หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] "ภูกระดึงอีกสิบนาทีบ่ายสาม" (รีวิวภูกระดึง)
กระทู้รีวิว
ภูกระดึง
เที่ยวภูเขา
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เป็นหน้าหนาว ภูกระดึงก็คงจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อยากหาสถานที่ท่องเที่ยวสักแห่ง วันนี้เราจะมาบอกว่าการตัดสินใจไปเที่ยวภูกระดึงนั้น คุณคิดถูกแล้ว 5555 เราเพิ่งไปมา 3 วัน 2 คืน เป็นทริปประทับใจมากกกกก แต่ก็เหนื่อยมากเช่นกัน เดินรวมทั้งหมด 53.5 กิโลเมตรค่ะ บอกไปอาจจะหาว่าเวอร์ แต่พวกเราเดินจริงๆค่ะ เดินเกือบครบทุกที่ เจอเรื่องพีคๆหลายเรื่อง และระหว่างทางก็ได้เพื่อนร่วมทางที่ดีมากๆเลยค่ะ เป็นพี่บัณฑิตที่เพิ่งจบจากมหาลัยที่เราเรียนอยู่ ปล.ทริปนี้เจอดาราด้วยอ่ะ (เราและเพื่อนเป็นติ่งดาราค่ะ555) และที่ห้ามลืมคือ สิ่งที่ควรเตรียมไปที่สุด "น้ำดื่ม" ค่ะ ข้างบนแพงมากค่ะ เราเตรียมน้ำดื่มขวดใหญ่ไป 4 ขวด ขนมปัง ขนมกรุบกรอบ ถ้ากลัวแบกไปไม่ไหวก็มีลูกหาบค่ะ ค่าหาบกิโลกรัมละ 30 บาท
Let's go!!!
เริ่มต้นที่ขอนแก่น ซื้อตั๋วที่ บขส.ขอนแก่น 83 บาท ไปลงที่ร้านเจ๊กิมค่ะ แล้วต่อสองแถวสีแดงไปลงที่อุทยาน เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเพราะมีทางนั้นคอยบริการค่ะ แค่นั่งรอรถออก
ไปติดต่อขอจองพื้นที่กางเต็นท์ และซื้อตั๋วค่ะ ค่าจองพื้นที่ 30 บาท/คน/คืน ตั๋วเข้า 20 บาท/คน และติดต่อจ้างลูกหาบกรณีไม่แบกเองอย่างเรา อิอิ อย่าลืมน้ำติดตัวสักขวด เมื่อซื้อตั๋วแล้วก็เตรียมตัวขึ้นไปเลยค่ะ แค่ 9 กิโลเมตร ฮึบบบบ ออกเดินทางเวลา 09.30 น. ถึงที่พักเวลาประมาณ 17.00 น.
ระหว่างทางขึ้นไปเราต้องฝ่าฟันกับทางขึ้นช่วงแรกก่อน นี่แค่จิ๊บๆค่ะ เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอซัมต่างๆ แต่ละซัมก็มีร้านค้า ซึ่งราคาก็จะแพงขึ้นตามความสูง ไข่ปิ้งทรงเครื่อง 3 ฟอง 20 แนะนำค่ะ อร่อย ไม่ถือว่าแพงเท่าไหร่ถ้าเทียบกับที่ขายทั่วไป น้ำหวานแก้วละ 30 บาท และระหว่างทางก็มีวิวสวยๆให้ชมเพื่อเป็นกำลังใจให้มีแรงสู้ต่อไปค่ะ555 เพราะทางข้างหน้า 1 กิโลเมตรก่อนถึงหลังแปคือโหดมากกก ไม่มีรูป เพราะไม่มีอารมณ์ถ่ายเนื่องจากกลัวตก ต้องไปสัมผัสเองว่าเมื่อถึงจุด จุด นั้นจะถ่ายรูปไม่ลง รูปที่ถ่ายมาแค่เบาๆค่ะ
ฝ่าฟันการปีนหิน บันไดชันเกือบ 90 องศา มาแล้ว ในที่สุดก็ถึงหลังแป เย้ๆๆๆๆๆ วิวสวยมากกกกก แต่อย่าเพิ่งดีใจค่าาา เราต้องเดินไปที่พักอีก 3 กิโลเมตร แต่สบายใจได้นิดนึงเพราะเป็นทางราบตามรูปเลย
