ยาวหน่อยนะครับเพื่อความละเอียด
ผมพึ่งเเต่งงานมาไม่นานผมเป็นคน ตจว แฟนเป็นคน กทม เลยพาแฟนมาทำงานที่ ตจว ด้วย ตอนแรกตกลงกันว่าจะทำงานที่ ตจว สักดีวางแผนว่าจะทำไปสักสองปีแล้วค่อยย้ายไป กทม
ตอนนี้ผ่านมาครึ่งปีแล้ว แฟนเคยพูดว่าคิดถึงแม่และพี่น้องอยู่บ้างแต่ก็ยังไม่เคยคุยว่าจะย้ายกลับ กทม จนอาทิตย์ก่อนพอได้ไปทำงานด้วยกันหนึงอย่าง เอาของขวัญปีใหม่ให้ผู้ใหญ่ของเพื่อนเค้า เพื่อนเค้านัดให้ (ไม่บอกละกันว่าเป็นใครแต่สำคัญทางธุรกิจอยู่บ้าง)
ขัดทัศนคติกันเรื่องราคาของของขวัญ ซึ่งผมเป็นผู้ชายผมคิดว่าเอาราคาย่อมเยาดูไม่แย่จนเกินไปก็พอเพราะยังไม่รู้ว่าเค้าจะช่วยอะไรได้หรือเปล่า ส่วนแฟนอยากซื้อของขวัญแพงๆไปเพื่อจะให้เขาประทับใจและให้เค้าจำเราได้แล้วไปคุยต่อก็ได้
ซึ่งสุดท้ายก็เลือกของขวัญแพงครับ ผมขี้เกียจเถียงแล้วซึ่งตอนเพื่อนเค้านัดไปให้ ตอนแรกนัดจะไปที่บ้านก็จะได้คุยหน่อยทำความรู้จักมากขึ้นหน่อย สุดท้ายเอาไปให้ที่ทำงานเค้าเลยไม่มีเวลาคุยตอนไปถึงมีคนเข้าคิวให้ของขวัญเต็มไปหมดจนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาซึ่งเพื่อนของแฟนที่นัดให้ก็เอาของขวัญราคาถูกๆไปสวัสดีปีใหม่
ผมเลยปากกล้าพูดไปว่าอย่างนี้แล้วจะได้ผลหรอตอนเดินออกมาจากห้อง แฟนผมก็เลยโกรธว่าพูดอย่างนั้นต่อหน้าเพื่อนเค้าได้ยังไงเพื่อนเค้าอุตส่าห์มีน้ำใจนัดให้เดี๋ยวครั้งหน้าเพื่อนเขาไม่ช่วยเราหรอก แต่ผมสังเกตสีหน้าของเพื่อนเค้าเค้าก็ดูเข้าใจดีนะครับ ผมอาจจะพูดไม่มีกาลเทศะไปหน่อย แต่มันก็เป็นข้อเท็จจริงของความสงสัย
ปัญหาก็คือว่า แฟนผมให้ผมยอมรับผิดผมก็ยอมรับผิดไม่งั้นมันก็ไม่จบทะเลาะกันไปเรื่อยๆแต่เค้าบอกว่าผมไม่รู้สึกผิดหรอก แล้วหลังจากวันนั้นผ่านมาสามสี่วันแล้วก็ทำตัวไม่เคยถามว่าผมหิวข้าวรึยังไหมกินข้าวหรือยังเป็นยังไงบ้างทำตัวนิ่งเฉยไปเลยปกติเราจะนั่งดูทีวีกันทุกเย็นก็ไม่ยอมใช้เวลาร่วมกันคุยกันได้แต่เฉพาะเรื่องงาน วันนี้มีผมไปซื้อยาตอนขากลับมาจากทำงานก็นั่งรถมาด้วยกันเลยจอดหน้าร้านขายยาซื้อเสร็จอะไรเสร็จกลับมาที่บ้านไม่ถามด้วยซ้ำเพราะป่วยหรือเปล่าหรือเป็นอะไร
อ่อเล่าเพิ่มครับตอนทะเลาะกันเรื่องนั้นก็โวยวายพูดว่าน่าเบื่อไม่ทำงานที่นี่แล้วอยากย้ายกับไปทำงานออฟฟิตที่กรุงเทพดีกว่าได้เงินมากกว่าด้วย คือจริงๆแล้วทำงานที่ต่างจังหวัดนี้เป็นธุรกิจส่วนตัวครับถ้าจบงานนี้แล้วจริงๆในเรื่องของเงินได้ที่นี่มากกว่าสะอีกแถมได้อยู่ด้วยกันด้วย
เพราะอย่างนี้แล้วผมก็รู้สึกน้อยใจเหมือนกันเพราะปกติเวลาทะเลาะกันก็ไม่เคยให้ผ่านข้ามคืน อีกอย่างผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่ใหญ่โตอะไรมากนักทำไมต้องทำอะไรถึงขนาดนี้ จะให้ผมตามง้อก็ง้อได้แต่พฤติกรรมดูไม่น่าจะง้อเลยผมเลยไม่ง้อ กลัวว่าท้ายที่สุดถ้าเค้าย้ายกลับไปทำงานกรุงเทพจริงๆสงสัยจะไม่แคร์หรืออาจจะไม่ตกลงกับผมด้วยซ้ำว่าจะย้ายกลับนะสงสัยจะย้ายไปเลย แล้วบอกว่ามันเป็นโอกาส+หาเงินสองทางให้ครอบครัว+ไม่ไกลแม่
คำถามคือทำไมเค้าถึงกระทำเช่นนี้กับผมครับ.. รู้สึกผิดหวังที่แต่งงานกับคนแบบนี้จริงๆ เค้าคงคิดแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า
