สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
อัลัชชีเดียรถีย์สมีเต็มบ้านเต็มเมือง ไม่ใช่เพราะ มหาเถรสมาคม ย่อหย่อนต่อการบังคับใช้พระวินัยบัญญัติหรอกเหรอครับ
มหาเถรสมาคมเพิกเฉยเย็นชาต่อพระวินัย ละเลยในการบังคับใช้พระวินัยต่อพระสงฆ์ที่ละเมิดพระธรรมวินัย ทั้ง ๆ ที่เป็นหน้าที่โดยตรง
มีพระสงฆ์ยักยอกทรัพย์วัดแล้ว ก็เพิกเฉยที่จะบังคับให้สึก ยังปล่อยให้ปลอมบวชเป็นพระป่วนบ้านปั่นเมือง
ไม่เพียงแค่เพิกเฉยแค่นั้น ท่าทีของมหาเถรสมาคม ยังแอบเกื้อกูลสนับสนุนอลัชชีเดียรถีย์สมีตนนั้นอีกด้วย
ประจักษ์พยานหลักฐานข้อมูลเต็มบ้านเต็มเมืองกล่นเกลื่อนทั่วเวบบอร์ด
ถ้ายังลดละกิเลสไม่ได้ก็สึกหาลาเพศออกมาซะ
มหาเถรสมาคมเพิกเฉยเย็นชาต่อพระวินัย ละเลยในการบังคับใช้พระวินัยต่อพระสงฆ์ที่ละเมิดพระธรรมวินัย ทั้ง ๆ ที่เป็นหน้าที่โดยตรง
มีพระสงฆ์ยักยอกทรัพย์วัดแล้ว ก็เพิกเฉยที่จะบังคับให้สึก ยังปล่อยให้ปลอมบวชเป็นพระป่วนบ้านปั่นเมือง
ไม่เพียงแค่เพิกเฉยแค่นั้น ท่าทีของมหาเถรสมาคม ยังแอบเกื้อกูลสนับสนุนอลัชชีเดียรถีย์สมีตนนั้นอีกด้วย
ประจักษ์พยานหลักฐานข้อมูลเต็มบ้านเต็มเมืองกล่นเกลื่อนทั่วเวบบอร์ด
ถ้ายังลดละกิเลสไม่ได้ก็สึกหาลาเพศออกมาซะ
ความคิดเห็นที่ 8
เราใช้อะไรเป็นมาตรวัดความสูงขึ้นหรือต่ำลงของพุทธศาสนา
หลักใหญ่ของพุทธศาสนาคือ ละชั่ว ทำความดี ทำใสให้บริสุทธิ์
ถามตัวเองกันสักนิดก่อนว่า ทุกวันนี้เราถือศีลกี่ข้อ เป็นคนดีพอหรือยัง
พุทธจะสูงหรือต่ำวัดกันที่ใจของคุณครับ
พระผู้เฒ่าในเถรสมาคมเกี่ยวอะไรด้วย
หลักใหญ่ของพุทธศาสนาคือ ละชั่ว ทำความดี ทำใสให้บริสุทธิ์
ถามตัวเองกันสักนิดก่อนว่า ทุกวันนี้เราถือศีลกี่ข้อ เป็นคนดีพอหรือยัง
พุทธจะสูงหรือต่ำวัดกันที่ใจของคุณครับ
พระผู้เฒ่าในเถรสมาคมเกี่ยวอะไรด้วย
ความคิดเห็นที่ 13
ศาสนาพุทธจะตกต่ำได้อย่างไร คำสอนก็เหมือนเดิม พระสงฆ์มากขึ้นก็ย่อมมีคนดีคนเลวปะปนกันทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่สมัยมีการสื่อสารมันเร็วและกว้างขึ้น ทำให้เราได้รู้ได้เห็นอะไรมากขึ้น จึงทำให้รู้สึกตกต่ำ และเราเป็นเมืองพุทธเวลาพระสงฆ์ทำผิดอะไรก็ลงข่าวใหญ่โต แต่พวกอิสลามทำผิด หรือคริตส์ทำผิด เราก็ไม่สนใจเพราะไม่ใช่เรื่องของเรา เลยทำให้เหมือนมีแต่พระสงฆ์ทำผิดวินัย
อีกอย่างที่วุ่นวายอยู่ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับศาสนาพุทธตกต่ำเลย เพียงแต่มีคนบางกลุ่มต้องการพระ/วัดที่ตัวเองเชื่อว่าดีขึ้นเป็นสังฆราช เลยทำให้เหมือนวุ่นวาย สุดท้ายคือแก้ พรบ.สงฆ์ ให้สามารถตั้งพระที่ตัวเองคิดว่าดีได้เป็นสังฆราช มันก็เท่านั้น
