หลังจากเสียศูนย์ เสียตัง เสียหุ่น กับการเที่ยวปีใหม่รัวๆ กินหนักๆ (แถมเลี่ยน) อาหารจีนแทบทุกมื้อตลอดสี่วัน น้ำหนักขึ้นมาไม่ต่ำกว่าสามโลแล้ว
กลับมาไทยวันแรกก็เกิดอาหารอยากทานอาหารร้านโปรดขึ้นมากะทันหัน
เป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยน อยู่ในซอยสุขุมวิท 27 ตรงเข้าไปแยกตัว T เลี้ยวขวา จะเห็นร้านอยู่ซ้ายมือค่ะ
หน้าร้านไม่ได้ถ่ายไว้ ขอยืมรูปหน้าร้านมาจากอินเตอร์เนตนะคะ

ร้านมีที่นั่งไม่เยอะ เป็นร้านเล็กๆ แต่การตกแต่งดูหรู เป็นสัดเป็นส่วน น่านั่งมากๆ
อ้อ ที่จอดรถเป็น Valet parking นะคะ เพราะงั้นถึงร้านจะมีที่จอดรถน้อย แต่ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
พอเข้ามาในร้านพนักงานก็จะเอาเมนูมาให้
ส่วนตัวเราไม่เคยสั่งจากเมนูใหญ่เลย เพราะไปทุกครั้งจะเลือกเป็น Surprising เมนูตลอด เป็นเมนูแบบให้เชฟจัดมาให้เอง
เชฟจะเข้ามาถามเราว่าอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม หรือแล้วแต่เชฟ
เราตอบว่าไม่ ให้เชฟเลือกให้เลย เค้าบอกว่าจำได้เรามาทานบ่อยแล้ว เค้าจะเลือกทำเมนูที่เรายังไม่เคยทาน
เชฟถามว่าแพ้อาหาร หรือไม่ทานอาหารอะไรรึเปล่า เราบอกไปว่า ชนะหมดดด จัดมาเลยค่ะ
เค้าถามว่าทานเนื้อได้ไหม เราบอกว่าได้
เชฟพูดภาษาอังกฤษนะคะ เราก็ไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ศัพท์ง่ายๆพอฟังรู้เรื่องก็ดำน้ำกันไป

อันนี้เมนูกับราคา

เราเลือกเป็นแบบ 5 courses 1,990 ++
เมนูแรกที่มาเสิร์ฟจะเป็นขนมกรุบกรอบทานเล่นระหว่างรออาหาร

จากนั้นก็ตามมาด้วยขนมปังแบบต่างๆ

ส่วนอย่างแรกที่เชฟนำมาเสิร์ฟด้วยตัวเองคือครัวซองค์ข้างในเป็น ricotta cheese
ข้างๆเป็นแคนตาลูป โรยด้วยพาม่าแฮม ที่เหมือนจะเข้ากันไม่ได้ แต่พอลองท่านแล้ว ..
อร่อย!

ต่อมาเป็นไอศครีม parmesan cheese อันนี้อร่อยมากกกกก จนรู้สึกว่าให้มาน้อยไป

และก็มาถึงเมนูเนื้ออ เป็นเนื้อลูกวัวดิบ ท็อปไข่กุ้ง มีไข่แดง(ไข่ไก่)อยู่ด้านบน โรยด้วยวุ้นเส้นทอดและซอสที่ทำจากมะเขือเทศ

ต่อมาเป็น pigeon liver หรือว่าตับนกพิราบ ข้างล่างเป็นขนมปังแผ่นเหลี่ยมเล็กๆ มีกลิ่นชีสเข้มๆ โรยด้วยเกล็ดสตอเบอรี่ และ ซอสบีทรูท

ตามมาด้วยเมนูพาสต้าที่เชฟบอกว่าคุณจะไม่เคยเจอที่ไหนเพราะหาทานยากมาก ไม่ใช่โฮมเมท แต่เป็นพาสต้าที่คุณภาพดีที่สุด ใช้เวลาทำให้สุกนานประมาณ 20-25 นาที ข้างบนเป็นหัวหอม ชีส และ ซอสมะเขือเทศ
แต่เมนูนี้เราไม่รู้สึกประทับใจอะไรเบอร์นั้น เราว่าเส้นพาสต้ามันแข็งๆแห้งๆ ไปนิดนึง หรือเป็นเพราะว่าเราไม่เคยทานพาสต้าแนวนี้มาก่อนก็ไม่รู้

