เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย..(ไม่มีวันลืม).PART 2

สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วหลังจากที่ห่างหายไปนาน ช่วงนี้งานยุ่งมากกก ไม่มีเวลาอัพกระทู้เลย ขอบคุณทุกคนที่หลังไมค์เข้ามานะคะ ขอบคุณที่ติดตาม
วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ช่วงที่เราคิดว่ามันเลวร้ายที่สุดในประสบการณ์การพบเจอวิญญาณของเรา เริ่มเลยนะคะ
           ใครที่ตามเรามาตั้งแต่กระทู้แรกจะพอทราบเรื่องแล้วว่าเราพบเจอกับอะไรมาบ้าง เรื่องที่เราจะเล่าในวันนี้เป็นเรื่องที่เราเผลอไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มหาลัยจนทำให้เราเหมือนคนเสียสติไปพักนึง เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่เราเรียนมหาลัยปี 1 เทอม 2 เรากะเพื่อนเรา ออม (ถ้าเคยอ่านกระทู้เราจะจำออมได้) หลังเลิกเรียนเรากับออมนั่งเล่นอยู่ในมหาลัย เพราะตอนนั้นยังไม่เย็นมาก เราเริ่มสังเกตสีหน้าออม ออมหน้าเศร้าเหมือนคนกำลังทุกข์ใจอะไรสักอย่าง เราได้แต่มองเพื่อน แต่ไม่กล้าถามอะไรเพราะตอนนั้นคิดว่าออมอาจจะมีเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้ เพราะถ้าอยากให้รู้ออมคงมาเล่าให้เราฟังและปรึกษาเรา เรานั่งอ่านหนังสือต่อแต่อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไร ก็กลุ่มนักกีฬาหน่ะสิสิ่งออกกำลังกายกัน แต่ละคนนี่ ดีต่อใจกันทั้งนั้น 555 อ่ะข้ามเรื่องนี้ไปละกัน แฮ่รๆ
                ระหว่างที่เรากำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เฮ้อ!!!!!!เสียงออมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เราตัดสินใจถามออมว่า ออมแกเป็นไรเปล่า เห็นแกนั่งเหม่อตั้งแต่ตอนเรียนละ มีอะไรบอกได้นะ เผื่อเราช่วยได้เราจะช่วย “ไม่มีอะไรหรอกทีขอบใจมากนะ” ออมตอบพร้อมกับยิ้มให้เรา เรารู้สึกว่าออมต้องมีเรื่องไม่สบายใจแน่ๆ เพราะปกติ ออมจะร่าเริง ยิ้มเก่ง ตลก แต่วันนี้เป็นวันแรกที่เราเห็นออมเป็นแบบนี้  “ฮัลโหล มีอะไร” ออมรับโทรศัพท์ใครสักคน แต่เราเดาได้ว่า ปลายสายน่าจะเป็นคนที่ทำให้ออมเป็นแบบนี้แน่นอน  “ถ้าตัดสินใจแบบนี้ก็ไม่ต้องโทรมา และไม่ต้องมาเจอกันอีก แค่นี้นะ” ออมกดวางสาย พร้อมกับลุกขึ้นแล้วบอกกับเราว่า “ที กลับก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้” โอเคๆกลับดีๆนะ บาย เราพูดจบ ออมก็เดินไป  
                 หลังจากที่ออมกลับ เราก็เก็บของเตรียมตัวจะกลับเหมือนกัน แต่อยู่ดีๆก็มีลมพัดมาแรงมาก ลมปะทะเข้าที่หน้าเรา เราหลับตาเพราะใส่คอนเท็คเลนส์กลัวฝุ่นเข้า หลังจากที่เรารู้สึกว่าลมน่าจะไปแล้ว เราค่อยๆลืมตาขึ้นมา เราตกใจแทบช็อค เมื่อเห็นออมยื่นหน้ามามองเรา “โห่ ออม หัวใจจะวาย นึกว่ากลับไปแล้ว กลับมาทำไมอ่ะ ลืมของเหรอ” เราถามพลางเอามือจับหน้าอก ค่อยๆลูบเบาๆ เพราะตกใจใจเต้นแรงแทบจะหลุดออกมาเต้นข้างนอก “ที วันนี้ขอไปนอนด้วยดิ ไม่อยากกลับบ้าน ไม่อยากทำอะไรเลย โทรบอกที่บ้านละ ไหนๆพรุ่งนี้ก้วันหยุด ไปเที่ยวกันดีกว่า ช่วงนี้เซ็งๆ” ออมพูดกับเรา
