สวัสดีค่ะเพื่อนทุกคน รีวิวนี้ ...   จัดมาเพื่อคนผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ  เพราะเราหัวอกเดียวกันย่อมเข้าใจกันดีสุดค่ะ

รีวิวนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเรามีปัญหาเรื่องผดผื่น และเป็นสิวง่ายมาก  เป็นมาตั้งแต่สมัยเรียน เวลาจะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวไหน


ต้องเทสก่อน เพราะจะเป็นผดเล็กๆตลอด ไม่ก็สิวขึ้น ไม่เข้าใจมากๆ ว่าทำไมคนอื่นใช้ได้ เราถึงชอบมีปัญหา  และเวลาลองตัวใหม่และแพ้ กว่าจะมานั่งรักษา กินยา ทายา
เราเลยคิดว่าเอาประสบการณ์ที่เคยใช้มา




เล่าให้คนอื่นฟังว่าตัวไหนดีบ้าง น่าจะเป็นประโยชน์แก่คนที่ผิวแพ้ง่ายบ้าง  ถ้าสกินแคร์อาจจะมีคนรีวิวค่อนข้างเยอะแล้ว
   
       เราเลยขอมารีวิวตัว Cleanser แทนละกัน  เพราะถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญของการเริ่มต้นผิวสวย


คลีนเซอร์ปกติเราจะเน้นไปทางสูตรอ่อนโยนเป็นหลัก ฟองน้อยๆ  ไม่เน้นฟองเยอะ  

เพราะหน้าจะแห้งและระคายเคือง  ตามมาด้วยอาการแพ้และสิวได้ และส่วนใหญ่เราเน้นหาสูตรเจลมากกว่ามูส โฟม หรือครีมค่ะ

เพราะเหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย อันนี้ของัดตัวเด็ดๆในดวงใจที่เคยใช้มาละกัน



ตัวแรก SMOOTH E BABY FACE GEL


  


แบรนด์นี้ค่อนข้างมีชื่อในท้องตลาดเรื่องโฟมไม่มีฟองมานานแล้ว (ซึ่งเป็นตัวเก่า จะเป็นเหมือนเนื้อครีม อันนั้นขอข้ามค่ะ สำหรับเรายังไม่โอเค)

มาที่ตัวนี้ ตัวเจลหลอดสีเขียว สูตร Extra Sensitive Cleansing Gel ไม่มีสารที่ก่อเกิดประจุ ทำให้ไม่มีสารตกค้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางแบรนด์เคลมไว้อย่างชัดเจน ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม (แต่มีกลิ่นหอม)

มีส่วนผสมของวิตามินอี แต่ยังคงมีพาราเบนเป็นส่วนผสมเนื้อเจลลื่นๆ เป็นลักษณะใส ไม่มีสี และมีกลิ่น

หอมค่อนข้างชัด ลูบกับน้ำ จะไม่มีฟองเลย เป็นลื่นๆ แล้วก็ลูบใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สิ่งที่รู้สึกได้หลังใช้ คือ ล้างออกเท่าไหร่ก็ยังเป็นลื่นๆบนผิวหน้า เหมือนเรายังล้างน้ำไม่หมด หรือเหมือน

เราใช้น้ำบาดาลล้างหน้า ตอนแรกไม่แน่ใจว่าเราล้างไม่หมด มันล้างออกยาก หรือคือล้างได้แค่นี้จริงๆ เลยลองมาอีก 2- 3 ครั้งก็เหมือนเดิมค่ะ คือเลยหาข้อมูลมาได้ความว่าเค้าเน้นเรื่องการเติมมอยเจอร์ไรเซอร์ลงไป

ทำให้เหมือนมีอะไรมาเคลือบผิวไว้ เวลาหลังล้างซับหน้า ผิวหน้าจะไม่แห้งตึงค่ะ แต่เมื่อลงโทนเนอร์ด้วยสำลี แอบมีร่องรอยของดินสอเขียนขอบตาหลงเหลืออยู่นิดๆ เพราะตอนเช็คเครื่องสำอางค์บางครั้งเช็ดไม่หมด ยังติดตรงนี้อีกหน่อย

