เรายืมไอดีเพื่อนมานะค่ะ
เราเรียนอยู่ต่างประเทศ แล้วพอเข้ามหาลัย เราก็เจอผู้ชายคนไทยคนนึง ขอแทนผู้ชายคนนั้นว่าเอนะคะ เรากับเอก็เรียนอยู่คณะเดียวกัน เรากับเอก็รู้จักเพื่อนๆของกันและกัน แล้วเอเค้าก็มาจีบเรา เราก็โอเค คุยกันได้สักประมาณ2 เดือน เราก็ตกลงเป็นแฟนกัน เอเป็นคนสูบบุหรี่หนัก คือเอก็รู้ว่าเราไม่ชอบคนสูบบุหรี่ ก่อนคบกันเราก็บอกเอว่า เราไม่ชอบคนสูบบุหรี่นะ ถ้าเลิกไม่ได้ก็ยังไม่คบ เอก็บอกโอเค เอก็บอกเรามาตลอดว่าจะเลิกๆ พอเราถามเอว่าเลิกได้ไหม เค้าบอกว่าได้ คบกันไปกันมา ก็มีงอนกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง
เราก็เป็นคนค่อนข้างงี่เง่า บางทีก็ไร้สาระ แบบอยากให้เอสนใจอะไรแบบนี้ ยอมรับว่าเราเป็นคนที่ขี้งอนมาก พอเราถามเอว่า ได้สูบบุหรี่บ้างรึป่าว เอก็จะบอกตลอดว่าไม่ได้สูบแล้ว แต่พอคบกันได้ประมาณ2เดือน เอก็มาบอกว่า เอยังสูบอยู่ตั้งแต่ที่คบกับเรานั่นแหละ เราก็แบบ อ้าว แล้วจะโกหกทำไม แต่เอก็ยังสูบเรื่อยๆ แต่เราไม่รู้ ก็คบกันมาปกติ เรื่อยๆ เอจะเป็นคนติดเพื่อนมาก เป็นผู้ชายเที่ยว รักสนุก แต่เราจะออกไปทางแนวเด็กเรียน เหล้า เบียร์ ไม่แตะ วันๆก็อยู่กับหนังสือ แต่เราก็จะไปหาเอบ่อยๆ วันเสาร์เอจะไปเตะบอลกับเพื่อนๆ ทำให้เราสองคนไม่ค่อยได้ไปเที่ยวด้วยกัน เพราะวันอาทิตย์เอก็จะนอน ตื่นทีก็บ่าย เจอกันก็เย็นแล้ว
ทำให้มีอยู่วันนึง เราขอเอว่าวันเสาเราไปด้วยกันได้ไหม ขอแค่ครั้งเดียวตอนแรกเอก็บอกว่าโอเค แต่สุดท้ายเอก็เลือกไปเตะบอลเหมือนเดิม เราก็เสียใจนะ ร้องไห้ เราบอกเอว่าเราขอแค่วันเดียวเองนะ เราไม่เคยห้ามเอไปเตะบอลเลย แต่เอทำให้เราไม่ได้ เอก็บอกขอโทษ อาทิตย์ไปด้วยกันใหม่นะ เราเลยบอกว่าเราไม่ไปแล้ว เพราะมันไม่อยากไปแล้ว ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เราโกรธเอมาก ไม่ได้คุยกันเกือบสองวัน พอมาถึงช่วงเดือนที่ 4 ก่อนเรากลับไทย เราจับได้ว่าเอสูบบุหรี่ เพราะเพื่อนต่างชาติเราไปเห็น แล้วเอก็บอกกับเพื่อนเราว่า อย่าบอกเรานะ แต่สุดท้ายเพื่อนก็มาบอกเรา แล้ววันนั้นมันเป็นวันที่ เอไปดูดกุกับเพื่อน แต่ก่อนที่ไป เราก็ถามเอว่าจะไปไหนหรอ เพราะเอดูรีบมาก เอก็บอกว่าไปกินข้าวกับเพื่อน เราก็เลยไม่ได้เอ๊ะใจอะไร จนสุดท้ายที่มารู้ก็คือว่าที่ไม่ชวนเพราะไปดูดบารากุ
