บริการแย่ๆจากโบรคเกอร์ประกันภัยเจ้าหนึ่ง ที่ต้องบอกต่อ

ออกตัวก่อนว่านี่เป็นกระทู้แรกไม่เคยตั้งมาก่อนและขอยืมยูสของเพื่อนมาค่ะ เพราะอยากจะบอกเล่าประสบการณ์แย่ๆที่เจอมากับตัว จากโบรคเกอร์ประกันภัยเจ้าหนึ่งค่ะ ตั้งแต่การขายประกันจนถึงการขอเงินคืนหลังมีการยกเลิก ถ้ามีผิดพลาดตรงไหนขออภัยไว้ก่อนเลยนะคะ

เริ่มจากเราซื้อรถคันแรกค่ะ ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับการต่อประกันรถยนต์หรือเทคนิคการขายต่างๆของโบรกเกอร์เท่าไหร่ พอช่วง5เดือนก่อนหมดประกันปีแรก ก็มีโบรคเกอร์เจ้าหนึ่งโทรมาเสนอขายประกันปีที่2 ให้ (บริษัทชื่อเหมือนรายการขายสินค้าที่ขายผ่านโทรทัศน์ขึ้นต้น T) โดยพูดจาดี ข้อเสนอก็โอเค แต่เราก็ยังไม่ตอบตกลง เพราะตอนนั้นยังไม่มั่นใจเรื่องการต่อประกันทางโทรศัพท์เท่าไหร่ เราเลยลองไปคุยกับเพื่อนคนอื่น ก็ทำประกันผ่านโบรกเกอร์กันหมด แล้วก็จ่ายเบี้ยในราคาไล่ๆกันด้วย พอทางโบรกเจ้านี้ติดต่อกลับมาอีกเราก็เลยตกลงไป (เดือนสิงหาคม)

ทางโบรคเกอร์แจ้งว่าเราต้องจ่ายค่ามัดจำก่อน 3000 บาท เดี๋ยวนี้เค้าทำกันแบบนี้ทั้งนั้น โดยทางเค้าจะส่งเอกสารมาให้ตรวจสอบก่อน ถ้าไม่โอเคสามารถยกเลิกเพื่อเอาเงินคืนได้เลย ด้วยความอ่อนหัด เราเลยตกลงและบอกให้ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต

จากนั้นไม่เกิน 2 วันเอกสารมาถึงบ้านเราค่ะ พอเปิดดูรายละเอียด เรานี่แอบหงุดหงิดนิดนึงเลยล่ะ เพราะเอกสารมันผิดตั้งแต่ชื่อบริษัทประกันภัย ยันทุนประกันที่ได้รับเลยค่ะ เราก็ร้อนใจรีบโทรไปถามตัวแทน (เค้าบอกว่า ถ้าติดปัญหาอะไรโทรหาเค้าได้ตลอด หรือไลน์ไปหาได้) วันนั้นเป็นวันเสาร์ค่ะ ช่วงใกล้ๆเที่ยง เราโทรเข้าเบอร์มือถือที่เคยโทรมาขาย ก็ปิดเครื่อง เราเลยโทรหาอีกเบอร์ที่เค้าทิ้งไว้ เค้ารับสายค่ะ แต่พูดห้วนๆทำนองว่า “ใคร?..ติดต่อเรื่องอะไร?..โทรมาใหม่วันจันทร์” เราก็แอบเงิบนิดๆว่าน่าจะผิดที่เราเองแหละที่โทรไปวันหยุด แต่เราก็บอกเค้าไว้ค่ะว่าเอกสารที่ได้มามันผิด

