มันเกิดขึ้นเพราะอะไร ผมคือตัวแทนของรุ่นต่อไป หรืออย่างไร

สวัสดีครับ ผมชื่อตัง เป็นคนภาคเหนือ อายุ 23 อาชีพช่างคอมฯ ของ บ.แห่งหนึ่งในเชียงใหม่

    เรื่องราวของผมเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 21 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ผมได้รวบรวมมาเล่าสู่กันฟัง คือว่า ผมและทีมงานฝ่ายไอที ได้รับคำสั่งให้นำคอม100เครื่อง ไปติดตั้งยังโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งคืนนั้นผมฝันแปลกๆ ว่ามีผู้ชายรุ่นใหญ่มาหาผม แต่ผมไม่รู้จักเขา เขาพาผมไปในที่ที่ผมไม่คุ้นเคย ที่นั้นมีสิ่งหลายอย่างที่เกินจะบรรยาย  ตื่นเช้ามาผมรู้สึกปวดหัวมึนๆ ตาฝ่าฟาง ภาพมัวๆ และแสบตา
         เมื่อไปถึงที่โรงเรียนแห่งนี้ก็ดูรวมๆก็เหมือนโรงเรียนทั่วไป วันแรกได้ทำการสำรวจเพื่อวางแผนการติดตั้ง ผมได้รู้สึกว่ามีเรื่องแปลกเกิดขึ้นกับผมหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้คิดอะไร แต่วันที่สาม  วันนั้นผม ปฏิบัติหน้าที่ในห้องโสต ปิดไฟปิดม่าน เตรียมฉายโปรเจกเตอร์ มีเพียงแสงจากจอโปรเจกเตอร์เท่านั้น สักพักผมได้ยินเสียงคนลากเก้าอี้ เลยคิดว่าเป็นน้องฝึกงานที่มาด้วยกัน แต่พอผมมองไปยังแหล่งของเสียง กรายเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งอยู่ที่มุมห้อง ผมคิดว่าเป็นหนักเรียนที่นี่แอบหนีเรียนมา เลยทักไป ว่า “สวัสดีครับ ไม่มีเรียนหรอ?” ซึ่งก็ไร้เสียงตอบรับใดๆทั้งสิ้น เธอยังนั่งก้มหน้าอยู่ ผมก็ไม่สนใจทำงานต่อแล้วจู่ๆ โปรเจกเตอร์ก็ติดๆ ดับๆ ผมยังมองไปเด็กคนนั้น ซึ่งเธอก็อยู่ที่เดิม สักพักเสียงสับคัดเอ้าดังขึ้น ไฟในห้องก็ดับหมด ไม่มีแสงใดๆเลย มืดสนิท ผมควานหาไฟฉาย เพื่อส่องทางไปยังห้องควบคุมไฟฟ้า แต่ผมก็ไม่ลืมส่องไปยังที่เด็กคนนั้นนั่งอยู่ ผมถึงกับ อุทาน “เห้ย!!!! ไปไหนแล้วว่ะ” ผมพยายามส่องไฟไปทั่วห้อง แต่ก็ไม่มี ผมรีบไปสับคัดเอ้าขึ้น ไฟจากเครื่องโปรเจกเตอร์เปิด ปรากฏว่าเธอยังอยู่ที่เดิม ทีเนี้ยใจผมเริ่มเสีย ผมเริ่มนิ่งๆหลับตาภวานาถึงสิ่งศักดิ์ให้ช่วยคุ้มครอง แล้วก็เอ่ยขึ้นเบาๆว่า “ผมมาดี ผมมาทำงาน ผมไม่ได้มาลบหลู่ แต่หากผมการใดที่ไม่สมควร ผมขออภัยด้วย” ผมว่างี้ แล้วจู่ๆ ไฟฟ้าทุกหลอดเปิดพร้อมกัน ทั้งที่ผมไม่ได้เดินไปเปิดเลย เพราะผมปิดไปตั้งแต่ต้นแล้ว คืออะไรเนี้ย เห้ยยย แล้วเธอก็หายไป ผมรีบเก็บของออกจากห้องทันที
