หวัดดีเพื่อนๆชาว Pantip ครับ เรื่องที่จะมาเล่าและถ่ายทอดให้ฟังกันนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมเองเมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้วนี้เองครับ
อันนี้ต้องออกตัวก่อนนะครับว่า ตัวผมเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่อง ผี เลย รวมไปถึงไสยศาตร์อะไรต่างๆนาๆ เรื่องเรื่องลี้ลับอะไรก็แล้วแต่ที่พอจะนึกกันออก
แต่ชอบดูหนังสยองขวัญนะครับ น่ากลัวดี แต่ไม่เชื่อว่าสิ่งพวกนี้จะมีตัวตนอยู่จริงๆ เพราะตั้งแต่เกิดจนโตมาอายุยี่สิบกว่าปี ยังไม่เคยเจอครับ เคยฟังจากที่คนอื่นเล่าๆกันมา ก็ยังคิดๆอยู่ครับ ว่าเจอจริงหรอ ซึ่งผมค่อนข้างที่จะเชื่อหลักการและเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มากกว่าครับ
ซึ่งเรื่องราวต่อไปนี้จะเปลี่ยนความคิดผมไปตลอดชีวิตเลย เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยครับ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงที่ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่กาญจนบุรีครับ เป็นวันหยุด เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ สามวัน ซึ่งก็ได้มาพักที่บ้านของน้าครับ สมาชิกในบ้านก็จะมี น้าผม เป็นผู้หญิง กับแฟนน้า(เป็นผู้ชาย)
แล้วก็ลูกชายของเค้า อายุประมาณ 6-7 ขวบครับ ลักษณะบ้าน จะเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ไสตล์โมเดิร์น และห้องที่ผมได้นอนคือ ห้องรับแขกครับ เป็นห้องที่เวลามีคนมาเที่ยวก็จะได้มานอนห้องนี้แหละครับ ซึ่งวันนั้นน้าของผมออกไปทำงานครับ จะเหลืออยู่แค่ ผม แฟนน้า แล้วก็ลูกเค้าครับ
ช่วงประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ผมนอนดูหนังอยู่ในห้องและกะว่าจะออกไปหยิบขนมเข้ามานั่งกินด้วย ระหว่างที่เดินออกไปหยิบขนมที่ตู้เย็น
จะต้องเดินผ่านห้องน้ำครับ ตอนนั้น เห็นเป็นคนกำลังนั่งทำอะไรซักอย่างอยู่ครับ (ลักษณะประตูห้องน้ำจะเป็นแบบ กระจกฝ้าอะครับ แสงสามารถส่องทะลุได้ แต่คนข้างนอกมองผ่านเข้าไปไม่ชัด พอเห็นลางๆ ทึบๆ) เห็นครับ เห็นเป็นเงาคนนั่งอยู่ แต่ไม่ได้ตกใจอะไร คิดว่าเป็นแฟนของน้า ก็หยิบขนมกำลังจะเดินเข้าห้องไป แฟนน้าตะโกนเรียกลูกเค้าครับ ประมาณว่าให้เข้าบ้าน จากห้องที่อยู่ถัดจากผมไปอีกห้องนึง ตอนนั้นผมชะงักไปนิดนึง แอบเหลือบมองห้องน้ำ 5555 ก็ยังอยู่เหมือนเดิมครับ ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ตอนนั้นคิดไปว่าอาจจะเป็นวัสุสิ่งของอะไรซักอย่างที่ตั้งอยู่ตรงนั้น เพราะมันไม่ขยับเลย
บวกกับประตูห้องน้ำที่เป็นลักษณะทึบแสง อาจจะทำให้ผมมองผิดเป็นอย่างอื่นก็ได้ ก็นอนดูหนังไปเรื่อยจนกระทั่งตอนเย็น น้ากลับมาจากที่ทำงาน
