เรื่องราวของมนุษย์ทุกคนต้องวุ่นวาย สุดแล้วแต่เวรกรรมที่ทำไว้
นี้ก็เป็นอีกเรื่องราวหนึ่งของเด็ก ผู้ชาย อ่อนต่อโลก แต่ภายในกลับเป็นคนร้ายๆเงียบ ตอนนั้นเด็กผู้ชายอายุได้ 15 ย่างเข้า16 จำต้องจากเมืองที่เค้าอยู่มาตั้งแต่เกิดออกไปพบโลกใหม่ที่เค้ายังไม่ทันตั้งตัว จากคำชักชวนของพี่สาวของเค้า ให้ไปเรียนอีกจังหวัดหนึ่ง ซึ่งก็หมายความว่าไปอยู่กับพี่สาวนั้นเอง เด็กชายมีความคิดเเค่สนุกสนาน ไม่มีความคิดอย่างอื่น จนได้ไปอยู่ พบกับความลำบาก ที่บอกว่าลำบากนี้คงจะลำบากใจเพราะต้องอยู่กับพี่สาวและพี่เขย แต่ด้วยความที่เค้าเป็นคนเข้มแข็งแม้จะเจ็บก็ไม่ร้องบ่น ความสามารถพิเศษของเค้าที่ไม่มีใครรู้คือ เค้าสามารถสำผัสถึงอารมณ์ลึกๆของผู้อื่นได้ จะเรื่องว่าเป็นเรื่องที่ดีก็คงไม่ถูก เพราะเรารู้แก่ใจว่าใครคิดยังไงกับเรา มันอึดอัดน่าดู เราข้ามตรงนี้ไปก่อนละกัน เด็กชายเมื่อเริ่ม ไปอยู่....ออลืมพูดไปอีกนิด ตลอดชีวิต มีแต่คนดูถูก สบประมาทเด็กชายแต่เด็กชายก็ยิ้มรับมันมาแล้วเก็บไว้ในความทรงจำ กล่องที่ปิดผนึก คอยเติมคำเหยียดหยามของผู้อื่นลงไปในกล่อง แล้วปิดมันไว้ โดยที่คิดไว้ว่าสักวันคนพวกนั้นจะได้เห็น ว่าฉันนี้เเละ คือคนที่เเข็งแกร่ง !!! ตลอดที่เด็กชายไปร่ำเรียน ไม่เคยมีเพื่อนจริงใจเเลยซักคนเดียว ....ในส่วนตรงน้ขอแก้เป็นตลอดชีวิตจนถึงตอนนี้ดีกว่า... เมื่อเด็กชาย ได้พบกับ เด็กหญิงคนหนึ่ง ขอขยายความการพบกันก็ไม่เชิงเป็นการติดต่อจากเพื่อนมากกว่า คงจะงง? ละซิเมื่อกี่ยังบอกไม่มีเถื่อนอยู่เลย ขอขยาย*** เพื่อนของเด็กชายมีแฟน เลยกลายมาเป็นข้ออ้างของเพื่อนเด็กชายและเพื่อนเด็กหญิงที่จะนัดมาเจอกันแต่พาเพื่อนมาด้วย เลยจับคู่ให้ซะเลย เด็กชายซึ่งอ่อนต่อโลก(มั้ง) คงเป็นธรรมดา ก่อเกิดเป็นความสัมพันลึกซึ้ง กับเด็กหญิง แต่ด้วยความที่เด็กชายไม่ประสา ก็คบๆเลิกๆ กับเด็กหญิง จนเด็กชายเรียนสำเร็จวิชาเชี่ยวชาญด้วย อิเล็กทรอนิก ก็เข้า กทม.. เมืองที่หลายคนเรียกว่าเมืองสวรรค์ และแล้วเด็กชายก็กลับมาคุยกับเด็กหญิงอีกครั้ง หลังจากเลิกร้างกันไป การกลับมาพบในครั้งนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่กำลัง จะได้รับรู้ถึงความอัปยศ ศักดิ์ศรี ความภูมิใจ ความละอาย บาป ความโกรษ การให้อภัย และความจริงทั้งปวงของคำว่า การใช้ชีวิต!!!...