ตอนนั้นก็เสียใจนะ แล้วเราก็โทรไปบอกเลิกเอ เอก็แบบรู้อะไรมา ใครบอก เราก็บอกไปว่า เรารู้สิ่งที่เอทำ ที่เอโกหก เอก็บอกว่าไม่เลิก แล้วเราก็วางสายไป แล้วเอก็อยู่กับเพื่อนต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่เราก็นั่งเสียใจอยู่ที่ห้องเรา แล้วตอนกลางคืนเอก็มาขอคืนดี วันรุ่งขึ้นเอก็มาหา มาง้อ แล้วก็ไปส่งเราที่สนามบินที่จะกลับไทย พอช่วงปีใหม่เราก็ทะเลาะกัน คือเอมีกินเลี้ยงฉลองปีใหม่ คือเรายอมรับนะว่าตอนนั้นเราโคตรงี่เง่า ช่วงนั้นเราติดเอมาก อยากคุยตลอดเวลา พอใกล้จะเที่ยงคืน เอก็หายไปเลย เราก็เลยโกรธ เราก็เลยไม่ค่อยได้คุยกัน วันรุ่งขึ้น เราก้หายโกรธเอ แล้วก็เป็นวันที่เราต้องบินกลับ เอก็มารับที่สนามบิน เอาดอกไม้มาให้ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
เราเป็นคนที่ยอมตลอด ทำการบ้านให้ เอขออะไรก็ให้ สอนหนังสือ โทรปลุกให้ไปเรียน พอมาถึงช่วงสอบไฟนอล เราไม่รู้เลยว่าเค้ากำลังเบื่อเรา ช่วงนั้นเอต้องย้ายหอ หอเก่าเอจะอยู่ใกล้ๆหอเรา เลยเจอกันสะดวก แต่พอเอย้าย ก็ไกลกว่าเดิม แล้วเอเป็นคนไม่ชอบเดิน เราก็ทำตัวเหมือนเดิมคือ โทรหาเอชวนมากินข้าวด้วยกันทุกเย็น เอก็ตกลงทุกครั้ง เพราะทุกที ถ้าวันไหนเราไม่ออก เอก็จะงอนๆ เราก็เลยคิดว่าเออยากเจอเราเหมือนที่เราอยากเจอเอ พอช่วงสอบ เราก็ติดต่อกันน้อยลง เพราะต้องอ่านหนังสือ เอโทรหาเราน้อยลง เวลาคุยก็จะบอกว่า วางได้ไหม ไม่มีอะไรคุย วันนี้ก็เจอกันเอง ทำให้เรารู้สึกแปลกๆเพราะทุกทีเอจะเป็นคนอยากคุยตลอด เอก็ไม่มากินข้าวกลางวันกับข้าวเย็นกับเรา วันไหนถ้ามากินก็จะดูเงียบๆ แล้วก็รีบกลับ พอถึงวันสุดท้ายของการสอบไฟนอล เอก็รีบกลับไป ไม่บอกลาเลยสักนิด พอโทรไป คุยแล้วเราโมโห เอก็จะหาข้ออ้างมาว่าไม่รู้ เราเลยโมโห เลยตัดสายไป ปกติเอจะโทรกลับแต่ครั้งนี้ไม่โทรกลับ เราเลยเริ่มตะหงิดๆ วันนั้นเรา เอ และเพื่อนๆเราก็บินกลับไทยกัน วันหยุดยาว เราก็นั่งข้างเอ เอก็คอยห่มผ้าห่มให้ พอถึงไทย เราก็แยกย้ายกัน เอก็ส่งข้อความมาหาเราว่า เอมีเบอร์โทรศัพย์แล้วนะ เดี๋ยวกลับบ้านก่อนแล้วคุยกัน หลังจากวันนั้น เอก็ไม่ติดต่อเรามาเลย เราก็ส่งข้อความไปว่าทำอะไร ทำไมไม่คุยกันเลย ไม่อยากคุยกันแล้วหรอ เอก็จะบอกว่าไม่ใช่ เออยู่กับเพื่อน แล้วก็ตัดบทสนทนาว่าเอจะไปนอน จะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง จนเข้าสู่วันที่5 เราหมดความอดทน เราก็ไม่อยากให้ทางบ้านรู้ว่าเราทะเลาะกัน
