จัดเต็ม! ชำแหละแบบประกันบำนาญ เวิร์คไหม? ตัวไหนดี ตัวไหนเด่น ตัวไหนน่าสนใจมาดูกัน

สวัสดีครับ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเล็กน้อย ผมมีนามปากกาว่า “Insuranger” นะครับ ปกติจะเขียนให้ความรู้เรื่องวางแผนการเงินกับประกัน อยู่ที่เว็บไซต์ Aommoney แต่วันนี้จะขอเป็นครั้งแรกที่ผมจะมาเขียนเรื่องการเงินลงพันทิป เนื่องจากว่า ผมเห็นว่าเรื่องการเงินด้านการลงทุน ก็มักจะมีคนมาตั้งกระทู้ถาม หรือรีวิว ว่ากองไหนดี? กองนี้น่าสนใจไหม? กองนี้กับอีกกองกองไหนน่าสนใจกว่ากัน? แต่กลับเรื่องประกัน โดยเฉพาะประกันชีวิต ยังไม่เคยเห็นมีใครเอาตัวเด่นๆ มาแนะนำ และเปรียบเทียบให้ผู้บริโภคเห็นข้อเด่นข้อด้อยกันจริงๆซักที (อาจจะเพราะส่วนใหญ่ผู้ที่มีความรู้เรื่องประกันชีวิต มักจะเป็นตัวแทน เลยติดสังกัด เกรงว่าจะเป็นการขัดผลประโยชน์ เลยไม่กล้าเขียน) แถมช่วงนี้ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายปี เป็นฤดูภาษีอีกต่างหาก เลยคิดว่า น่าจะมีใครสักคนที่เริ่มเอาประกันตัวเด่นๆมาแนะนำเปรียบเทียบให้คนได้รู้จักบ้าง น่าจะดี

(ขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ใช่ตัวแทน ดังนั้น ไม่มีผลประโยชน์กับค่ายใดค่ายหนึ่งเป็นพิเศษ อันไหนดีบอกดี อันไหนไม่ดีบอกไม่ดี แบบไม่มีกั๊กแน่นอน)

เอาล่ะ เข้าเรื่องดีกว่า สำหรับแบบประกันที่ผมจะนำมาแนะนำ และเปรียบเทียบให้ทุกคนดูคราวนี้ จะเป็นแบบประกันที่เรียกว่า “ประกันชีวิตแบบบำนาญ” นะครับ ซึ่งใครหลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับแบบประกันแบบนี้ จึงขออนุญาตให้ความรู้เกี่ยวกับประกันชีวิตแบบบำนาญกันเล็กน้อย (ขอเรียกย่อๆว่าประกันบำนาญแล้วกันนะครับ)


ประกันบำนาญเหมาะกับใคร?


    เหมาะกับคนที่อยากออมเงินเพื่อการเกษียณที่ต้องการความแน่นอนของเงินเกษียณส่วนหนึ่ง  เพื่อให้ตอนเกษียณมีเงินที่จะได้แน่ๆก้อนหนึ่งไว้ใช้ทุกปี (ดังนั้น ใครที่จะทำเพื่อเน้นคุ้มครองชีวิต ป้องกันความเสี่ยงก่อนจากไปก่อนวัยอันควร เอาไว้คุ้มครองหนี้สิน หรือมีเป้าหมายการออมที่ไม่ยาวนัก จะไม่เหมาะกับแบบประกันประเภทนี้ครับ)

จุดเด่นจุดด้อยของประกันบำนาญ

    จุดเด่น / ข้อดี
- ทำแล้วจะมีเงินบำนาญ ที่เป็นเงินได้หลังเกษียณแบบปลอดความเสี่ยงเรื่องผลตอบแทน ไว้ใช้แน่ๆทุกปีหลังเกษียณ
- ได้สิทธิ์วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 200,000 บาท (15% ของรายได้ ไม่เกิน 2 แสน รวมกับ RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กบข. ไม่เกิน 5 แสนบาท) เพิ่มเติมจากวงเงินประกันชีวิตแบบปกติ 1 แสนบาท

