การทดสอบที่เซปังจะเป็นตัวชี้วัดครั้งแรกว่ารถที่ทีมวิศวกรได้กลับไปออกแบบและพัฒนากันในช่วงปิดฤดูกาล จากข้อมูลที่ได้รับในการทดสอบเมื่อช่วงปลายปี 2017 จะออกมาดีตามที่คาดไว้หรือว่าจะเจอปัญหาหนักกว่าเดิม ซึ่งในความรู้สึกส่วนตัว ดูเหมือนว่าการทดสอบในช่วงพรีซีซั่นนั้นจะทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับทิศทางการ "แข่งให้เยอะ ทดสอบให้น้อย" ที่ทาง Dorna ต้องการในยุคนี้ เนื่องจากเวลาในการทดสอบรถนั้นจะถูกจำกัดและมีเงื่อนไขที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ



สำหรับรายชื่อของนักแข่ง ก็เรียกได้ว่ามากันฟูลทีม โดย โทมัส ลูธิ รุกกี้ที่ได้รับบาดเจ็บจนพลาดกันทดสอบครั้งก่อนนั้นกลับมาฟิตสมบูรณ์และพร้อมที่จะลงไปสัมผัสกับรถ MotoGP เป็นครั้งแรก ส่วนทีม Tech 3 นั้นเรียกตัว Yonny Hernandez อดีตนักแข่งโมโตจีพีที่ปีนี้จะลงแข่ง WSBK มาช่วยทดสอบรถ ในขณะที่การหานักแข่งที่จะมาแข่งแทนโจนาส โฟลเกอร์นั้นอยู่ระหว่างการตัดสินใจ ซึ่งหน้าจะรู้ชื่อก่อนการทดสอบครั้งที่ 2



ในการทดสอบ เรียกได้ว่าแต่ละโรงงานนั้นจัดเต็มกันสุดๆ โดยเฉพาะบรรดาทีมเงินถุงเงินถังทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Honda, Yamaha, Ducati หรือ KTM คือทุกทีมนั้นมีตารางทดสอบกันแน่นเอี๊ยดรออยู่ แต่เซปังยังไงก็คือเซปัง พระพิรุณจะมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก็ต้องรอดูว่าตลอดทั้ง 3 วัน จะโดนฝนตกมาคั่นรวมทั้งหมดกี่ชั่วโมง





ยักษ์ใหญ่ Honda นั้นเตรียมรถ RC213V ให้กับมาเกวซและเพโดรซ่ารวมไปถึงครัชโลว์คนละ 3 คัน เช่นเดียวกัน เช่นเดียวกับ KTM ที่เตรียมรถ RC16 ให้กับ 2 นักแข่งอย่าง PE44 และ BS38 ถึง 6 คัน (ยังไม่นับรถของมิก้า คาลิโอ้อีก 2 คัน) เรียกได้ว่า KTM เป็นทีมที่เปิดหน้าเต็มที่ว่าพี่ไม่ได้มาเล่นๆ





ส่วน Yamaha นั้น นอกจากนักแข่งโรงงาน 2 คนแล้ว ยังมีรถจากทีมทดสอบเพิ่มมาอีก 3 คัน ซึ่งมาในรหัส T1, T2 และ T3 ตามลำดับ ซึ่ง T1 นั้นไม่รู้ว่าใครเป็นคนขี่แต่ T2 กับ T3 คือรถของคัทซึยุกิ นากาซูกะและโคตะ โนซาเนะ ตามลำดับ



Ducati นั้นได้สโตเนอร์มาช่วยทดสอบรถ GP18 ในวันพฤหัสฯ-ศุกร์ผ่านมา ซึ่งบักหินบอกว่ารถดีมากๆ หาข้อติไม่เจอเลย โอ้ ขนาดนั้นเชียว แต่ในช่วงการทดสอบจริง จะมี Michele Pirro ร่วมทดสอบกับทีม Suzuki ยังพึ่งบริการของ Guintoli#50 อยู่เหมือนเดิม เช่นเดียวกันกับ KTM ที่จะมี Mika Kallio มาเป็นมดงานอีกแรง



ระบบอากาศพลศาสตร์จะเป็นสีสันของการทดสอบครั้งนี้ เพราะแต่ละโรงงานนั้นต่างนำไอเดียใหม่ๆมาพัฒนาเป็นปีกเวอร์ชั่นต่างๆ ดูแล้วไปก็เพลินตาดีเหมือนกัน สำหรับความพร้อมของรถ ถ้าอ้างอิงจากเว็บของลุงดาวิด ก็จะมีประมาณนี้



Honda จะมาตัดสินใจในเรื่องเครื่องยนต์ว่าจะไปในแนวทางไหน รถในตอนนี้ก็คือเป็นลูกผสมระหว่างรถปีที่แล้วกับที่พัฒนาใหม่ เหมือนกับตอนบาเลนเซีย



