เริ่มกันที่แก๊งค์เพื่อนเรามันจัดทริปปีนเขากันทุกปี ในช่วงวันพ่อ เพราะเป็นหยุดยาว ซึ่งปีก่อนๆเราติดภารกิจไม่ได้ไป ปีนี้เลยเป็นปีแรกที่เราไปด้วย ซึ่งก็เริ่มที่เขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ตามที่มีการจัดลำดับมา เหอๆ สนุกซินะ
[บอกก่อนเลยสำหรับคนที่เข้ามาเพื่อจะดูรูปสวยๆเยอะๆ ไม่มีคะ 5555 เราถ่ายรูปยังไม่สวย ภาพที่มีคือถ่ายโดยกล้อง Olmpus ใช้ฟังชั่นจากกล้องเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีการแต่งภาพเพิ่มด้วยโปรแกรมอะไรใดๆทั้งสิ้นเพราะยังทำไม่เป็น 5555 อีกทั้งต้องบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็กสำหรับลงกระทู้ กระทู้นี้ทำขึ้นตามความรู้สึกส่วนตัวของเจ้าของกระทู้ บวกกับต้องการเก็บเป็นบันทึกการเดินทางของกลุ่มเพื่อนๆ เท่านั้น แต่ก็พอมีข้อมูลบางส่วนเพื่อให้สำหรับผู้ที่กำลังจะไปได้บ้าง]
ทริปนี้วางแผนมาตั้งแต่ต้นปี แต่สุดท้ายแล้วคนวางแผนดันเทพวกเราเพราะติดทำโปรเจคอยู่ไต้หวันคะ ดีออกกก ดังนั้นเราจะถ่ายรูปและทำทุกอย่างให้มันอิจฉาและร้องไห้อยู่คนเดียว 555 ไม่เอาคะ ไม่แกล้งเพื่อน สมาชิกร่วมอุดมการณ์เรามีด้วยกัน 17 คน ชาย 9 หญิง 8 สูสีกัน
ในส่วนของดอยหลวงเชียงดาวนั้นผู้ที่จะไปต้องทำการจองกับทางเขตอนุรักษ์ ล่วงหน้า 15 วัน (เบอร์โทรหาได้ตามเวบของทางดอยหลวงเชียงดาว) โดยต้องระบุจำนวนคนที่จะไป จำนวนลูกหาบที่ต้องการ (โดยลูกหาบ 1 คน จะหาบได้ 20 กิโล ) ดังนั้นให้คำนวณของที่จะนำไปดีๆ เด๋วจะโดนแบบกลุ่มเรา อ่านต่อเด๋วรู้เลย รวมถึงว่าต้องการผู้นำทางด้วยรึป่าว ซึ่งอันนี้เราไม่รู้เลยไม่ได้แจ้งไว้ พอวันเดินขึ้นดอยเราเลยไม่มีผู้นำทาง แต่ทางที่ขึ้นมันง่ายและชัดเจน บวกกับมีกลุ่มอื่นๆเดินด้วย ทำให้ไม่หลง แต่เราอาจจะไม่ได้ความรู้หรือระยะทาง หรือลักษณะทางที่จะเดิน ได้แต่คอยถามคนที่ลงเขาสวนมา หรือพวกลูกหาบ (แต่พวกลูกหาบนี่ตัวดี ถามแต่ละคน ตอบมาเหมือนแกล้ง) ต้องแจ้งทางที่จะขึ้นด้วย เนื่องจากทางขึ้นสามารถขึ้นได้ 2 ทาง
คือ 1.เด่นหญ้าขัด ทางนี้จะไกล 8.5 กม.โดยประมาณ แต่ทางจะไม่โหดมาก (เราเลือกทางนี้ด้วยที่ว่าเพื่อนๆแต่ละคนสกิลการเดินเก่งๆ ทั้งนั้น 555)
2. ปางวัว ระยะทางประมาณ 6.5 กม. ทางจะโหดกว่าเพราะชันขึ้นเขารวดเร็ว สำหรับคนที่ต้องการประหยัดเงินและเวลาก็จะขึ้นทางนี้ แต่ขาลงจะให้ลงทางเดียวคือทางปางวัวนี่แหละ เพราะรถจะมารอรับที่นี่ (ซึ่งในตอนจบทริปกลุ่มเราติดแฮชแทกเลยว่า ปางวัวแทบปางตาย 555 โหดจริง แต่บางคนเค้าบอกว่าเร็วดีเดินได้ แต่สำหรับกลุ่มเราที่สกิลการเดินขั้นเทพ แถมมีเพื่อนที่มีน้ำหนักตัวกว่า 100 กก.ทางนี้ถือว่าโหดใช้ได้)