ถึงที่พักแล้วค่ะ ติดต่อจองเต็นท์ แผ่นรองนอน หมอน ผ้าห่มที่สำนักงานค่ะ เรามา 3 คน ได้เต็นท์เล็ก แต่ก็นอนได้ไม่เบียด
อาหารมื้อแรกที่ภูกระดึง เป็นส้มตำครกละ 50 บาท ข้าวผัดจานละ 60 บาท ปาท่องโก๋ 20 บาท น้ำเต้าหู้ 25 บาท ปล.ปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้ไม่ควรพลาดค่ะ กินดึกๆ อากาศเย็นๆ ฟินมากกกกก และเดินเล่นรอบๆที่พัก มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก มีโปสการ์ด บริการส่งด้วยค่ะ
เช้าวันแรก พลาดไม่ได้เลยต้องไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น จะมีเจ้าหน้าที่พาไป ตี 5 ตรงค่ะ ออกตรงเวลานะคะ อากาศเย็นนิดหน่อย แต่เดินไปกว่าจะถึงผาก็ร้อนจนต้องถอดเสื้อกันหนาวออกทีละชิ้นค่ะ5555
กลับที่พักเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปยังน้ำตกและผาต่างๆค่ะ บอกเลยว่าวันนี้สนุกมากกกกก ออกเดินทางน้ำตกแรกที่เจอก็คือน้ำตกวังกวาง พอไปถึงความรู้สึกแบบ...นี่หรอที่เดินมา ที่ชั้นเดินมาตั้งไกลแค่มาดูน้ำตกไม่มีน้ำนี่หรอ #แห้งก็บอกว่าแห้ง TT
ไม่เป็นไร ดูแล้วเดินต่อ หนทางอีกยาวไกล แต่ระหว่างทางก็มีคุณป้าคนหนึ่งเข้ามาทักขณะที่เราสามคนกำลังจะถ่ายรูปเซลฟี่กัน เหมือนหลานคุณป้าคิดว่าเราไม่ใช่คนไทยก็พูดภาษาอังกฤษใส่เลยค่ะ คุณป้าอาสาถ่ายรูปให้กับพวกเราค่ะ รู้สึกดีมากค่ะ ซึ้งใจมาก มิตรภาพระหว่างเดินทางมีอยู่จริงๆค่ะ
เดินไปต่อก็ไปพบกับน้ำตกต่างๆ เริ่มตั้งแต่น้ำตกเพ็ญพบ เริ่มมีใบเมเปิล แต่ไม่ค่อยแดงมากเท่าไหร่ มีร่วงหล่นเยอะเลย หยิบมาถ่ายสักแชะ พวกเราตื่นเต้นมากเลย5555 ข้างล่างของน้ำตกก็สวยค่ะ เดินไปต่อสักหน่อยก็เจอน้ำตกเรื่อยๆ ทางเดินไปก็ค่อนข้างลำบากนิดนึง แต่ต้องสู้ เพราะความสวยงามของธรรมชาติที่แท้จริงรอเราอยู่ ระหว่างทางเดินไปเราได้สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มที่เลยค่ะ ดื่มด่ำกับธรรมชาติสุดๆ แม้ทางจะดูลึกลับแต่รับรองไม่หลงทางค่ะ เพราะมีป้ายบอกทางเรื่อยๆ ถึงแม้บางช่วงจะไม่มีคนเลยก็ตาม
ห้ามพลาดดดดดด น้ำตกถ้ำใหญ่ สวยมากกกก ต้องไปเอง ถึงจะสัมผัสได้ถึงความสวย ใบเมเปิลหล่นลงน้ำเยอะมากค่ะ น้ำใสมากกกก อยู่นี่นานสุดค่ะ นักท่องเที่ยวคนอื่นๆดูแลกันดีค่ะ คอยบอกทางว่าทางนั้นทางนี้เดินได้ ไม่ลื่น