เราเลยบอกเอทางไลน์ว่า ถ้าเอเป็นแบบนี้เราคงไปกันไม่รอดนะ เอก็บอกว่า เอรู้ เอคิดอยู่ เราก็เลยแบบ อ่าว ทำไมต้องคิดละ ไม่รักแล้วหรอ งั้นเราพอแค่นี้ไหม เอก็บอกว่า ถ้าเราต้องการแบบนั้นก็พอแค่นี้ก็ได้ ของทุกอย่างที่เอเคยให้เอบอกว่าไม่เอาคืนนะ ตอนนั้นเราน้ำตาร่วงอะ แบบไม่คิดว่าเอจะพูดแบบนี้ เอพูดเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น ไม่เสียใจ เราเลยโทรไป แล้วเราก็ร้องไห้ เอก็บอกว่า จริงๆเอเบื่อเราตั้งแต่ช่วงที่อยู่ต่างประเทศแล้ว แต่ไม่กล้าบอก กลัวเราเสียใจ เราก็เลยขอเหตุผล เอบอกเราว่า เพราะอยากชวนไปค้างคืนที่ไหนเราก็ไปไม่ได้ เราเลยงง คือเอไม่เคยชวนเราไปเที่ยวเลยด้วยซ้ำแล้วทำไมมาพูดแบบนี้ เหมือนหาข้ออ้างมั่วๆ เราร้องไห้ เอบอกว่าไม่ต้องร้อง ไม่ต้องร้อง เราก็เลยวางสายไป เค้าก็ไม่ติดต่อมาเลย เราเลยคุยกับเพื่อนของเอ เพื่อนของเอก็ปลอบเรา แล้วก็บอกว่าเพราะเรากับเอต่างกันเกินไป เราร้องไห้หนักมาก ตาบวม เราไปง้อเอ เราขอโทษเอ เราบอกเอว่าเราจะเปลี่ยนตัวเราเอง ขอร้องไม่ไปได้ไหม ถ้ายังรักกันอยู่ ขอโอกาสให้เราบ้าง เอก็บอกว่าเอให้โอกาสเราได้เสมอ เอยังรักเราอยู่ แต่เอบอกว่าเอขอเวลาหน่อยได้ไหม ขออยู่กับตัวเอง เราเลยถามนานไหม เอาบอกว่า2 เดือน เราก็แบบได้ หลังจากนั้นเอก็ไม่ทักเรามาเลย
เราจะเป็นคนคอยทัก อยากคุย คิดถึง จนสุดท้ายผ่านไปเดือนกว่า เราไม่ไหวจริงๆ เราขอเลิก เอก็บอกว่าโอเค บอกว่าขอโทษ บอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับเรา ยังรักเราอยู่แต่รักแบบเพื่อน ไม่ได้รู้สึกเหมือนแต่ก่อนแล้ว เราเสียใจมาก เอบอกว่าขอให้เราคุยกันเหมือนแต่ก่อน เล่นกันเหมือนแต่ก่อน เป็นห่วงกันเหมือนเมื่อก่อน เราก็ยิ่งเสียใจ เราทำไม่ได้ เพราะสถานะมันไม่เหมือนเดิมแล้ว หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกัน พอกลับต่างประเทศ เราอยากเจอเอ สุดท้ายเราก็ไปหาเอ เอาของไปคืน เอบอกว่าคืนทำไม