ถามเรานะถ้าไม่รีบละก็ขึ้นเด่นหญ้าขัดจะดีกว่า วิวสวยกว่า ทางปางวัวแทบไม่มีไรเลย วิวก็ไม่ค่อยเห็น เพราะเป็นป่า พงหญ้า แต่ก็นะแล้วแต่คน ในส่วนของการขึ้นทางเด่นหญ้าขัดต้องเตรียมค่ารถสำหรับไปส่งที่ทางขึ้นอีกต่างหาก คันละ 1800 บาท กี่คันแล้วแต่จำนวนคน ของกลุ่มเรา 3 คันเนื่องจากจะต้องเผื่อในส่วนของลูกหาบและสัมภาระของ 17 ชีวิตด้วย
สำหรับคนที่ไม่ได้จองล่วงหน้า ตอนนี้เหมือนเขาจะไม่ให้ขึ้น เพราะมีการเปลี่ยนระบบ และจำกัดคนขึ้นอย่างจริงจัง
กลุ่มเราเลือกที่จะซื้อวัตถุดิบขึ้นไปทำอาหารกันเอง ซึ่งก็จะมีแบบเหมาหัวโดยที่เราไม่ต้องเอาอะไรไปเองเลย เค้าจะจัดการทำอาหารให้ทุกอย่าง แต่อย่างว่ากลุ่มเราคนเยอะ เตรียมเองทำเองสนุกดี
หรือจะเป็นอีกแบบคือจองพักกับระเบียงดาวโฮมสเตย์ ซึ่งเขาจะจัดอาหารที่พักให้รวมถึงวันที่ไปขึ้นดอยเขาจะเตรียมที่พัก อาหารให้เสร็จสรรพ เราเดินตัวปลิว ไปถึงเต๊นพร้อม อาหารพร้อม เช้ามาเขาก็พาขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น มีกาแฟให้บนดอย ลงมาก็มีอาหารรอ สบายมาก อันนี้ถามมาจากพี่ที่รู้จัก เค้าพักที่นั่นไปหลังเราวันนึงละ พี่เค้าบอกว่าดีเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวก แต่ตอนนี้มีข่าวที่จะทำการรื้อถอนอยู่เราไม่รู้ว่าปีหน้าจะยังมีอยู่รึป่าว คล้ายๆกับที่รื้อของภูทับเบิก ประมาณนั้น
เกริ่นมาซะไกลละ มาเข้าเรื่องของเราดีกว่า แผนการเดินทางของกลุ่มเราคือ เดินทางด้วยรถตู้ 2 คัน แบ่งเป็น 2 สาย ชลบุรีและ กรุงเทพ โดยสายชลบุรีจะมีแม่งานที่เตรียมวัตถุดิบและเสบียงจึงทำให้รถคันนี้เต็มไปด้วยของกิน ซึ่งเจ้าของกระทู้เองก็อยู่ในสายนี้ด้วย เดินทางคืนวันที่ 1 ถึงเชียงใหม่เช้าวันที่ 2 เดินขึ้นดอย นอน 1 คืน เช้าวันที่ 3 ดูพระอาทิตย์ขึ้นและลงจากดอยมานอนลีซูโฮมสเตย์ เช้าวันที่ 4 เดินทางกลับ
ในส่วนของการเตรียมตัวสัมภาระส่วนตัวนั้น บอกแล้วว่านี้คือครั้งแรกดังนั้น จึงอาศัยเพื่อนที่เคยไปเดินมาแล้ว มันบอกอากาศจะหนาวมากบนดอย ให้เตรียมเสื้อผ้ากันหนาวเลย heat tech ได้ยิ่งดี มีข่าวบอกว่าประมาณเลขตัวเดียว หนาวมาก น้ำค้างก็มี
ออกเดินทางจ้า ขึ้นรถก็เย็นๆละ รับเพื่อนครบก็ออกจากเขตชล 2 ทุ่มได้ หลังจากนั้นเหรอ หลับจ้า ตื่นเป็นพักๆ เพราะแอร์รถตู้หนาวมาก นี่ปรับสภาพก่อนขึ้นดอยใช่ม่ะ รู้ตัวอีกที ถึงภาคเหนือละแต่จังหวัดไรไม่รู้เพราะเจ้าของกระทู้เป็นพวกถ้าได้นอนแล้วสมองเบลอๆ รถตู้ 2 สายมาเจอกัน ประมาณตี 3 ได้ ซึ่งหนาวกันไปตามๆกัน ไม่อยากจะนึกถึงบนดอย เดินทางต่อ เรามาถึงเชียงใหม่ตอนประมาณ 6 โมงถือว่าทำเวลาได้ดี เพราะเราต้องไปที่จุดขึ้นดอยไม่เกิน 8-9 โมง
แล้วสาย-ประจำกลุ่มแนะนำว่าต้องข้าวขาหมูเจ๊พรเพ็ญเลยจ้า พากันไปจัดซิคะรออะไร ร้านเป็นแบบบ้านไม้โบราณ หลักๆก็มีข้าวขาหมู ข้าวราดแกงก็มีกับข้าวหลายอย่างเลย เราสั่งข้าวขาหมูแน่นอน ซึ่งรู้สึกว่าน้ำราดเค้าจะไม่เหมือนใครจัดกันเต็มที่เลยจร้า