หลังจากชมน้ำตกถ้ำใหญ่จนหนำใจแล้ว เราจึงตัดสินใจเดินกลับที่พักเพื่อไปทานข้าวเที่ยงก่อนที่จะเดินทางไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ซึ่งหลายๆคนก็เตรียมไปเลย และเดินต่อไปยังผาหล่มสักเลย แต่เราไม่ได้เตรียมไป จึงกลับที่พักแล้วเดินกลับมาจุดเดิมระยะทางก็รวมๆก็ประมาณ 4 กิโลเมตร ระว่างทางที่จะเดินไปยังผาหล่มสักเราก็เห็นป้ายบอกว่า ห้ามเข้าก่อน 15.00 น. เนื่องจากช้างป่าออกหากิน ตอนนั้นดูเวลาก็ 14.50 แล้ว นี่แหละค่ะ ตรงที่พีคสุด เราตัดสินใจเดินเข้าไปเลย ผู้หญิงตัวเล็กๆ 3 คน เดินไปได้ประมาณ 1 ชม. ไม่มีคนเดินตามมาตอนแรกตัดสินใจจะเดินกลับทางเดิม จึงเห็นกลุ่มคนข้างหน้า 4 คน จึงพยายามเดินให้ทันเขา เหนื่อยมากกกก พอเดินทันก็เลยถามไถ่พี่เขา ปรากฏว่าพี่เขาก็จะไปผาหล่มสักพอดี จึงขอติดไปกับพี่เขาด้วย เรื่องบังเอิญเกิดขึ้น เมื่อรู้ว่าพี่ทั้ง 4 คนเป็นพี่บัณฑิตที่เพิ่งจบจากมหาลัยที่เราเรียนอยู่ พี่เขาช่วยเหลือพวกเราดีมากกกก สร้างบรรยากาศสนุกตลอดทาง เดินนำทางให้ คอยถาม ตอนนั้นรู้สึกซึ้งใจมาก คิดย้อนกลับไปว่าถ้าเราเดินกลับคงไม่ได้ดูทั้งพระอาทิตย์ตกและ อาจจะไม่ได้มิตรภาพอีกต่างหาก เชื่อแล้วว่ามิตรภาพระหว่างการเดินทางมีจริงๆ ไปดูรปกันดีกว่า5555
ระหว่างทาง 7 กิโลเมตรที่เดินไปยังผาหล่มสัก
ถึงแล้วผาหล่มสัก แต่พักดื่มน้ำก่อน ชาเขียวแก้วนี้ แก้วละ 45 บาท รีฟิลได้ เพิ่มอีก 40 บาท แต่กรุ๊ปเราเข้าใจปิดนึกว่าเพิ่มอีก 5 บาท พ่อค้าจึงลดให้เลย คือเพิ่มแค่ 5 บาท รีฟิลได้ แต่ก็เติมได้แค่ 1 ครั้งเพราะเดี๋ยวจุก อิอิ
เห็นรูปแล้วรู้สึกคุ้มค่ากับการเดินมากกกก ปล.ต้องเดินกลับอีก 9 กิโลเมตร
ถ่ายรูปกันเสร็จก็ถึงเวลาเดินทางกลับ ซึ่งกรุ๊ปเราเป็นกรุ๊ปสุดท้ายที่อยู่ผาหล่มสัก ออกเดินทางจากผา 18.32 น. มืดมากกกก บรรยากาศหนาว ลมแรง ต้องเดินเรียบหน้าผาไป ช้างป่าก็กลัว น่ากลัวมากกก แต่พี่ๆก็คอยดูแลเราอย่างดี เดินไปผ่านทุกผา แวะทุกผา ซึ่งมีร้านค้าอยู่ก็นั่งคุยกับแม่ค้าพ่อค้าสักแปปนึงค่อยออกเดินทางต่อ ระหว่างทางเจอกวาง ตกใจมาก แต่ก็ต้องเดินต่อไป ใช้เวลาเดินกลับถึงที่พัก ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ระยะทาง 9 กิโลเมตร สตรองมากกกกกกกกกก เป็นกรุ๊ปสุดท้ายที่ถึงที่พัก ระหว่างทางต้องไปสัมผัสเอง5555 แต่แนะนำว่ารีบออกจากผาหล่มสักก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า เพราะพระอาทิตย์ลงเร็วมาก
เช้าวันสุดท้าย ต้องลงแล้วจึงเดินเล่นรอบๆที่พักก่อนลง เดินไปเจอพี่เกรท วรินทร จึงขอเข้าไปถ่ายรูปกับพี่เขา เป็นอีกเรื่องที่คุ้มสำหับทริปนี้5555
ถึงเวลาลงเขา ออกเดินทางเวลา 10.00 น. ถึงเชิงเขาโดยสวัสดิภาพเวลา 16.00 น. เป็นการเดินแบบไม่รีบเท่าไหร่ พักทุกซัม กินทุกซัม ส้มตำมื้อสุดท้ายที่ภูกระดึงก็อร่อย
