เช้าวันนี้ที่ถนนพระราม 6 ขณะที่ผมขับรถไปฟังเพลงไป ก่อนถึงแยกตึกชัยจะมีสะพาน พอลงสะพานก็จะเจอไฟแดง ที่ที่จริงก็ไม่ได้ไกล้กับกับไฟแดงมากหรอก แต่ถนนเป็นคอขวดบวกกับรถเยอะมาก ทำให้การจราจรติดขัดกระทันหัน อันนี้ชินแล้ว เราชาวกะลาแลนด์รับได้
คนที่ขับลงสะพานมาถ้าไม่ชินพื้นที่ บอกเลยมีเคือง เลนขวาสุดสำหรับเลี้ยวขวามีเลนเดียว เพราะเค้าตีเส้นสอบเข้าให้ถนนแคบ ด้านซ้ายป้ายรถเมล์ ด้านขวาถนนแคบ ตรงกลางเหลือสองเลน ตอนขึ้นสะพานมามี 5-6 เลน พอลงสะพานเหลือสองเลน ก็บันเทิงเริงรมย์กันไปไม่มีปัญหา
จนกระทั่งเช้านี้ ผมก็เบรกธรรมดา คันหลังต้องการออกขวาแต่ไม่พ้น ....
ปึ้งงง !!! สะเทือนเล็กน้อย แต่จุกไปยันก้อนริดสีดวง ...
อีโอเลี้ยง . . . โดนอีกแล้ว บั้นท้ายขวา ตำแหน่งเดิมกับที่ปีก่อนเด็กแว้นเพิ่งจะมาสอยเอาไฟท้ายไป แล้วก็นิ้วแหกเลือดอาบ หน้าจ๋อย ๆ อยู่โรงพัก
โอเคไม่เป็นไร เหิดประตูลงไปดู เห็นรถคู่กรณีค่อย ๆ ถอยหลัง หักเลี้ยว และเคลื่อนผ่านหน้าไปอย่างช้า ๆ .... ภายใจกระจกมืดมองเห็นแววตาอ่อนโยนเห็นใจ . . . เพลงกำลังจะมา
แต่เดี๋ยว ! เฮ้ย จะไปใหน... กลับมาก่อนครับ คุณคู่กรณี
ผมรีบหยิบมือถือมาถ่ายรถและทะเบียนไว้ อย่างมึน ๆ รถคู่กรณีแล่นไปข้างหน้าประมาณสิบเมตรแล้วจอด คู่กรณีเดินลงมายังรถผมท่าทางหาเรื่อง รออะไรล่ะ ผมรีบกลับเข้ารถและปิดประตูสงบนิ่ง
ชายหัวเกรียนหุ่นดีมีซิกแพ็กท่านหนึ่ง กำลังยืนด่ากระจกรถผมอยู่เสียงดังเอะอะโวยวายชุดใหญ่ ๆ พักนึง จนกระทั่งผมต้องค่อย ๆ ลดเจ้ากระจกรถลง กลัวมันหมองเพราะโดนด่า และตอบกลับไปว่า "เรียกประกันเหอะ"
เหมือนเสียงกับคำพูดมันลอยหายไปวิ้ง ๆ เหมือนมันไม่มีอยู่จริง เหมือนเป่าฟองสบู่หน้าพัดลมอุตสาหกรรมยังไงยังงั้น
เพิ่งมารู้ตอนนี้ อ๋อ มันไม่ได้ด่ากระจกรถ มันด่ากู...
ขอเล่าข้ามส่วนที่เกี่ยวข้องกับวิชาภาษาศาสตร์ คำเปรียบเทียบคนกับสัตว์ คนกับสิ่งของ คนกับโรคอหิวาต์ คนกับน้องวรนุช และคำอุปมาอุปมัยมากมาย
มาในส่วนสำคัญ คือ เนื้อหา
เนื้อหาที่ผมโดนด่าคือ
1. ผมขับรถห่วย เนื่องจากเล่นมือถือ
2. ผมทำให้เค้าเสียเวลา เนื่องจากมีธรุะต้องไปทำ
3. ผมทำให้ตัวผมเองเสียเวลาเนื่องจากมีธรุะต้องไปทำ
4. ผมจะเอาอย่างไร
...