ต่อมาเป็นเนื้อลูกหมูสามชั้น เอ้ะ ทำไมมีแต่ลูก จานก่อนลูกวัว จานนี้ลูกหมู ฮ่าๆๆ
อันนี้เชฟบอกว่าใช้ไฟอ่อนๆในการทำให้สุก ใช้เวลาถึง 19 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ส่วนรสชาติต้องบอกว่า อร่อยสมกับเวลาา เนื้อหมูนุ่มละมุนมากกก
ข้างๆตัดเลี่ยนด้วย apple puree

ท้ายๆแล้วแก้เลี่ยนด้วย pre dessert
เป็นโยเกิร์ตโฟมกับเกล็ดช็อกโกแลตที่เวลาทานจะแตกแป๊ะๆๆ ในปาก เหมือนขนมที่เราเคยทานตอนเด็กๆ
ก้นถ้วยมีผงกาแฟโรยอยู่นิดโหน่ย เป็นอีกหนึ่งเมนูโปรด ที่มาเมื่อไหร่จะได้ทานทุกครั้ง

ต่อมาของหวานเป็นฮาเซนัสเค้กช็อกโกแลตและครีมบูเล่กาแฟ

และนี่
ปิดท้ายด้วยเลม่อนเชลโล่ช่วยย่อย ทำให้อิ่มสบายท้อง
เลม่อนเชลโล่ที่นี่ไม่ได้ทำเอง เชฟบอว่าสั่งมาขวดนึงแพงมาก รับรองว่าได้มาตรฐาน
เราคิดว่าของที่นี่ค่อนข้างแรง ทานแล้วสบายท้อง กลิ่นขึ้นจมูกนิดๆ จิบหลังมื้อหนักๆแล้วรู้สึกดี