ก็เลยได้มานั่งกินข้าวเย็นพร้อมครอบครัวเค้าเลยครับ คุยกันไปสารพัดจนจัดการมื้อเย็นเสร็จ ก็เตรียมตัวอาบน้ำเข้าห้องครับ ในขณะที่อยู่ในห้องน้ำ ก็เอะใจนึกขึ้นได้ครับ นึกถึงไอ้เงาที่เห็นตอนกลางวัน ก็เลยหาใหญ่เลยครับ แต่ไม่มีอะไรที่พอจะคล้ายกับสิ่งที่เห็นตอนกลางวันเลย ตอนนั้นยอมรับว่าติดใจอยู่นิดๆครับ เวลาหาคำตอบไม่ได้มันจะชอบคิดอยู่เรื่อยๆครับ แต่สุดท้ายก็ไม่เจอ.......ซึ่งคืนนั้นผมเล่นเกมจนถึงประมาณตี 1 ครับ ก็เตรียมตัวนอนละ จำได้ว่าตอนนั้นง่วงมาก ล้มตัวนอนได้แป๊บเดียวหลับเลยครับ มาตืนเอาอีกทีประมาณตีสอง เกือบๆตีสามครับ ตืนเพราะเสียงครับ เป็นเสียง วี้ดด...วี้ดด
เบาๆ แต่ดังพอที่จะปลุกผมตื่นขึ้นมากลางดึกได้ ดังอยู่พักนึงก็เงียบไปครับ ซักพักไม่ทันจะหลับ มาอีกแล้วครับ วี้ดด..วี้ดด คราวนี้ลุกเลยครับ ลุกขึ้นไปดูที่หน้าต่าง คิดว่าปิดไม่สนิท แต่เปล่าเลย หน้าต่างล็อคแน่นสนิท มานั่งนึกดีๆเสียงมันมาจากในห้องครับ ลักษณะห้อง ไม่ได้มืดตึ้บนะครับ แสงไฟจากข้างนอกลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาพอให้เห็นอะไรได้ลางๆ กลับมาที่เรื่องเสียง หาไม่เจอครับ หาต้นตอของเสียงไม่เจอเลยกลับไปนอนที่เตียง แต่ยังไม่หลับนะครับ นอนรอฟังว่าจะดังมาจากตรงไหน ตอนนั้นไม่คิดว่าเป็นผี หรืออะไรนะครับ ที่คิดในหัวคือ เสียงมาจากการกระทบของสิ่งของ หรือวัตถุ มันไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ ก็พยายามนึกเหตุผลมาหักล้างอยู่ว่ามันมาจากไหน ซักพัก ไม่นานครับ เป็นเสียงแห้งๆครับ แหบๆ บอกได้ชัดเจนครับว่าเป็นเสียงที่ผ่านออกมาจากลำคอ ชัดเจนแน่ๆครับ ถ้านึกไม่ออก ลองนึกภาพ ตลกที่ชื่อ สมเล็กดูครับ(เวลาเค้าหัวเราะมันจะดัง ฮรี้ๆๆ) แบบนั้นเลยครับ แต่ ออกแหบๆหน่อย ตอนนั้นตกใจครับ อึ้งนิดๆ คือคิดไปแล้วว่าเราไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียว เสียงมาจากทางตู้เสื้อผ้าครับ อยู่ห่างจากเตียงนิดเดียว ตอนนั้นลุกขึ้นนั่งบนเตียง ไฟก็ยังปิดอยู่ มองไปที่ต้นเสียงครับ ชัดเจนครับ เป็นลักษณะรูปร่างของคน ไม่เห็นหน้า แต่สามารถบอกได้ว่าเป็นรูปร่างคนแน่ๆครับ ตอนนั้นในหัวตีกันยุ่ง เพราะไม่เคยเจอ ไม่เคยเชื่อเรื่องผี เสียงเงียบลงครับ ตอนนั้นคือขนลุกซู่เลยหลังจากเสียงเงียบลง แต่เค้ายังอยู่ มันเหมือนกับว่าเราทำให้เค้ารู้ว่าเราอยู่ตรงนี้อะครับ ในใจอยากจะลุกไปเปิดไฟให้มันเห็นจะๆ แต่ไม่กล้า ยอมรับความรู้สึกตอนนั้นคือกลัวครับ
ไม่กล้าขยับตัว ไม่กล้าแม้แต่หายใจแรงๆ เคยได้ยินหลายๆคนเล่าว่า โดนผีอำ จะขยับตัวไม่ได้ อันนี้จริงๆ ไม่ใช่ขยับตัวไม่ได้หรอกครับ