แต่ผิวหน้าโดยรวมไม่แห้ง มีกลิ่นหอมชัดสุด แต่ก็ยังไม่พบว่ามีอาการแพ้ ใดๆ สิวเสี้ยนเก่า สิวอุดตันเก่าๆยังคงอยู่เหมือนเดิม ผิวหน้าไม่แห้งตึง ยิ่งช่วงหน้าหนาวถือว่าโอเค แต่เราว่าเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยแต่งหน้าจัดเต็มรองพื้น คิ้วตาจมูกปาก แต่นอกนั้นไม่ติดปัญหาอะไรค่ะ ถือว่ายังโอเคและอ่อนโยน



ตัวที่สอง Physiogel daily moisture therapy dermo cleanser
  


แบรนด์นี้ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนที่เป็นสิวง่ายๆ และสูตรนี้สำหรับคนที่ผิวแห้งค่ะ เพราะมี Moisture ช่วยเติมความชุ่มชื่น

แต่มีส่วนผสมของ น้ำหอม พาราเบน และซัลเฟต  แต่อย่างไรก็ตามตัวนี้ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง และนิยมใช้ในกลุ่มคนที่หน้ามีปัญหาใช้เคมี หรือสเตียรอยด์มาจนแพ้ง่าย สิวเห่อ


เนื้อเจลชัดๆ เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเจลสีขาวขุ่น คล้ายๆ กับเซตาฟิล (ขุ่นกว่า) มีกลิ่นอ่อนๆ แต่ส่วนตัวแอบไม่ชอบกลิ่นอ่ะ ลูบกับน้ำ แล้วมาลูบๆหน้า เหมือนเอาน้ำเปล่ามาล้างหน้าเลยง่ะ งงอยู่ว่าจะสะอาดมั๊ย



สิ่งที่รู้สึกได้หลังการใช้ ล้างเสร็จหน้าจะรู้สึกว่าหน้าลื่นๆ อย่างที่บอกเหมือนเอาน้ำเปล่าล้างหน้า เพราะด้วยจากไม่มีสารลดแรงตึงผิว SLS แต่ใส่สารลดแรงตึงผิวตัวอื่นๆมาแทน ซับหน้าแล้วผิวหน้าไม่แห้งค่ะ พอๆกับตัว Smooth E Gel

พอลองมาเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ มีคราบเหลืองอ่อนๆนิดๆติดสำลี  (เราเช็คเครื่องสำอางก่อนเหมือนเดิมนะ) แต่ผิวไม่แห้งมาก ไม่แพ้ เหมาะกับคนแต่งหน้าไม่มาก  ไม่หนาเกินไป แต่อีกวิธีคือการใช้เช็ดเครื่องสำอางไปได้เลย

พวกเนื้อแป้งเช็คออกไปเกือบหมด แต่ลิปสติก คิ้ว กับขอบตาออกเพียงเล็กน้อย ไม่สามารถใช้เช็ดหน้าแทน cleanser ที่เช็ดเครื่องสำอางค์โดยเฉพาะได้ คนผิวหน้ามันไม่น่าจะชอบเพราะเหมือนล้างน้ำเปล่าไปหน่อย ไม่มีการแพ้หรือผดผื่น หรือสิวขึ้น

โดยรวมถือว่าโอเคเลย แต่เราเป็นคนแต่งหน้าเยอะ ใช้ทั้งรองพื้น เขียนขอบตา ใช้ลิปสติกแบบติดทน ยังไม่เหมาะเท่าไหร่ อยากได้แบบล้างหมดจดเกลี้ยงเกลากว่านี้ ในหน้าหนาวแบบนี้ ปกติหน้าหลังล้างถ้าใช้โฟมธรรมดาผิวจะแห้งเร็วและตึง แต่ตัวนี้ความรู้สึกไม่ค่อยแห้งตึง แต่ไม่ถึงกับชุ่มชื่นมากนัก สิวเริ่มขึ้นน้อยลงด้วย



ตัวที่สาม Cetaphil gentle skin cleanser


  