.....
ถ้าคุณผ่านไปแถวนั้นตอนนั้น ภาพที่คุณจะได้เห็นคือ ไอ้แว่นคนนึง ยืนอึ้ง งง ทึ่ง เอ๋อ-อยู่ขอบถนน โดยมีพี่ซิกแพกยืนด่าอยู่จากขอบทางเท้า คำแก้ตัวแก้ต่างต่าง ๆ ที่พยายามคิดตอนนั้น มันไม่หลุดออกมาจากปากผมแม้แต่คำเดียว
ในใจกำลังนึกทบทวนว่า
1. ผมไม่ได้เล่นมือถือ ผมไม่มีหลักฐานแต่ผมไม่ได้เล่น เพราะถ้าผมเล่นตอนลงสะพานนี้นั้น ผมทิ่งตูดคันหน้าไปเรียบร้อยแล้ว และโอเลี้ยงจะเป็นฝ่ายกำชัยชนะสักครั้งในชีวิต
2. เค้าเสียเวลา งานการเนื่องจากอาจจะนัดลูกค้าเจ้าสัวธนินทร์ ชินวัตร เพื่อเสนอผลงานอะไรซักอย่าง ที่จะปฏิวัติวงการอะไรซักอย่าง อันเป็นคุณูปการต่อโลก
3. ผมเสียเวลา จากการเดินทาง ซึ่งจะทำให้งานล่าช้า พักเที่ยงเลท เป็นโรคกระเพาะ เดินเอียง ปากหมา หน้าตาดี
4. อันนี้ตอบไม่ถูก คำถามยากหรือกูโง่ โอ้ สับสน
ระหว่างที่ผมสำนึกผิดบาปอยู่นั้น ก็มีสาวน้อยเดินมาห้ามปรามพี่ซิกแผก ..
" ตะเองอย่า ตะเองหยุดเถอะ " อ้อนวอนโดยหวนเป็นคลอรัส
ผมแจ้งเขาว่า "ผมจะเรียกประกัน" ...
เค้าทำหน้านิ่ง แล้วก็ค่อย ๆ ขึ้น ๆ ๆ ๆ ก่อนจะล้วงมือหยิบมือถือยื่นมาข้างหน้าผม พร้อมกับตอบกลับมาอย่างมั่นใจมากว่า "ผมก็จะเรียกของผมเหมือนกัน"
.... อืม เล่นใหญ่มาก
จากเหตุการณ์ที่ถือวิสาสะเล่าข้ามไป (ภาคผนวกภาษาศาสตร์ ศัทศาสตร์ วากยะ) ผมจึงตัดสินใจโทรหาตำรวจ เพื่อแจ้งว่าผมโดนอะไร และต้องการความช่วยเหลืออะไร
คุณตำรวจใช้เวลา 3 นาทีในการให้ผมระบุตำแหน่งที่ชัดเจน ถนนอะไร แยกอะไร ด้านซ้ายมีอะไร ด้านขวามีอะไร ห่างแยกกี่เมตร มีอาคารสังเกตุยังไง มีคนเยอะมั๊ย อากาศเป็นไง กินข้าวกับอะไร...
เมื่อได้พิกัดชัดเจนจากผมแล้ว ท่านใช้เวลา 7.25 วินาทีพินิจพิเคราะห์คำนวนและตอบกลับมาว่า .. .
"ถ้าเค้าทำอะไร น้องก็ถ่ายคลิป ถ่ายวีดีโอใว้แล้วมาแจ้งทีหลังได้เลย เดี๋ยวพี่จัดการให้เอง".........