                 เราไม่ทันได้พูดอะไร ออมก็จับมือแล้วจูงมือเราเดินกลับหอ “นี่ๆ ออม หยุดก่อนๆ” เราแกะมืออมออกแล้วเดินไปขวางหน้าออมไว้ “บอกเรามาก่อนว่าออมเป็นอะไร มีอะไรไม่สบายใจ ไม่งั้นเราจะไม่ให้ออมไปที่ห้องเรา” เราพูดกับออม  ออมไม่สนใจกับสิ่งที่เราพูด ออมจับมือเราอีกครั้งแล้วพูดว่า “ถึงห้องก่อนนะ จะเล่าให้ฟังนะคุณแม่”  เพี้ยะ!!!เราตีแขนออม นี่ ยังจะมาพูดเล่นอีกนะออม  เราสองคนเดินกลับหอเรา ระหว่างทาง ออมถามเราว่า “ที พวกพี่ๆเค้าถือพวงมาลัย กับดอกไม้ธูป เทียน ไปไหนกันอ่ะ” ออมพูดพร้อมกับหยุดเดินแล้วชี้ไปทางพี่ๆนักศึกษากลุ่มนึง ที่ต่างคนต่างถือ ดอกไม้ ธูป เทียน พวงมาลัย อยู่ในมือ เดินสวนทางกับพวกเราไป “ไม่รู้ดิออม ไปกันเถอะ เดี๋ยวเย็นนี้พี่บีจะมาหา เดี๋ยวไม่เจอเรา” เราจูงมืออมเดินมาจากที่ตรงนั้น
              พอมาถึงห้องเรา ออมถามเราอีกว่า “เออ ที ซี้แกยังอยู่มั้ยวะ (ซี้ที่ออมหมายถึง คือ ผู้หญิงที่เราเล่าไปในพาร์ทแรก ที่อยู่ห้องข้างๆ) เราตอบออมไปว่า “เค้าไปแล้วแหละออม เค้าไปอยู่ในที่ที่สมควรอยู่แล้ว ทำไม คิดถึงเหรอ” นี่แนะ พูดอะไรออกมา” ออมพูดพร้อมกับเอาไม้แขวนเสื้อตีก้นเรา เราไปหยิบเสื้อผ้ามาให้ออมเปลี่ยน เราเปิดเพลงฟังพร้อมกับเอนตัวลงบนเตียง  “ที เราอยากรู้อ่ะ ว่าพวกพี่เค้าไปทำอะไรกัน” ออมพูดออกมาจากห้องน้ำ “ช่างเถอะออม ว่าแต่แกยังไม่บอกเราเลยนะ ว่า เป็นอะไร” ออมเดินออกมาจากห้องน้ำ มานั่งเก้าอี้หน้าคอมเรา แล้วหมุนตัวมาทางที่เรานอน “ที คือ กอล์ฟ (แฟนออม) มันไปเที่ยวกับเพื่อนมัน แล้วไปมีเรื่องกัน มันยกพวกตีกันอ่ะที แล้วฝั่งนั้นตายคนนึง  ตอนนี้ตำรวจกำลังตามจับ เรากลัวว่ามันจะโดนจับอ่ะแก” ออมพูดพลางน้ำตาคลอ “เฮ้ย!! จิงดิออม แล้วจะทำไงต่ออ่ะ ตอนนี้กอล์ฟอยู่ไหน” เราดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอน เดินไปหาออมแล้วเอามือแตะไหล่เบาๆ “ตอนนี้กอล์ฟอยู่บ้านน้าที่ลพบุรี มันต้องหลบไปสักพักอ่ะแก มันโทรมาบอกเราว่า เพื่อนมันโดนเอาคืน มันจะไปช่วยเพื่อนมัน แกคิดดูมันจะขับรถจากลพบุรี มากรุงเทพเพื่อมาช่วยเพื่อน มันไม่ห่วงตัวเองเลย ตำรวจก็ตามอยู่ ถ้าจับได้ขึ้นมาจะเป็นยังไง เรียนก็ยังไม่จบ มันไม่คิดถึงเราเลย เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มันรอด เราคิดมากอ่ะแก“ ออมร้องไห้ออกมา “ออม แกฟังเรานะ บางครั้งเราต้องยอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้น ในระหว่างที่แกคิดมากอยู่เนี่ย อีกฝั่งเหมือนเค้าจะไม่คิดอะไรเลยนะ ใจเย็นๆค่อยๆคิด” เราปลอบเพื่อนที่นั่งร้องไห้อยู่
                 ก๊อก ก๊อก ก๊อก ที เปิดประตูให้หน่อย เสียงพี่บีอยู่น่าห้อง “ออมเลิกร้องไห้ซะนะ เดี๋ยวเราไปหาไรกินกัน พี่บีมาละ” เราพูดพร้อมกับเดินไปเปิดประตู ออมก็เช็ดน้ำตาอยู่ พี่บีเดินเข้ามาในห้อง เห็นตาออมบวม เพราะร้องไห้ พี่บีเดินเข้าไปจับไหล่ออมแล้วถามว่า ออม ใครทำอะไร เป็นอะไรรึเปล่า ออมกอดพี่บีและเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่บีฟัง “เฮ้อ เรื่องแบบนี้มันพูดยากเนาะ เอางี้เลิกคิดมากก่อน ไปกินบุบเฟ่ต์กุ้งเผากันดีกว่าพี่เลี้ยงเอง” พี่บีพูดพลางเช็ดน้ำตาให้ออม (เหมือนจะรักกว่าน้องตัวเอง555) เราสามคนหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องเพื่อจะไปร้านบุบเฟต์