เย้ๆๆๆ ในที่สุดก็ลงจากภูกระดึงแล้ววววว สิ่งที่ได้จากภูกระดึงมีหลายอย่างเลย อย่างแรกคือได้ชมธรรมชาติที่สวยงาม ธรรมชาติที่แท้จริง การเดินทางที่เหนื่อยสุดๆ แต่คุมค่ากับการเดิน มิตรภาพระหว่างการเดินทาง และเจอพี่เกรท555555555
ในรูปดูสวยแต่ถ้าได้ไปดูเองจะสวยกว่านี้เยอะมากกกกกกก
สุดท้ายจะบอกว่า
"ครั้งหนึ่งในชีวิตเราคือผู้พิชิตภูกระดึง"
เย้ๆๆๆ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย5555555555
ชื่อสินค้า:
รีวิว ภูกระดึง
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ทริปกอดคอกันกลม ทดสอบกำลังขาพากันขึ้นภูกระดึง พี่พี่ไหวป่าววววว
สวัสดีค่ะ พบกับอีกแล้วหลังจากหายการเขียนกระทู้รีวิวที่เที่ยวในแบบฉบับของพาฝันคนดีคนเดิม และที่เพิ่มเติมกับทริปกอดคอกันกลม ทดสอบกำลังขาพากันขึ้นภูกระดึง พี่พี่ไหวป่าววววว ที่ขึ้นว่าโหดใช่ได้ จะโหดจริงแ
PaFhan-ka
ทีมน้องชาย จัดทริป ไปภูกระดึง 1 คืน ขึ้นทางผาหล่มสัก พักบ้านพักอุทยาน ขอความเห็นด้วยครับ
เริ่มที่ น้องชายและเพื่อนๆ เค้าจัดทริป ไปภูกระดึงตามนี้ครับ ขึ้นทางผาหล่มสัก 4.5 กิโลเมตร ....... พักรอ พระอาทิตย์ ตกที่ผาหล่มสัก รอชมพระอาทิตย์ตก เดินไปที่พัก อีก 9กิโลเมตร เข้าที่นอนบ้านพักอุทยาน
พ่อน้องเนย
ครั้งแรกในชีวิตกับการเป็นผู้พิชิตภูกระดึง จังหวัดเลย
Photo & Story : Focusthaimag http://focusthaimag.com/?fo=news&id=681 Follow us on FB: https://www.facebook.com/Focusthaimag ก่อนการเดินทางไป “ พิชิตภูกระดึง ” ได้ตั้งคำถามไว้ให้
เทียมเกวียน
กาลครั้งที่2 ณ."ภูกระดึง" มกราคม 59
"ภูกระดึง" ชื่อนี้ที่ใครๆก็อยากไปสัผัส ปฐมบท ของการเริ่มต้นการเดินป่า ที่ใครๆหลายคนมักจะมาเริ่มกันที่นี่ จขท.เคยไปเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังไม่มีกล้องส่วนตัว หรือโซเชี่ยลอะไรพวกนี้ เ
ToOmMee_991
ภูกระดึง ครั้งที่ 2 ของย่า ครั้งที่ 3 ของฉัน
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าทริปนี้เป็นทริปที่เซอร์ไพร้มากก่อนไป 1 สัปดาห์ เพราะว่า “ย่าเราอายุ 80 ปี จะเดินขึ้นภูกระดึง” ตอนแรกเราก็ชวนย่าก่อนหน้านั้น 3 เดือน ย่าก็ยืนยันว่าจะไม่ไป แต่ไปๆ มาๆ กล
สมาชิกหมายเลข 3556616
ถามพี่ๆๆทีอยู่จ.ชัยภูมิ หรือไปเที่ยวชัยภูมิหน่อยคัรบ
พอดีผมไป5วัน4คืน ทำทริปแบบนี้ครับ อยากถามเป็นข้อๆๆรบกวนพี่ๆๆแนะนำหน่อยคัรบ 1.ออกศุกรมืดจากทม ไปนอนแถวด่านขุนทด (ออกหลังเลิกงาน19.00 กูเกิลแมพบอกประมาณ4ชม.นิดๆ) 2.วันเสาร์ออกเช้า6.30 ไปเที่ยว 2ที่ ไปท