คิดแล้วก็คล้ายกับม๊อบนกหวีด พวกที่เลือกต้งกี่ครั้งก็แพ้ เลยออกมาทำให้เหมือนประเทศวุ่นวายเพื่อเรียกทหารออกมา แล้วร่วมหัวกันแก้รัฐธรรมนูญให้ตัวเองมีโอกาสชนะ อย่างใดก็อย่างนั้น
อีกอย่างที่วุ่นวายอยู่ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับศาสนาพุทธตกต่ำเลย เพียงแต่มีคนบางกลุ่มต้องการพระ/วัดที่ตัวเองเชื่อว่าดีขึ้นเป็นสังฆราช เลยทำให้เหมือนวุ่นวาย สุดท้ายคือแก้ พรบ.สงฆ์ ให้สามารถตั้งพระที่ตัวเองคิดว่าดีได้เป็นสังฆราช มันก็เท่านั้น
คิดแล้วก็คล้ายกับม๊อบนกหวีด พวกที่เลือกต้งกี่ครั้งก็แพ้ เลยออกมาทำให้เหมือนประเทศวุ่นวายเพื่อเรียกทหารออกมา แล้วร่วมหัวกันแก้รัฐธรรมนูญให้ตัวเองมีโอกาสชนะ อย่างใดก็อย่างนั้น
ความคิดเห็นที่ 23
บุคคลที่พ่นถ้อยคำที่ไม่เป็นปิยวาจา ชอบว่าร้าย คิดร้าย ทำร้าย และไม่เคารพในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
บุคคลผู้นั้นแล!!! ถือว่าเป็นบุคคลที่มีใจต่ำ พอใจต่ำก็เลยคิดต่ำ พอคิดต่ำมันก็สื่อออกมาเป็นคำพูด และการกระทำที่ต่ำตามความคิด
ดังเช่นสมาชิก 2877170 และใครอีกหลายๆ คนในนี้
ที่ชอบอ้างเหลือเกินว่า...ตัวเองเป็นชาวพุทธที่ออกมาปกป้องพระพุทธศาสนาจากเหล่าอลัชชีและลัทธินอกรีต
แต่เขาพวกนี้หารู้เลยไม่ว่า...ความคิด คำพูด และการกระทำของตัวเองที่พ่นหรือสำรอกใส่อีกฝ่ายที่ตนไม่ชอบ หรือไม่เห็นด้วยกับแนวทางปฏิบัติ
กลับสวนทางกับคำสอนที่พระพุทธองค์ทรงตัดสอนเอาไว้
แค่หลักปฏิบัติพื้นฐานในบทโอวาทปาติโมกข์ โดยเฉพาะหัวข้อ "อนูปวาโท อนูปฆาโต" ก็ยังทำกันไม่ได้
เพราะฉะนั้น...พอใจตัวเองต่ำ คำพูด ความคิด และการกระทำของตัวเองจึงถูกดึงให้ต่ำตามไปด้วย
ดังนั้นใครก็ตามที่ยังแก้นิสัยต่ำๆ ของตัวเองไม่ได้ ก็โปรดอย่าไปบังอาจตักเตือนหรือติเตียนใครเขาเลย ยิ่งกับพระกับเจ้า ยิ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง
ตักเตือน ติเตียนด้วยจิตเมตตา ภาษากาย ภาษาพูดจะออกมาอีกอย่าง
แต่เท่าที่เห็นหลายๆ คนในนี้ จะออกแนวติเตียนด้วยจิตที่มีอคติ คลั่งแค้น ไม่ได้ประกอบด้วยจิตเมตตา
ซึ่งไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อพระศาสนาเลยแม้แต่น้อย
บุคคลผู้นั้นแล!!! ถือว่าเป็นบุคคลที่มีใจต่ำ พอใจต่ำก็เลยคิดต่ำ พอคิดต่ำมันก็สื่อออกมาเป็นคำพูด และการกระทำที่ต่ำตามความคิด
ดังเช่นสมาชิก 2877170 และใครอีกหลายๆ คนในนี้