พอวันจันทร์ (10 สิงหาคม 2559)  เราโทรไปก็ไม่รับ เราไลน์ไปอีกให้เค้าติดต่อกลับ เค้าอ่านค่ะ แต่ไม่ตอบ ผ่านหลายวันก็ไม่มีสายโทรกลับ เราเลยรู้สึกว่านี่มันไม่โอเคตั้งแต่เริ่มแล้ว กะแค่จะถามว่าทำไมทำประกันมาให้เราผิดแค่นี้ยังยากขนาดนี้เลย แล้วกว่าจะแก้เอกสารให้เราเสร็จเราต้องตามขนาดไหน เราเลยตัดสินใจว่าไม่เอาแล้ว โทรเข้าไปที่บริษัทตรงเพื่อขอยกเลิกเลยดีกว่า พนักงานที่รับเรื่องบอกเราว่าเดี๋ยวจะให้sale ติดต่อกลับไปคุยก่อน เราก็โอเคยอมๆ ในช่วงหนึ่งสัปดาห์นี้เรายอมรับเลยว่า โทรไปหลายสายมาก เพราะเราค่อนข้างร้อนใจ กลัวว่าจะการยกเลิกมันจะช้าไป บวกกับทางโบรคเกอร์ก็ไม่ติดต่อเรากลับเลย จนวันอังคารของอีกสัปดาห์นึง (23 สิงหาคม 2559) เราโทรเข้าไปบริษัท ขอยกเลิกเลย ไม่รออะไรแล้ว เพราะ sale ไม่สนใจเราเลย ไม่ติดต่อกลับ ไม่มีความคืบหน้า นี่ขนาดเราตาม ถ้าเราไม่ตาม จะปล่อยเคสของเราไปขนาดไหน เค้าก็ยังยืนยันว่าจะให้ sale ติดต่อกลับ เราเลยบอกเค้าประมาณว่าถ้านี่เป็น process การยกเลิกของบริษัทคุณ ก็ให้เค้าโทรกลับมาภายในวันนี้

จากนั้นพักใหญ่ๆ sale ก็โทรมาค่ะ ถามเสียงจิกๆ ประมาณว่า “ทำไมๆครับ เห็นว่าจะยกเลิกหรอมีอะไร ติดอะไรไหนลองบอกมาหน่อย” เราก็บอกว่า “จะยกเลิกค่ะ เอกสารมันผิดไปหมดเลย ตอนตกลงเป็นประกันอีกเจ้า เอกสารมาอีกเจ้า ทุนก็ไม่เหมือนที่คุยไว้” เสียงเราก็ไม่ค่อยดีหรอกค่ะ จิกเรามาขนาดนั้น แถมกว่าจะติดต่อกลับมาได้ จนเราไม่พอใจแล้ว เค้าบอกว่างั้นเดี๋ยวผมแก้เอกสารให้ เราเลยบอกปัดว่าไม่เอาแล้วขอยกเลิก ความใส่ใจลูกค้าไม่มีเลย ขอให้โทรกลับไม่เคยโทรกลับ เค้าก็ย้อนถามเราค่ะว่า โทรมาตอนไหน ไลน์มาตอนไหน มือถืออยู่กับผมตลอดนะ ไม่เคยมีเลย เราเลยแคปรูปเวลาโทรออกส่งไปให้เค้าดู จนสุดท้ายเค้าก็ยอมยกเลิกให้ เราก็ส่งเอกสารคืนไปค่ะ และทางโบรคเกอร์ได้รับวันที่ 7 กันยายน 2559

ตอนนั้นเราคิดว่ามันจบละค่ะ แต่มาคิดได้ว่า เราให้ตัดบัตรเครดิตนี่นา รีบไปเช็คเลยค่ะ สรุปว่ามีการตัดเงินตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2559 ซึ่งตัดตั้งแต่เราตกลงทำประกันเลยก็ว่าได้ เร็วมาก เราไม่รู้ว่าการที่เค้าบ่ายเบี่ยงไม่ตอบเรานั้น เพราะเค้าจะยื้อจนตัดเงินสำเร็จรึป่าว

หลังจากนั้นเราก็เริ่มสอบถามเค้าถึงวันคืนเงินค่ะ โทรไปครั้งแรก เค้าบอกว่าให้รอ 10-15 วันหลังจากทางบริษัทได้รับเอกสารคืน แต่คืนแค่ 2500 บาท หักค่าดำเนินการ 500 บาท เราถามว่าทำไมต้องหัก คุณยังไม่ได้ทำอะไรให้เราเลย ยังไม่ถึงเวลาคุ้มครอง เอกสารที่ส่งมาให้ก็มีแค่ ใบขอเอาประกัน กับใบเสร็จค่ามัดจำ แถมเอกสารก็มาไม่ถูกต้อง ยังไม่ทันตรวจสอบก็หักเงินแล้ว เค้าก็บอกเราแค่ว่ามันเป็นไปตามสัญญาของบริษัท เราไม่พอใจสุดๆ เลยโทรไปถาม คปภ. ได้คำตอบว่า เค้าสามารถหักค่าดำเนินการสูงสุดได้ 500 บาท เรานี่หัวเสียกับการหากินของโบรคเกอร์แบบนี้จริงๆค่ะ แค่นี้ก็ได้จากเราไปแล้ว 500 บาท ทำอะไรไม่ได้ค่ะ แค่ตกลงทำก็เท่ากับเสียเงิน (โบรคเกอร์บางเจ้าก็ไม่หักนะคะ คงต้องสอบถามดีๆ)