แต่ในสถานการ์ณแบบนี้มันทำให้เราไม่อยากขยับมากกว่า กลัวว่าถ้าเราขยับหรือทำอะไรนิดเดียว ไอ้ที่อยู่ตรงตู้เสื้อผ้ามันจะทำอะไรเรามั้ย
ตึ้บไปหมดครับในหัว สวดมนต์ก็ไม่เคยสวด ไม่ชอบเรื่องพวกนี้ เคยคิดว่างมงายแต่ตอนนี้อยากได้บทสวดซักบท
ตอนนั้นไม่รู้ว่ากี่โมงแล้ว แต่ขณะที่นั่งอยู่บนเตียงจ้องไปที่เงา แบบนั้นรู้สึกว่ามันนานมากๆ ซักพักเริ่มขยับครับ เงาสีทึบๆตรงตู้เสื้อผ้าเริ่มสั่นๆครับ ไม่ได้เดินไปไหนนะครับ แต่ยืนสั่นๆอยู่ตรงนั้น มาพร้อมกับเสียงไอแห้งๆครับ เป็นครั้งแรกที่เจอเรื่องแบบนี้ มันทำให้เรา ทั้ง งง สับสน แล้วก็กลัวในเวลาเดียวกันครับ เพราะมันหาคำตอบไม่ได้ว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร ตอนนั้นในใจลึกๆแม้จะไม่เชื่อ แต่กลัวมากๆครับ และที่แน่ๆคือไม่ได้ฝัน
ไม่นานผมเริ่มขยับลงจากเตียงครับ ตอนที่ขาหย่อนพื้นรู้สึกได้เลยว่าขาตัวเองสั่นมากๆ ตาก็ยังมองไปที่ตู้เสื้อผ้าอยู่ นึกในใจว่าดีแล้วที่ไฟไม่ได้เปิด
พอเปิดประตูออกจากห้องได้ ผมเดินกึ่งวิ่งไปที่ห้องน้าเลยครับ รู้สึกเสียมารยาทที่ไปเคาะห้องตอนดึกๆ แต่ไม่ไหวจริงๆครับ
น้าเปิดประตูออกมา เลยถามผมว่ามีอะไรรึเปล่า เพราะเค้าก็ตกใจว่ามาเคาะเอากลางดึก ผมไม่ได้เล่าอะไรให้เค้าฟังตอนนั้น แค่บอกว่าขอนอนด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่งี่เง่ามากๆครับ พอมานั่งนึกดู เหมือนเด็ก 5 ขวบมาขอนอนกับแม่... น้าไม่ได้ถามอะไรซักคำครับ กลับบอกว่าให้เข้ามานอน และหาที่นอนให้ผม ซึ่งจะนอนตรงโซฟาถัดจากเตียงของเค้าไป ตอนเช้ามาก็เตรียมตัวกินข้าวกันตามปกติครับ ไม่มีใครถามเรื่องเมื่อคืน ผมเลยเปิดเรื่องเลยครับ
บอกเค้าไปตรงๆว่าเมื่อคืนมีคนอยู่ในห้องนะ พยายามไม่ใช้คำว่าผี เพราะไม่ชินครับ เค้าก็เงียบๆกัน แฟนของน้าที่เป็นผู้ชายเลยเล่าให้ผมฟังหมดเลย เซอร์ไพรส์มาก พึ่งมารู้ว่า แฟนของน้าเค้ามีน้องชายด้วย ซึ่งน้องเค้าเป็นมะเร็งกล่องเสียงครับ เสียแล้ว และสิ่งที่น่าปลาบปลื้มสุดๆคือ น้องเค้าเสียในห้องรับแขกที่ผมใช้นอนเล่นดูหนัง ฟังเพลงเล่นเกมส์เมื่อคืนนี้ครับ ไม่ข้องใจแล้วครับว่าเงาในห้องน้ำ เสียง กับเงาทึบๆมาจากไหน และขอ บอกตรงๆครับ ว่าวิทยาศาสตร์พิสูจน์ทุกอย่างไม่ได้จริงๆ ยังมีคนแบบผมอีกเยอะครับ ผมเชื่อ แต่ก็สุดแล้วแต่คน คนไม่เจอก็คิดว่าไม่มี คนที่เจอก็จะบอกว่ามี
ของแบบนี้บังคับกันไม่ได้ครับ อยู่ที่ดวงล้วนๆ
อ้อ สิ่งที่เกิดขึ้นกับผม ผมไม่ขอเรียกว่าผีนะครับ ขอเรียกว่าเป็นสสาร หรือพลังงานแล้วกัน ก็ยังสงสัยอยู่นะ ว่าเสียงมันเกิดขึ้นมาได้ยังไงโดยที่ไม่มีตัวทำให้เกิดเสียง วันข้างหน้าวิทยาศาสตร์อาจพิสูจได้
ผิดพลาดตรงไหนต้องขอโทษด้วยนะครับ
เมื่อคนไม่เชื่อเรื่องผี แต่ดันเจอกับตัว Based on true story!!!
