่มีส่วนไหนยื่นออกมาตามกฏที่เขียนไว้
Honda นั้นยังเน้นงานหลักๆไปที่เครื่องยนต์ หลังจากที่ตัดสินใจเปลี่ยนคอนฟิกของการจุดระเบิดเป็นแบบ Big-bang และได้ส่งเครื่องยนต์เวอร์ชั่นแรกไปทดสอบแล้วตั้งแต่ที่บาเลียนเซีย ซึ่งทางนักแข่งยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ที่นี่ก็เลยได้ฤกษ์เข็นเครื่องยนต์แบบที่ 2 ออกมาทดสอบคู่กัน นอกจากนี้ยังมีแฟร์ริ่งแบบอ้วนกว่าปกติอีกด้วยคือมีการเปิดช่องรับลมให้กวางขึ้นแต่ไม่ถึงกับเห็นเป็นปีกด้านในชัดเจนเหมือนกับของ Yamaha อีกจุดนึงที่มีการเปลี่ยนแปลงคือช่องรับลมด้านหน้าของรถ RC213V นั้นได้เปลี่ยนจากปากปลาบู่มาเป็นคล้ายๆปากของไอรอนแมนแล้วนะ
Marc Marquez
Suzuki ดูเหมือนจะได้รถที่ตัวเองต้องการแล้วล่ะ โดยทางลุงเดออกมาบอกว่ารถ GSX-RR ในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ราวๆ 40% จะไม่เหมือนกับปีที่แล้วที่มีการเปลี่ยนมากกว่า 50% งานหลักที่เซปังของซูซูกิน่าจะเป็นปรับจูนนักแข่ง, ตัวรถและทีมงานเข้าหากัน โดยเฉพาะ Alex Rins ที่พลาดโอกาสได้เรียนรู้รถไปในช่วงก่อนปิดฤดูกาล ต้องใช้เวลาทุกนาทีในการทดสอบให้คุ้มค่าที่สุด
GSX-RR No. 29
ทาง Aprilia นั้นมีการปรับปรุงรถ RS-GP ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องมาจากตั้งแต่การทดสอบที่บาเลนเซีย นี่ก็จะเป็นอีกสเต็ปของรถใหม่ เช่นเดียวกับ Suzuki ที่มีการเปลี่ยนนักแข่งทั้ ง 2 คน แถมตัวรถเองก็ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ทีมยังคงต้องทำงานหนักกันต่อไปเพื่อไล่ให้ทันรถแถวหน้า ทั้งนี้อพริเลียเองก็กำลังซุ่มพัฒนาแฟร์ริ่งแบบรูปร่างประหลาดอยู่ โดยอาเล็กซ์ เอสพากาโร่บอกว่าอาจจะได้เห็นกันที่ฟิลลิปส์ ไอส์แลนด์
ขณะที่ KTM นั้นกำลังเร่งทดสอบตัว Chassis เป็นงานหลัก เนื่องจากที่บาเลนเซียนั้นเจอปัญหาอาการรถเลี้ยวไม่เข้า โดยทาง KTM นั้นหิ้วแชสซีมาถึง 3 แบบเลยทีเดียว โดยจะมีแบบเดิมจากบาเลนเซีย แบบที่ปรับเปลี่ยนพอประมาณและแบบใหม่ที่เปลี่ยนไปแบบสุดขั้ว เนื่องจากเป็นทีมน้องใหม่ ทำให้มีงานให้ทดสอบเป็นภูเขาเหล่ากากันเลยทีเดียว ชิ้นส่วนแทบทุกชิ้นต้องไล่ทดสอบกันให้หมด รถ RC 16 ยังต้องการการวิ่งเยอะๆ เพื่อดูเสถียรภาพของเครื่องยนต์รวมไปถึงชิ้นส่วนอื่นๆด้วย
KTM RC-16
[MotoGP] Official Test 1: เก็บตกการทดสอบรถโมโตจีพีครั้งแรกที่เซปัง
เซปัง (มาเลเซีย) : 30 ม.ค. – 1 ก.พ.
ฟิลลิปส์ ไอส์แลนด์ (ออสเตเรีย) : 15 - 17 ก.พ.
โลเซล (กาตาร์) : 10 – 12 มี.ค.