สมาชิกหมายเลข 7586054
ระยะเวลาในการเดินบน "ภูกระดึง" ??? รบกวนพี่ๆหน่อยน้ะครับ
พอดีว่าจะไปภูกระดึงวันที่ 20 21 22 นี้ครับ แต่ว่ากังวลเรื่องเวลาในการเดินเที่ยวบนภูกระดึงวันที่2 แบบว่า..... 1.ถ้าผมไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ฝานกแอ่นตอนตี5 กลับมาแล้วจะผาหล่มสักไปทางน้ำตกโดยผ่าน น้ำตกวัง
สมาชิกหมายเลข 1526877
ภูกระดึง ...คนเดียว วันที่เปิดวันแรก 1 ตค. 64
2 วัน 1 คืนฝ่าโคลน บุกภูกระดึง ในวันแรกที่เปิดให้เดินขึ้น เราไปคนเดียว เป็นครั้งแรกด้วย ไม่เหงาเลย ใครยังไม่เคยไป หรือใครไปมาแล้ว เราจะมาเล่าประสบการณ์ ขึ้นภ
Calamine Trip
เที่ยวภูกระดึง 3วัน2คืน ช่วงหน้าร้อน (26-28 มีนาคม 2568)
นี่เป็นการเที่ยวภูกระดึงครั้งแรก และเป็นช่วงหน้าร้อน บวกกับปิดโซนน้ำตก สามารถเดินได้แค่โซนหน้าผา และเริ่มเดินได้หลัง 8:00 น. และต้องกลับมาก่อนเวลา 16:00 น. แต่ขอบอกเลยว่าไม่ได้โหดร้ายแบบที่ทุกคนคิด จะ
สมาชิกหมายเลข 8717092
ภูกระดึง ตอน 3 พักก่อนลงภู ผาหมากดูก (13.01.2568)
สวัสดีครับ ต่อจากตอนที่แล้ว ภูกระดึง ตอน 2 เส้นทางเลียบหน้าผา (12.01.2568) วันที่ 3 ของทริป 13/01/2568 อากาศยังคงหนาวอยู่ โปรแกรมวันนี้ พักผ่อน อยู่แถวโซนบ้านพัก ตอนเย็นค่อยไป รอดูพระอาทิตย์ตกที
AUN_SAP
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภูกระดึง
เที่ยวภูเขา
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 38
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] "ภูกระดึงอีกสิบนาทีบ่ายสาม" (รีวิวภูกระดึง)
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เป็นหน้าหนาว ภูกระดึงก็คงจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อยากหาสถานที่ท่องเที่ยวสักแห่ง วันนี้เราจะมาบอกว่าการตัดสินใจไปเที่ยวภูกระดึงนั้น คุณคิดถูกแล้ว 5555 เราเพิ่งไปมา 3 วัน 2 คืน เป็นทริปประทับใจมากกกกก แต่ก็เหนื่อยมากเช่นกัน เดินรวมทั้งหมด 53.5 กิโลเมตรค่ะ บอกไปอาจจะหาว่าเวอร์ แต่พวกเราเดินจริงๆค่ะ เดินเกือบครบทุกที่ เจอเรื่องพีคๆหลายเรื่อง และระหว่างทางก็ได้เพื่อนร่วมทางที่ดีมากๆเลยค่ะ เป็นพี่บัณฑิตที่เพิ่งจบจากมหาลัยที่เราเรียนอยู่ ปล.ทริปนี้เจอดาราด้วยอ่ะ (เราและเพื่อนเป็นติ่งดาราค่ะ555) และที่ห้ามลืมคือ สิ่งที่ควรเตรียมไปที่สุด "น้ำดื่ม" ค่ะ ข้างบนแพงมากค่ะ เราเตรียมน้ำดื่มขวดใหญ่ไป 4 ขวด ขนมปัง ขนมกรุบกรอบ ถ้ากลัวแบกไปไม่ไหวก็มีลูกหาบค่ะ ค่าหาบกิโลกรัมละ 30 บาท
Let's go!!!
