[SR] เล่าประสบการณ์เปลี่ยนขดลวดจานไฟ Suzuki V-Strom 650

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา ได้รับ ข้อความทาง line จากศูนย์บริการบ้านซูซูกิหาดใหญ่

เพิ่งจะทราบว่าอะไหล่ดังกล่าวมีปัญหาจนซูซูกิต้องเรียกเปลี่ยนทุกคัน

หลังจากปล่อยจนข้ามปี วันนี้งานไม่รัดตัวมากจึงขอเจ้านายเลิกงานเร็วซักหน่อย จะได้เอาเจ้าคันเก่งเข้าศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนอะไหล่

จากการพูดคุยกับช่าง ทราบว่าจริงๆแล้วอะไหล่ขดลวดจานไฟที่ใส่ใน V-Strom 650 ไม่เคยเกิดปัญหาขึ้นในประเทศไทย(อันนี้ฟังจากช่าง) แต่ทางซูซูกิญี่ปุ่นตรวจพบว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหา ในกรณีที่ลูกค้านำรถไปต่ออุปกรณ์เสริมที่ใช้กำลังไฟสูง เช่น  Fog lamp หรือ Sport light จำนวนหลายชุด ซึ่งทำให้ขดลวดจานไฟเกิดความร้อนมากกว่าปกติ ซึ่งถ้าใช้งานรถในเมืองหนาวก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้านำมาใช้งานในเมืองร้อนถึงร้อนมากแบบประเทศไทยอาจเจอปัญหาฉนวนที่เคลือบขดลวดละลายจนขดลวดถึงกันจนลัดวงจรได้ ทางซูซูกิญี่ปุ่นจึงปรับปรุงคุณสมบัติฉนวนให้ดีขึ้นหนาขึ้น และเรียกกลับ V-Strom 650 ที่จำหน่ายในประเทศไทยทุกคันเข้ามาเปลี่ยนขดลวดจานไฟ

ขดลวดอันเก่าที่ถอดออกมา สภาพภายนอกสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่มีร่องรอยว่าฉนวนจะละลายหรือชำรุดให้เห็น แม้รถจะถูกใช้งานมาสมบุกสมบันพอสมควร (ข้อมูลรถและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เพิ่ม จะบอกที่ท้ายกระทู้ครับ)

ส่วนขดลวดจานไฟชุดใหม่ ลักษณะภายนอกก็เหมือนๆกับอันเก่า แต่ฉนวนที่เคลือบหนากว่าอย่างชัดเจน ภาพนี้เป็นขดลวดจานไฟอันใหม่ที่จะเปลี่ยนใส่

สิ่งที่เพิ่งรู้คือการเปลี่ยนอะไหล่ตัวนี้ต้องเปิดฝาครอบเครื่องยนต์ด้านซ้ายออก เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และปะเก็นฝาครอบเครื่องยนต์ ซึ่งช่างต้องเบิกอะไหล่ใหม่



ตอนนี้เริ่มร้อนๆหนาวแล้วสิครับเพราะเพิ่งเอารถเข้าศูนย์เช็คระยะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ใช้มายังไม่ถึง 500 กม. ผมไม่ยอมแน่ถ้าต้องมาจ่ายค่าน้ำมันเครื่องอีกรอบ นึงสงสัยในใจทำไมช่างไม่แจ้งกันก่อน ถ้ารู้จะได้เข้ามาพร้อมเช็คระยะครั้งถัดไป หลังจากสอบถามถึงได้ทราบว่าอะไหล่ทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ถ้าลูกค้ามาเปลี่ยนขดลวดจานไฟพร้อมกับรอบเช็คระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ก็ไม่ต้องเสียค่าน้ำมันเครื่อง เป็นการลดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าไปอีก

จุด Peak ของเรื่องมันอยู่ตรงที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเลยนี่แหละครับ แนะนำว่าท่านใดใช้รถรุ่นนี้อยู่ ให้ลองตรวจสอบกับศูนย์บริการที่ใช้บริการอยู่ และเข้าไปเปลี่ยนขดลวดพร้อมกับเช็คระยะไปเลย เหมือนได้ลดค่าน้ำมันเครื่องไปในตัว

สำหรับผม ยอมรับว่ามาตรฐานการเรียกคืนแบบนี้ไม่คิดว่าจะเจอในรถที่จำหน่ายในประเทศไทย(ถ้าค่ายไหนเคยทำแต่ผมไม่รู้ต้องขออภัยด้วยครับ แนะนำกันได้ครับ) เท่าที่เจอมาคือ
   1.ถ้าเจอข้อผิดพลาดจากการผลิตหรือออกแบบ จะปิดข่าวและให้ลูกค้าใช้ไปก่อน จนเจอกันเยอะๆ(โดนด่าเยอะๆ)ค่อยออกมาแก้ปัญหาให้
   2.กล่าวโทษลูกค้าว่าไปทำโน่นแต่งนี่จนรถมีปัญหา ใช้รถผิดประเภทหรือขับขี่ไม่ถูกต้อง รอจนมีรถเดิมๆขับขี่ปกติพังให้ดูก่อนหลายคัน จึงค่อยออกมายอมรับและแก้ไข
   3.ถ้ามีการเปลี่ยนอะไหล่ลักษณะนี้ ลูกค้าจะต้องจ่ายค่าอะไหล่สิ้นเปลืองเอง เช่น น้ำมันเครื่อง หรือปะเก็น ศูนย์จะดูแลเฉพาะอะไหล่หลักและค่าแรงช่าง
   4.ในประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศ ผู้ใช้รถต้องรวมพลังไปเรียกร้องเอาเอง จึงจะยอมแก้ไข  

มาตรการเรียกคืนแบบนี้ไม่ค่อยเห็นในประเทศไทย แต่ทางยุโรป ญี่ปุ่น หรืออเมริกา อาจเห็นจนเป็นเรื่องปกติ ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้รับสิทธิ์นั้นเหมือนลูกค้าในประเทศที่พัฒนาแล้ว ยอมรับว่ารู้สึกดีมากๆ จนต้องเอามาบอกต่อ


เสร็จเรียบร้อย สรุปงานนี้ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไม่มีค่าใช้จ่าย เสียดายแค่น้ำมันเครื่องเก่าที่ยังไม่ถึงอายุเปลี่ยนแต่ต้องเปลี่ยน และรู้สึกดีที่ถึงแม้ตัวรถจะหมดเวลารับประกัน 2 ปีไปแล้ว ก็ยังตามมาดูแลกันอยู่ ผมแอบหวังว่าซูซูกิจะรักษามาตรฐานแบบนี้ได้ตลอดไปนะครับ ลูกค้าเก่าจะได้อยากอยู่กันไปนานๆ ได้ลูกค้าใหม่จากปากต่อปาก และด้วยพื้นฐานรถที่ได้ชื่อว่าดีและถึกอยู่แล้ว น่าจะฉุดยอดขายให้กลับมาสู้กับค่ายอื่นๆได้ซักที

ข้อมูลรถ Suzuki V-Strom 650 อายุ 2 ปี 4 เดือน ไมล์รถ 84,xxx กม. เข้าศูนย์ตามระยะ ไม่เคยมีปัญหาจุกจิก หรือรถเสียกลางทาง อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดตั้งเพิ่มเติม ได้แก่ Fog lamp 55 W 2 ดวง, GPS Garmin และ กล้องติดรถ SJ4000 ศูนย์บริการบ้านซูซูกิหาดใหญ่
ชื่อสินค้า:   Suzuki V-Strom 650
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่