ที่ชอบอ้างเหลือเกินว่า...ตัวเองเป็นชาวพุทธที่ออกมาปกป้องพระพุทธศาสนาจากเหล่าอลัชชีและลัทธินอกรีต
แต่เขาพวกนี้หารู้เลยไม่ว่า...ความคิด คำพูด และการกระทำของตัวเองที่พ่นหรือสำรอกใส่อีกฝ่ายที่ตนไม่ชอบ หรือไม่เห็นด้วยกับแนวทางปฏิบัติ
กลับสวนทางกับคำสอนที่พระพุทธองค์ทรงตัดสอนเอาไว้
แค่หลักปฏิบัติพื้นฐานในบทโอวาทปาติโมกข์ โดยเฉพาะหัวข้อ "อนูปวาโท อนูปฆาโต" ก็ยังทำกันไม่ได้
เพราะฉะนั้น...พอใจตัวเองต่ำ คำพูด ความคิด และการกระทำของตัวเองจึงถูกดึงให้ต่ำตามไปด้วย
ดังนั้นใครก็ตามที่ยังแก้นิสัยต่ำๆ ของตัวเองไม่ได้ ก็โปรดอย่าไปบังอาจตักเตือนหรือติเตียนใครเขาเลย ยิ่งกับพระกับเจ้า ยิ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง
ตักเตือน ติเตียนด้วยจิตเมตตา ภาษากาย ภาษาพูดจะออกมาอีกอย่าง
แต่เท่าที่เห็นหลายๆ คนในนี้ จะออกแนวติเตียนด้วยจิตที่มีอคติ คลั่งแค้น ไม่ได้ประกอบด้วยจิตเมตตา
ซึ่งไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อพระศาสนาเลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็นที่ 15
เหลือบดูพระสงฆ์สมัยนี้ แล้วดูอำนาจหน้าที่ของมหาเถรสมาคม ปัจจุบันทำหน้าที่แล้วหรือยัง
อำนาจหน้าที่
มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่ดังนี้
(1) ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม
(2) ปกครองและกำหนดการบรรพชาสามเณร
(3) ควบคุมและส่งเสริมการศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์
(4) รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา
(5) ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฏหมายอื่น
อำนาจหน้าที่
มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่ดังนี้
(1) ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม
(2) ปกครองและกำหนดการบรรพชาสามเณร
(3) ควบคุมและส่งเสริมการศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์
(4) รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา
(5) ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฏหมายอื่น
แสดงความคิดเห็น
ขอร่วมคุยด้วยกับคุณหัวหน้าเผ่า "ศาสนาพุทธตกต่ำก็เพราะ มส. นั่นแหละ ปล. ใครจะเถียงลองมาคุยกันดู”
http://pantip.com/topic/35958257