รู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัย อย่างอย่างอธิบายเป็นภาษาคนไม่ถูก
รอประมาณยี่สิบนาที พนักงานของประกันก็มา เซ็นนู่นนี่นั่น เขียนนั่นนี่นู่น เสร็จ ไกล้จะแยกย้ายละ
ผมเอ่ยปากบอกน้องประกันว่า ช่วยผมเช็กเซ็นเซ่อกับไฟหลังแปบนะครับ น้องเค้าเดินมาดู ๆ แล้วบอกว่า "โอ๊ยไม่ถึงหรอกพี่ นี่มันรอยเก่า พี่เคลมไม่ได้นะ" แล้วเอามือชี้ไปที่รอยช่วนอีกรอยข้าง ๆ ตุ่มเซ็นเซ่อร์ ยกมือสวัสดีครับและเดินจากไป...
วันนี้ผมตกอยู่ในภวังค์แห่งความงงซ้ำงงซ้อนซ่อนเงื่อนอินเซปชั่น น่าจะเดินเป๋ไปยันบ่าย
หันไปมองพี่ซิกแผก ตอนนี้คุยกับแฟนอยู่และพอจะยิ้มออกได้บ้าง หลังจากได้ระบายความคับแค้น
ผมเองสิ ที่ตอนนี้ไม่มีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หรือทัศนคติที่ดีเหลืออยู่เลย รู้สึกตัวเองมีปัญหา มึนงง เฟ้งฟ้าง ถ้าเป็นตอนมัธยมก็คงจะหันไปเสพยา โดดเรียน แก้ผ้าเดิน แต่นี่โตแล้ว ไม่ว่าง
ขับรถออกมาโดยมีเสียงกันโคลนครูดล้อตลอดทาง คลอด้วยเสียงวิ้ง ๆ ครูด ๆ วิ้ง ๆ ครูด ๆ วิ้ง ๆ อันสามารถประกอบบีทบ๊อกซ์แก่ซิงเกิ้ลใหม่ไทเทเนียมได้
อุทิศบันทึกฉบับนี้ ให้แก่ความเลว ความชั่ว ความน่าเกลียดชังที่ผมทำขึ้นเมื่อเช้าวันนี้ครับ
ชีวิตคนกรุง กับวีรกรรมโดนชนตูดมาหลายครั้งแล้ว แต่เพิ่งลงพันทิปครั้งแรก
คนที่ขับลงสะพานมาถ้าไม่ชินพื้นที่ บอกเลยมีเคือง เลนขวาสุดสำหรับเลี้ยวขวามีเลนเดียว เพราะเค้าตีเส้นสอบเข้าให้ถนนแคบ ด้านซ้ายป้ายรถเมล์ ด้านขวาถนนแคบ ตรงกลางเหลือสองเลน ตอนขึ้นสะพานมามี 5-6 เลน พอลงสะพานเหลือสองเลน ก็บันเทิงเริงรมย์กันไปไม่มีปัญหา
จนกระทั่งเช้านี้ ผมก็เบรกธรรมดา คันหลังต้องการออกขวาแต่ไม่พ้น ....
ปึ้งงง !!! สะเทือนเล็กน้อย แต่จุกไปยันก้อนริดสีดวง ...
