[CR] ไปเที่ยว Tottori กันเถอะ (ตอนที่ 2)

กระทู้รีวิว
สวัสดีครับ กลับมาพบกับตอน 2 (และเป็นตอนสุดท้าย 555+) ของ "ไปเที่ยว Tottori กันเถอะ"
หลังจากที่เราได้พาทุกท่านไปกินปู ดูอารยธรรมผีน้อยมาแล้วในตอนที่ 1
ตอนนี้ เราจะพาทุกท่านไปชม "มิวเซียมภาพถ่าย ท่องทะเลทราย ถิ่นดี Curry สีชมพู"
(*ไม่สามารถพิมพ์ Curry เป็นภาษาไทยได้ ขออภัยครับ)

ปล. ขอฝากเพจหลักของเราในเฟซบุ๊คด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/TGTvacation

========================================
อ้างอิง:
ตอนที่ 1 แหล่งปูดี อารยธรรมผีน้อย
https://pantip.com/topic/35973479

ตอนที่ 2 มิวเซียมภาพถ่าย ท่องทะเลทราย ถิ่นดี Curry สีชมพู
https://pantip.com/topic/35978168

========================================


จากแผนที่ข้างล่าง ผมจะพาทุกท่านไปยัง 4 จุดหลักๆ ครับ

ในช่วงเช้า เราจะพาทุกท่านไปชม "พิพิธภัณฑ์ศิลปะภาพถ่ายโชจิ อุเอดะ" (Shoji Ueda Museum of Photography)
เป็นอีกที่นึงที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนมาเที่ยว ถึงแม้จะเดินทางลำบาก แต่ก็คุ้มค่าแก่การมา
ขอบอกเลย ว่าใช้มือถือถ่าย ยังสวยเลยครับ ♥


ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายของ โชจิ อุเอดะ ช่างภาพชื่อดังของโลก
เอาง่ายๆ เนอะ ดังขนาดมีคนสร้างตึกนี้ให้นางเลย
ภายในมีการแสดงผลงาน (ซึ่งเราเข้าไปไม่ได้ไง เค้าปิดเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี TnT ช๊อคไปเลย)





คนออกแบบเป็นสถาปนิกชื่อดัง ชื่อว่า ทาคามัตสึ ชิน (Takamatsu Shin)
เค้าสามารถออกแบบอาคารให้เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ดี โดยเฉพาะทิวทัศน์ของภูเขาไดเซ็นที่มองจากพิพิธภัณฑ์นี้ (พูดในฐานะสถาปนิก)
ข้างในตึกมีมุมสะท้อนผิวน้ำกลายเป็นภูเขา “ไดเซ็นกลับหัว” ก็สวยงามไปอีกแบบ (แต่เข้าไปไม่ได้ไง 555)
ปล.รูปนี้ใช้มือถือถ่ายนะ ยังสวยมากๆ เลย


นี่คือวิวของภูเขาไดเซ็น (น้องๆ ภูเขาไฟฟูจิเลยล่ะครับ สังเกตจากรูปทรง พี่น้องกันชัดๆ เลย)
เวลาเราเดินมาจากทางเข้าจะเห็นภูเขาไดเซ็นอยู่ไกลๆ
(น้ำตาจะไหล สวยด้วยแสบตาด้วย 555 แดดดีไปไหน)


มึมุมให้ถ่ายรูปให้แทบทุกจุดจริงๆ ครับ



ช่างเป็นทำเลที่ดีมากๆ พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่หน้าด้านภูเขา ฮวงจุ้ยดีสุดๆ ครับ


เดินลงมาอีกตรงพื้นข้างหน้าตึก ก็เท่ไปอีกแบบ



ถ่ายรูปรวมกันหน่อย #TGTvacation

สรุปภาคเช้าวันนี้ เราเดินทางจากสถานีรถไฟ Sakaiminato มาสถานีรถไฟ Yonago ใช้เวลาประมาณชั่วโมง
แล้วนั่งรถมาที่พิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายของ โชจิ อุเอดะ อีกประมาณ 20 นาที ไม่เสียค่าน้ำมันเพราะยังไม่หมด
ค่าเข้าภายในอีก 800 เยน ไม่เสียเพราะว่าปิด 3 เดือนช่วงหน้าหนาว 555+


ถ้าใครสนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามเวปข้างล่างเลย
http://www.japro.com/ueda/
http://www.houki-town.jp/p/15/2/1/15/

หลังจากนี้ เราไปลองกิน Curry สีชมพู ว้าวๆ ฟังดูก็แปลกแล้ว จะเป็นยังไงน้อ ตามไปดูกันเลยครับ