ตัวนี้มักเป็นคู่เทียบประจำของ Physiogel เพราะด้วยการทำตลาดที่ค่อนข้างชนกันบ่อย แต่บอกเลยว่าไม่ได้มีทุกอย่างเหมือนกัน
ต่างมีจุดเด่นด้อยเป็นของตัวเอง ตัวนี้เป็น Cleanser ที่เหมาะกับคนเป็นสิวอุดตัน ผิวแห้ง และแพ้ง่าย หรือจะเป็นผิวผสมก็ได้ค่ะ ไม่มีส่วนผสมของสบู่และน้ำหอม pH Balance ใกล้เคียงผิวหนังตามธรรมชาติ แต่มีส่วนผสมของพาราเบน แอลกอฮอล์ ซัลเฟต
เนื้อเจลออกขุ่นๆ (น้อยกว่า Physiogel) ออกขาวๆ มีกลิ่นแนวเดียวกับ Physiogel แต่กลิ่นอ่อนกว่า (ยังไม่ค่อยชอบกลิ่นนี้อยู่ดี)


ลักษณะของเนื้อเจลจะเหมือนเมือกมากกว่าตัว oily เมื่อลูบกับน้ำจะไม่มีฟองเลย
สิ่งที่รู้สึกได้หลังการใช้ เวลาใช้น้ำเปล่าล้างออก และซับหน้าผิวหน้ารู้สึกว่าหน้าไม่แห้งตึงดี ชุ่มชื่นกว่า Physiogel เหมือนมีฟิล์มมาแปะบนหน้ามากกว่าแต่ไม่แห้งตึงเหมือนตัวโฟม  
ซึ่งถ้าคนชอบแนวนี้ก็โอเคเลย แต่ถ้าคนไม่ชอบจะรู้สึกไม่ค่อยสะอาด ซึ่งจะคล้ายตัวสมูทอี แต่คนที่แต่งหน้า เช็คหน้าให้สะอาดก่อนแล้วค่อยใช้ตัวนี้ล้าง เพราะว่าจะไม่สามารถเอาพวกเครื่องสำอางกันน้ำออกได้ วิธีใช้ได้ 2 แบบผลออกมาต่างกัน ถ้าใช้เช็คเครื่องสำอางจะออกไม่หมด สู้คลีนซิ่งออยล์แบบเฉพาะไม่ได้  แต่ผิวหน้าจะชุ่มชื่นมากกว่าใช้แบบผสมกับน้ำ


ถ้าใช้เช็คหน้าจะเหมาะกับคนผิวแห้ง คนไม่ค่อยแต่งหน้าอันนี้โอเคค่ะ อ่อแต่มีข้อเสียที่รู้สึกไม่อ่อนโยนตรงแสบตาพอสมควรเลย แต่ไม่แพ้เช่นกันกับตัวอื่นๆค่ะ แต่แนะนำควรใช้หลังเช็ดเครื่องสำอางค์ถึงจะทำความสะอาดได้ดีพอ ไม่งั้น อาจจะเป็นสิวอุดตันได้ ไม่ระคายเคือง


จุดเด่นแบรนด์นี้อ่อนโยนนำค่ะ ใช้ได้แม้กระทั่งผิวของเด็ก  ที่มีส่วนผสมของ Emollients และ Humectants ที่ป้องการการเสียความชุ่มชื่น และยังผ่านการวิจัยแล้วไม่ก่อการระคายเคืองต่อผิว



ตัวที่สี่ Curel Intensive Moisture care Foaming wash
  



ตัวนี้จะแตกแหวกจากข้างบนไปอีกทางคือ ตรงที่เป็นเนื้อโฟม เป็นแบรนด์จากญี่ปุ่น ที่เด่นในเรื่องเหมาะกับผิวแพ้ง่าย ปราศจากน้ำหอม สี สารกันเสีย และแอลกอฮอล์  
แต่ยังพบว่ามีพาราเบน มีการการันตีจากแพทย์ผิวหนังในญี่ปุ่น เน้นไปในเรื่องการแก้ปัญหาผิวที่ต้นแหตุเป็นหลัก โดยเฉพาะปัญหาการขาดเซราไมด์ในชั้นผิวทำให้แพ้ง่าย