นั่นหมายความว่าเหมือนทีมแข่งน่าจะพอใจกับการทดสอบรถหลายๆสนาม มากกว่าที่จะกลับมาทดสอบที่เซปังครั้งที่ 2 อีกครั้งเพื่อที่จะได้เปรียบเทียบผลการพัฒนารถได้โดยตรงเหมือนในช่วงหลายปีก่อนที่ผ่าน เหตุผลส่วนนึงน่าจะมาจากสภาพอากาศที่มาเลเซียในช่วงนี้มีฝนตกค่อนข้างบ่อย แต่ละโรงงานต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะในการทดสอบ ถ้าหากเจอฝนเข้ามาป่วนบ่อยๆมันไม่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน เงินก็ต้องจ่ายแต่รถไม่ได้วิ่ง
Ducati GP17
ปีนี้ก็เช่นเดียว ตั้งแต่การทดสอบปิดของนักแข่งทดสอบเมื่ออาทิตย์ก่อนนู้นแล้ว ที่โดนฝนเล่นงานไปถึง 2 วัน และจากที่ทางสนามเซปังเพิ่งจะทำการปรับปรุงผิวแทรคครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว การปรับปรุงระบบระบายน้ำของสนามถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการปรับปรุงครั้งนี้ ทว่ากลับมีปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นมา เพราะผิวแทรคในปีนี้แห้งช้ากว่าเดิมมากๆ ขนาดที่ว่าถ้ามีฝนตกหนักๆในตอนกลางคืน กว่าแทรคจะแห้งในวันถัดมาก็ต้องรอกันหลายชั่วโมงเลยทีเดียว ทั้งนี้สาเหตุน่าจะมาจากความพรุนของยางมะตอยที่ใช้ในการทำผิวแทรคนั้นมีไม่มากพอให้ความชื้นชึมผ่านลงไปได้ ต้องรอให้ความร้อนมาช่วยเป็นหลัก
Aprilia RS-GP
ที่เซปังจะเป็นการเจอกันเป็นครั้งแรกระหว่างรถกับนักแข่งที่ก็เพิ่งจะกลับมาฟิตซ้อมร่างกายและโดยส่วนใหญ่จะยังไม่เต็มร้อย โดยปกติแล้วทีมจะไม่ค่อยเน้นในเรื่องของเวลาในการทดสอบที่นี่มากนัก ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว นักแข่งทดสอบจะทำการทดสอบในเบื้องต้นก่อน ซึ่งใน 3 วันแรกนั้นยังมีรถที่มีปีกออกมาวิ่งกันอยู่พอสมควร เพื่อทำการเปรียบเทียบการตอบสนองของรถ ก่อนที่จะโยนไม้ต่อมาให้กับนักแข่งจริงๆ แต่เนื่องจากโดนฝนเล่นงานในการทดสอบปิด ทำให้นักแข่งทดสอบที่เร็วที่สุดในโลกอย่าง Stoner นั้นต้องมาร่วมทดสอบรถพร้อมกับบรรดานักแข่งในช่วงการทดสอบปกติด้วย ถือว่าเป็นกำไรของแฟนโมโตจีพีอย่างเราๆ เพราะเชื่อว่าแฟนโมโตจีพีส่วนใหญ่ยังคงอยากจะเห็นลีลาการบิดของยอดนักบิดเบอร์ 27 ผู้นี้อยู่
การได้รับบาดเจ็บในช่วงพรีซีซั่นนั้นเป็นอะไรที่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดเพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้วจะทำให้เสียโอกาสไปหลายต่อหลายอย่าง นั่นคือต้องระวังการล้ม ซึ่งที่เซปังปีนี้ก็ดูเหมือนบรรดานักแข่งจะระมัดระวังกันเป็นพิเศษ มีเพียงติโต้ ราบัทเท่านั้นที่ค่อนข้างโชคร้าย พลาดล้มค่อนข้างแรงที่โค้ง 7 ในการทดสอบวันที่ 2 จนต้องบินกลับไปทำการผ่าตัดรักษาที่บาร์เซโลน่าเป็นการด่วน อาการบาดเจ็บเบื้องต้นเท่าที่ทราบคือเข่าซ้ายและมือขวา ยังไงก็ขอให้หายไวๆนะ
แชมป์โลก MotoGP 2 สมัยเบอร์ 27
