อ่านข่าวนี้แล้ว น้ำตาจะไหล... เหตุการณ์แบบนี้มีให้เห็นเรื่อย ๆ
จะด้วยด้วยความชุ่ย หรือความจงใจของพนักงานสอบสวน ที่ต้องการปิดคดีไวๆ หรือเพื่อช่วยเหลือคนผิดที่มีเส้นสายและร่ำรวย
..มันได้ทำลายชีวีตคนหลายคน เพื่อช่วยคนผิดแค่คนเดียว..
บ้านเมืองวุ่นวายทุกวันนี้เพราะเจ้าหน้าที่รัฐ ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่สิ่งที่ควรทำและเป็นหน้าที่ กลับไม่ทำ... ......................................................
.................................................................................................
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายนิธิต ภูริคุปต์ เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนกรณีของ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร ภายหลังถูกศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี 2 เดือน ในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต เหตุเกิดเมื่อปี 2548 และถูกจำคุกตั้งแต่เมื่อปี 56 ก่อนได้รับอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 โดยกรณีดังกล่าว ล่าสุด ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯได้เข้าไปช่วยเหลือจนสามารถนำพยานหลักฐานใหม่มายื่นต่อศาลและศาลสั่งให้รื้อฟื้นคดีใหม่ เนื่องจาก นางจอมทรัพย์ ยืนยันขณะเกิดเหตุตนอยู่กับครอบครัวที่บ้าน ซึ่งอยู่ที่ จ.สกลนคร แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ จ.นครพนม ภายหลังเจ้าหน้าที่สามารถสอบสวนหาพยานหลักฐานใหม่ ที่แสดงให้เห็นนางจอมทรัพย์ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด เพราะสามารถติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุตัวจริง ที่เป็นผู้ให้การยอมรับสารภาพต่อศาลว่า เป็นคนกระทำผิดจริง โดยผู้ก่อเหตุตัวจริงเป็นบุคคลที่มีฐานะทำให้ศาลเชื่อได้ว่าไม่ได้เป็นการรับจ้างมารับผิดแทน
...นางจอมทรัพย์ กล่าวว่า ตนถูกจำคุกนาน 1 ปี 6 เดือน อยู่ที่เรือนจำจังหวัดนครพนม ก่อนหน้านี้เคยรับราชการเป็นครูมา 31 ปี หลังออกจากเรือนจำยังไม่สามารถกลับเข้ารับราชการได้ แม้จะได้ยื่นเรื่องขอกลับเข้ารับราชการไว้กับสำนักงานเขตการศึกษาฯในพื้นที่ เนื่องจากต้องรอคำพิพากษาของศาล ว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับชีวิตครอบครัวและบุคคลรอบข้าง โดยเฉพาะครอบครัว เพราะตนถือเป็นเสาหลัก ทำให้ลูกชายไม่ได้เรียนหนังสือไปหนึ่งคน ขณะที่คนรอบข้างที่เคยนับถือในฐานะครูก็น้อยลง แต่ตนยืนยันจะเผชิญหน้ากับปัญหาทั้งหมด เพื่อให้เป็นตัวอย่างกับสังคม ทั้งในฐานะครูและผู้ที่ถูกจำคุกโดยไม่ได้กระทำผิดต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้อง..
... อ่านต่อที่ :
http://www.dailynews.co.th/regional/547753
++อีกกี่ชาติ "แพะ"ถึงจะหมดไปจากประเทศไทย+++
จะด้วยด้วยความชุ่ย หรือความจงใจของพนักงานสอบสวน ที่ต้องการปิดคดีไวๆ หรือเพื่อช่วยเหลือคนผิดที่มีเส้นสายและร่ำรวย
..มันได้ทำลายชีวีตคนหลายคน เพื่อช่วยคนผิดแค่คนเดียว..
บ้านเมืองวุ่นวายทุกวันนี้เพราะเจ้าหน้าที่รัฐ ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่สิ่งที่ควรทำและเป็นหน้าที่ กลับไม่ทำ... ......................................................
.................................................................................................
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายนิธิต ภูริคุปต์ เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนกรณีของ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร ภายหลังถูกศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี 2 เดือน ในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต เหตุเกิดเมื่อปี 2548 และถูกจำคุกตั้งแต่เมื่อปี 56 ก่อนได้รับอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 โดยกรณีดังกล่าว ล่าสุด ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯได้เข้าไปช่วยเหลือจนสามารถนำพยานหลักฐานใหม่มายื่นต่อศาลและศาลสั่งให้รื้อฟื้นคดีใหม่ เนื่องจาก นางจอมทรัพย์ ยืนยันขณะเกิดเหตุตนอยู่กับครอบครัวที่บ้าน ซึ่งอยู่ที่ จ.สกลนคร แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ จ.นครพนม ภายหลังเจ้าหน้าที่สามารถสอบสวนหาพยานหลักฐานใหม่ ที่แสดงให้เห็นนางจอมทรัพย์ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด เพราะสามารถติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุตัวจริง ที่เป็นผู้ให้การยอมรับสารภาพต่อศาลว่า เป็นคนกระทำผิดจริง โดยผู้ก่อเหตุตัวจริงเป็นบุคคลที่มีฐานะทำให้ศาลเชื่อได้ว่าไม่ได้เป็นการรับจ้างมารับผิดแทน
...นางจอมทรัพย์ กล่าวว่า ตนถูกจำคุกนาน 1 ปี 6 เดือน อยู่ที่เรือนจำจังหวัดนครพนม ก่อนหน้านี้เคยรับราชการเป็นครูมา 31 ปี หลังออกจากเรือนจำยังไม่สามารถกลับเข้ารับราชการได้ แม้จะได้ยื่นเรื่องขอกลับเข้ารับราชการไว้กับสำนักงานเขตการศึกษาฯในพื้นที่ เนื่องจากต้องรอคำพิพากษาของศาล ว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับชีวิตครอบครัวและบุคคลรอบข้าง โดยเฉพาะครอบครัว เพราะตนถือเป็นเสาหลัก ทำให้ลูกชายไม่ได้เรียนหนังสือไปหนึ่งคน ขณะที่คนรอบข้างที่เคยนับถือในฐานะครูก็น้อยลง แต่ตนยืนยันจะเผชิญหน้ากับปัญหาทั้งหมด เพื่อให้เป็นตัวอย่างกับสังคม ทั้งในฐานะครูและผู้ที่ถูกจำคุกโดยไม่ได้กระทำผิดต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้อง..
... อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/regional/547753