คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
- อัพเดตวันที่ 13/12/2016 -
ไปสัมภาษณ์มาเมื่อวันจันทร์แล้วค่ะ พอดีได้วันหยุด แล้วบนเว็บมีเวลาว่างให้นัดพอดี
เอกสารที่ยื่นเพิ่มมีตามนี้ค่ะ
- จดหมายจากพ่อแฟนเขียนมาเป็นภาษาเยอรมันพร้อมแนบพาสปอร์ต
- จดหมายจากแฟนเขียนเป็นอังกฤษ เชิญเราไปเที่ยวบ้าน ระบุรับผิดชอบทั้งตั๋วเครื่องบินและค่าใช้จ่าย และจะส่งเรากลับ พร้อมแนบพาสปอร์ต
- จดหมายรับรองจากที่ทำงานว่าเป็นคนรับผิดชอบดูแลเรื่องวีซ่าให้เรา และมีการดำเนินการจริง
- จดหมายแนะนำตัว
- โฉนดที่ดิน (มรดกจากพ่อ)
- ใบเสร็จโอนเงินของ western union ที่เราโอนเงินกลับบ้าน
- ใบหย่าของพ่อกับแม่
(ในจดหมายเราอธิบายไปด้วยว่าพ่อแม่หย่ากัน แม่อยู่กับพี่ชาย พ่ออยู่คนเดียว เราเลยมีหน้าที่ดูแลพ่อด้วยเพราะเราเป็นคนรับมรดก)
- ใบเกิด
ความจริงมัหลักฐานที่คุยกับแฟน เอาเท่าที่หาได้เก่าสุดคือ ก.พ. ปีนี้ A4 แบ่งสามคอลัม ตัวอักษรเบอร์ 8 ได้เกือบหกร้อยหน้า
จะแอบปริ้นที่บริษัทก็กะไรอยู่ เลยไปร้านปริ้น ปริ้นไม่ได้อีก กลัวเค้าไม่เชื่อว่าคุยกันจริง แต่ไม่ทันจริงๆ ก็เลยไม่เอาไป
พอยื่นเอกสารให้เค้าสแกนเค้าก็ถามเลยค่ะ
จนท : พึ่งโดนปฏิเสธไม่ใช่หรอ ทำไมมาอีก
จขกท : คราวที่แล้วสถานทูตให้เหตุผลว่าไม่มีหลักฐานว่าจะกลับ ก็เลยเอาเอกสารมาเพิ่มค่ะ แล้วก็มีจดหมายที่อธิบายเอกสารแต่ละใบมาด้วย
จนท : ตอนนี้อยู่ด้วยวีซ่าอะไร
จขกท : ท่องเที่ยวค่ะ แล้วก็มีเวิร์คเพอร์มิตให้ทำงานได้
จนท : *มองหน้า*
จขกท : ที่ยังไม่มีเวิร์คกิ้งวีซ่าเพราะว่าถ้าเดินเรื่องเลยจะออกนอกประเทศไม่ได้นานสุดหกเดือนค่ะ ทางบริษัทก็เลยอนุญาตให้ไปก่อน
จนท : เชิญนั่งก่อน *หายไปข้างหลังประมาณ 2-3 นาทีแล้วก็กลับมาพร้อมเจ้าหน้าที่เยอรมัน*
จนท : แน่ใจหรอว่าจะยื่น เพราะยื่นไปก็ไม่ได้ you're not permanent here
จขกท : *ช็อคซีนีม่าไปแล้ว* ทำไมล่ะคะ ? อย่างนี้คือต้องไปยื่นที่ไทยหรือว่าควรทำยังไงคะ
จนท : ยื่นที่ไหนก็เหมือนกัน คุณไม่ผ่าน
พอถึงตรงนี้เราก็ตื้ออยู่สักพักถามว่าทำไม เราจะได้ชี้แจงถูก เค้าก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มค่ะ บอกแค่ว่า you're not permanent, nothing change
จน จนท คนเยอรมันเข้ามาคุยแทน แล้วยอมบอกเราว่าทำไม ค่อนข้างโหดนิดนึงตอนเค้าบอกเราว่าทำไม ค่อนข้างยาวค่ะ
