“ทรัมป์” ประกาศตั้งลูกเขย “เจเร็ด คุชเนอร์” เป็นที่ปรึกษาอาวุโสทำเนียบขาว






        เอเอฟพี - โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศแต่งตั้ง เจเร็ด คุชเนอร์ สามีของ อีแวนกา ทรัมป์ เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) ถือเป็นการตกรางวัลใหญ่ให้แก่ “ลูกเขย” ผู้เป็นมันสมองให้แก่แคมเปญหาเสียงของเขา แม้จะเสี่ยงเผชิญข้อครหาด้านจริยธรรมและกฎหมายก็ตาม
               คุชเนอร์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของนิตยสารซึ่งกำลังจะมีอายุครบ 36 ปีในวันนี้ (7) จะกลายเป็นเจ้าหน้าที่อายุน้อยที่สุดในรัฐบาลทรัมป์ โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ไรน์ซ พรีบัส ว่าที่ประธานคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว และ สตีฟ แบนนอน หัวหน้าทีมยุทธศาสตร์


       
       “เจเร็ด เป็นทรัพย์สินที่มีค่า เป็นที่ปรึกษาที่ผมไว้วางใจได้ตลอดการหาเสียงและช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ผมภูมิใจที่จะได้เขามาเป็นผู้นำอีกคนในรัฐบาลของผม” ทรัมป์ แถลง
               การอวยตำแหน่งให้ลูกเขยตัวเองครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 2 วัน ก่อนที่ ทรัมป์ จะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ซึ่งคาดว่าจะมีการชี้แจงแนวทางดำเนินธุรกิจในอนาคต รวมไปถึงวิธีหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อน ในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาว


       
       คุชเนอร์ ซึ่งสมรสกับบุตรสาวคนโตของ ทรัมป์ เป็นผู้วางยุทธศาสตร์การหาเสียงที่เน้นส่งสารให้เหมาะแก่กลุ่มผู้ฟัง และใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือเข้าถึงฐานเสียงชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
               ทีมเปลี่ยนผ่านของทรัมป์ ระบุว่า คุชเนอร์ซึ่งมีทรัพย์สินรวมของบิดามารดาและน้องชายราว 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามการประเมินของนิตยสารฟอร์บส์ จะขอทำงานในรัฐบาลชุดใหม่โดยไม่รับเงินเดือน


       
       ประกาศของทรัมป์ไม่ได้อ้างอิงถึงกฎหมายว่าด้วยการเอื้อประโยชน์พวกพ้อง (nepotism) หรือผลประโยชน์ทับซ้อนอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่ง คุชเนอร์ ก็ได้จ้างทีมกฎหมายมาคอยดูแลเรื่องนี้แล้ว



เจเร็ด คุชเนอร์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์วัย 37 ปี

        หลังเกิดกรณีที่ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี แต่งตั้งน้องชายเป็นรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ก็ได้มีการออกกฎหมายรัฐบาลกลางห้ามประธานาธิบดีว่าจ้างญาติมิตรของตนเอง
       
       เนื่องจาก คุชเนอร์ มีความเกี่ยวดองกับว่าที่ประธานาธิบดีโดยตรง ทีมที่ปรึกษาของทรัมป์จึงใช้เวลาหลายสัปดาห์หารือกันว่า การอวยตำแหน่งในทำเนียบขาวให้แก่เขาน่าจะปลอดภัยมากกว่าตำแหน่งรัฐมนตรี
       
       อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สได้เตือนถึงเรื่อง “ดงจริยธรรม” (ethical thicket) ที่ คุชเนอร์ จะต้องฝ่าฟัน ระหว่างทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่พ่อตาในเรื่องนโยบายที่อาจกระทบถึงธุรกิจของเขาเอง
       
       ภายใต้การบริหารของนักธุรกิจหนุ่มรายนี้ กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ คุชเนอร์ คอมปะนีส์ ได้ทำธุรกรรมการเงินเป็นมูลค่ากว่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีรายได้ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ตามข้อมูลจากเว็บไซต์บริษัท
       
       ทนายของคุชเนอร์ยืนยันว่า เขาจะลาออกจากการเป็นซีอีโอ และพร้อมที่จะ “สละทรัพย์สินบางส่วน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย”
       
       “คุณคุชเนอร์ตั้งใจจะปฏิบัติตามกฎหมายจริยธรรมของรัฐ และเราได้ปรึกษาหารือกับสำนักงานจริยธรรมแห่งรัฐบาล (Office of Government Ethics) แล้วว่าควรจะดำเนินการอย่างไรบ้าง” เจมี โกเรลิก ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรมในรัฐบาล บิล คลินตัน แถลง
       
       ทั้งนี้ มีรายงานว่า คุชเนอร์ กับภรรยาและลูกอีก 3 คนได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งตั้งอยู่ในย่านเดียวกับบ้านที่ครอบครัวของประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะพำนักอยู่ในช่วงที่ มาเลีย บุตรสาวคนเล็ก ยังไม่จบไฮสกูล




http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000002794
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่