เริ่มต้นที่ขอนแก่น ซื้อตั๋วที่ บขส.ขอนแก่น 83 บาท ไปลงที่ร้านเจ๊กิมค่ะ แล้วต่อสองแถวสีแดงไปลงที่อุทยาน เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเพราะมีทางนั้นคอยบริการค่ะ แค่นั่งรอรถออก
ไปติดต่อขอจองพื้นที่กางเต็นท์ และซื้อตั๋วค่ะ ค่าจองพื้นที่ 30 บาท/คน/คืน ตั๋วเข้า 20 บาท/คน และติดต่อจ้างลูกหาบกรณีไม่แบกเองอย่างเรา อิอิ อย่าลืมน้ำติดตัวสักขวด เมื่อซื้อตั๋วแล้วก็เตรียมตัวขึ้นไปเลยค่ะ แค่ 9 กิโลเมตร ฮึบบบบ ออกเดินทางเวลา 09.30 น. ถึงที่พักเวลาประมาณ 17.00 น.
ระหว่างทางขึ้นไปเราต้องฝ่าฟันกับทางขึ้นช่วงแรกก่อน นี่แค่จิ๊บๆค่ะ เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอซัมต่างๆ แต่ละซัมก็มีร้านค้า ซึ่งราคาก็จะแพงขึ้นตามความสูง ไข่ปิ้งทรงเครื่อง 3 ฟอง 20 แนะนำค่ะ อร่อย ไม่ถือว่าแพงเท่าไหร่ถ้าเทียบกับที่ขายทั่วไป น้ำหวานแก้วละ 30 บาท และระหว่างทางก็มีวิวสวยๆให้ชมเพื่อเป็นกำลังใจให้มีแรงสู้ต่อไปค่ะ555 เพราะทางข้างหน้า 1 กิโลเมตรก่อนถึงหลังแปคือโหดมากกก ไม่มีรูป เพราะไม่มีอารมณ์ถ่ายเนื่องจากกลัวตก ต้องไปสัมผัสเองว่าเมื่อถึงจุด จุด นั้นจะถ่ายรูปไม่ลง รูปที่ถ่ายมาแค่เบาๆค่ะ
ฝ่าฟันการปีนหิน บันไดชันเกือบ 90 องศา มาแล้ว ในที่สุดก็ถึงหลังแป เย้ๆๆๆๆๆ วิวสวยมากกกกก แต่อย่าเพิ่งดีใจค่าาา เราต้องเดินไปที่พักอีก 3 กิโลเมตร แต่สบายใจได้นิดนึงเพราะเป็นทางราบตามรูปเลย
ถึงที่พักแล้วค่ะ ติดต่อจองเต็นท์ แผ่นรองนอน หมอน ผ้าห่มที่สำนักงานค่ะ เรามา 3 คน ได้เต็นท์เล็ก แต่ก็นอนได้ไม่เบียด
อาหารมื้อแรกที่ภูกระดึง เป็นส้มตำครกละ 50 บาท ข้าวผัดจานละ 60 บาท ปาท่องโก๋ 20 บาท น้ำเต้าหู้ 25 บาท ปล.ปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้ไม่ควรพลาดค่ะ กินดึกๆ อากาศเย็นๆ ฟินมากกกกก และเดินเล่นรอบๆที่พัก มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก มีโปสการ์ด บริการส่งด้วยค่ะ
เช้าวันแรก พลาดไม่ได้เลยต้องไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น จะมีเจ้าหน้าที่พาไป ตี 5 ตรงค่ะ ออกตรงเวลานะคะ อากาศเย็นนิดหน่อย แต่เดินไปกว่าจะถึงผาก็ร้อนจนต้องถอดเสื้อกันหนาวออกทีละชิ้นค่ะ5555