Yamaha ที่ตัดสินใจกลับไปใช้ฐานจากรถปี 2016 มาพัฒนาต่อเป็นรถปี 2018 น่าจะได้รถที่ต้องการออกมาแล้ว ทีมมาทดสอบก่อนปิดฤดูกาลที่นี่ ทำให้น่าจะมีข้อมูลสำหรับเปรียบเทียบค่อนข้างเยอะ โดยทีมน่าจะเน้นไปที่การทดสอบยางรวมถึงระบบอิเล็กทรทอนิกส์เพื่อหาเพซที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในรอบท้ายๆ รวมไปถึงถ้ามีโอกาสลุยฝน เชื่อว่า Yamaha ก็น่าจะเป็นทีมเดียวที่ดีใจ เพราะจะได้ทดสอบว่าปัญหาเดิมยังเหลืออยู่มั้ย



Ducati นั้นก็ยังเป็นรถลูกผสม โดยทีมทดสอบนั้นได้ลองรถปี 2018 ไปแล้ว แต่รถยังไม่พร้อมสำหรับนักแข่งจริง Ducati หวังว่ารถใหม่จะเสร็จทันก่อนที่จะบินมาทดสอบที่บุรีรัมย์บ้านเรา จุดสำคัญที่จะทดสอบกันก็คือเฟรมเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องการเลี้ยว



นั้นตกอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายกับ Yamaha คือกลับไปใช้เครื่องยนต์ปี 2016 เป็นฐานในการพัฒนา ซึ่งทีมยอมรับแบบไม่มีข้อแก้ตัวว่าปีที่แล้วความผิดพลาดที่ต้องเก็บมาเรียนรู้และกลับมาให้แข็งแกร่งกว่าเดิม รถ GSX-RR นั้นเป็นรถใหม่แล้ว ก็คงต้องดูกันว่าทิศทางที่เดินกันมา มันจะยังหลงเข้าป่าเข้าดงอยู่อีกมั้ย



นั้นยังไม่ถึงกับเป็นรถใหม่เต็มคัน ปัญหาของ KTM เมื่อปีที่แล้วคือเรซเพซในช่วงครึ่งหลัง นี่เป็นปัญหาหลักที่ต้องแก้ไข เพื่อให้เป้าหมายในการจบตามหลังผู้ชนะให้ต่ำกว่า 20 วินาทีทุกสนามเป็นจริง แต่ว่ารถของ KTM นั้นมีการอัพเกรดอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงคิดไวทำไวอย่างเช่นการเปลี่ยนคอนฟิกของเครื่องยนต์จากสครีมเมอร์มาเป็นบิ๊กแบงค์ที่เราเห็นมาแล้ว ซึ่งในการทดสอบทั้ง 3 ครั้ง KTM ก็คงมีการเดินหน้าพัฒนาเรื่องอย่างต่อเนื่องตามสไตล์



Aprilia เป็นอีกทีมที่รถ RS-GP น่าจะเสร็จแล้ว เนื่องจากในปีนี้ รถของ Aprilia จะเป็นการปรับรถให้สมดุลย์ขึ้น ตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย แต่จุดหลักที่จะต้องปรับปรุงคือพละกำลังของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะแรงบิดในช่วงรอบต่ำ รวมไปถึงทำให้รถนั้นเบาลง

ภาพรวมในวันแรก มีฝนตกลงมาแต่เช้า ทำให้กว่าแทรคจะเริ่มแห้ง ก็ต้องรอจนถึงเกือบๆบ่าย 3 โมงตามเวลาท้องถิ่น นักแข่งคนแรกที่ใส่ยางฝนออกไปลุยน้ำคือรถ YZR-M1 ของโยฮันห์ ซาร์โก้ CC35 เป็นนักแข่งที่ล้มเป็นคนแรก ในขณะที่อังเดร เอียนโนเน่ล้มเป็นคันสุดท้ายของ ฮ่าๆ



ดานี่ เพโดรซ่าทำเวลาได้เร็วที่สุดที่ 1:59.427 โดยมีโดวิซิโอโซ่และลอเลนโซ่จาก Ducati เป็นนักแข่ง 3 คนที่ทำเวลาลงมาต่ำกว่า 2 นาที แจ็ค มิลเลอร์ขี่รถ Ducati ได้ดีเลยทีเดียว ที่น่าประทับใจคือเจ้านาคากามิ ที่ลงขี่ไปถึง 64 รอบและทำเวลาได้ห่างจากผู้นำอยู่ที่ 1.237 วินาที ติโต้ ราบัทก็ถือว่าเป็นอีกคนที่พัฒนาขึ้นจากปีที่แล้วเยอะมาก



วินยาเลสกดไปทั้งหมด 72 รอบ เป็นนักแข่งที่ออกไปวิ่งมากที่สุด ฝั่งของ Suzuki เจ้ารินก็ทำได้ค่อนข้างดี วิ่งได้ค่อนข้างเยอะ ส่วนการทดสอบจะมีอีก 2 วันถึงวันพรุ่งนี้ เราค่อยมาเกาะติดกันต่อ ที่เหลือเดี๋ยวดลงรูปหมวกกับรูปอื่นๆไปดูกันให้หายคิดถึงเนอะ