ถามคนแต่งงานแล้วหน่อยครับ
ผมพึ่งเเต่งงานมาไม่นานผมเป็นคน ตจว แฟนเป็นคน กทม เลยพาแฟนมาทำงานที่ ตจว ด้วย ตอนแรกตกลงกันว่าจะทำงานที่ ตจว สักดีวางแผนว่าจะทำไปสักสองปีแล้วค่อยย้ายไป กทม
ตอนนี้ผ่านมาครึ่งปีแล้ว แฟนเคยพูดว่าคิดถึงแม่และพี่น้องอยู่บ้างแต่ก็ยังไม่เคยคุยว่าจะย้ายกลับ กทม จนอาทิตย์ก่อนพอได้ไปทำงานด้วยกันหนึงอย่าง เอาของขวัญปีใหม่ให้ผู้ใหญ่ของเพื่อนเค้า เพื่อนเค้านัดให้ (ไม่บอกละกันว่าเป็นใครแต่สำคัญทางธุรกิจอยู่บ้าง)
ขัดทัศนคติกันเรื่องราคาของของขวัญ ซึ่งผมเป็นผู้ชายผมคิดว่าเอาราคาย่อมเยาดูไม่แย่จนเกินไปก็พอเพราะยังไม่รู้ว่าเค้าจะช่วยอะไรได้หรือเปล่า ส่วนแฟนอยากซื้อของขวัญแพงๆไปเพื่อจะให้เขาประทับใจและให้เค้าจำเราได้แล้วไปคุยต่อก็ได้
ซึ่งสุดท้ายก็เลือกของขวัญแพงครับ ผมขี้เกียจเถียงแล้วซึ่งตอนเพื่อนเค้านัดไปให้ ตอนแรกนัดจะไปที่บ้านก็จะได้คุยหน่อยทำความรู้จักมากขึ้นหน่อย สุดท้ายเอาไปให้ที่ทำงานเค้าเลยไม่มีเวลาคุยตอนไปถึงมีคนเข้าคิวให้ของขวัญเต็มไปหมดจนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาซึ่งเพื่อนของแฟนที่นัดให้ก็เอาของขวัญราคาถูกๆไปสวัสดีปีใหม่
ผมเลยปากกล้าพูดไปว่าอย่างนี้แล้วจะได้ผลหรอตอนเดินออกมาจากห้อง แฟนผมก็เลยโกรธว่าพูดอย่างนั้นต่อหน้าเพื่อนเค้าได้ยังไงเพื่อนเค้าอุตส่าห์มีน้ำใจนัดให้เดี๋ยวครั้งหน้าเพื่อนเขาไม่ช่วยเราหรอก แต่ผมสังเกตสีหน้าของเพื่อนเค้าเค้าก็ดูเข้าใจดีนะครับ ผมอาจจะพูดไม่มีกาลเทศะไปหน่อย แต่มันก็เป็นข้อเท็จจริงของความสงสัย
ปัญหาก็คือว่า แฟนผมให้ผมยอมรับผิดผมก็ยอมรับผิดไม่งั้นมันก็ไม่จบทะเลาะกันไปเรื่อยๆแต่เค้าบอกว่าผมไม่รู้สึกผิดหรอก แล้วหลังจากวันนั้นผ่านมาสามสี่วันแล้วก็ทำตัวไม่เคยถามว่าผมหิวข้าวรึยังไหมกินข้าวหรือยังเป็นยังไงบ้างทำตัวนิ่งเฉยไปเลยปกติเราจะนั่งดูทีวีกันทุกเย็นก็ไม่ยอมใช้เวลาร่วมกันคุยกันได้แต่เฉพาะเรื่องงาน วันนี้มีผมไปซื้อยาตอนขากลับมาจากทำงานก็นั่งรถมาด้วยกันเลยจอดหน้าร้านขายยาซื้อเสร็จอะไรเสร็จกลับมาที่บ้านไม่ถามด้วยซ้ำเพราะป่วยหรือเปล่าหรือเป็นอะไร
อ่อเล่าเพิ่มครับตอนทะเลาะกันเรื่องนั้นก็โวยวายพูดว่าน่าเบื่อไม่ทำงานที่นี่แล้วอยากย้ายกับไปทำงานออฟฟิตที่กรุงเทพดีกว่าได้เงินมากกว่าด้วย คือจริงๆแล้วทำงานที่ต่างจังหวัดนี้เป็นธุรกิจส่วนตัวครับถ้าจบงานนี้แล้วจริงๆในเรื่องของเงินได้ที่นี่มากกว่าสะอีกแถมได้อยู่ด้วยกันด้วย
เพราะอย่างนี้แล้วผมก็รู้สึกน้อยใจเหมือนกันเพราะปกติเวลาทะเลาะกันก็ไม่เคยให้ผ่านข้ามคืน อีกอย่างผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่ใหญ่โตอะไรมากนักทำไมต้องทำอะไรถึงขนาดนี้ จะให้ผมตามง้อก็ง้อได้แต่พฤติกรรมดูไม่น่าจะง้อเลยผมเลยไม่ง้อ กลัวว่าท้ายที่สุดถ้าเค้าย้ายกลับไปทำงานกรุงเทพจริงๆสงสัยจะไม่แคร์หรืออาจจะไม่ตกลงกับผมด้วยซ้ำว่าจะย้ายกลับนะสงสัยจะย้ายไปเลย แล้วบอกว่ามันเป็นโอกาส+หาเงินสองทางให้ครอบครัว+ไม่ไกลแม่
คำถามคือทำไมเค้าถึงกระทำเช่นนี้กับผมครับ.. รู้สึกผิดหวังที่แต่งงานกับคนแบบนี้จริงๆ เค้าคงคิดแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า