ข้าวราดแกงเราไม่ได้ถ่ายมา 5555 ห้องน้ำที่นี่สะอาด อยู่หลังร้านซึ่งบรรยากาศดีมากเหมือนเค้าใช้บ้านทำร้าน เราเลยถ่ายสวนเค้ามาด้วย

ในส่วนของรสชาตินั้น ไม่ต้องบรรยาย ต้องมาลองเอง

หลังจากนั้นก็เตรียมตัวเดินทาง โดยที่แม่ครัวประจำกลุ่มได้ออกไปซื้อเสบียงของสดนิดๆหน่อย พร้อมข้าวเที่ยงของพวกเราระหว่างขึ้นเขา ระหว่างรอทีข้างๆ มีร้านขายของซึ่งน้องในกลุ่มตาดีคนนึง เห็นเข้า หมวกไหมพรมจร้า เข้าไปดูซิคะรออะไร เจ้าของกระทู้ก็จัดมาทั้งหมวกและถุงมือ ซึ่งตอนแรกตั้งใจจะสั่งเนตเพราะจะไปฮ่องกงพอดี เจอร้านนี้เข้าไปอึ้งซิคะ อึ้ง ถูกคะ ถูกมาก วัตถุดิบอาจไม่ใช่เกรดดีพรีเมี่ยม แต่กันหนาวได้ดีอยู่คะ หลังจบทริป เอาอยู่จริงๆ
8 โมงนิดๆ ถึงเขตอุทยาน เตรียมตัวแบ่งสัมภาระให้ลูกหาบ และของส่วนตัวที่จะนำขึ้นไป ช่วงนี้ก็ทะยอยทำธุระส่วนตัวกันให้เรียบร้อยก่อนที่จะตะลุยยาว จุดนี้จะมีการนับขวด กระป๋องที่นำขึ้นไปด้วยคะ เพื่อที่ขาลง เค้าจะเช็คคะ ไม่อยากให้เราไปทิ้งไว้กลางทางคะ เที่ยวแล้วเราต้องช่วยกันรักษานะคะ ไม่เป็นภาระสังคม

นี่ลูกหาบจ้า เตรียมของ

สังเกตความแตกต่างของสัมภาระชายหญิงได้ 555 ผู้หญิงจะมีหมวก มือถือและน้ำค่าาาา อยากอัพไร ล่ำลาใครรีบเลยจร้าก่อนจะไม่มีสัญญาณ
ได้เวลาขึ้นรถไปจุดสตาร์ทจ้า

รถ 3 คัน อีกคันจะเป็นลูกหาบกับสัมภาระจ้า สุดท้ายผู้หญิงไปนั่งหน้ากันหมดนะจ๊ะ แนะนำคะ ควรนั่งหน้าอย่างยิ่ง เพราะสภาพทางไม่น่าภิรมย์เท่าไร อีกอย่าง นานจ้าเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงเด่นหญ้าขัด