เราก็บอกไปว่าก็เราเลิกกันแล้วนิ แล้วเราก็เริ่มร้องไห้ เอก็เข้ามากอด แล้วก็บอกว่าเอยังรักเรานะ กลับมาคบกันไหมละ คือทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็บอกเราว่าเอขอ3อย่าง เราก็ให้ แต่หลังจากนั้น 2 อาทิตย์เราก็เลิกกัน เพราะมันไม่ใช่ เอไม่ได้รักเราเลย เอบอกว่าความรู้สึกมันไม่กลับมา เราร้องไห้ แล้วเอก็เริ่มร้องไห้ เอบอกว่าเอก็ใช้ชีวิตของเอแบบนี้ ทำอะไรไม่ได้หรอก ขอโทษ เออยากให้เราบอกเลิก เราไม่พูด เราจะให้เอพูด สุดท้ายเอก็พูด วันนั้นเราร้องไห้หนักมาก
หลังจากนั้นเราก็เจอกันในห้องเรียนทุกวัน เราทำเป็นไม่สนใจเอ แต่เอจะทำเป็นเหมือน มาขอยืมนู่นยืมนี่เราตลอด เราพยายามไม่สนใจ เราก็จับได้ว่าที่เอเป็นแบบนี้เพราะไปเจอผู้หญิงคนนึงตอนอยู่ที่ไทย
แต่พอถาม เอก็บอกว่าไม่ได้ชอบ แต่ว่ามีรูปอยู่ในโทรศัพท์เอ รูไลค์รูปทุกรูปในเฟสบุคของผู้หญิงคนนั้น พอช่วงใกล้สอบ เราก้เริ่มคุยกัน เราก็ช่วยเอเรียนหนังสือ ตอนอยูในห้องสอบ เราก็ช่วยเอ เวลาเอถาม ตอนนั้นเราเลิกกันมาได้สองเดือนแล้ว เรากำลังจะทำใจได้แล้วเพราะคิดว่ายังไง เอก็ไม่กลับมาแน่ๆ เวลานั่งเรียนในห้องเอก็จะมาเล่นผมเรา ที่ผ่านมาเราจะนั่งอยู่คนละแถวกับเอ หลังๆ เอก็ชวนให้ไปนั่งข้างๆ แล้วก็เล่นกับเรา ขอให้เราทำงานให้เอ พอเราบอกไม่ทำ เอก็จะขอร้อง เราก็ใจอ่อนอีกตามเคย ยอมเสียเวลาทำงานตัวเอง ไปทำงานให้เอเหมือนเมื่อก่อน หลังๆเริ่มมีการมาจับตัว แล้วมีวันนึง อยู่ดีๆเอก็มาจับมือเรา เราก็เลยมองหน้าเอ เอพูดว่า ทำไม จับไม่ได้หรอ เราก็ไม่ได้ตอบอะไร เอก็ถามเราว่าไม่อยากจับหรอ เราก็ไม่ได้ตอบ เอเลยปล่อยมือเรา เอก็บอกให้เราหอมแก้มเอหน่อย ให้เราไปหาเอที่ห้องบ้าง พออีกวันเราไปหาเอที่บ้าน เพราะเราต้องไปสอนหนังสือเพื่อนอีกคนที่อยู่บ้านเอ แล้วก็สอนเอด้วย เอก็มากอดเรา จูบเรา แล้วก็บอกว่าคิดถึงเรา มันทำให้เราใจสั่นนะ แต่เราไม่ได้ถามว่าทำไม วันต่อมาเราเลยถามเอ ว่าทำไปปทำไม เอบอกว่าคิดถึง แล้วเวลาเราเจอเอ เอก็จะทำแบบนั้นกับเราตลอด มากอดเราทุกครั้ง จนเราไม่ไหว เราเลยถามไปตรงๆเลยว่าตกลงเราเป็นอะไรกัน เอบอกว่าก็เพื่อนไง เราเลยเสียใจ เลยไปเคลียกับเอตรงๆ เอบอกว่าเอก็อยากกลับไป แต่ขอเวลา ความรู้สึกยังไม่มากพอ เราก็โอเค