ใจความที่เค้าบอกคือสเตทเม้นเรามีแค่สองเดือน บอกว่าทำงานสามเดือน แต่เงินเดือนเข้าแค่ 2 แถมยอดเงินไม่ตรงกับเงินเดือน
แล้วบริษัทที่ไหน พึ่งผ่านโปรให้ลางานตั้งครึ่งเดือน เค้าก็เลยไม่เชื่อว่าทำงานที่นี่ พอเราจะแย้งว่าเพราะอะไรเค้าก็ขึ้นเสียงนิดนึงค่ะ
เราเลยค้นกระเป๋าเงินหาสลิปเงินเดือนแล้วก็ยื่นให้เค้าดู ที่เงินมันไม่ตรงกับเงินเดือนเพราะว่าเดือนนึงเราจะได้ค่าอาหาร
และจะมีการหักมัดจำวีซ่า ซึ่งจะได้คืนตอนวีซ่าทำงานออก และเดือนล่าสุดเราผ่านงานเงินเดือนขึ้น(ใบผ่านงานระบุขึ้นเงินเดือนยื่นไปครั้งที่แล้ว)
บวกกับพึ่งได้ค่าตั๋วเครื่องบินตอนบินมาที่นี่คืนเข้าบัญชีเงินเดือน เงินเดือนมันก็เลยดูไม่ตรงกับใบรับรองงานสักเดือน
*อันนี้เขียนไปใบจดหมายว่าจะมีค่าอาหารด้วยแต่ไม่ได้ระบุว่าเรามีเบเนฟิตอื่นอีก
ส่วนเรื่องลางาน เราเขียนไปในจดหมายแนะนำตัวว่าทำไม แต่ จนท คงยังไม่ได้อ่าน เลยอธิบายให้เค้าฟังว่าทำไมถึงให้ลา
พร้อมทั้งยื่นใบลาตัวจริงให้เค้าดู และถึงเราจะเริ่มงานใหม่แต่เรามีสิทธิใช้วันลาประจำปีของ expat อยู่ด้วย
จนท คนเยอรมันเลยรับสลิปเงินเดือนกับใบลางาน และหลักฐานการหักเงินมัดจำวีซ่าเราไปดู ถามอีกนิดหน่อยเกี่ยวกับวีซ่าทำงาน
และเปิดเอกสารชุดใหม่ที่เรายื่นไป ดูทีละใบ เราก็อธิบายเอกสารไปพร้อมที่เค้าเปิดเลยค่ะ ไม่ต้องรอให้อ่านจดหมาย
สุดท้ายเลยบอกว่าเค้าจะรับเรื่องให้แล้วกัน พร้อมกับพูดตบท้ายว่า "คิดถึงแฟนมากเลยสินะ" ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนระดับสิบ
แล้วก็พูดไทยว่า "ขอบคุณครับ" แถมยิ้มหวานให้อีก แบบลืมภาพที่เสียงดังใส่เราตอนแรกไปเลย 5555555555555555555555
เรื่องสิทธิและเบเนฟิตที่เราได้ มีระบุอยู่ในสัญญางาน แต่ตอนยื่นครั้งแรก จนท ไม่ได้ถามอะไรเยอะค่ะ
ถามแค่แฟนเป็นใคร เดินทางวันไหน มีสัญญางานมั้ย กลับไทยเมื่อไหร่
ครั้งสองเราเลยเรียนรู้ว่า มีอะไรตรงไหนที่ต้องอธิบายให้พูดไปเลยไม่ต้องรอเค้าถาม
รอรับผลวันศุกร์ค่ะ นี่ก็ภาวนาขอให้ได้วีซ่า จะได้แพคกระเป๋ารอบินสบายใจสักที
ถ้าไม่ได้ก็ตัดใจค่ะ ปีหน้าก็ปีหน้า ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป
ไปสัมภาษณ์มาเมื่อวันจันทร์แล้วค่ะ พอดีได้วันหยุด แล้วบนเว็บมีเวลาว่างให้นัดพอดี
เอกสารที่ยื่นเพิ่มมีตามนี้ค่ะ
- จดหมายจากพ่อแฟนเขียนมาเป็นภาษาเยอรมันพร้อมแนบพาสปอร์ต