          พอตกเย็น ผมเล่าให้พี่ภารโรงฟัง ก่อนที่แกจะยิ้ม แล้วบอกว่า “เจอหรอพ่อหนุ่ม ไม่ต้องกลัวหรอก เธออยู่ที่นี่มานานแล้ว เธอเสียไปนานแล้ว เธอเป็นเด็กกำพร้า เมื่อก่อนเรียนที่นี่แหละ แต่เธอเสียเพราะโรคภัย โน้นไง เธอเคยอยู่บ้านพักหลังนั้น” พี่แกชี้ให้ดู
เป็นบ้านพักครูเก่าๆ ซึ่งน่าจะปิดตายไม่มีใครใช้  
“พ่อหนุ่มก็ทำบุญให้เธอซะสิ เธอชื่อ รำไพ” แกบอกผม
      เช้าวันต่อมา ผมเลยไปทำบุญให้เธอ ก่อนมาทำงานต่อ แล้วตอนที่ผมทำงานอยู่ ก็ได้ยินเสียงแว่วๆ ว่า"ขอบคุณค่ะ" ผมถึงกับชะงัก แล้วถามพี่อีกคนว่าได้ยินอะไรไหม? พี่แกตอบว่าไม่ได้ยินอะไรนี่ ผมเลย เอ่ยๆขึ้นเองว่า “ไม่เป็นไรครับ”
นี่คือจุดเริ่มต้นของผม
ยังไม่จบ พอวันต่อมี ก็มีเรื่องให้ได้ขนลุกอีกแล้ว คือตอนพัก ผมกับทีมงานก็ออกไปทานข้าวกันตามปกติ แถวๆหน้าโรงเรียน พอทานเสร็จ ก็มีผู้หญิงวัยกลางมาจับมือผม แล้วบอกกับผมว่า “พ่อหนุ่ม กำลังจะมีเคราะห์ใหญ่นะ ช่วงปีใหม่นี้ จงระวัง เพราะมีเรื่องไม่ดีแน่ๆเชื่อแม่นะ” ผมกับพี่ๆเหลี่ยวมองหน้ากันแบบ งงๆ
ผมสงสัยถามกลับไปว่า “บอกได้ไหม?ครับ ว่าเรื่องอะไร”
แกส่ายหน้า แล้วตอบ “แม่บอกไม่ได้ เขาให้แม่บอกได้แค่นี้”
พี่ที่ทำงานด้วยกันก็ชวนกลับ "ป่ะๆ กลับกันเถอะ " ผมก็เดินออกมาตามถนน ไกลจากร้านสักร้อยเมตรเห็นจะได้ ผมเดินคนสุดท้าย ผมได้ยินเสียงคนเมื่อกี้บอกว่า “กำลังลังจะมีคนเอาไปแทนที่เขา เขามารอแล้ว เขารอพ่อหนุ่มมานานแล้ว” ผมตกใจ รีบเหลี่ยวหลังไปมองทันที แกยังยิ้มกลับมาให้ผมอยู่เลย
ผมเริ่มวิตก วันนั้นทำงานแทบไม่ได้ หัวหน้าเลยให้ผมไปพักก่อน ไอ้ขณะที่ผมเดินไปห้องน้ำ ผมต้องลอดใต้อาคารไป ขณะเดิน ผมเห็นเด็กผู้หญิงหลายคนวิ่งสวนผมไป  แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือ พอผมลอดใต้อาคารมาเสร็จ สภาพโรงเรียนที่ผมเห็นตรงหน้า เป็นอาคารไม้ทั้งหลัง แบบโรงเรียนสมัยเก่าๆ ผมรีบหลังไปมองทางที่ผมเดินมา เชี่ย!!!! ไม่มีอาคารที่ลอดมาเมื่อกี้ แล้วที่นี่ที่ไหน? ผมกลัวมาก รีบหลับตาแล้วนั่งเอามือกุมหัว เสียงที่ผมได้ยินคือเสียงหัวเราะของนักเรียนที่ยังหลอนผมมาจนถึงตอนนี้ สักพักก็มีมือมาจับที่ไหล่ผม ผมตกใจมาก รีบปัดมือทั้ง แล้วลืมตาขึ้นปรากฏว่าเป็นครูที่เดินผ่านมาพอดี ผมโล่งใจ แกเห็นผมนั่งกุมหัวอยู่ คิดว่าหน้ามืดหรืออะไร แล้วเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นกับผมหลายครั้ง แต่ผมก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร เพราะเดียวจะหาว่าผมบ้า และคิดไปเอง จนกระทั่งเสร็จงานที่โรงเรียนแห่งนี้ ผมกับทีมงานก็กลับ ก่อนกลับก็พากันไปไหว้ศาลาพระ