อันนี้ต้องออกตัวก่อนนะครับว่า ตัวผมเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่อง ผี เลย รวมไปถึงไสยศาตร์อะไรต่างๆนาๆ เรื่องเรื่องลี้ลับอะไรก็แล้วแต่ที่พอจะนึกกันออก
แต่ชอบดูหนังสยองขวัญนะครับ น่ากลัวดี แต่ไม่เชื่อว่าสิ่งพวกนี้จะมีตัวตนอยู่จริงๆ เพราะตั้งแต่เกิดจนโตมาอายุยี่สิบกว่าปี ยังไม่เคยเจอครับ เคยฟังจากที่คนอื่นเล่าๆกันมา ก็ยังคิดๆอยู่ครับ ว่าเจอจริงหรอ ซึ่งผมค่อนข้างที่จะเชื่อหลักการและเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มากกว่าครับ
ซึ่งเรื่องราวต่อไปนี้จะเปลี่ยนความคิดผมไปตลอดชีวิตเลย เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยครับ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงที่ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่กาญจนบุรีครับ เป็นวันหยุด เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ สามวัน ซึ่งก็ได้มาพักที่บ้านของน้าครับ สมาชิกในบ้านก็จะมี น้าผม เป็นผู้หญิง กับแฟนน้า(เป็นผู้ชาย)
แล้วก็ลูกชายของเค้า อายุประมาณ 6-7 ขวบครับ ลักษณะบ้าน จะเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ไสตล์โมเดิร์น และห้องที่ผมได้นอนคือ ห้องรับแขกครับ เป็นห้องที่เวลามีคนมาเที่ยวก็จะได้มานอนห้องนี้แหละครับ ซึ่งวันนั้นน้าของผมออกไปทำงานครับ จะเหลืออยู่แค่ ผม แฟนน้า แล้วก็ลูกเค้าครับ
ช่วงประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ผมนอนดูหนังอยู่ในห้องและกะว่าจะออกไปหยิบขนมเข้ามานั่งกินด้วย ระหว่างที่เดินออกไปหยิบขนมที่ตู้เย็น
จะต้องเดินผ่านห้องน้ำครับ ตอนนั้น เห็นเป็นคนกำลังนั่งทำอะไรซักอย่างอยู่ครับ (ลักษณะประตูห้องน้ำจะเป็นแบบ กระจกฝ้าอะครับ แสงสามารถส่องทะลุได้ แต่คนข้างนอกมองผ่านเข้าไปไม่ชัด พอเห็นลางๆ ทึบๆ) เห็นครับ เห็นเป็นเงาคนนั่งอยู่ แต่ไม่ได้ตกใจอะไร คิดว่าเป็นแฟนของน้า ก็หยิบขนมกำลังจะเดินเข้าห้องไป แฟนน้าตะโกนเรียกลูกเค้าครับ ประมาณว่าให้เข้าบ้าน จากห้องที่อยู่ถัดจากผมไปอีกห้องนึง ตอนนั้นผมชะงักไปนิดนึง แอบเหลือบมองห้องน้ำ 5555 ก็ยังอยู่เหมือนเดิมครับ ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ตอนนั้นคิดไปว่าอาจจะเป็นวัสุสิ่งของอะไรซักอย่างที่ตั้งอยู่ตรงนั้น เพราะมันไม่ขยับเลย
บวกกับประตูห้องน้ำที่เป็นลักษณะทึบแสง อาจจะทำให้ผมมองผิดเป็นอย่างอื่นก็ได้ ก็นอนดูหนังไปเรื่อยจนกระทั่งตอนเย็น น้ากลับมาจากที่ทำงาน