    จุดด้อย / ข้อเสีย
- ผลตอบแทนและความคุ้มครองไม่สูงมาก ไปไม่สุดด้านใดด้านหนึ่ง ดังนั้น จะซื้อเพื่อคาดหวังเรื่องผลตอบแทนสูงๆก็ไม่ตอบโจทย์ (ต้องไปลงทุน) หรือจะทำเพื่อต้องการวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงๆก็ไม่เหมาะ (ไปทำประกันชีวิตแบบเน้นคุ้มครอง เช่น แบบตลอดชีพ หรือแบบชั่วระยะเวลาจะเหมาะกว่า) เพราะจุดเด่นอยู่ที่ความแน่นอนของผลตอบแทนเป็นหลัก (Low Risk, Low Return ตามสูตร)

ลักษณะของประกันบำนาญ

    ส่วนใหญ่จะให้เราจ่ายเบี้ยประกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึง 1 ปีก่อนเกษียณ (ส่วนใหญ่กำหนดที่อายุ 55, 60 หรือ 65) พอเกษียณ ก็จะได้เงินบำนาญมาใช้ทุกปี โดยจะจ่ายให้ในวันที่ครบ due จนถึงเราอายุ 85-99 ปี (แล้วแต่แบบของแต่ละบริษัท) ซึ่งเงินบำนาญที่ได้ จะคิดเป็น % จากทุนประกัน (วงเงินคุ้มครองชีวิต, จำนวนเงินเอาประกัน, เงินที่บริษัทประกันจะจ่ายเมื่อเราเสียชีวิต) เช่น เราทำทุนประกัน 1,000,000 จ่ายบำนาญปีละ 12% ของทุนประกัน ก็เท่ากับได้บำนาญปีละ 120,000 บาท เป็นต้น นอกจากนั้นก็ยังมีประกันบำนาญแบบพิเศษอื่นๆอีก เช่น แบบที่จ่ายเบี้ยประกันแค่ปีเดียว, แบบที่ให้ทำเฉพาะคนที่เกษียณอายุแล้ว ฯลฯ

วิธีการใช้ประกันบำนาญให้เหมาะสม

    อย่างที่บอกว่า จุดเด่นของประกันบำนาญไม่ได้อยู่ที่ผลตอบแทน หรือความคุ้มครองที่สูง แต่อยู่ที่มันการันตีเงินที่จะได้หลังเกษียณ แบบปลอดความเสี่ยง ทำให้เราอุ่นใจว่าจะมีเงินก้อนนึงไว้ใช้หลังเกษียณแน่ๆ แต่เนื่องจากมันผลตอบแทนไม่สูง เราจึงไม่สามารถใช้แต่ประกันบำนาญแต่เพียงอย่างเดียวในการตอบโจทย์วางแผนเกษียณได้ เพราะไม่งั้นคงต้องจ่ายเบี้ยกันแพงมากๆ ปีละหลายแสนบาท ประกันบำนาญจึงเหมาะกับการเอาไว้สร้างเงินเกษียณแค่ส่วนหนึ่ง เบื้องต้นคิดคร่าวๆ ก็คือประมาณ 10-20% ของเงินที่เราอยากใช้ต่อเดือนหลังเกษียณ (หลังคิดปรับเงินเฟ้อแล้ว) ส่วนที่เหลือ ค่อยใช้เครื่องมือที่เป็นการลงทุนแทน เช่น เราอยากใช้ต่อเดือนหลังเกษียณ เดือนละ 30,000 บาท อีก 20 ปีจะเกษียณตอนอายุ 60 ซึ่งตอนนั้น เงิน 30,000 อาจจะต้องเตรียมเพิ่มเป็น 60,000 บาทต่อเดือน หรือ 720,000 บาทต่อปี ตามผลกระทบของเงินเฟ้อประมาณ 3% ซึ่งเราควรจะมีเงินบำนาญเอาไว้การันตี ประมาณ 72,000-144,000 บาทต่อปี ครับ

จำเป็นไหมที่เราต้องซื้อประกันบำนาญ เอาไว้ใช้ตอนเกษียณ?