แล้วมันก็มีเรื่องขึ้นมากับเอ เอจะไม่ได้เรียนต่อเทอมต่อไป ก็คือว่าเราจะไม่ได้เจอเออีกประมาณแปดเดือน เวลาเอมีเรื่อง เอก็จะโทรมาร้องไห้กับเราทุกครั้ง เราก็ปลอบทุกครั้ง ไปหาทุกครั้ง เอบอกรอให้ผ่านแปดเดือนนี้ไปก่อนแล้วเราค่อยมาคุยกัน พอปิดเทอม เรากับเอก็กลับไทย แม่เอก็โทรมาคุยกับเราเรื่องที่เอโดนไม่ให้เรียนต่อ เราก็ช่วยๆเอ กับแม่เอมาตลอด เอหางานทำที่ไทย แล้วเอก็จะหายตัวไปสักพัก พอเอเหงาเอก็เรียกให้เราไปหา เราก็ไปหา เราเลยขอความมั่นใจ เอบอกว่าตอนนี้เราเป็นคนรู้ใจกัน เราเลยบอกว่าแล้วเมื่อไรจะเป็นแฟนกัน ไม่อยากเป็นใช่ไหม เอบอกว่าไม่ใช่ว่าไม่อยากเป็น แต่ความรู้สึกมันไม่มากพอ เอบอกว่า เดี๋ยวพอเรียนจบปี3 คบกัน แล้วแต่งงานเลย เราก็เลยบอกว่า มเราจะแน่ใจได้ยังไง แล้วทำไมต้องรอ เราจะรู้ได้ไงว่าเอจะคบกับเรา เพราะความรู้สึกมันไม่ได้จะอยู่ตลอดไปหรอกนะ เอก็บอกว่า จะได้รู้ว่าเรายังรอเอไหม เหมือนเอคอยให้ความหวังเราเรื่อยๆ หลังจากนั้น เราก็ไม่ได้คุยกันอีก พอคุยเอก็จะคอยบอกว่า อย่ากดดัน เอยังไม่พร้อม เอบอกว่าเอไม่ได้บังคับให้เรารอเอคนเดียวนะ เราก็คุยกับคนอื่นได้ เพราะเอก็ไม่แน่ใจตัวเอง แต่พอถามว่าคิดถึงบ้างไหม เอก็จะบอกว่าคิดถึงตลอด ซึ่งเราก็ไม่ร็ว่าจริงไหม พอเรากลับมาเรียน เราก็ไม่ได้คุยกันเลย เหมือนเอคอยเลี่ยงตอบไลน์เราตลอด เอเล่นเฟสบุค อ่านไลน์กลุ่ม แต่ไม่อ่านไลน์เรา เอไม่เคยทักเรามา นานมากกว่จะตอบข้อความเรา เวลาเราดราม่าใส่เอ เอก็จะบอกว่า ไม่ใช่ไม่อยากคุย แค่ไม่ว่าง บอกว่าเราคิดมาก เอบอกว่าเอไม่ได้มีคนอื่นเลย เราก็เลยไม่ทักเอไป จนถึงตอนนี้เราไม่ทักไป เอก็ไม่ทักมาเหมือนกัน เราก็ไม่ได้คุยกันเลย ถามว่าลืมได้แล้วหรอ บอกได้เลยว่ายังลืมไม่ได้ แต่เราทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ เราพยายามทำทุกอย่างแล้ว เลิกกันมาเกือบ6 เดือนแล้ว ก็ยังคิดถึงเรื่องเก่าๆตลอด แต่เราจะเป็นคนที่เสียใจแต่จะไม่ปะปนกับเรื่องเรียน เลยทำให้ไม่เสียการเรียนค่ะ
เราหาอะไรทำแล้ว เราก็นั่งทำงาน อ่านหนังสือ มันก็ช่วยได้ระดับนึง แต่พอเลิกทำ มันก็จะกลับมาคิดอีกรอบ
พอคิดว่าเค้าจะมีคนใหม่ เราก็ทำใจไม่ได้
ขอคำปรึกษาค่ะ ทำยังไงดีคะ
เรื่องของเราควรจบลงแบบไหนดีคะ?