อันนี้ค่าเสียหายทั้งหมด

บ้ายบายยยยยยย กู้ดไนท์ทุกคน
[CR] [CR][CR]Enoteca มื้อสุดท้ายก่อนทวงหุ่นคืน!!
กลับมาไทยวันแรกก็เกิดอาหารอยากทานอาหารร้านโปรดขึ้นมากะทันหัน
เป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยน อยู่ในซอยสุขุมวิท 27 ตรงเข้าไปแยกตัว T เลี้ยวขวา จะเห็นร้านอยู่ซ้ายมือค่ะ
หน้าร้านไม่ได้ถ่ายไว้ ขอยืมรูปหน้าร้านมาจากอินเตอร์เนตนะคะ
ร้านมีที่นั่งไม่เยอะ เป็นร้านเล็กๆ แต่การตกแต่งดูหรู เป็นสัดเป็นส่วน น่านั่งมากๆ
อ้อ ที่จอดรถเป็น Valet parking นะคะ เพราะงั้นถึงร้านจะมีที่จอดรถน้อย แต่ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
พอเข้ามาในร้านพนักงานก็จะเอาเมนูมาให้
ส่วนตัวเราไม่เคยสั่งจากเมนูใหญ่เลย เพราะไปทุกครั้งจะเลือกเป็น Surprising เมนูตลอด เป็นเมนูแบบให้เชฟจัดมาให้เอง
เชฟจะเข้ามาถามเราว่าอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม หรือแล้วแต่เชฟ
เราตอบว่าไม่ ให้เชฟเลือกให้เลย เค้าบอกว่าจำได้เรามาทานบ่อยแล้ว เค้าจะเลือกทำเมนูที่เรายังไม่เคยทาน
เชฟถามว่าแพ้อาหาร หรือไม่ทานอาหารอะไรรึเปล่า เราบอกไปว่า ชนะหมดดด จัดมาเลยค่ะ
เค้าถามว่าทานเนื้อได้ไหม เราบอกว่าได้
เชฟพูดภาษาอังกฤษนะคะ เราก็ไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ศัพท์ง่ายๆพอฟังรู้เรื่องก็ดำน้ำกันไป
อันนี้เมนูกับราคา
เราเลือกเป็นแบบ 5 courses 1,990 ++
เมนูแรกที่มาเสิร์ฟจะเป็นขนมกรุบกรอบทานเล่นระหว่างรออาหาร
จากนั้นก็ตามมาด้วยขนมปังแบบต่างๆ
ส่วนอย่างแรกที่เชฟนำมาเสิร์ฟด้วยตัวเองคือครัวซองค์ข้างในเป็น ricotta cheese
ข้างๆเป็นแคนตาลูป โรยด้วยพาม่าแฮม ที่เหมือนจะเข้ากันไม่ได้ แต่พอลองท่านแล้ว ..
อร่อย!
ต่อมาเป็นไอศครีม parmesan cheese อันนี้อร่อยมากกกกก จนรู้สึกว่าให้มาน้อยไป
และก็มาถึงเมนูเนื้ออ เป็นเนื้อลูกวัวดิบ ท็อปไข่กุ้ง มีไข่แดง(ไข่ไก่)อยู่ด้านบน โรยด้วยวุ้นเส้นทอดและซอสที่ทำจากมะเขือเทศ
ต่อมาเป็น pigeon liver หรือว่าตับนกพิราบ ข้างล่างเป็นขนมปังแผ่นเหลี่ยมเล็กๆ มีกลิ่นชีสเข้มๆ โรยด้วยเกล็ดสตอเบอรี่ และ ซอสบีทรูท
ตามมาด้วยเมนูพาสต้าที่เชฟบอกว่าคุณจะไม่เคยเจอที่ไหนเพราะหาทานยากมาก ไม่ใช่โฮมเมท แต่เป็นพาสต้าที่คุณภาพดีที่สุด ใช้เวลาทำให้สุกนานประมาณ 20-25 นาที ข้างบนเป็นหัวหอม ชีส และ ซอสมะเขือเทศ
แต่เมนูนี้เราไม่รู้สึกประทับใจอะไรเบอร์นั้น เราว่าเส้นพาสต้ามันแข็งๆแห้งๆ ไปนิดนึง หรือเป็นเพราะว่าเราไม่เคยทานพาสต้าแนวนี้มาก่อนก็ไม่รู้
ต่อมาเป็นเนื้อลูกหมูสามชั้น เอ้ะ ทำไมมีแต่ลูก จานก่อนลูกวัว จานนี้ลูกหมู ฮ่าๆๆ
อันนี้เชฟบอกว่าใช้ไฟอ่อนๆในการทำให้สุก ใช้เวลาถึง 19 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ส่วนรสชาติต้องบอกว่า อร่อยสมกับเวลาา เนื้อหมูนุ่มละมุนมากกก
ข้างๆตัดเลี่ยนด้วย apple puree
ท้ายๆแล้วแก้เลี่ยนด้วย pre dessert
เป็นโยเกิร์ตโฟมกับเกล็ดช็อกโกแลตที่เวลาทานจะแตกแป๊ะๆๆ ในปาก เหมือนขนมที่เราเคยทานตอนเด็กๆ
ก้นถ้วยมีผงกาแฟโรยอยู่นิดโหน่ย เป็นอีกหนึ่งเมนูโปรด ที่มาเมื่อไหร่จะได้ทานทุกครั้ง
ต่อมาของหวานเป็นฮาเซนัสเค้กช็อกโกแลตและครีมบูเล่กาแฟ
และนี่
ปิดท้ายด้วยเลม่อนเชลโล่ช่วยย่อย ทำให้อิ่มสบายท้อง
เลม่อนเชลโล่ที่นี่ไม่ได้ทำเอง เชฟบอว่าสั่งมาขวดนึงแพงมาก รับรองว่าได้มาตรฐาน
เราคิดว่าของที่นี่ค่อนข้างแรง ทานแล้วสบายท้อง กลิ่นขึ้นจมูกนิดๆ จิบหลังมื้อหนักๆแล้วรู้สึกดี
อันนี้ค่าเสียหายทั้งหมด
บ้ายบายยยยยยย กู้ดไนท์ทุกคน