ผ่านมาถึงรอบบิลเดือนตุลาคม ยังไม่มียอดเข้าค่ะ เราเลยโทรกลับไปถามครั้งที่สอง เค้าบอกว่าเค้าจะทำคืนเงินเดือนละ 1 รอบ อาจจะต้องรอ 30 – 45 วัน เรารอจนรอบบิลของเดือนพฤศจิกายนก็ยังไม่มี เราโทรไปทวงอีกครั้งได้คำตอบว่า “ปกติเราทำเรื่องคืนเงินแค่เดือนละ 1 รอบนะคะ ลูกค้าต้องรอ” เราก็ตอกกลับว่า “ใช่ค่ะเดือนละ 1 รอบแต่ทำไมผ่านมา 2 รอบบิลแล้วยังไม่ได้คืนอีก ตกหล่นรึป่าว” เค้าบอกว่า “อันนี้หนูไม่ทราบค่ะ แต่ปกติจะคืน 45-90 วันค่ะ” … คือเลื่อนกันดื้อๆแบบนี้เลย? เราเลยบอกเด็ดขาดว่า เราขอวันที่แน่นอน ไม่ใช่มาเลื่อนไปเรื่อยๆแบบนี้ ติดอะไรก็บอกมา เค้าตอบเราว่า “อันนี้หนูไม่ทราบค่ะ เป็นเรื่องของทางการเงิน หมดหน้าที่ตรงส่วนหนูแล้ว” เราก็ขอเบอร์ติดต่อการเงิน เค้าบอกว่าเดี๋ยวให้การเงินติดต่อกลับ (เดากันออกไม๊คะว่าโทรกลับมารึป่าว) … ไม่มีใครโทรกลับเลย เราทิ้งช่วงรอวันสองวันแล้วโทรกลับไปถามหลายครั้ง ก็เป็นแบบเดิมตลอดค่ะ “ยกเลิกให้แล้วนี่คะ, วันที่คืนเงินบอกไม่ได้ค่ะ, ไม่ทราบค่ะ, หนูไม่มีอำนาจ, หมดหน้าที่หนูแล้ว, เดี๋ยวจะตามให้” เราเบื่อคำตอบพวกนี้เต็มทนแล้ว เราถามว่าถ้าตรงนี้ไม่ทราบแล้วมีตรงไหนที่ทราบ มีตรงไหนให้ติดต่ออีก คือถ้าเค้าตามเรื่องให้เราจริง มันควรจะได้คำตอบที่ดีกว่านี้ เราขอคุยกับการเงิน เค้าบอกว่าการเงินเป็นแผนกภายในของบริษัท ให้คุยไม่ได้ บ้างล่ะ ประชุมกันหมดบ้างล่ะ

เรารอจนครบ 90 วันค่ะ แล้วไปเช็คยอดของรอบบิลเดือนธันวาคม แน่นอนว่ายังไม่มีเหมือนเดิมค่ะ เราเลยโทรไปตามอีก ก็เหมือนเดิมอีกแล้วค่ะ บอกว่าจะตามให้แล้วจะโทรกลับมาแจ้งภายในวันนี้ เรารออยู่2 วัน ไม่โทรกลับมา เราเลยต้องโทรไปเอง ทางพนักงานที่รับสายไม่พูดอะไรค่ะ รับแล้วเงียบ เราก็รอฟังค่ะว่าจะมีมารยาทในการรับโทรศัพท์รึป่าว ซักพักมีเสียงพูดว่า “ฮัลโหล” สั้นๆห้วนๆ เราบอก “จะมาทวงเงินค่ามัดจำคืนค่ะ” น้ำเสียงเราคือเอือมนิดๆ จากนั้นเค้าก็ถามชื่อ เช็คข้อมูล แล้วก็ถามนามสกุลเรา “นามสกุล … ป่ะ? วันที่ 22 คุณไปดูเลยค่ะ ที่ธนาคาร…อ่ะค่ะ เค้าทำเรื่องจ่ายเข้าบัตร” เรานี่ขึ้นเลยค่ะ คุณคุยกับลูกค้าห้วนแบบนี้เนี่ยนะตั้งแต่รับโทรศัพท์ละ แถมเราโทรมาเพราะคุณทำไม่ดีกับเราไว้นะ คุณควรจะขอโทษเราด้วยซ้ำ นี่มันงานบริการแบบไหนกัน?