ครั้นจะให้เถียง ผมก็คงเถียงผมไม่ออกหรอกนะครับ เพราะส่วนตัวก็เห็นคล้อยอยู่ในทีว่า มส. ก็มีส่วนให้ศาสนาพุทธตกต่ำ แต่การที่คุณหัวหน้าเผ่าฯ ทิ้งประโยคสั้นๆ ประหนึ่งชี้นิ้วไปที่ มส. ฝ่ายเดียวว่าเป็นต้นเหตุแห่งการตกต่ำของศาสนาพุทธโดยไม่อธิบายขยายความว่าอย่างไร? และแบบไหนนั้น? ออกจะไม่แฟร์อยู่นะครับ แล้วท่านหัวหน้าเผ่าฯ ตบท้ายด้วยการถามหาคนที่จะเถียงกับท่าน....ด้วยความเคารพนะครับ คือผมก็ไม่ทราบว่าเขาจะเอาประเด็นไหนไปเถียงกับท่านได้ เพราะประโยคเดียวสั้นๆ ที่ท่านกล่าวหา มส. มันครอบซะกว้าง เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน....ผมขออุปโลกน์กระทู้นี้เป็นเสมือนหนึ่งกระเบื้องเพื่อล่อหยกอย่างคุณหัวหน้าเผ่า หรือท่านอื่นๆ ได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ร่วมกันก็แล้วกัน และอย่าถือว่าเป็นเถียงเลย ถือซะว่าเป็นการสันดาปทางความคิดกัน
เริ่มต้นสตาร์ทเบาๆ ที่ผมเห็นผมคล้อยกับคุณหัวหน้าเผ่านะครับว่า มส. มีส่วนที่ทำให้พุทธศาสนาตกต่ำ แต่ผมก็ขอแผ่ใจไปในส่วนดีของมส. ด้วยว่า โครงสร้างของมส.ก็มีส่วนดีในการพยุงและกำจัดอลัชชีอยู่เหมือนกัน เพราะสงฆ์บางรูปบางกลุ่มในสมัยนี้หากอาศัยวินัญบัญญัติเพียงอย่างเดียวคงเอาไม่อยู่ อย่าว่าแต่สมัยนี้เลยครับ สมัยพุทธกาลขนาดพระพุทธองค์ทรงบัญญัติพระวินัยไว้ แถมกำกับด้วย “อภิสมาจาร” แล้วก็ยังเอาไม่อยู่ การมีมส. คอยดูแลและสอดส่องและกำกับพฤติกรรมของพระสงฆ์ให้สอดคล้องกับพระวินัยและกฏหมายบ้านเมืองก็ถือว่าเป็นคุณูปการให้กับศาสนาไม่น้อย ถ้าคุณหัวหน้าเผ่าเห็นต่างตรงนี้ก็แย้งมาได้ครับ
กับการตกต่ำของพุทธศาสนาในยามนี้ หากใครต่อใครชี้นิ้วไปที่ มส. ให้มส. รับผิดชอบตรงนี้หมด ใครต่อใครก็ควรจะระลึกถึงข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งถึงสาเหตุของการมีมส. การมีมส. นั้นเป็นพระราชดำริของสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชริญาณวโรรสที่ต้องการจะเป็นเอกเทศจากกระทรวงธรรมการ(ซึ่งทำหน้าที่ดูแลกิจการด้านศาสนาในยามนั้น) และปกครองคณะสงฆ์(ทั้งธรรมยุติและมหานิกาย)ได้เต็มไม้เต็มมือ ตามปรากฏในคำถวายพระพรของพระมหาสมณเจ้าฯ ต่อสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ที่ผมคัดมาบางส่วนดังนี้ “ ถ้าจะให้วัดได้ประโยชน์แก่บ้านเมืองเต็มที่ ต้องจัดถึงแอดมินิสเตรชั่น (Administration; จขกท.) แต่ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงการใหม่จากประเพณีเดิม...