สืบเนื่องมาจากคนที่นี่นิยม Curry (แกงนะจ๊ะ) บวกกับความฟรุ้งฟริ้งของเจ้าของร้าน จึงได้คิดสูตรแกง Curry นี้ขึ้นมา!!!!
เมนูนี้มีชื่อว่า แกงก Curry สีชมพู หรือ Pink curry ที่ร้าน Oenoki


ร้าน Oenoki อยู่ห่างออกจากสถานีรถไฟ Tottori ไป 7 นาที
ถ้าจะไปก็ให้ค้นหาใน Google map ชื่อร้าน Oenoki (大榎庵) นี้เลย


เซ็ทอาหารกลางวันนี้ตกอยู่ที่ 1,500 เยน เเล้วไอ้สีชมพูที่เห็น ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นสีผสมอาหารนะ
สีชมพูนี้ได้มาจากบีทรูทผสมกับมันฝรั่ง จึงได้ออกมาเป็นสีชมพูอ่อนๆ แบบนี้
พอกินไปแล้ว ก็ยังได้รสกลิ่นเสียงของแกง Curry ทั่วไป (เสียงเผ็ดร้อนของคนกินนะ 555)

รายละเอียดร้านตามนี้เลยนะครับ ต้องไปลองชิม รับรองไม่ผิดหวัง
Lunch at Oenoki 大榎庵
鳥取市大榎町3-3(旧29号沿い) ※県庁から徒歩2分
http://www.allure-ba.com/oenoki/


ทิ้งท้าย ดูป้ายหน้าร้านเอานะ กุ๊กกิ๊กหวานแหว๋วมากๆ 555
กินแล้วสวยมากจริงๆ

พอทานเสร็จ เราก็มุ่งหน้าต่อไปยังสถานที่สำคัญของจังหวัด
เป็นเนินทรายเกร๋ๆ💕 ดูจากภาพสิ (นี่ขนาดฝืนเดิน) 😬 ภาพยังออกมาดีเลย (คนก็เท่ฉากก็สวย ชมตัวเองเอาดิ)


Tottori Sand Dunes มีความกว้างประมาณ 16 กิโลเมตรและลึกไปถึงทะเลอีกประมาณ 4 กิโลเมตร กว้างมากจริงๆ
ความงามจึงอยู่ที่ทะเลทรายขนาดใหญ่ตัดกับสีน้ำทะเลและขอบของท้องฟ้า (เวิ่นมาก555)


การเดินทางไม่ยากเลย เพราะทะเลทรายมันอยู่ในเมือง ดีงามไปอีก
ข้อมูลเพิ่มเติมก็ http://www.tottori-tour.jp/th/sightseeing/125/ เลยนะครับ


เนินทรายที่นี่สีจะออกเหลืองคล้ำ ก็คล้ายๆ ทรายทะเลบางแสนนี่ละ
แต่ของเค้ามีสตอรี่เว่อร์อีกหน่อย ตรงที่มันมาจากเถ้าถ่านภูเขาไฟและเกิดจากลมทะเลพัดรวมมากองไว้เป็นเวลาแสนปี
จนกลายเป็นทรายเนินกว้างใหญ่ ปีนกันไปเลย


เค้ายกให้เนินทรายนี้สวยที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย ดูเอา สวยไหมละ
แดดแรงมากจริงๆ (แต่ไม่ร้อนเหมือนแอฟริกานะ)


มองจากเนินทรายลงมายังทะเล ชันมากเกือบตกละ
แล้วกิจกรรมที่ก็น่าสนใจนะ เช่น Sand Board, Para glider, ขี่อูฐ
ขี่อูฐ ก็คนละ 1,300 เยน, ถ่ายรูปก็คิดอีก 500 เยน ก็ยังคิดอีกเนอะ ไม่ง้อจ้า บั้ย


ความดีกว่าอูฐ ก็เป็นบ่อน้ำก่อนขึ้นเนิน เราว่าเป็น highlight อย่างนึงเลยนะ
เพราะคนไม่ค่อยสังเกต บอกเลยว่ามีความดีงามเรื่องการสะท้อนของน้ำกับทราย
คนยังไม่ค่อยลงไรแบบนี้ รีบๆลง จะได้เก๋ 555+


จะเห็นได้ว่าอากาศไม่ร้อนเลย ชุดเต็มยิ่งกว่ากงยูในเรื่อง Goblin อีก
อุณหภูมิช่วงนี้ก็ตกประมาณ 10-18 องศา ยิ่งตอนขึ้นไปจุดสูงสุดนี่ หนาวเลย แต่อุ่นใจขอบอก อิอิ
นี่ถ้ามาช่วงหน้าหนาวมกราคมที่นี่มีหิมะตกด้วย ก็คงจะได้อารมณ์อีกแบบ
ขออย่างเดียวอย่างลืมทาครีมกันแดดนะ แดดแรงมั่กๆๆๆๆ