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจในช่วงพรีซีซั่นนี่คือหลังจากการห้ามใช้ปีกเพื่อเพิ่มแรงกดด้านหน้าของตัวรถ โรงงานต่างๆต้องเร่งหาทางออกแบบรถใหม่เพื่อมาชดเชยส่วนนี้ที่จะขาดหายไป จากตอนแรกที่อาจจะมีคนตั้งข้อสงสัยว่ามันมีประโยชน์จริงมั้ย แต่ถึงตอนนี้กลายเป็นว่าทุกคนยอมรับแล้วว่าเจ้า Wing หรือปีกนั้นมันช่วยเพิ่มเสถียรภาพของรถได้จริงๆโดยเฉพาะในจังหวะเร่งทำความเร็วหลังออกจากโค้งที่นักแข่งมักจะต้องเจอกับปัญหาล้อหน้ายกอยู่เป็นประจำ พออุปกรณ์ชิ้นนี้หายไปแถมยังมีกฏใหม่ที่อนุญาติให้แต่ละโรงงานสามารถอัพเกรดแฟร์ริ่งได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้นเพิ่มเข้ามาอีก ทำให้แต่ละทีมต้องพยายามเก็บความลับและใช้เวลาในการพัฒนาแฟร์ริ่งและพวกระบบอากาศพลศาสตร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในการเปิดตัวนักแข่งและสีรถใหม่ของทีม Yamaha และ Ducati นั้น ผู้สันทัดกรณีมองว่า Yamaha นั้นย้อนใช้รถปี 2015 หรือ 2014 ในการถ่ายรูป ในส่วนของ Ducati นั้น ตัว Chassis เหมือนจะเป็นรถใหม่ แต่พวกแฟร์ริ่งและอุปกรณ์อื่นๆนั้นยังใช้ของตัว GP16 ทั้งนี้ก็เพื่อปกปิดความลับที่กำลังพัฒนาอยู่ การเปิดตัวรถใหม่จริงๆ เราจะได้เห็นกันที่กาตาร์เลย ถ้าไม่ใช่ในสัปดาห์แข่งก็อาจจะเป็นระหว่างการทดสอบครั้งสุดท้าย เพราะถึงเวลานั้น ก็น่าจะเหลือเวลาไม่มากพอที่ทีมคู่แข่งจะก๊อปปี้และทดสอบได้ทันก่อนเปิดฤดูกาล
Honda RC213V
ในการทดสอบครั้งนี้ ใครขนอะไรมาทดสอบบ้าง? ดูคาติเรียกเสียงฮือฮาในการทดสอบด้วยกล่องใส่สลัดและฮอทดอกสีดำที่ติดอยู่ท้ายรถ ห้า ห้า ถึงแม้จะมีการคาดเดากันไปต่างๆนาๆ แต่จนถึงตอนนี้ ก็ไม่มีใครกล้าออกมาฟันธงว่าเจ้ากล่องดำปริศนานี้มันคืออะไร และแน่นอนว่าทางดูคาตินั้นปิดปากเงียบ ไม่ได้ออกมาบอกหรือเปิดเผยหน้าถึงวัตถุประสงค์ของไอ้กล่องประหลาดนี่แต่ประการใด ทั้งนี้ดูคาตินั้นทำการทดสอบรถทั้ง 2 เวอร์ชั่นทั้งที่มีกล่องและไม่มี
กล่องใส่ข้าวต้มมัด?
ในส่วนของตัวรถนั้น ดูคาติเหมือนค่อนข้างจะพอใจกับฐานของรถแล้วล่ะ ไม่ได้ขนรถมาหลายเวอร์ชั่นเหมือนเช่นปีที่แล้ว แต่ทีมทดสอบของดูคาตินั้นก็ยังใหญ่ที่สุดเหมือนเดิม นอกจากกล่องดำอเนกประสงค์นี้แล้ว ลุงจี้ก็ได้ออกมาบอกกับบรรดาสื่อแล้วว่า เรายังมีอาวุธลับที่ยังไม่เปิดเผยอยู่ ก็คงต้องรอดูต่อไปว่ามันคืออันหยัง
ขณะที่ Yamaha เอง ก็เหมือนจะได้แนวทางในการพัฒนารถแล้วเช่นกัน เนื่องจากก่อนปิดฤดูกาลนั้น ทาง Rossi และ Vinales ได้มีโอกาสได้ทดสอบเครื่องยนต์ตัว Prototype ไปแล้วถึง 2 ครั้ง Yamaha ที่เปิดตัวแฟร์ริ่งแบบติดปีก(ข้างใน) ในการทดสอบครั้งนี้ด้วย ทั้ง Rossi และ Vinales ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดถึงแฟร์ริ่งตัวใหม่นี้ แต่รอสซี่บอกแค่ว่ามันสวย ก็แหงสิ เฮียแกเคยไปด่าปีกของดูคาติไว้ว่ามันทำให้รถขี้เหร่นี่นา ห้า ห้า