กลับที่พักเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปยังน้ำตกและผาต่างๆค่ะ บอกเลยว่าวันนี้สนุกมากกกกก ออกเดินทางน้ำตกแรกที่เจอก็คือน้ำตกวังกวาง พอไปถึงความรู้สึกแบบ...นี่หรอที่เดินมา ที่ชั้นเดินมาตั้งไกลแค่มาดูน้ำตกไม่มีน้ำนี่หรอ #แห้งก็บอกว่าแห้ง TT
ไม่เป็นไร ดูแล้วเดินต่อ หนทางอีกยาวไกล แต่ระหว่างทางก็มีคุณป้าคนหนึ่งเข้ามาทักขณะที่เราสามคนกำลังจะถ่ายรูปเซลฟี่กัน เหมือนหลานคุณป้าคิดว่าเราไม่ใช่คนไทยก็พูดภาษาอังกฤษใส่เลยค่ะ คุณป้าอาสาถ่ายรูปให้กับพวกเราค่ะ รู้สึกดีมากค่ะ ซึ้งใจมาก มิตรภาพระหว่างเดินทางมีอยู่จริงๆค่ะ
เดินไปต่อก็ไปพบกับน้ำตกต่างๆ เริ่มตั้งแต่น้ำตกเพ็ญพบ เริ่มมีใบเมเปิล แต่ไม่ค่อยแดงมากเท่าไหร่ มีร่วงหล่นเยอะเลย หยิบมาถ่ายสักแชะ พวกเราตื่นเต้นมากเลย5555 ข้างล่างของน้ำตกก็สวยค่ะ เดินไปต่อสักหน่อยก็เจอน้ำตกเรื่อยๆ ทางเดินไปก็ค่อนข้างลำบากนิดนึง แต่ต้องสู้ เพราะความสวยงามของธรรมชาติที่แท้จริงรอเราอยู่ ระหว่างทางเดินไปเราได้สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มที่เลยค่ะ ดื่มด่ำกับธรรมชาติสุดๆ แม้ทางจะดูลึกลับแต่รับรองไม่หลงทางค่ะ เพราะมีป้ายบอกทางเรื่อยๆ ถึงแม้บางช่วงจะไม่มีคนเลยก็ตาม
ห้ามพลาดดดดดด น้ำตกถ้ำใหญ่ สวยมากกกก ต้องไปเอง ถึงจะสัมผัสได้ถึงความสวย ใบเมเปิลหล่นลงน้ำเยอะมากค่ะ น้ำใสมากกกก อยู่นี่นานสุดค่ะ นักท่องเที่ยวคนอื่นๆดูแลกันดีค่ะ คอยบอกทางว่าทางนั้นทางนี้เดินได้ ไม่ลื่น
หลังจากชมน้ำตกถ้ำใหญ่จนหนำใจแล้ว เราจึงตัดสินใจเดินกลับที่พักเพื่อไปทานข้าวเที่ยงก่อนที่จะเดินทางไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ซึ่งหลายๆคนก็เตรียมไปเลย และเดินต่อไปยังผาหล่มสักเลย แต่เราไม่ได้เตรียมไป จึงกลับที่พักแล้วเดินกลับมาจุดเดิมระยะทางก็รวมๆก็ประมาณ 4 กิโลเมตร ระว่างทางที่จะเดินไปยังผาหล่มสักเราก็เห็นป้ายบอกว่า ห้ามเข้าก่อน 15.00 น. เนื่องจากช้างป่าออกหากิน ตอนนั้นดูเวลาก็ 14.50 แล้ว นี่แหละค่ะ ตรงที่พีคสุด เราตัดสินใจเดินเข้าไปเลย ผู้หญิงตัวเล็กๆ 3 คน เดินไปได้ประมาณ 1 ชม. ไม่มีคนเดินตามมาตอนแรกตัดสินใจจะเดินกลับทางเดิม จึงเห็นกลุ่มคนข้างหน้า 4 คน จึงพยายามเดินให้ทันเขา เหนื่อยมากกกก พอเดินทันก็เลยถามไถ่พี่เขา ปรากฏว่าพี่เขาก็จะไปผาหล่มสักพอดี จึงขอติดไปกับพี่เขาด้วย เรื่องบังเอิญเกิดขึ้น เมื่อรู้ว่าพี่ทั้ง 4 คนเป็นพี่บัณฑิตที่เพิ่งจบจากมหาลัยที่เราเรียนอยู่ พี่เขาช่วยเหลือพวกเราดีมากกกก สร้างบรรยากาศสนุกตลอดทาง เดินนำทางให้ คอยถาม ตอนนั้นรู้สึกซึ้งใจมาก คิดย้อนกลับไปว่าถ้าเราเดินกลับคงไม่ได้ดูทั้งพระอาทิตย์ตกและ อาจจะไม่ได้มิตรภาพอีกต่างหาก เชื่อแล้วว่ามิตรภาพระหว่างการเดินทางมีจริงๆ ไปดูรปกันดีกว่า5555