สภาพทางตามที่เห็นเลยจ้านี่แค่บางส่วน นะ อยากได้แบบเต็มต้องมาเอง 5555

ถึงแล้วจร้า จุดเริ่มเดิน ถ่ายรูปซะหน่อยยยย ปักหมุดมาถึงแล้ว สภาพก่อนขึ้นแต่ละคน สดใสคะ หึ ยังไม่รู้สินะต้องเจอกับอะไร

เริ่มเดินก็เห็นต้นไม้มาเต็ม อากาศดีมากๆ มีลมพัดเบาๆเ ดินได้สบายๆ โดยไม่ร้อน ทั้งที่เราออกเดินสายมากแล้วประมาณ เกือบ 11 โมง

ทางเดินช่วงแรกสบายๆ ชิวๆ ไม่ชันมาก แต่สังเกตว่าทางจะแคบ อีกข้างจะเป็นทางลาดมากๆ เกือบๆเหว คือถ้าตกลงไป คงปีนกลับมายาก

เดินไปจะเริ่มเห็นแนวเขาต่าง สวยงาม ถ่ายรูปซิคะ รออะไร ใครชอบถ่ายได้ถ่ายคะ

เดินต่อคะ

ผ่านไป 1 ชั่วโมง เที่ยงคะ เจอที่ว่างสำหรับพัก เราเลยตัดสินใจพักกินกลางวันกันก่อน ทั้งที่ยังไม่ถึงไม่ครึ่งทาง แต่ก็ควรหิวคะ ตอนเช้ากินตั้งแต่ 6 โมง แล้วก็เป็นการลดน้ำหนักที่จะแบกให้ลงไปอยู่ในท้องแทนคะ เป็นข้าวเหนียวไก่ หมูทอดธรรมดาๆ แต่มันดูอร่อยขึ้นมาจริงๆ กินเสด เก็บขยะด้วยนะคะ
ได้เวลาเดินต่อจ้า ขอไม่อธิบายไรมากลงรูปรัวๆเลย นี่จะเป็นสิ่งที่เห็นจากการเดินตลอดทาง

และในที่สุดเรามาถึงจุดครึ่งทางจ้า ถ่ายรูปซะหน่อย ครึ่งทางแล้ว ยังไหว 555555 หรา

มันจะเป็นทาง 3 แยก ซึ่งขาลง เราจะลงทางปางวัว เราก็จะมาแยกที่ตรงนี้ ซึ่งเราก็เจอคนที่ขึ้นมาทางนี้เยอะเหมือนกัน คนพักที่จุดนี้เยอะ ไปต่อจ้า หลังจากนี้ทางจะโหดขึ้นเรื่อยๆ ใครหาไม้ค้ำได้ ควรมี หรือไม่ก็ต้องมีวิชาเกาะก่ายต้นไม้เป็นอย่างดี

ทางจะเริ่มเป็นดินโคลนนิดๆ เริ่มเดินยาก จะมีการลื่นบ้างเป็นระยะ เริ่มชัน และเริ่มเหนื่อย และเริ่มพักถี่ขึ้น แต่วิวก็สวยขึ้นเรื่อยๆ

เริ่มพักแต่ก็มีแรงถ่ายรูปจ้า

วิวระหว่างทางบ้างดีกว่า

เริ่มเห็นแนวเขา ทิวเขา เรารู้สึกว่าวันนี้ฟ้าสวย เมฆใสมาก แต่ฝีมือคนถ่ายไม่ถึง เลยดึงความสวยได้ไม่เท่าไร

เริ่มสูง เริ่มเห็นว่าเรามาไกล ถ้าเห็นวิวนี้ให้รู้ไว้ว่าอีกไม่ไกล ต้องข้ามช่องเขาไปด้านหลัง แล้วเราจะเห็นที่กางเต็นท์

สภาพทางช่องเขาอารมณ์ประมาณ ป่าดิบชื้นเลยทีเดียว ทางเดินจะเป็นดินเหนียวๆเลย ลื่นมาหลายราย มีร่องรอยทิ้งไว้บ้าง
ในที่สุดก็มาถึงจุดกางเต็นท์ เย่ เย่ ดีใจได้พัก

