การใช้ชีวิตควรเป็นการใช้ชีวิตให้ระวังมากที่สุด ไม่ให่เราไปเบียดเบียนหรือทำร้ายใคร เพราะเราเองก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเราเค้าจะมีภูมิต้านทานมากแค่ไหน ทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นมาแบบบังเอิญ มันมีเหตุและปัจจัยของมันอยู่แล้ว อาจจะเหตุจากชาตินี้หรือจากในอดีตชาติ
ทั้งๆที่เลิกกับแฟนเก่าได้มาพักใหญ่ๆ แต่วันนี้ก็ยังฝันถึง ในฝันเค้าอยู่กับแฟนใหม่ เราก็ได้แต่ถามว่าทำไมทำกับเราได้ ทำกับคนที่อยู่ข้างๆกันมาเกือบ 8 ปีแบบนี้ได้ยังไง ในฝันไม่ต้องถามว่าร้องไห้หนักแค่ไหน สะดุ้งตื่นมายังร้องไห้ต่ออยู่เลย
เค้าจะรู้ไหมว่าเค้าได้สร้างแผลเป็นให้ชีวิตคนๆนึงไปแล้ว มันยังเป็นฝันร้ายที่ลบทิ้งไม่ได้ นึกถึงทีไรก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ทุกที
เคย consult พี่ที่สนิทกันเป็นจิตแพทย์ เค้ามี skill การรับฟังและการเข้าใจ การปลอบใจที่เก่งมาก
พี่บอกว่าเราเป็นคนสุขภาพจิตดี เราไม่ต้องทำอะไรหรอก แค่ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ทำความดีไปเรื่อยๆ อย่ารู้สึกไร้ค่า เพียงเพราะเค้าไม่เห็นค่าเรา ตัวเราเองมีค่าต่อคนอื่นอีกเยอะมาก ^^
เราก็ใช้ชีวิตเหมือนที่พี่เราแนะนำมาเรื่อยๆ ความรักในตัวเอง ความภูมิใจในตัวเองก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ หลังๆมาก็ทำใจได้เอง แต่ก็มีนานๆทีที่จะฝันร้ายแบบนี้ เราใช้เวลาฟื้นฟูตัวเองได้ค่อนข้างเร็วพอสมควร เพิ่งเลิกได้ 7 เดือน แต่สภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นมาก นานๆทีจะนึกถึงขึ้นมา เลยรู้สึกว่าวิธีการนี้ได้ผลนะ
หลายคนกลัวการพบจิตแพทย์ จริงๆก็ต้องเลือกหน่อยเนอะ เพราะหลายท่านก็ให้ใช้แต่ยา ซึ่งจริงๆแล้วทักษะการให้คำปรึกษาเป็นสิ่งจำเป็นมาก เราเพิ่งเคยปรึกษาครั้งแรกแหละ เพราะเห็นล่ะว่าถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเริ้อรังต่อจิตใจไปเรื่อยๆ ซึ่งเราประเมินตัวเองแล้วว่าเราไม่สามารถจัดการได้ เราอยากเข้าใจปัญหา ไม่ได้อยากหนีปัญหา คนที่พร้อมรับฟังเรามีเยอะมาก แต่คนที่พร้อมจะรับฟังด้วยความเข้าใจมีน้อยมาก เป็นสิ่งที่เรารับรู้ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้
นอกจากให้คำปรึกษาอยู่ตลอดๆแล้ว พี่ยังฝากเงินไว้ให้เราใช้ทำบุญด้วย สามารถขอได้ทุกเดือนถ้าต้องใช้ อำนาจการใช้เงินยกให้เราเลย จะเอาไปช่วยใครก็ได้สุดแล้วแต่ เป็นการให้ด้วยความเชื่อใจ
ทุกวันนี้เราก็ใช้เงินก้อนนี้กับผู้ป่วยที่ยากไร้ในรพ.อยู่ เด่ววันศุกร์นี้จะไปออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ก็จะนำไปซื้อขนมแจกเด็กน้อยบนดอย
มันเป็นการส่งต่อความสุขเป็นทอดๆ คนดีมีอยู่จริงนะ ดีจนเรารู้สึกว่ายังมีคนดีขนาดนี่อยู่ด้วยหรอ ถือว่าเป็นวาสนาเราที่รอบตัวมีแต่คนดีๆ ^^
การมีกัลยณมิตรอยู่ในชีวิตจัดเป็นความโชคดีอย่างนึง เราเป็นค่อนข้างโชคดีมากเหมือนกันที่ทุกๆจังหวะในชีวิตมีแต่คนช่วยเหลือ ทุกวันนี้เราเองก็พยายามช่วยคนให้มากๆ ทำงานด้วยหัวใจ ดูแลคนไข้เหมือนกับเค้าเป็นคนในครอบครัว เป็นผู้ให้แล้วก็ยังเป็นผู้รับด้วยคือรับความสุขใจ ความสบายใจ และรอยยิ้ม