- จดหมายจากแฟนเขียนเป็นอังกฤษ เชิญเราไปเที่ยวบ้าน ระบุรับผิดชอบทั้งตั๋วเครื่องบินและค่าใช้จ่าย และจะส่งเรากลับ พร้อมแนบพาสปอร์ต
- จดหมายรับรองจากที่ทำงานว่าเป็นคนรับผิดชอบดูแลเรื่องวีซ่าให้เรา และมีการดำเนินการจริง
- จดหมายแนะนำตัว
- โฉนดที่ดิน (มรดกจากพ่อ)
- ใบเสร็จโอนเงินของ western union ที่เราโอนเงินกลับบ้าน
- ใบหย่าของพ่อกับแม่
(ในจดหมายเราอธิบายไปด้วยว่าพ่อแม่หย่ากัน แม่อยู่กับพี่ชาย พ่ออยู่คนเดียว เราเลยมีหน้าที่ดูแลพ่อด้วยเพราะเราเป็นคนรับมรดก)
- ใบเกิด
ความจริงมัหลักฐานที่คุยกับแฟน เอาเท่าที่หาได้เก่าสุดคือ ก.พ. ปีนี้ A4 แบ่งสามคอลัม ตัวอักษรเบอร์ 8 ได้เกือบหกร้อยหน้า

จะแอบปริ้นที่บริษัทก็กะไรอยู่ เลยไปร้านปริ้น ปริ้นไม่ได้อีก กลัวเค้าไม่เชื่อว่าคุยกันจริง แต่ไม่ทันจริงๆ ก็เลยไม่เอาไป
พอยื่นเอกสารให้เค้าสแกนเค้าก็ถามเลยค่ะ
จนท : พึ่งโดนปฏิเสธไม่ใช่หรอ ทำไมมาอีก
จขกท : คราวที่แล้วสถานทูตให้เหตุผลว่าไม่มีหลักฐานว่าจะกลับ ก็เลยเอาเอกสารมาเพิ่มค่ะ แล้วก็มีจดหมายที่อธิบายเอกสารแต่ละใบมาด้วย
จนท : ตอนนี้อยู่ด้วยวีซ่าอะไร
จขกท : ท่องเที่ยวค่ะ แล้วก็มีเวิร์คเพอร์มิตให้ทำงานได้
จนท : *มองหน้า*
จขกท : ที่ยังไม่มีเวิร์คกิ้งวีซ่าเพราะว่าถ้าเดินเรื่องเลยจะออกนอกประเทศไม่ได้นานสุดหกเดือนค่ะ ทางบริษัทก็เลยอนุญาตให้ไปก่อน
จนท : เชิญนั่งก่อน *หายไปข้างหลังประมาณ 2-3 นาทีแล้วก็กลับมาพร้อมเจ้าหน้าที่เยอรมัน*
จนท : แน่ใจหรอว่าจะยื่น เพราะยื่นไปก็ไม่ได้ you're not permanent here
จขกท : *ช็อคซีนีม่าไปแล้ว* ทำไมล่ะคะ ? อย่างนี้คือต้องไปยื่นที่ไทยหรือว่าควรทำยังไงคะ
จนท : ยื่นที่ไหนก็เหมือนกัน คุณไม่ผ่าน
พอถึงตรงนี้เราก็ตื้ออยู่สักพักถามว่าทำไม เราจะได้ชี้แจงถูก เค้าก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มค่ะ บอกแค่ว่า you're not permanent, nothing change
จน จนท คนเยอรมันเข้ามาคุยแทน แล้วยอมบอกเราว่าทำไม ค่อนข้างโหดนิดนึงตอนเค้าบอกเราว่าทำไม ค่อนข้างยาวค่ะ
ใจความที่เค้าบอกคือสเตทเม้นเรามีแค่สองเดือน บอกว่าทำงานสามเดือน แต่เงินเดือนเข้าแค่ 2 แถมยอดเงินไม่ตรงกับเงินเดือน
แล้วบริษัทที่ไหน พึ่งผ่านโปรให้ลางานตั้งครึ่งเดือน เค้าก็เลยไม่เชื่อว่าทำงานที่นี่ พอเราจะแย้งว่าเพราะอะไรเค้าก็ขึ้นเสียงนิดนึงค่ะ