          ถามว่าจำเป็นต้องมีทุกคนไหม? ผมว่าแล้วแต่คนครับ ใครที่มีความเชี่ยวชาญ ความช่ำชองเรื่องการลงทุนเฉพาะด้านของแต่ละคน ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ แต่สำหรับคนทั่วไป ที่อาจจะเป็นคนทำงานประจำ ไม่ได้มีทักษะหรือความรู้เรื่องการลงทุนที่สูงมาก ผมคิดว่า ก็ควรเตรียมเงินที่จะเอาไว้ออมเพื่อเกษียณส่วนหนึ่ง เอาเงินไปออม หรือลงทุนในอะไรที่ความเสี่ยงต่ำๆ ความแน่นอนสูงๆ ซักตัว  ส่วนทีเ่หลือก็เอาไปลงทุน จะในหุ้น RMF หรือ LTF ก็แล้วแต่ เพื่อไว้ใช้กระจายความเสี่ยงบ้าง ก็น่าจะเหมาะสมครับ (เคยมีงานวิจัยเรื่องพอร์ตเกษียณที่มีประสิทธิภาพของต่างประเทศ บอกไว้ว่า พอร์ตที่มีประกันบำนาญ หรือ Annuity จะเป็นพอร์ตที่มีผลตอบแทนและความเสี่ยง ดีกว่าพอร์ตที่ไม่มี)

        หลายคนอาจจะบอกว่า พอเป็นประกัน ผลตอบแทนมันต่ำเกินไป ถ้าไม่อยากเสี่ยงมาก เอาไปซื้อพันธบัตร หรือลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ หวังผลตอบแทน 2.5-3.5% ต่อปี ยังจะดีซะกว่า ซึ่งผมจะบอกว่า ไม่ผิดครับ จะทำแบบนั้นก็ได้ แต่ลองมาดูประกันบำนาญตัวที่ผมจะแนะนำตรงนี้ก่อน บางทีคุณอาจจะเปลี่ยนใจ 555

        ปูพื้นฐานเรื่องประกันบำนาญมาซะนาน เรามาเข้าเรื่องจริงๆดีกว่าครับ นั่นคือ แบบประกันบำนาญที่ผมอยากจะแนะนำขึ้นมารีวิวและเปรียบเทียบนั่นเอง

        ซึ่งในการเปรียบเทียบ ผมจะขออนุญาตใช้ตัวช่วยอย่าง ระบบการเปรียบเทียบแบบประกันชีวิต ของเว็บไซต์ “iTAX Market” มาช่วยอำนวยความสะดวกในการหาข้อมูลและเปรียบเทียบผลตอบแทนหน่อยนะครับ (เป็นระบบที่ผมคิดขึ้นมา และพัฒนาร่วมกับทาง iTAX เองแหละ 555) ซึ่งข้อมูลต่างๆที่ใส่ไปในระบบ เป็นข้อมูลเดียวกับที่บริษัทเผยแพร่นะครับ ไม่ได้มั่วขึ้นมาเอง สามารถลองเอามาเทียบเพื่อพิสูจน์ได้

ใครอยากลองใช้ ไปที่ลิงค์นี้ https://www.itax.in.th/market

โดยเงื่อนไขเดียว ของแบบประกันบำนาญที่ผมจะนำมาแนะนำคือ “ต้องเป็นตัวที่อัตราผลตอบแทน หรือ IRR เกิน 3% ต่อปี เท่านั้น” เพราะถ้าจะซื้อประกันบำนาญ อย่างน้อยที่สุดผมว่าไม่ควรแพ้อัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยที่ประมาณ 3% และเพื่อให้สูสี ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของกองทุนตราสารหนี้หน่อย


และประกันบำนาญที่ผมจะนำมาเปรียบเทียบ จะขอแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ

1) แบบสำหรับคนที่ยังไม่เกษียณ (ต้องเก็บเงินเพื่อเกษียณ)
2) แบบสำหรับคนที่กำลังจะเกษียณหรือเกษียณแล้ว (มีเงินก้อนใหญ่ที่เก็บมาแล้ว จะหาที่บริหารเงินเก็บ)

เอาล่ะ มาดูแต่ละแบบกันเลย!

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่