มันก็คงเป็นบทเรียนหนึ่งในชีวิตที่เราต้องผ่าน พอสอบผ่าน เราก็จะโตขึ้น เข้าใจชีวิตมากขึ้น ^^
การฟังด้วยความเข้าใจ ช่วยเยียวยาได้จริงๆ ^^
ทั้งๆที่เลิกกับแฟนเก่าได้มาพักใหญ่ๆ แต่วันนี้ก็ยังฝันถึง ในฝันเค้าอยู่กับแฟนใหม่ เราก็ได้แต่ถามว่าทำไมทำกับเราได้ ทำกับคนที่อยู่ข้างๆกันมาเกือบ 8 ปีแบบนี้ได้ยังไง ในฝันไม่ต้องถามว่าร้องไห้หนักแค่ไหน สะดุ้งตื่นมายังร้องไห้ต่ออยู่เลย
เค้าจะรู้ไหมว่าเค้าได้สร้างแผลเป็นให้ชีวิตคนๆนึงไปแล้ว มันยังเป็นฝันร้ายที่ลบทิ้งไม่ได้ นึกถึงทีไรก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ทุกที
เคย consult พี่ที่สนิทกันเป็นจิตแพทย์ เค้ามี skill การรับฟังและการเข้าใจ การปลอบใจที่เก่งมาก
พี่บอกว่าเราเป็นคนสุขภาพจิตดี เราไม่ต้องทำอะไรหรอก แค่ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ทำความดีไปเรื่อยๆ อย่ารู้สึกไร้ค่า เพียงเพราะเค้าไม่เห็นค่าเรา ตัวเราเองมีค่าต่อคนอื่นอีกเยอะมาก ^^
เราก็ใช้ชีวิตเหมือนที่พี่เราแนะนำมาเรื่อยๆ ความรักในตัวเอง ความภูมิใจในตัวเองก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ หลังๆมาก็ทำใจได้เอง แต่ก็มีนานๆทีที่จะฝันร้ายแบบนี้ เราใช้เวลาฟื้นฟูตัวเองได้ค่อนข้างเร็วพอสมควร เพิ่งเลิกได้ 7 เดือน แต่สภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นมาก นานๆทีจะนึกถึงขึ้นมา เลยรู้สึกว่าวิธีการนี้ได้ผลนะ
หลายคนกลัวการพบจิตแพทย์ จริงๆก็ต้องเลือกหน่อยเนอะ เพราะหลายท่านก็ให้ใช้แต่ยา ซึ่งจริงๆแล้วทักษะการให้คำปรึกษาเป็นสิ่งจำเป็นมาก เราเพิ่งเคยปรึกษาครั้งแรกแหละ เพราะเห็นล่ะว่าถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเริ้อรังต่อจิตใจไปเรื่อยๆ ซึ่งเราประเมินตัวเองแล้วว่าเราไม่สามารถจัดการได้ เราอยากเข้าใจปัญหา ไม่ได้อยากหนีปัญหา คนที่พร้อมรับฟังเรามีเยอะมาก แต่คนที่พร้อมจะรับฟังด้วยความเข้าใจมีน้อยมาก เป็นสิ่งที่เรารับรู้ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้
นอกจากให้คำปรึกษาอยู่ตลอดๆแล้ว พี่ยังฝากเงินไว้ให้เราใช้ทำบุญด้วย สามารถขอได้ทุกเดือนถ้าต้องใช้ อำนาจการใช้เงินยกให้เราเลย จะเอาไปช่วยใครก็ได้สุดแล้วแต่ เป็นการให้ด้วยความเชื่อใจ
ทุกวันนี้เราก็ใช้เงินก้อนนี้กับผู้ป่วยที่ยากไร้ในรพ.อยู่ เด่ววันศุกร์นี้จะไปออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ก็จะนำไปซื้อขนมแจกเด็กน้อยบนดอย
มันเป็นการส่งต่อความสุขเป็นทอดๆ คนดีมีอยู่จริงนะ ดีจนเรารู้สึกว่ายังมีคนดีขนาดนี่อยู่ด้วยหรอ ถือว่าเป็นวาสนาเราที่รอบตัวมีแต่คนดีๆ ^^
การมีกัลยณมิตรอยู่ในชีวิตจัดเป็นความโชคดีอย่างนึง เราเป็นค่อนข้างโชคดีมากเหมือนกันที่ทุกๆจังหวะในชีวิตมีแต่คนช่วยเหลือ ทุกวันนี้เราเองก็พยายามช่วยคนให้มากๆ ทำงานด้วยหัวใจ ดูแลคนไข้เหมือนกับเค้าเป็นคนในครอบครัว เป็นผู้ให้แล้วก็ยังเป็นผู้รับด้วยคือรับความสุขใจ ความสบายใจ และรอยยิ้ม
มันก็คงเป็นบทเรียนหนึ่งในชีวิตที่เราต้องผ่าน พอสอบผ่าน เราก็จะโตขึ้น เข้าใจชีวิตมากขึ้น ^^