ถือว่าเป็นการดูแลเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ซึ่งจะป้องกันผิวแพ้ง่ายที่ต้นเหตุ
ลักษณะเป็นเนื้อโฟมสีขาว เนื้อโฟมละเอียดนุ่มเนียน มีกลิ่นอ่อนมากๆ ถ้าไม่ดมดีๆจะแทบไม่ได้กลิ่นเลย ออกแนวหอมนิดๆ เป็นกลิ่นที่ชอบ ใช้โฟมที่เป็นฟองลูบกับผิวหน้าวนๆให้ทั่ว แล้วลูบน้ำล้างออก
สิ่งที่รู้สึกได้หลังการใช้


เมื่อเอาน้ำเปล่าลูบล้างออก รู้สึกล้างออกง่าย ไม่มีความลื่นติดผิวหน้าเหมือนกับตัวอื่นๆ รู้สึกว่าผิวหน้ามีความสะอาด เมื่อซับหน้าให้แห้ง หน้าจะรู้สึกแห้งกว่าตัวอื่นๆ แต่ไม่ถึงกับแห้งตึงเท่าโฟมมีฟองทั่วไป ตัวนี้จะชุ่มชื่นกว่า ใช้ล้างหลังเช็ดเครื่องสำอาง ถือว่าทำความสะอาดขั้นสองได้ดีน่าพอใจ ติดเพียงแค่หน้ายังแอบมีความแห้งบ้างเล็กน้อย ไม่มีอาการแพ้เกิดขึ้น ไม่เป็นผดผื่น และไม่มีสิวขึ้น ใช้ช่วงหน้าหนาวยังรู้สึกว่าแห้งไปนิดนึง ต้องเติมพวกมอยส์เจอร์ทันที ถ้าทิ้งไว้นานจะแอบตึงๆนิดๆ

แต่โดยรวมเรื่องทำความสะอาดและไม่แพ้ ไม่ระคายเคืองดีอยู่ในเกณฑ์ดีมาก


ตัวที่ห้า id Rejuvenator  Vitalizing Cleanser
  



ตัวนี้เป็นแบรนด์ถือว่าใหม่สุดในบรรดา Cleanser ตัวอื่นๆ ตอนแรกคิดอยู่ว่าจะรีวิวดีมั๊ย แต่เลือกมาเพราะมีข้อเด่นที่เคลมในเรื่องการมีความอ่อนโยนต่อผิว เหมาะกับผิวแพ้ง่าย และผิวที่อ่อนแอจากเคมีและสเตียรอยด์

ค่อนข้างมีจุดเด่นคล้ายกับ Curel ที่ฟื้นฟูความแข็งแรงของเกราะผิว กระตุ้นการสร้างเซราไมด์ใต้ชั้นผิว  ไม่มีส่วนผสมของซัลเฟต แอลกอฮอล์ กลิ่นน้ำหอม พาราเบน หรือสี ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง และจุดเด่นตัวนี้ค่อนข้างเป็นแบบอ่อนโยนแบบเจลก็จริงแต่ทำความสะอาดได้ดีหมดจดคล้ายกับกลุ่มพวกโฟมฟอง  น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบความรู้สึกที่ไร้ฟองซะทีเดียว


เนื้อคลีนเซอร์เป็นเจลใส มีความเหลวกว่าตัว Smooth E gel มีกลิ่นอ่อนๆแนวเดียวกับ Curel ยังถือว่าโอเคสำหรับเรานะ กลิ่นธรรมชาติดีลูบกับน้ำแอบมีฟองนิดๆ แต่น้อยมาก ลูบกับผิวหน้าแล้วลื่นไปกับผิว