เดี๋ยวมาต่อ***
กล่องสีดำของเด็กชาย
นี้ก็เป็นอีกเรื่องราวหนึ่งของเด็ก ผู้ชาย อ่อนต่อโลก แต่ภายในกลับเป็นคนร้ายๆเงียบ ตอนนั้นเด็กผู้ชายอายุได้ 15 ย่างเข้า16 จำต้องจากเมืองที่เค้าอยู่มาตั้งแต่เกิดออกไปพบโลกใหม่ที่เค้ายังไม่ทันตั้งตัว จากคำชักชวนของพี่สาวของเค้า ให้ไปเรียนอีกจังหวัดหนึ่ง ซึ่งก็หมายความว่าไปอยู่กับพี่สาวนั้นเอง เด็กชายมีความคิดเเค่สนุกสนาน ไม่มีความคิดอย่างอื่น จนได้ไปอยู่ พบกับความลำบาก ที่บอกว่าลำบากนี้คงจะลำบากใจเพราะต้องอยู่กับพี่สาวและพี่เขย แต่ด้วยความที่เค้าเป็นคนเข้มแข็งแม้จะเจ็บก็ไม่ร้องบ่น ความสามารถพิเศษของเค้าที่ไม่มีใครรู้คือ เค้าสามารถสำผัสถึงอารมณ์ลึกๆของผู้อื่นได้ จะเรื่องว่าเป็นเรื่องที่ดีก็คงไม่ถูก เพราะเรารู้แก่ใจว่าใครคิดยังไงกับเรา มันอึดอัดน่าดู เราข้ามตรงนี้ไปก่อนละกัน เด็กชายเมื่อเริ่ม ไปอยู่....ออลืมพูดไปอีกนิด ตลอดชีวิต มีแต่คนดูถูก สบประมาทเด็กชายแต่เด็กชายก็ยิ้มรับมันมาแล้วเก็บไว้ในความทรงจำ กล่องที่ปิดผนึก คอยเติมคำเหยียดหยามของผู้อื่นลงไปในกล่อง แล้วปิดมันไว้ โดยที่คิดไว้ว่าสักวันคนพวกนั้นจะได้เห็น ว่าฉันนี้เเละ คือคนที่เเข็งแกร่ง !!! ตลอดที่เด็กชายไปร่ำเรียน ไม่เคยมีเพื่อนจริงใจเเลยซักคนเดียว ....ในส่วนตรงน้ขอแก้เป็นตลอดชีวิตจนถึงตอนนี้ดีกว่า... เมื่อเด็กชาย ได้พบกับ เด็กหญิงคนหนึ่ง ขอขยายความการพบกันก็ไม่เชิงเป็นการติดต่อจากเพื่อนมากกว่า คงจะงง? ละซิเมื่อกี่ยังบอกไม่มีเถื่อนอยู่เลย ขอขยาย*** เพื่อนของเด็กชายมีแฟน เลยกลายมาเป็นข้ออ้างของเพื่อนเด็กชายและเพื่อนเด็กหญิงที่จะนัดมาเจอกันแต่พาเพื่อนมาด้วย เลยจับคู่ให้ซะเลย เด็กชายซึ่งอ่อนต่อโลก(มั้ง) คงเป็นธรรมดา ก่อเกิดเป็นความสัมพันลึกซึ้ง กับเด็กหญิง แต่ด้วยความที่เด็กชายไม่ประสา ก็คบๆเลิกๆ กับเด็กหญิง จนเด็กชายเรียนสำเร็จวิชาเชี่ยวชาญด้วย อิเล็กทรอนิก ก็เข้า กทม.. เมืองที่หลายคนเรียกว่าเมืองสวรรค์ และแล้วเด็กชายก็กลับมาคุยกับเด็กหญิงอีกครั้ง หลังจากเลิกร้างกันไป การกลับมาพบในครั้งนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่กำลัง จะได้รับรู้ถึงความอัปยศ ศักดิ์ศรี ความภูมิใจ ความละอาย บาป ความโกรษ การให้อภัย และความจริงทั้งปวงของคำว่า การใช้ชีวิต!!!...
เดี๋ยวมาต่อ***