สภาพอย่างที่เห็น พักก่อนจ้า ลูกหาบเค้าดีมากเลย ช่วยเรากางเต็นท์ด้วย กิจกรรมหลังจากนี้ ทำอาหารซิคะรออะไร หิวกันแล้ว ลูกหาบช่วยจัดแจงปูที่นั่งตรงกลางให้พวกเราด้วยคือดีมาก แล้วก็เริ่มทำอาหาร ซึ่งก็เป็นเมนูง่ายๆ ทำเสร็จก็ต้องเก็บกระป๋องและขวดน้ำไว้ให้หมดนะ

แม่ครัว พ่อครัว เพียบจ้า เจ้าของกระทู้อะเหรอ เก็บภาพอย่างเดียวเลย รอกิน 5555

มาแล้วจ้า อาหารร้อนๆ ง่ายๆ แต่อร่อยเกินคำบรรยาย “ไม่รู้ว่าถ้ากินที่ข้างล่างมันจะอร่อยอย่างนี้มั๊ย” นี่คือคำพูดที่พูดกัน แต่บนดอยสูงขนาดนี้มันอร่อยจิงๆ มีเสียงหัวเราะตลอดเลย

ไม่เหลือจ้า ด้วยความหิว
[CR] 3 วัน 2 คืน กับทริปลั่นป่าที่ดอยหลวงเชียงดาว + ลีซูโฮมสเตย์
[บอกก่อนเลยสำหรับคนที่เข้ามาเพื่อจะดูรูปสวยๆเยอะๆ ไม่มีคะ 5555 เราถ่ายรูปยังไม่สวย ภาพที่มีคือถ่ายโดยกล้อง Olmpus ใช้ฟังชั่นจากกล้องเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีการแต่งภาพเพิ่มด้วยโปรแกรมอะไรใดๆทั้งสิ้นเพราะยังทำไม่เป็น 5555 อีกทั้งต้องบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็กสำหรับลงกระทู้ กระทู้นี้ทำขึ้นตามความรู้สึกส่วนตัวของเจ้าของกระทู้ บวกกับต้องการเก็บเป็นบันทึกการเดินทางของกลุ่มเพื่อนๆ เท่านั้น แต่ก็พอมีข้อมูลบางส่วนเพื่อให้สำหรับผู้ที่กำลังจะไปได้บ้าง]
ทริปนี้วางแผนมาตั้งแต่ต้นปี แต่สุดท้ายแล้วคนวางแผนดันเทพวกเราเพราะติดทำโปรเจคอยู่ไต้หวันคะ ดีออกกก ดังนั้นเราจะถ่ายรูปและทำทุกอย่างให้มันอิจฉาและร้องไห้อยู่คนเดียว 555 ไม่เอาคะ ไม่แกล้งเพื่อน สมาชิกร่วมอุดมการณ์เรามีด้วยกัน 17 คน ชาย 9 หญิง 8 สูสีกัน
ในส่วนของดอยหลวงเชียงดาวนั้นผู้ที่จะไปต้องทำการจองกับทางเขตอนุรักษ์ ล่วงหน้า 15 วัน (เบอร์โทรหาได้ตามเวบของทางดอยหลวงเชียงดาว) โดยต้องระบุจำนวนคนที่จะไป จำนวนลูกหาบที่ต้องการ (โดยลูกหาบ 1 คน จะหาบได้ 20 กิโล ) ดังนั้นให้คำนวณของที่จะนำไปดีๆ เด๋วจะโดนแบบกลุ่มเรา อ่านต่อเด๋วรู้เลย รวมถึงว่าต้องการผู้นำทางด้วยรึป่าว ซึ่งอันนี้เราไม่รู้เลยไม่ได้แจ้งไว้ พอวันเดินขึ้นดอยเราเลยไม่มีผู้นำทาง แต่ทางที่ขึ้นมันง่ายและชัดเจน บวกกับมีกลุ่มอื่นๆเดินด้วย ทำให้ไม่หลง แต่เราอาจจะไม่ได้ความรู้หรือระยะทาง หรือลักษณะทางที่จะเดิน ได้แต่คอยถามคนที่ลงเขาสวนมา หรือพวกลูกหาบ (แต่พวกลูกหาบนี่ตัวดี ถามแต่ละคน ตอบมาเหมือนแกล้ง) ต้องแจ้งทางที่จะขึ้นด้วย เนื่องจากทางขึ้นสามารถขึ้นได้ 2 ทาง