เราค่อนข้างไม่พอใจแล้วต้องการจะคอมเพลนพนักงานฝ่ายนี้ด้วยค่ะ เราเลยถามชื่อพนักงานค่ะ แล้วก็ถามว่ามีพนักงานเป็น call center กี่คน เราอยากคอมเพลนต้องแจ้งที่ไหน (คือเราอยากรู้ว่าฝ่ายนี้มีพนักงานเป็นเรื่องเป็นราวไหม ทำไมบริษัทถึงไม่ให้ความสำคัญในเรื่องมารยาทพนักงานเลย) เค้าเงียบค่ะ ไม่ตอบอะไรเราเลย แต่ไปคุยซุบซิบกันข้างหลัง เราได้ยินไม่ถนัดว่าพูดอะไรบ้าง เราถามจะคอมเพลนที่ไหน เค้าก็ถามว่าจะคอมเพลนอะไรอ่ะคะ แล้วก็โบ้ยให้อีกคนมาคุยได้ยินชัดๆว่า “อ่ะมาคุยดิ๊” แล้วเปลี่ยนให้อีกคนมาคุย เราแจ้งคอมเพลนไปให้เค้าไปปรับปรุง เค้าก็ขอโทษมา เราไม่รู้หรอกนะว่าเค้าจะเอาไปพัฒนาหรือไปนินทาต่อ แต่อย่างน้อยก็ได้บอกไป เพราะเราว่ามันแย่มากๆสำหรับงานบริการทางโทรศัพท์ แต่ละครั้งที่เราโทรไป ไม่เคยได้คำพูดดีๆจากพนักงานรับสายเลย น้ำเสียงและคำพูดคือแย่มากๆ บ่อยครั้งที่รับโทรศัพท์แล้วเงียบ เราไม่พูดเค้าก็เงียบ ซึ่งมันผิดวิสัยของงานบริการ สงสัยมากว่าเค้าอบรบพนักงานรับโทรศัพท์บ้างรึป่าว (หรือเค้าเมมเบอร์แบคลิสเราไว้ละ ว่าจะมาทวงตัง)


สิ่งที่เราไม่พอใจการทำงานของโบรกเกอร์เจ้านี้คือ
1.    ความไม่จริงใจของฝ่ายขาย
2.    ความล่าช้าของการดำเนินการ
3.    ความไม่ชัดเจนในการให้คำตอบแก่ลูกค้า
4.    ความไม่มีใจบริการของพนักงานรับเรื่องทางโทรศัพท์

วันนี้เป็นวันที่เค้าบอกจะคืนเงินเรา ก็คงต้องไปเช็คอีกทีว่ายังไง เราเชื่อมาตลอดค่ะว่าเค้าคืนเงินเราแน่ๆ แต่เราแค่ไม่เชื่อว่าการบริการของเค้าจะแย่ได้ขนาดนี้ มันอาจจะยาวและดูยิ่งใหญ่ไปหน่อยสำหรับเงินแค่ 3000 บาท แต่มันก็คือเงินที่เราทำงานหามาได้ หวังว่าเรื่องของเรามันจะเป็นประโยชน์กับใครได้บ้าง อย่างน้อยก็เป็นบทเรียนให้กับตัวดิฉันเอง

** ตอนนี้ทำประกันกับเจ้าใหม่ไปเรียบร้อยแล้วนะคะ ขอบคุณท่านที่กำลังจะแนะนำนะคะ

*แก้คำผิดกับแก้แท็กไป 2 รอบค่ะ ขออภัยที่ edit บ่อยครั้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่