              เมื่อมาถึงร้าน ระหว่างที่เรากำลังนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย ออมพูดขึ้นว่า “พี่บี วันนี้ออมเห็นพวกรุ่นพี่ที่มหาลัยอ่ะ เค้าถือพวกเครื่องไหว้ ดอกไม้ ธูป เทียน กันเต็มเลยอ่ะ เค้าเอาไปทำอะไรกันไม่รู้” เราได้ยินแบบนั้นเลยพูดต่อว่า “นี่ออม ยังไม่เลิกสงสัยอีกเหรอ” พี่บีเงียบไปพักนึงก่อนจะพูดขึ้นว่า พี่ว่าเค้าน่าจะไปไหว้ศาลที่อยู่ในมหาลัยก็ได้ เค้าว่ากันว่า ขออะไรได้หมด ศักดิ์สิทธิ์มาก เพื่อนพี่ก็เคยไปขอให้ไม่ตก วิชาอะไรสักอย่างจำไม่ได้ แต่มันบอกว่ามันไม่รู้เรื่องเลย แต่รู้มั้ยมันได้บี เลยนะ พี่ว่าน่าจะใช่ เด็กพวกนั้นอาจจะไปขอให้ตัวเองได้เกรด เอ กันก็ได้นะ” พี่บีพูดพร้อมกับก้มหน้าก้มตากินแบบไม่ได้สนใจคำพูดตัวเองสักเท่าไร แต่!!!! เรารีบหันไปหาออม เห็นออมนั่งยิ้ม ก่อนที่จะพูดว่า “คิดออกแล้ว ออมจะไปขอให้กอล์ฟรอดจากการโดนจับ” เรากับพี่บีมองหน้ากัน เราพูดขึ้นว่า “นี่ออม อย่าคิดอะไรบ้าๆนะ “ เราคิดว่าออมไม่น่าจะทำเพื่อแฟนขนาดนี้ เราหันไปสะกิดพี่บีเพื่อที่จะให้พี่บีช่วยห้ามออม “ออม พี่ว่าอย่าเลย ถ้าจะไปจริงๆมีศาลไม้เก่าใกล้ๆหอพักหลังมหาลัยที่นึง เพื่อนพี่บอกว่าตรงนี้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด พี่จะพาไป” ห๊า!!! เราตกใจกับคำพูดพี่บีมาก “พี่บีทำไมไปชี้ทางให้ออมแบบนั้นล่ะ แทนที่จะช่วยห้าม” เราว่าพี่สาวแต่ดูเหมือนนางจะไม่สนใจอะไรเราเลย
                    ออมยิ้มออกมาเหมือนมีความหวัง แล้วถามพี่บีต่อว่า “เราจะไปวันไหนคะพี่บี วันนี้ได้มั้ย ออมอยากไป แต่มันก็มืดแล้วอ่ะ (ตอนนั้นประมานสามทุ่ม) “ ออมจะไปจริงๆเหรอ” เราถาม “ มืดๆสิดี มันเงียบดี” พี่บีตอบออม “เฮ้ย!!สนใจกันบ้างมั้ยเนี่ย “ เราอารมณ์เสียกับสองคนนี้มาก เราหยุดกิน ทันที ออมเอามือมาจับมือเรา แล้วพูดกับเราด้วยเสียสั่นๆว่า “ ที ช่วยเราหน่อยนะ ไปเป็นเพื่อนเราหน่อย เราไม่เคยขออะไรแกเลย เรากลัวแฟนเราติดคุกจริงๆ นะทีนะ” พี่บีพูดต่อว่า”เอาน่าที ช่วยออมหน่อย ดีซะอีกมีแกไป เวลาแกเห็นอะไรจะได้บอกพวกพี่ทัน” เราหันไปหาพี่บี  “ก้นี่แหละที่กลัว” เราพูดพร้อมกับถอนหายใจ คือยังไงเราก็ต้องไปใช่มั้ย เราบ่นพึมพำกับตัวเอง “เอางี้ กินเสร็จแล้วไปซื้อธูปในเซเว่น แล้วไปกัน อยู่ไม่ไกลหรอก หลังมหาลัยแกแหละ ติดๆกัน จะว่าเป็นศาลไม้ของมหาลัยเลยก็ได้นะ” เรานั่งเงียบ และกินต่อไปจนอิ่มกันทุกคน พวกเราเดินไปซื้อของที่เซเว่นใกล้ๆ หลังจากนั้นพี่บีพาพวกเราไปยังที่ที่พี่บีบอก ทางเดินเข้ามืดมาก ออมกับพี่บีเกาะเราแน่น “นี่ แล้วก็บอกอยากมา จะกลัวอะไรกัน” เราพูดแต่ทั้งสองคนไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดเราเลย

เดี๋ยวมาต่อนะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่