ระหว่างทาง 7 กิโลเมตรที่เดินไปยังผาหล่มสัก
ถึงแล้วผาหล่มสัก แต่พักดื่มน้ำก่อน ชาเขียวแก้วนี้ แก้วละ 45 บาท รีฟิลได้ เพิ่มอีก 40 บาท แต่กรุ๊ปเราเข้าใจปิดนึกว่าเพิ่มอีก 5 บาท พ่อค้าจึงลดให้เลย คือเพิ่มแค่ 5 บาท รีฟิลได้ แต่ก็เติมได้แค่ 1 ครั้งเพราะเดี๋ยวจุก อิอิ
เห็นรูปแล้วรู้สึกคุ้มค่ากับการเดินมากกกก ปล.ต้องเดินกลับอีก 9 กิโลเมตร
ถ่ายรูปกันเสร็จก็ถึงเวลาเดินทางกลับ ซึ่งกรุ๊ปเราเป็นกรุ๊ปสุดท้ายที่อยู่ผาหล่มสัก ออกเดินทางจากผา 18.32 น. มืดมากกกก บรรยากาศหนาว ลมแรง ต้องเดินเรียบหน้าผาไป ช้างป่าก็กลัว น่ากลัวมากกก แต่พี่ๆก็คอยดูแลเราอย่างดี เดินไปผ่านทุกผา แวะทุกผา ซึ่งมีร้านค้าอยู่ก็นั่งคุยกับแม่ค้าพ่อค้าสักแปปนึงค่อยออกเดินทางต่อ ระหว่างทางเจอกวาง ตกใจมาก แต่ก็ต้องเดินต่อไป ใช้เวลาเดินกลับถึงที่พัก ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ระยะทาง 9 กิโลเมตร สตรองมากกกกกกกกกก เป็นกรุ๊ปสุดท้ายที่ถึงที่พัก ระหว่างทางต้องไปสัมผัสเอง5555 แต่แนะนำว่ารีบออกจากผาหล่มสักก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า เพราะพระอาทิตย์ลงเร็วมาก
เช้าวันสุดท้าย ต้องลงแล้วจึงเดินเล่นรอบๆที่พักก่อนลง เดินไปเจอพี่เกรท วรินทร จึงขอเข้าไปถ่ายรูปกับพี่เขา เป็นอีกเรื่องที่คุ้มสำหับทริปนี้5555
ถึงเวลาลงเขา ออกเดินทางเวลา 10.00 น. ถึงเชิงเขาโดยสวัสดิภาพเวลา 16.00 น. เป็นการเดินแบบไม่รีบเท่าไหร่ พักทุกซัม กินทุกซัม ส้มตำมื้อสุดท้ายที่ภูกระดึงก็อร่อย
เย้ๆๆๆ ในที่สุดก็ลงจากภูกระดึงแล้ววววว สิ่งที่ได้จากภูกระดึงมีหลายอย่างเลย อย่างแรกคือได้ชมธรรมชาติที่สวยงาม ธรรมชาติที่แท้จริง การเดินทางที่เหนื่อยสุดๆ แต่คุมค่ากับการเดิน มิตรภาพระหว่างการเดินทาง และเจอพี่เกรท555555555
ในรูปดูสวยแต่ถ้าได้ไปดูเองจะสวยกว่านี้เยอะมากกกกกกก
สุดท้ายจะบอกว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิตเราคือผู้พิชิตภูกระดึง"
เย้ๆๆๆ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย5555555555