คือ 1.เด่นหญ้าขัด ทางนี้จะไกล 8.5 กม.โดยประมาณ แต่ทางจะไม่โหดมาก (เราเลือกทางนี้ด้วยที่ว่าเพื่อนๆแต่ละคนสกิลการเดินเก่งๆ ทั้งนั้น 555)
2. ปางวัว ระยะทางประมาณ 6.5 กม. ทางจะโหดกว่าเพราะชันขึ้นเขารวดเร็ว สำหรับคนที่ต้องการประหยัดเงินและเวลาก็จะขึ้นทางนี้ แต่ขาลงจะให้ลงทางเดียวคือทางปางวัวนี่แหละ เพราะรถจะมารอรับที่นี่ (ซึ่งในตอนจบทริปกลุ่มเราติดแฮชแทกเลยว่า ปางวัวแทบปางตาย 555 โหดจริง แต่บางคนเค้าบอกว่าเร็วดีเดินได้ แต่สำหรับกลุ่มเราที่สกิลการเดินขั้นเทพ แถมมีเพื่อนที่มีน้ำหนักตัวกว่า 100 กก.ทางนี้ถือว่าโหดใช้ได้)
ถามเรานะถ้าไม่รีบละก็ขึ้นเด่นหญ้าขัดจะดีกว่า วิวสวยกว่า ทางปางวัวแทบไม่มีไรเลย วิวก็ไม่ค่อยเห็น เพราะเป็นป่า พงหญ้า แต่ก็นะแล้วแต่คน ในส่วนของการขึ้นทางเด่นหญ้าขัดต้องเตรียมค่ารถสำหรับไปส่งที่ทางขึ้นอีกต่างหาก คันละ 1800 บาท กี่คันแล้วแต่จำนวนคน ของกลุ่มเรา 3 คันเนื่องจากจะต้องเผื่อในส่วนของลูกหาบและสัมภาระของ 17 ชีวิตด้วย
สำหรับคนที่ไม่ได้จองล่วงหน้า ตอนนี้เหมือนเขาจะไม่ให้ขึ้น เพราะมีการเปลี่ยนระบบ และจำกัดคนขึ้นอย่างจริงจัง
กลุ่มเราเลือกที่จะซื้อวัตถุดิบขึ้นไปทำอาหารกันเอง ซึ่งก็จะมีแบบเหมาหัวโดยที่เราไม่ต้องเอาอะไรไปเองเลย เค้าจะจัดการทำอาหารให้ทุกอย่าง แต่อย่างว่ากลุ่มเราคนเยอะ เตรียมเองทำเองสนุกดี
หรือจะเป็นอีกแบบคือจองพักกับระเบียงดาวโฮมสเตย์ ซึ่งเขาจะจัดอาหารที่พักให้รวมถึงวันที่ไปขึ้นดอยเขาจะเตรียมที่พัก อาหารให้เสร็จสรรพ เราเดินตัวปลิว ไปถึงเต๊นพร้อม อาหารพร้อม เช้ามาเขาก็พาขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น มีกาแฟให้บนดอย ลงมาก็มีอาหารรอ สบายมาก อันนี้ถามมาจากพี่ที่รู้จัก เค้าพักที่นั่นไปหลังเราวันนึงละ พี่เค้าบอกว่าดีเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวก แต่ตอนนี้มีข่าวที่จะทำการรื้อถอนอยู่เราไม่รู้ว่าปีหน้าจะยังมีอยู่รึป่าว คล้ายๆกับที่รื้อของภูทับเบิก ประมาณนั้น
เกริ่นมาซะไกลละ มาเข้าเรื่องของเราดีกว่า แผนการเดินทางของกลุ่มเราคือ เดินทางด้วยรถตู้ 2 คัน แบ่งเป็น 2 สาย ชลบุรีและ กรุงเทพ โดยสายชลบุรีจะมีแม่งานที่เตรียมวัตถุดิบและเสบียงจึงทำให้รถคันนี้เต็มไปด้วยของกิน ซึ่งเจ้าของกระทู้เองก็อยู่ในสายนี้ด้วย เดินทางคืนวันที่ 1 ถึงเชียงใหม่เช้าวันที่ 2 เดินขึ้นดอย นอน 1 คืน เช้าวันที่ 3 ดูพระอาทิตย์ขึ้นและลงจากดอยมานอนลีซูโฮมสเตย์ เช้าวันที่ 4 เดินทางกลับ