ข้อสำคัญมีอยู่ว่าไม่มีผู้ที่จะยอพระให้มีแก่ใจประกอบกิจอะไรๆ ยิ่งกว่าสมเด็จพระบรมบพิตรฯ เมื่อต้องรู้สึกว่าอยู่ใต้บังคับของผู้อื่น(ซึ่งน่าจะหมายถึงการอยู่ใต้การดูแลของกระทรวงธรรมการ; จขกท.) ก็มักจะทอดธุระเสีย ในบัดนี้ความข้อนี้ยิ่งแลเห็นถนัด ถ้าจะให้ตำแหน่งพระสงฆ์ผู้ดำรงสมณศักดิ์ พระสุพรรณบัตร(พระราชาคณะชั้นสมเด็จ; จขกท.) และพระหิรัญบัตร(พระราชาคณะชั้นรองสมเด็จ ; จขกท.) กล่าวคือยกแอดมินิสเตรชั่นขึ้นอีกแผนกหนึ่งตามประเพณี ไม่ตรี่ตว่าขึ้นกับกระทรวงธรรมการอย่างที่เข้าใจกันทุกวันนี้...”(จากหนังสือ “การเคลื่อนไหวคณะยุวสงฆ์ไทยรุ่นแรก พศ. 2477-2488)
จริงๆ แล้วต้นเหตุแห่งการเกิด มส. อันเป็นผลพ่วงจาก พรบคณะสงฆ์รศ. 121. ยาวมากหากนำมาลงในที่นี้เห็นจะยาวหลายหน้า ในมุมมองของผม ผมสรุปสั้นๆ ว่าเป็นเรื่องการเมืองระหว่างคณะสงฆ์สองนิกายในเมืองไทยคือมหานิกายกับธรรมยุต โดยมี “มือ” ของฝ่ายอาณาจักรที่ยื่นเข้ามาสนับสนุน ในเมื่อการถือกำเนิดขององค์ที่มีหน้าที่ดูแลและกำกับศาสนาพุทธอย่าง มส. มีมลทินให้เกิดความเลื่อมล้ำระหว่างสองนิกายและสร้างรอยร้าวที่ปริเป็นทางยาวมาตั้งแต่ พรบ. รศ. 121 มาถึงปัจจุบันอย่างนี้ หากไม่ระงับที่ต้นเหตุซะแล้ว รอยร้าวที่ว่านี้คงปริทอดไกลยาวไปเรื่อยในอนาคต ต้นเหตุไม่ได้อยู่ที่การปฏิรูปพรบ. คณะสงฆ์ เปลี่ยนแปลงการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ต้นเหตุอยู่ที่อุปทานสองตัวที่ชื่อ “ธรรมยุติ” กับ “มหานิกาย” เราต้องดับที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายเหตุ หรือระหว่างเหตุเหมือนปัจจุบัน สำหรับผมยุบนิกายใดนิกายหนึ่งไปเสีย เป็นคณะสงฆ์ฝ่ายเถรวาทอย่างเดียวก็น่าจะพอ แต่ใครล่ะจะกล้ายุบล่ะ โดยเฉพาะนิกายธรรมยุติ?? นิกายธรรมยุติเคยข้ามโขงไปเผยแพร่ที่ฝั่งลาวช่วงหนึ่ง แล้วมีเรื่องระหองระแหงกับนิกายดั้งเดิม ก็ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง....พรรคคอมฯ จึงตัดรากถอนโคนนิกายธรรมยุติในลาวไปเลย
ในฐานะที่ผ่านการบวชเรียนมาบ้างพอประมาณ ผมเชื่อว่าตราบใดที่อุปทานสองตัวที่ชื่อ “ธรรมยุติ” กับ “มหานิกาย” ยังดำรงอยู่ทั้งในจิตสำนึกของพระสงฆ์เองและฆราวาสเอง ต่อให้ปฏิรูปศาสนาสักกี่ครั้งปัญหาจะยังไม่สิ้นไป มหาเถรสมาคมจึงเป็นเพียง “เครื่องมือ” ที่ถูกใช้จากสองนิกายเท่านั้นเอง ดังนั้นการกล่าวว่า “มหาเถรสมาคม” เป็นต้นเหตุที่ทำให้ศาสนาตกต่ำนั้นผมจึงเห็นด้วยเพียงส่วนหนึ่ง อุปมาเหมือน“เครื่องมือ” หากไม่ถูกใช้แล้วก็เป็นแค่วัตถุ แต่หาก “เครื่องมือ” ถูกนำมาใช้ในทางไม่ถูก ที่ควรจะถูกตำหนิก็คือคนที่กำลังใช้เครื่องมือนั้นด้วยครับ แล้วตอนนี้ใครกันล่ะครับที่กำลังใช้ “มหาเถรสมาคม” เป็นเครื่องมืออยู่ในตอนนี้??
ขออภัยคุณหัวหน้าเผ่าฯ ที่ต้องเอ่ยชื่อถึงในหัวข้อกระทู้