Inside-wing
จริงๆคอนเซ็ปของแฟร์ริ่งแบบนี้ ก็ได้ถูกคาดเดากันไว้แล้วล่ะว่าน่าจะมีการพัฒนาออกมาเพื่อทดสอบแน่ๆ ไม่ให้อยู่ข้างนอกใช่มั้ย ก็ยัดมันไว้ข้างในเลยละกัน อิอิ โดยก่อนการทดสอบจะเริ่มต้นขึ้น Yamaha ก็ได้ส่งแบบให้กับทาง Technical Director ของ MotoGP ตรวจสอบก่อนแล้ว และก็ได้รับอนุมัติไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าไม่ผิดกฎกติการแต่อย่างใด เพราะตัวแฟร์ริ่งยังเป็นวัสดุแผ่นเดียว ไม่มีส่วนไหนยื่นออกมาตามกฏที่เขียนไว้
Honda นั้นยังเน้นงานหลักๆไปที่เครื่องยนต์ หลังจากที่ตัดสินใจเปลี่ยนคอนฟิกของการจุดระเบิดเป็นแบบ Big-bang และได้ส่งเครื่องยนต์เวอร์ชั่นแรกไปทดสอบแล้วตั้งแต่ที่บาเลียนเซีย ซึ่งทางนักแข่งยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ที่นี่ก็เลยได้ฤกษ์เข็นเครื่องยนต์แบบที่ 2 ออกมาทดสอบคู่กัน นอกจากนี้ยังมีแฟร์ริ่งแบบอ้วนกว่าปกติอีกด้วยคือมีการเปิดช่องรับลมให้กวางขึ้นแต่ไม่ถึงกับเห็นเป็นปีกด้านในชัดเจนเหมือนกับของ Yamaha อีกจุดนึงที่มีการเปลี่ยนแปลงคือช่องรับลมด้านหน้าของรถ RC213V นั้นได้เปลี่ยนจากปากปลาบู่มาเป็นคล้ายๆปากของไอรอนแมนแล้วนะ
Marc Marquez
Suzuki ดูเหมือนจะได้รถที่ตัวเองต้องการแล้วล่ะ โดยทางลุงเดออกมาบอกว่ารถ GSX-RR ในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ราวๆ 40% จะไม่เหมือนกับปีที่แล้วที่มีการเปลี่ยนมากกว่า 50% งานหลักที่เซปังของซูซูกิน่าจะเป็นปรับจูนนักแข่ง, ตัวรถและทีมงานเข้าหากัน โดยเฉพาะ Alex Rins ที่พลาดโอกาสได้เรียนรู้รถไปในช่วงก่อนปิดฤดูกาล ต้องใช้เวลาทุกนาทีในการทดสอบให้คุ้มค่าที่สุด
GSX-RR No. 29
ทาง Aprilia นั้นมีการปรับปรุงรถ RS-GP ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องมาจากตั้งแต่การทดสอบที่บาเลนเซีย นี่ก็จะเป็นอีกสเต็ปของรถใหม่ เช่นเดียวกับ Suzuki ที่มีการเปลี่ยนนักแข่งทั้ ง 2 คน แถมตัวรถเองก็ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ทีมยังคงต้องทำงานหนักกันต่อไปเพื่อไล่ให้ทันรถแถวหน้า ทั้งนี้อพริเลียเองก็กำลังซุ่มพัฒนาแฟร์ริ่งแบบรูปร่างประหลาดอยู่ โดยอาเล็กซ์ เอสพากาโร่บอกว่าอาจจะได้เห็นกันที่ฟิลลิปส์ ไอส์แลนด์
ขณะที่ KTM นั้นกำลังเร่งทดสอบตัว Chassis เป็นงานหลัก เนื่องจากที่บาเลนเซียนั้นเจอปัญหาอาการรถเลี้ยวไม่เข้า โดยทาง KTM นั้นหิ้วแชสซีมาถึง 3 แบบเลยทีเดียว โดยจะมีแบบเดิมจากบาเลนเซีย แบบที่ปรับเปลี่ยนพอประมาณและแบบใหม่ที่เปลี่ยนไปแบบสุดขั้ว เนื่องจากเป็นทีมน้องใหม่ ทำให้มีงานให้ทดสอบเป็นภูเขาเหล่ากากันเลยทีเดียว ชิ้นส่วนแทบทุกชิ้นต้องไล่ทดสอบกันให้หมด รถ RC 16 ยังต้องการการวิ่งเยอะๆ เพื่อดูเสถียรภาพของเครื่องยนต์รวมไปถึงชิ้นส่วนอื่นๆด้วย
KTM RC-16