ในส่วนของการเตรียมตัวสัมภาระส่วนตัวนั้น บอกแล้วว่านี้คือครั้งแรกดังนั้น จึงอาศัยเพื่อนที่เคยไปเดินมาแล้ว มันบอกอากาศจะหนาวมากบนดอย ให้เตรียมเสื้อผ้ากันหนาวเลย heat tech ได้ยิ่งดี มีข่าวบอกว่าประมาณเลขตัวเดียว หนาวมาก น้ำค้างก็มี
ออกเดินทางจ้า ขึ้นรถก็เย็นๆละ รับเพื่อนครบก็ออกจากเขตชล 2 ทุ่มได้ หลังจากนั้นเหรอ หลับจ้า ตื่นเป็นพักๆ เพราะแอร์รถตู้หนาวมาก นี่ปรับสภาพก่อนขึ้นดอยใช่ม่ะ รู้ตัวอีกที ถึงภาคเหนือละแต่จังหวัดไรไม่รู้เพราะเจ้าของกระทู้เป็นพวกถ้าได้นอนแล้วสมองเบลอๆ รถตู้ 2 สายมาเจอกัน ประมาณตี 3 ได้ ซึ่งหนาวกันไปตามๆกัน ไม่อยากจะนึกถึงบนดอย เดินทางต่อ เรามาถึงเชียงใหม่ตอนประมาณ 6 โมงถือว่าทำเวลาได้ดี เพราะเราต้องไปที่จุดขึ้นดอยไม่เกิน 8-9 โมง
แล้วสาย-ประจำกลุ่มแนะนำว่าต้องข้าวขาหมูเจ๊พรเพ็ญเลยจ้า พากันไปจัดซิคะรออะไร ร้านเป็นแบบบ้านไม้โบราณ หลักๆก็มีข้าวขาหมู ข้าวราดแกงก็มีกับข้าวหลายอย่างเลย เราสั่งข้าวขาหมูแน่นอน ซึ่งรู้สึกว่าน้ำราดเค้าจะไม่เหมือนใครจัดกันเต็มที่เลยจร้า
8 โมงนิดๆ ถึงเขตอุทยาน เตรียมตัวแบ่งสัมภาระให้ลูกหาบ และของส่วนตัวที่จะนำขึ้นไป ช่วงนี้ก็ทะยอยทำธุระส่วนตัวกันให้เรียบร้อยก่อนที่จะตะลุยยาว จุดนี้จะมีการนับขวด กระป๋องที่นำขึ้นไปด้วยคะ เพื่อที่ขาลง เค้าจะเช็คคะ ไม่อยากให้เราไปทิ้งไว้กลางทางคะ เที่ยวแล้วเราต้องช่วยกันรักษานะคะ ไม่เป็นภาระสังคม
สังเกตความแตกต่างของสัมภาระชายหญิงได้ 555 ผู้หญิงจะมีหมวก มือถือและน้ำค่าาาา อยากอัพไร ล่ำลาใครรีบเลยจร้าก่อนจะไม่มีสัญญาณ
ได้เวลาขึ้นรถไปจุดสตาร์ทจ้า
ผ่านไป 1 ชั่วโมง เที่ยงคะ เจอที่ว่างสำหรับพัก เราเลยตัดสินใจพักกินกลางวันกันก่อน ทั้งที่ยังไม่ถึงไม่ครึ่งทาง แต่ก็ควรหิวคะ ตอนเช้ากินตั้งแต่ 6 โมง แล้วก็เป็นการลดน้ำหนักที่จะแบกให้ลงไปอยู่ในท้องแทนคะ เป็นข้าวเหนียวไก่ หมูทอดธรรมดาๆ แต่มันดูอร่อยขึ้นมาจริงๆ กินเสด เก็บขยะด้วยนะคะ
ได้เวลาเดินต่อจ้า ขอไม่อธิบายไรมากลงรูปรัวๆเลย นี่จะเป็นสิ่งที่เห็นจากการเดินตลอดทาง
และในที่สุดเรามาถึงจุดครึ่งทางจ้า ถ่ายรูปซะหน่อย ครึ่งทางแล้ว ยังไหว 555555 หรา
วิวระหว่างทางบ้างดีกว่า
ในที่สุดก็มาถึงจุดกางเต็นท์ เย่ เย่ ดีใจได้พัก