อีโอเลี้ยง . . . โดนอีกแล้ว บั้นท้ายขวา ตำแหน่งเดิมกับที่ปีก่อนเด็กแว้นเพิ่งจะมาสอยเอาไฟท้ายไป แล้วก็นิ้วแหกเลือดอาบ หน้าจ๋อย ๆ อยู่โรงพัก
โอเคไม่เป็นไร เหิดประตูลงไปดู เห็นรถคู่กรณีค่อย ๆ ถอยหลัง หักเลี้ยว และเคลื่อนผ่านหน้าไปอย่างช้า ๆ .... ภายใจกระจกมืดมองเห็นแววตาอ่อนโยนเห็นใจ . . . เพลงกำลังจะมา
แต่เดี๋ยว ! เฮ้ย จะไปใหน... กลับมาก่อนครับ คุณคู่กรณี
ผมรีบหยิบมือถือมาถ่ายรถและทะเบียนไว้ อย่างมึน ๆ รถคู่กรณีแล่นไปข้างหน้าประมาณสิบเมตรแล้วจอด คู่กรณีเดินลงมายังรถผมท่าทางหาเรื่อง รออะไรล่ะ ผมรีบกลับเข้ารถและปิดประตูสงบนิ่ง
ชายหัวเกรียนหุ่นดีมีซิกแพ็กท่านหนึ่ง กำลังยืนด่ากระจกรถผมอยู่เสียงดังเอะอะโวยวายชุดใหญ่ ๆ พักนึง จนกระทั่งผมต้องค่อย ๆ ลดเจ้ากระจกรถลง กลัวมันหมองเพราะโดนด่า และตอบกลับไปว่า "เรียกประกันเหอะ"
เหมือนเสียงกับคำพูดมันลอยหายไปวิ้ง ๆ เหมือนมันไม่มีอยู่จริง เหมือนเป่าฟองสบู่หน้าพัดลมอุตสาหกรรมยังไงยังงั้น
เพิ่งมารู้ตอนนี้ อ๋อ มันไม่ได้ด่ากระจกรถ มันด่ากู...
ขอเล่าข้ามส่วนที่เกี่ยวข้องกับวิชาภาษาศาสตร์ คำเปรียบเทียบคนกับสัตว์ คนกับสิ่งของ คนกับโรคอหิวาต์ คนกับน้องวรนุช และคำอุปมาอุปมัยมากมาย
มาในส่วนสำคัญ คือ เนื้อหา
เนื้อหาที่ผมโดนด่าคือ
1. ผมขับรถห่วย เนื่องจากเล่นมือถือ
2. ผมทำให้เค้าเสียเวลา เนื่องจากมีธรุะต้องไปทำ
3. ผมทำให้ตัวผมเองเสียเวลาเนื่องจากมีธรุะต้องไปทำ
4. ผมจะเอาอย่างไร
...
.....
ถ้าคุณผ่านไปแถวนั้นตอนนั้น ภาพที่คุณจะได้เห็นคือ ไอ้แว่นคนนึง ยืนอึ้ง งง ทึ่ง เอ๋อ-อยู่ขอบถนน โดยมีพี่ซิกแพกยืนด่าอยู่จากขอบทางเท้า คำแก้ตัวแก้ต่างต่าง ๆ ที่พยายามคิดตอนนั้น มันไม่หลุดออกมาจากปากผมแม้แต่คำเดียว
ในใจกำลังนึกทบทวนว่า
1. ผมไม่ได้เล่นมือถือ ผมไม่มีหลักฐานแต่ผมไม่ได้เล่น เพราะถ้าผมเล่นตอนลงสะพานนี้นั้น ผมทิ่งตูดคันหน้าไปเรียบร้อยแล้ว และโอเลี้ยงจะเป็นฝ่ายกำชัยชนะสักครั้งในชีวิต
2. เค้าเสียเวลา งานการเนื่องจากอาจจะนัดลูกค้าเจ้าสัวธนินทร์ ชินวัตร เพื่อเสนอผลงานอะไรซักอย่าง ที่จะปฏิวัติวงการอะไรซักอย่าง อันเป็นคุณูปการต่อโลก
3. ผมเสียเวลา จากการเดินทาง ซึ่งจะทำให้งานล่าช้า พักเที่ยงเลท เป็นโรคกระเพาะ เดินเอียง ปากหมา หน้าตาดี
4. อันนี้ตอบไม่ถูก คำถามยากหรือกูโง่ โอ้ สับสน
ระหว่างที่ผมสำนึกผิดบาปอยู่นั้น ก็มีสาวน้อยเดินมาห้ามปรามพี่ซิกแผก ..