ก็เลยได้มานั่งกินข้าวเย็นพร้อมครอบครัวเค้าเลยครับ คุยกันไปสารพัดจนจัดการมื้อเย็นเสร็จ ก็เตรียมตัวอาบน้ำเข้าห้องครับ ในขณะที่อยู่ในห้องน้ำ ก็เอะใจนึกขึ้นได้ครับ นึกถึงไอ้เงาที่เห็นตอนกลางวัน ก็เลยหาใหญ่เลยครับ แต่ไม่มีอะไรที่พอจะคล้ายกับสิ่งที่เห็นตอนกลางวันเลย ตอนนั้นยอมรับว่าติดใจอยู่นิดๆครับ เวลาหาคำตอบไม่ได้มันจะชอบคิดอยู่เรื่อยๆครับ แต่สุดท้ายก็ไม่เจอ.......ซึ่งคืนนั้นผมเล่นเกมจนถึงประมาณตี 1 ครับ ก็เตรียมตัวนอนละ จำได้ว่าตอนนั้นง่วงมาก ล้มตัวนอนได้แป๊บเดียวหลับเลยครับ มาตืนเอาอีกทีประมาณตีสอง เกือบๆตีสามครับ ตืนเพราะเสียงครับ เป็นเสียง วี้ดด...วี้ดด
เบาๆ แต่ดังพอที่จะปลุกผมตื่นขึ้นมากลางดึกได้ ดังอยู่พักนึงก็เงียบไปครับ ซักพักไม่ทันจะหลับ มาอีกแล้วครับ วี้ดด..วี้ดด คราวนี้ลุกเลยครับ ลุกขึ้นไปดูที่หน้าต่าง คิดว่าปิดไม่สนิท แต่เปล่าเลย หน้าต่างล็อคแน่นสนิท มานั่งนึกดีๆเสียงมันมาจากในห้องครับ ลักษณะห้อง ไม่ได้มืดตึ้บนะครับ แสงไฟจากข้างนอกลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาพอให้เห็นอะไรได้ลางๆ กลับมาที่เรื่องเสียง หาไม่เจอครับ หาต้นตอของเสียงไม่เจอเลยกลับไปนอนที่เตียง แต่ยังไม่หลับนะครับ นอนรอฟังว่าจะดังมาจากตรงไหน ตอนนั้นไม่คิดว่าเป็นผี หรืออะไรนะครับ ที่คิดในหัวคือ เสียงมาจากการกระทบของสิ่งของ หรือวัตถุ มันไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ ก็พยายามนึกเหตุผลมาหักล้างอยู่ว่ามันมาจากไหน ซักพัก ไม่นานครับ เป็นเสียงแห้งๆครับ แหบๆ บอกได้ชัดเจนครับว่าเป็นเสียงที่ผ่านออกมาจากลำคอ ชัดเจนแน่ๆครับ ถ้านึกไม่ออก ลองนึกภาพ ตลกที่ชื่อ สมเล็กดูครับ(เวลาเค้าหัวเราะมันจะดัง ฮรี้ๆๆ) แบบนั้นเลยครับ แต่ ออกแหบๆหน่อย ตอนนั้นตกใจครับ อึ้งนิดๆ คือคิดไปแล้วว่าเราไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียว เสียงมาจากทางตู้เสื้อผ้าครับ อยู่ห่างจากเตียงนิดเดียว ตอนนั้นลุกขึ้นนั่งบนเตียง ไฟก็ยังปิดอยู่ มองไปที่ต้นเสียงครับ ชัดเจนครับ เป็นลักษณะรูปร่างของคน ไม่เห็นหน้า แต่สามารถบอกได้ว่าเป็นรูปร่างคนแน่ๆครับ ตอนนั้นในหัวตีกันยุ่ง เพราะไม่เคยเจอ ไม่เคยเชื่อเรื่องผี เสียงเงียบลงครับ ตอนนั้นคือขนลุกซู่เลยหลังจากเสียงเงียบลง แต่เค้ายังอยู่ มันเหมือนกับว่าเราทำให้เค้ารู้ว่าเราอยู่ตรงนี้อะครับ ในใจอยากจะลุกไปเปิดไฟให้มันเห็นจะๆ แต่ไม่กล้า ยอมรับความรู้สึกตอนนั้นคือกลัวครับ
ไม่กล้าขยับตัว ไม่กล้าแม้แต่หายใจแรงๆ เคยได้ยินหลายๆคนเล่าว่า โดนผีอำ จะขยับตัวไม่ได้ อันนี้จริงๆ ไม่ใช่ขยับตัวไม่ได้หรอกครับ
แต่ในสถานการ์ณแบบนี้มันทำให้เราไม่อยากขยับมากกว่า กลัวว่าถ้าเราขยับหรือทำอะไรนิดเดียว ไอ้ที่อยู่ตรงตู้เสื้อผ้ามันจะทำอะไรเรามั้ย