เสร็จจากทะเลทราย เราก็มุ่งหน้าไปจุดสุดท้ายของทริปนี้กันเลยครับ นั่นคือ อุราโดเมะ

สำหรับทริปทตโตริที่ค่อนข้างจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหนือการวางแผนจริง ๆ
เพราะเรายังพอมีเวลานิดนึง แต่ด้วยความที่ไหนๆ ก็มาแล้วขอสักครึ่งชั่วโมงก็ยังดี
(สุดท้ายฟาดไปชั่วโมง คือหลงทางและอิ่มเอิ่มกับธรรมชาติที่งามเหมือนภาพวาด)
ซึ่งก็คุ้มค่ามากๆกับเวลายามเย็นที่ไปเยือน


คำแนะนำที่นี่ คือ ปกติเค้าไปกันหน้าร้อน ก็จะเห็นสาวๆหนุ่มๆ ใส่ชุดรัดรูปแบก Surfboard โต้คลื่นกันแถวนี้เป็นจุดประสงค์หลักเลย
แต่ !!! ด้วยเราไปหน้าหนาวไง (เออ -_-")


ที่นี่เลยไม่มีผู้คนเหลือ แต่เสียงของคลื่นลมกับโขดหินผาอันงดงามที่หาคำมาบรรยายไม่ได้ (เออ ก็อธิบายอยู่นี่ไง)


ส่วนการเดินทางหรอ หึๆ กลัวมากจริงๆ คือจะหลงไปไหน แนะนำว่า Google ไม่ได้ช่วยอะไรให้เดินทางได้ถูกเลย
ขอแนะนำให้เอา Map กระดาษท่องเที่ยว ที่หาได้ตามสถานีรถไฟทตโตริ หรือ International Tourist Support Center
ตรงหน้าทะเลทรายทตโตริ น่าจะไปรอดปลอดภัยกว่านะ
ส่วนการเดินทางจากตัวเมืองทตโตริเพื่อไปยังชายฝั่งอุราโดเมะ ก็ใช้เวลาประมาณ20-25นาที ไม่นับรวมเวลาหลงนะจ้า 555

สถานที่แรก จะเป็นศาลเจ้าเกร๋ๆ ที่จะมีเสาแดงอยู่บนเกาะริมชายฝั่ง


ส่วนบนฝั่งจะมีศาลเจ้าสวยๆ ให้ถ่ายรูปพอหอมปากหอมคอ ก่อนจะไปถึงชายฝั่งอุราโดเมะ


ขับไปสักสองสามแปป (คือหลง) พอเจอเกาะสวยๆ ตรงชายฝั่ง ก็รีบหาที่จอดที่มีไว้ให้ จากนั้นก็เดินสิ รอไร


ก็ลงไปตามบันไดทางอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
(ก็พูดไปเรื่อย) คือลงไปแปปเดียวครับ 55


ก็มาถึงข้างล่างชายฝั่ง เเล้วมาตะลึงกับวิวอันสวยงาม
ยามเย็นกำลังดี ที่พอให้แสงสีส้มสาดส่องเข้ามาตามช่องเขา สวยใสโรแมนติกเลยล่ะ


แล้วโขดหินพวกนี้ ก็เกิดจากภูเขาไฟแถวนี้ที่ประทุขึ้น จึงทำให้เกิดโขดหินต่างๆ ขึ้นมาตามทะเล
ยาวไปถึงเกียวโตเลยนะ (ระยะประมาณเกือบ 200กิโลเมตร ที่เกียวโดก็เกิดเกาะรูปมังกรชื่อ Amanohashidate สวยมากๆ ไว้วันหลังจะมารีวิวให้นะ)


ที่นี่สวยจนคนเค้าสรรเสริญเชิดชู ชายฝั่งอุราโดเมะให้เป็นชายฝั่งที่มีทิวทัศน์งดงามที่สุดของญี่ปุ่นในปี 1927
ที่เป็นส่วนนึงของ San’in Kaigan Geopark อีกด้วยละ


ที่นี่ยังมีกิจกรรมล่องเรือชมชายฝั่งด้วย ข้อมูลเพิ่มเติมตามlinkข้างล่างเลยคร้าบ
http://www.talonjapan.com/uradome-coast/

จบแล้วนะครับ สำหรับทตโตริ
คราวหน้าเราจะนำเสนอสถานที่ดีๆ Vacation เกร๋ๆ ให้ทุกคนได้ชมกันอีก
ขอบคุณสำหรับการติดตาม กราบงามๆ สามที สวัสดีปีใหม่ 2017 จ้า

แล้วไปตามต่อที่เพจหลักของเราได้ที่
https://www.facebook.com/TGTvacation
ชื่อสินค้า:   Tottori, Japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่