สิ่งที่รู้สึกได้หลังการใช้ พอล้างน้ำออก ล้างง่ายกว่ารูปแบบเจลตัวอื่น ไม่ทิ้งความเป็นลื่นๆ หรือให้ความรู้สึกว่าล้างไม่หมด แต่กลับรู้สึกสะอาด พอๆกับตัว Curel เลย เมื่อซับหน้าให้แห้ง ผิวไม่ตึงทั้งๆที่ ไม่มีฟิล์มลื่นๆเคลือบไว้ แอบชอบนะ พออเช็ดหน้าหลังล้าง ไม่มีคราบเหลืองของเครื่องสำอาง รู้สึกว่าล้างได้สะอาดดี และระหว่างลูบ Cleanser สามารถลืมตาได้ ไม่รู้สึกแสบตาเลย


โดยรวมถือว่าพอใจมาก ไม่มีอาการแพ้ หรือผดผื่น ผิวหน้าเริ่มรู้สึกเรียบมากขึ้นนิดๆ ไม่มีสิวอักเสบหรือสิวอุดตัน ช่วงหน้าหนาวใช้แล้วชอบนะ หน้าไม่แห้ง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกมีอะไรมาเคลือบเป็นลื่นๆไว้ และเราเป็นคนแต่งหน้าเยอะ แค่ล้างหลังเช็ดเครื่องสำอางค์ด้วย Cleaning oil สามารถทำความสะอาดได้หมดจด ถือว่าพอใจกับตัวนี้มากค่ะ



ตัวที่หก Simple Refreshing Facial Wash gel
  




ตัวนี้ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ในไทยอาจจะมีคนพูดถึงน้อย แต่ค่อนข้างมีชื่อในกลุ่มคนที่ไปต่างประเทศ เพราะเป็น in UK ค่ะ เป็นเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนเช่นกัน เน้นไปทางมีวิตามินบำรุงวิตามินบี 5 และวิตามินอี ไม่มีสี น้ำหอม และ 100% soap free คนผิวแห้งมักชอบใช้  เพราะปกติก็นิยมใช้ในเมืองหนาวอยู่แล้ว ฉะนั้นคนไทย ยิ่งคนเป็นผิวลอกเป็นขุย น่าจะโดนใจ


เนื้อคลีนเซอร์เป็นแบบเจลใส พอๆกับ smooth E gel และข้นกว่า id Rejuvenator Cleanser มีกลิ่นแบบธรรมชาติเหมือนมีกลิ่นแนวพืช หรือต้นไม้ลูบเจลบนผิวบนผิวเปียกน้ำ จะเริ่มเป็นเนื้อขาวๆ มีฟองปนนิดๆ แต่น้อยกว่าโฟมปกติมาก
สิ่งที่รู้สึกได้หลังการใช้ เมื่อล้างน้ำออก ความรู้สึกว่าล้างออกยาก เพราะลื่นมากๆ เลย หรือเราเผลอใช้เยอะไปไม่แน่ใจ แต่ พอล้างไปซักพัก จะยังคงเป็นลื่นๆ ซับหน้าให้แห้งจะยังรู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่บนผิว แต่ก็ยังมีความรู้สึกตึงๆเล็กๆเท่านั้น ไม่แสบตาดีนะ อันนี้ชอบ แสดงว่าไม่ระคายเคือง โดยรวมถือว่าพอใจกับตัวนี้ ไม่มีผดผื่น แต่เหมือนเป็นสิวอุดตันบ้างระหว่างคิ้ว

ไม่แน่ใจว่าบังเอิญเป็นพอดีหรือเปล่า หรือเช็ดหน้าไม่สะอาดพอก่อนล้าง แต่ไม่เป็นผดผื่นคัน ไม่มีสิวอักเสบ ผิวหน้าเหมือนมีอะไรเคลือบๆผิวไว้ แม้ยังจะรู้สึกแห้งบ้าง แต่ความรู้สึกผิวยังไม่รู้สึกว่าเรียบเนียนเท่า Id Cleanser แต่เทียบกับราคาสามารถยอมรับได้ เพราะดีกว่าโฟมล้างหน้าทั่วไป มีความอ่อนโยน



ขอสรุปเป็นภาพรวมของเนื้อ Cleanser แต่ละตัวให้เห็นชัดเจนบ้างขึ้นค่า


  


ครั้งหน้าจะมาเพิ่มเติมรีวิวสกินแคร์บ้าง ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ^^