" ตะเองอย่า ตะเองหยุดเถอะ " อ้อนวอนโดยหวนเป็นคลอรัส
ผมแจ้งเขาว่า "ผมจะเรียกประกัน" ...
เค้าทำหน้านิ่ง แล้วก็ค่อย ๆ ขึ้น ๆ ๆ ๆ ก่อนจะล้วงมือหยิบมือถือยื่นมาข้างหน้าผม พร้อมกับตอบกลับมาอย่างมั่นใจมากว่า "ผมก็จะเรียกของผมเหมือนกัน"
.... อืม เล่นใหญ่มาก
จากเหตุการณ์ที่ถือวิสาสะเล่าข้ามไป (ภาคผนวกภาษาศาสตร์ ศัทศาสตร์ วากยะ) ผมจึงตัดสินใจโทรหาตำรวจ เพื่อแจ้งว่าผมโดนอะไร และต้องการความช่วยเหลืออะไร
คุณตำรวจใช้เวลา 3 นาทีในการให้ผมระบุตำแหน่งที่ชัดเจน ถนนอะไร แยกอะไร ด้านซ้ายมีอะไร ด้านขวามีอะไร ห่างแยกกี่เมตร มีอาคารสังเกตุยังไง มีคนเยอะมั๊ย อากาศเป็นไง กินข้าวกับอะไร...
เมื่อได้พิกัดชัดเจนจากผมแล้ว ท่านใช้เวลา 7.25 วินาทีพินิจพิเคราะห์คำนวนและตอบกลับมาว่า .. .
"ถ้าเค้าทำอะไร น้องก็ถ่ายคลิป ถ่ายวีดีโอใว้แล้วมาแจ้งทีหลังได้เลย เดี๋ยวพี่จัดการให้เอง".........
รู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัย อย่างอย่างอธิบายเป็นภาษาคนไม่ถูก
รอประมาณยี่สิบนาที พนักงานของประกันก็มา เซ็นนู่นนี่นั่น เขียนนั่นนี่นู่น เสร็จ ไกล้จะแยกย้ายละ
ผมเอ่ยปากบอกน้องประกันว่า ช่วยผมเช็กเซ็นเซ่อกับไฟหลังแปบนะครับ น้องเค้าเดินมาดู ๆ แล้วบอกว่า "โอ๊ยไม่ถึงหรอกพี่ นี่มันรอยเก่า พี่เคลมไม่ได้นะ" แล้วเอามือชี้ไปที่รอยช่วนอีกรอยข้าง ๆ ตุ่มเซ็นเซ่อร์ ยกมือสวัสดีครับและเดินจากไป...
วันนี้ผมตกอยู่ในภวังค์แห่งความงงซ้ำงงซ้อนซ่อนเงื่อนอินเซปชั่น น่าจะเดินเป๋ไปยันบ่าย
หันไปมองพี่ซิกแผก ตอนนี้คุยกับแฟนอยู่และพอจะยิ้มออกได้บ้าง หลังจากได้ระบายความคับแค้น
ผมเองสิ ที่ตอนนี้ไม่มีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หรือทัศนคติที่ดีเหลืออยู่เลย รู้สึกตัวเองมีปัญหา มึนงง เฟ้งฟ้าง ถ้าเป็นตอนมัธยมก็คงจะหันไปเสพยา โดดเรียน แก้ผ้าเดิน แต่นี่โตแล้ว ไม่ว่าง
ขับรถออกมาโดยมีเสียงกันโคลนครูดล้อตลอดทาง คลอด้วยเสียงวิ้ง ๆ ครูด ๆ วิ้ง ๆ ครูด ๆ วิ้ง ๆ อันสามารถประกอบบีทบ๊อกซ์แก่ซิงเกิ้ลใหม่ไทเทเนียมได้
อุทิศบันทึกฉบับนี้ ให้แก่ความเลว ความชั่ว ความน่าเกลียดชังที่ผมทำขึ้นเมื่อเช้าวันนี้ครับ