เราเลยค้นกระเป๋าเงินหาสลิปเงินเดือนแล้วก็ยื่นให้เค้าดู ที่เงินมันไม่ตรงกับเงินเดือนเพราะว่าเดือนนึงเราจะได้ค่าอาหาร
และจะมีการหักมัดจำวีซ่า ซึ่งจะได้คืนตอนวีซ่าทำงานออก และเดือนล่าสุดเราผ่านงานเงินเดือนขึ้น(ใบผ่านงานระบุขึ้นเงินเดือนยื่นไปครั้งที่แล้ว)
บวกกับพึ่งได้ค่าตั๋วเครื่องบินตอนบินมาที่นี่คืนเข้าบัญชีเงินเดือน เงินเดือนมันก็เลยดูไม่ตรงกับใบรับรองงานสักเดือน
*อันนี้เขียนไปใบจดหมายว่าจะมีค่าอาหารด้วยแต่ไม่ได้ระบุว่าเรามีเบเนฟิตอื่นอีก
ส่วนเรื่องลางาน เราเขียนไปในจดหมายแนะนำตัวว่าทำไม แต่ จนท คงยังไม่ได้อ่าน เลยอธิบายให้เค้าฟังว่าทำไมถึงให้ลา
พร้อมทั้งยื่นใบลาตัวจริงให้เค้าดู และถึงเราจะเริ่มงานใหม่แต่เรามีสิทธิใช้วันลาประจำปีของ expat อยู่ด้วย
จนท คนเยอรมันเลยรับสลิปเงินเดือนกับใบลางาน และหลักฐานการหักเงินมัดจำวีซ่าเราไปดู ถามอีกนิดหน่อยเกี่ยวกับวีซ่าทำงาน
และเปิดเอกสารชุดใหม่ที่เรายื่นไป ดูทีละใบ เราก็อธิบายเอกสารไปพร้อมที่เค้าเปิดเลยค่ะ ไม่ต้องรอให้อ่านจดหมาย
สุดท้ายเลยบอกว่าเค้าจะรับเรื่องให้แล้วกัน พร้อมกับพูดตบท้ายว่า "คิดถึงแฟนมากเลยสินะ" ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนระดับสิบ
แล้วก็พูดไทยว่า "ขอบคุณครับ" แถมยิ้มหวานให้อีก แบบลืมภาพที่เสียงดังใส่เราตอนแรกไปเลย 5555555555555555555555
เรื่องสิทธิและเบเนฟิตที่เราได้ มีระบุอยู่ในสัญญางาน แต่ตอนยื่นครั้งแรก จนท ไม่ได้ถามอะไรเยอะค่ะ
ถามแค่แฟนเป็นใคร เดินทางวันไหน มีสัญญางานมั้ย กลับไทยเมื่อไหร่
ครั้งสองเราเลยเรียนรู้ว่า มีอะไรตรงไหนที่ต้องอธิบายให้พูดไปเลยไม่ต้องรอเค้าถาม
รอรับผลวันศุกร์ค่ะ นี่ก็ภาวนาขอให้ได้วีซ่า จะได้แพคกระเป๋ารอบินสบายใจสักที

ถ้าไม่ได้ก็ตัดใจค่ะ ปีหน้าก็ปีหน้า ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป
แสดงความคิดเห็น
วีซ่าเชงเก้นเยอรมัน ไม่ผ่านค่ะ ขอคำแนะนำ (visitor's visa)
ไปยื่นที่สถานทูตเยอรมันประจำมะนิลามาค่ะ จขกท ทำงานอยู่ที่นี่
ได้รับเหตุผลการปฏิเสธตามข้อ 9. your intention to leave the territory of the Member states before the expiry of the visa could not be ascertained
จขกท. อายุ 22 ปี เป็นโสด ทำงานบริษัทเอกชนอยู่ที่ฟิลิปปินส์ พึ่งเริ่มงานได้สามเดือน ขอวีซ่าเยี่ยม 20 ธ.ค. - 2 ม.ค.