        แล้วตอนขากลับ พี่คนหนึ่งอยากกินน้ำ เลยแวะร้านค้าชำข้างทาง ผมลงจากรถ เห็นเด็กคนหนึ่งใส่ชุดสีขาวๆเหลืองๆ ยืนมองของเล่นอยู่นานแล้ว ก็ไปไหน ไม่หยิบดู ผมเลยเข้าไปหา ลองถามดูว่า “ชอบอันนี้หรอครับ” น้องพยักหน้า ผมถามต่อ“แล้วมีเงินไหม?” น้อง ส่ายหน้า ผมตัดสินใจ หยิบของเล่นแล้วให้น้องแกถือไว้ เป็นรถแข่ง ราคาก็ 25 บาทให้ แล้วบอกว่า “เดี่ยวพี่ซื้อให้นะครับ ” ผมก็ไปจ่ายตัง ค่าขนมของผม กับรถแข่งคันนั้น คนขายคิดราคาแค่ค่าขนม 20 บาท ผมเลยบอกว่า “มีรถแข่งของน้องคนนั้นอีกคนครับ” คนขายมองข้ามผมไป ถามว่า “ไหนล่ะ ไม่เห็นมีใครเลย” ผมก็บอกว่า “ก็น้องที่ยืนตรงนี้ ผมเห็นยืนอยู่ก่อนที่ผมจะมาแล้วนะ พี่ยังเดินผ่านไป ผ่านมาอยู่เลยเนี้ย” คนขาย งง หนัก ผมเริ่มคิดล่ะ ว่าเห้ยอะไร ไม่ธรรมดาแน่ๆ เลยตามน้ำว่า คงไปแล้วมั้ง เลยจ่ายแบ้ง 50 แล้วไม่ต้องทอน จากนั้นผมก็ออกจากร้าน ขึ้นรถ ผมอดไม่ได้หันไปมอง เด็กคนเมื่อกี้ ยังยืนถือรถแข่งอยู่เลย แล้วก็มองมาทางผม แล้วผมก็อธิฐานในใจ ขอให้สู่สุขตินะน้อง

แล้วผมก็ประสบเจอเหตุการณ์คล้ายๆนี้ บ่อยมาก จนเริ่มเคลียด
ผมพยายามคิดไปคิดมา ปวดหัวเล่นเป็นอาทิตย์ จนเมื่อวาน 30 ธันวาคม ผมกลับบ้านอีกจังหวัดหนึ่ง ภาคเหนือเช่นเดียวกัน เล่าทุกอย่างให้แม่กับยายและตาฟัง ทุกคนแลจะตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะ ตาผมเป็นพรานป่า เมื่อตอนหนุ่มๆ // ยายก็เป็นหมอดู(หมอเมื่อในภาษาเหนือ) // แม่เป็นพยาบาล แม่ก็เอารูปผู้ชายคนหนึ่งให้ผมดู ผมบอกแกว่า คนนี้เลยแม่ คนนี้แหละที่ผมฝันถึง แม่บอกว่านี่คือปู่ของเอ็ง แล้วที่พีคไปกว่านั้นคือ พ่อกับปู่เอง เข้าป่าไปตั้งแต่เอ็งอยู่ในท้องแม่ เพื่อไปฝึกอะไรสักอย่าง แล้วก็ไม่เคยมีใครพบ2คนนี้ อีกเลย
   ยายซึ่งไม่เคยดูดวงให้กับคนใกล้ตัวเลย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ยายก็ไม่ดูให้เด็ดขาด แต่เมื่อเช้านี้ ยายตัดสินใจดูให้ ยายนั่งสมาธิอยู่นาน ยายบอกว่า "ปู่กับพ่อ รอคอยผมนานแล้ว แล้วที่คลาดเหตุการณ์ต่างๆมาตลอด เพราะบารมีปู่ของเอ็ง"  ผมอึ้งไปเลย พูดอะไรไม่ออก เซอไพร์ สิ้นปี กันแบบคอมโบเซ็ต ซูปเปอร์คอมโบเซ็ต เลยครับ .........
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่