ตึ้บไปหมดครับในหัว สวดมนต์ก็ไม่เคยสวด ไม่ชอบเรื่องพวกนี้ เคยคิดว่างมงายแต่ตอนนี้อยากได้บทสวดซักบท
ตอนนั้นไม่รู้ว่ากี่โมงแล้ว แต่ขณะที่นั่งอยู่บนเตียงจ้องไปที่เงา แบบนั้นรู้สึกว่ามันนานมากๆ ซักพักเริ่มขยับครับ เงาสีทึบๆตรงตู้เสื้อผ้าเริ่มสั่นๆครับ ไม่ได้เดินไปไหนนะครับ แต่ยืนสั่นๆอยู่ตรงนั้น มาพร้อมกับเสียงไอแห้งๆครับ เป็นครั้งแรกที่เจอเรื่องแบบนี้ มันทำให้เรา ทั้ง งง สับสน แล้วก็กลัวในเวลาเดียวกันครับ เพราะมันหาคำตอบไม่ได้ว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร ตอนนั้นในใจลึกๆแม้จะไม่เชื่อ แต่กลัวมากๆครับ และที่แน่ๆคือไม่ได้ฝัน
ไม่นานผมเริ่มขยับลงจากเตียงครับ ตอนที่ขาหย่อนพื้นรู้สึกได้เลยว่าขาตัวเองสั่นมากๆ ตาก็ยังมองไปที่ตู้เสื้อผ้าอยู่ นึกในใจว่าดีแล้วที่ไฟไม่ได้เปิด
พอเปิดประตูออกจากห้องได้ ผมเดินกึ่งวิ่งไปที่ห้องน้าเลยครับ รู้สึกเสียมารยาทที่ไปเคาะห้องตอนดึกๆ แต่ไม่ไหวจริงๆครับ
น้าเปิดประตูออกมา เลยถามผมว่ามีอะไรรึเปล่า เพราะเค้าก็ตกใจว่ามาเคาะเอากลางดึก ผมไม่ได้เล่าอะไรให้เค้าฟังตอนนั้น แค่บอกว่าขอนอนด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่งี่เง่ามากๆครับ พอมานั่งนึกดู เหมือนเด็ก 5 ขวบมาขอนอนกับแม่... น้าไม่ได้ถามอะไรซักคำครับ กลับบอกว่าให้เข้ามานอน และหาที่นอนให้ผม ซึ่งจะนอนตรงโซฟาถัดจากเตียงของเค้าไป ตอนเช้ามาก็เตรียมตัวกินข้าวกันตามปกติครับ ไม่มีใครถามเรื่องเมื่อคืน ผมเลยเปิดเรื่องเลยครับ
บอกเค้าไปตรงๆว่าเมื่อคืนมีคนอยู่ในห้องนะ พยายามไม่ใช้คำว่าผี เพราะไม่ชินครับ เค้าก็เงียบๆกัน แฟนของน้าที่เป็นผู้ชายเลยเล่าให้ผมฟังหมดเลย เซอร์ไพรส์มาก พึ่งมารู้ว่า แฟนของน้าเค้ามีน้องชายด้วย ซึ่งน้องเค้าเป็นมะเร็งกล่องเสียงครับ เสียแล้ว และสิ่งที่น่าปลาบปลื้มสุดๆคือ น้องเค้าเสียในห้องรับแขกที่ผมใช้นอนเล่นดูหนัง ฟังเพลงเล่นเกมส์เมื่อคืนนี้ครับ ไม่ข้องใจแล้วครับว่าเงาในห้องน้ำ เสียง กับเงาทึบๆมาจากไหน และขอ บอกตรงๆครับ ว่าวิทยาศาสตร์พิสูจน์ทุกอย่างไม่ได้จริงๆ ยังมีคนแบบผมอีกเยอะครับ ผมเชื่อ แต่ก็สุดแล้วแต่คน คนไม่เจอก็คิดว่าไม่มี คนที่เจอก็จะบอกว่ามี
ของแบบนี้บังคับกันไม่ได้ครับ อยู่ที่ดวงล้วนๆ
อ้อ สิ่งที่เกิดขึ้นกับผม ผมไม่ขอเรียกว่าผีนะครับ ขอเรียกว่าเป็นสสาร หรือพลังงานแล้วกัน ก็ยังสงสัยอยู่นะ ว่าเสียงมันเกิดขึ้นมาได้ยังไงโดยที่ไม่มีตัวทำให้เกิดเสียง วันข้างหน้าวิทยาศาสตร์อาจพิสูจได้
ผิดพลาดตรงไหนต้องขอโทษด้วยนะครับ