ที่ทำงานให้ลาได้เนื่องจากมีแผนไปเยี่ยมบ้านแฟนก่อนมาเริ่มงานค่ะ
เอกสารที่ยื่นไปมีตามนี้
- ใบเชิญ Formal Obligation (พ่อแฟนเป็นคนเชิญและรับรองค่าใช้จ่าย อาชีพ Banker)
- จดหมายเขียนเป็นอังกฤษว่าเชิญเราไปทำอะไรที่เยอรมัน (พ่อแฟนเป็นคนเขียน)
- สำเนาพาสปอร์ตคนเชิญ
- เอกสารรับรองเงินเดือนและการทำงาน
- ใบลางานตามจำนวนวันที่ยื่นขอวีซ่า
- สัญญางาน
- ใบผ่านงาน (พึ่งเริ่มงานและผ่านโปรไม่กี่วันตอนยื่นวีซ่า)
- สัญญาการเข้าพักคอนโดที่นี่
- เอกสารใบอนุญาติทำงานด้วยวีซ่าท่องเที่ยวในฟิลิปปินส์ (SWP)
- วีซ่าท่องเที่ยว (จขกท กลับมาฟิลิปปินส์วันที่ 3 ม.ค. วีซ่าหมดอายุ 6 ม.ค.)
- สเตทเม้นบัญชีที่นี่ (พึ่งมีเงินเดือนเข้า 2 เดือน)
- ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ เยอนมัน-ฟิลิปปินส์
- รูปถ่ายที่แฟนมาหา, แคปจอที่วีดีโอคอล, แชท, ว้อยส์คอล กับแฟน (อาชีพทหารเยอรมัน)
- สำเนาพาสปอร์ตแฟน และ หน้าที่มีสแตมป์เข้าไทยตอนที่เจอกัน
- ประกันการเดินทาง
ในพาสปอร์ตมีวีซ่าที่เคยไป
อเมริกา(นักเรียน), อังกฤษ(นักเรียน), อินโดนีเซีย, เวียดนาม, พม่า, ญี่ปุ่น, ลาว, ฟิลิปปินส์
คำแนะนำจากสถานทูตบอกให้โชว์หลักฐานความผูกพันธ์ที่เราต้องกลับมา
แต่ ณ ตอนนี้คือเรามีหลักผูกพันธ์อย่างเดียวคือสัญญางาน คิดว่ามีจุดอ่อนคือสัญญางานไม่ได้ระบุระยะเวลา (ตอนนี้ขอให้ที่ทำงานระบุระยะเวลาให้แล้ว)
และวีซ่าท่องเที่ยวเรากำลังจะขาด หลังจากกลับมาไม่กี่วัน ทางบริษัททำการต่อให้แล้ว แต่ว่ายังไม่ได้ส่งพาสปอร์ตไปปั๊มค่ะ เราเอาออกมาขอวีซ่าซะก่อน
วีซ่าทำงานเราจะได้เดินเรื่องหลังจากเรากลับมาค่ะ เพราะถ้าเดินเรื่องเลยเราจะออกนอกฟิลิปปินส์ไม่ได้จนกว่าวีซ่าจะเสร็จ (นานสุดคือ 6 เดือน)
ไม่ได้มีของอย่างอื่นหรือภาระหนี้สินที่นี่ มีบ้านและที่ดินที่ไทยเป็นชื่อเรา
มีโอกาสยื่นอีกแค่ครั้งเดียวอาทิตย์หน้าก่อนวันถึงวันบิน คุณพ่อแฟนจะทำจดหมายระบุว่าเป็นคนรับผิดชอบเรื่องส่งเราออกจากเยอรมันให้ไม่รู้มีผลมั้ย แต่ก็ขอเพิ่มมาไว้ก่อน
ควรยื่นหรืออะไรเพิ่มมั้ยคะ ควรมีจดหมายแนะนำตัวมั้ยหรือย่างอื่นเพิ่มอีกมั้ย รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