เราเรียนอยู่ต่างประเทศ แล้วพอเข้ามหาลัย เราก็เจอผู้ชายคนไทยคนนึง ขอแทนผู้ชายคนนั้นว่าเอนะคะ เรากับเอก็เรียนอยู่คณะเดียวกัน เรากับเอก็รู้จักเพื่อนๆของกันและกัน แล้วเอเค้าก็มาจีบเรา เราก็โอเค คุยกันได้สักประมาณ2 เดือน เราก็ตกลงเป็นแฟนกัน เอเป็นคนสูบบุหรี่หนัก คือเอก็รู้ว่าเราไม่ชอบคนสูบบุหรี่ ก่อนคบกันเราก็บอกเอว่า เราไม่ชอบคนสูบบุหรี่นะ ถ้าเลิกไม่ได้ก็ยังไม่คบ เอก็บอกโอเค เอก็บอกเรามาตลอดว่าจะเลิกๆ พอเราถามเอว่าเลิกได้ไหม เค้าบอกว่าได้ คบกันไปกันมา ก็มีงอนกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง
เราก็เป็นคนค่อนข้างงี่เง่า บางทีก็ไร้สาระ แบบอยากให้เอสนใจอะไรแบบนี้ ยอมรับว่าเราเป็นคนที่ขี้งอนมาก พอเราถามเอว่า ได้สูบบุหรี่บ้างรึป่าว เอก็จะบอกตลอดว่าไม่ได้สูบแล้ว แต่พอคบกันได้ประมาณ2เดือน เอก็มาบอกว่า เอยังสูบอยู่ตั้งแต่ที่คบกับเรานั่นแหละ เราก็แบบ อ้าว แล้วจะโกหกทำไม แต่เอก็ยังสูบเรื่อยๆ แต่เราไม่รู้ ก็คบกันมาปกติ เรื่อยๆ เอจะเป็นคนติดเพื่อนมาก เป็นผู้ชายเที่ยว รักสนุก แต่เราจะออกไปทางแนวเด็กเรียน เหล้า เบียร์ ไม่แตะ วันๆก็อยู่กับหนังสือ แต่เราก็จะไปหาเอบ่อยๆ วันเสาร์เอจะไปเตะบอลกับเพื่อนๆ ทำให้เราสองคนไม่ค่อยได้ไปเที่ยวด้วยกัน เพราะวันอาทิตย์เอก็จะนอน ตื่นทีก็บ่าย เจอกันก็เย็นแล้ว
ทำให้มีอยู่วันนึง เราขอเอว่าวันเสาเราไปด้วยกันได้ไหม ขอแค่ครั้งเดียวตอนแรกเอก็บอกว่าโอเค แต่สุดท้ายเอก็เลือกไปเตะบอลเหมือนเดิม เราก็เสียใจนะ ร้องไห้ เราบอกเอว่าเราขอแค่วันเดียวเองนะ เราไม่เคยห้ามเอไปเตะบอลเลย แต่เอทำให้เราไม่ได้ เอก็บอกขอโทษ อาทิตย์ไปด้วยกันใหม่นะ เราเลยบอกว่าเราไม่ไปแล้ว เพราะมันไม่อยากไปแล้ว ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เราโกรธเอมาก ไม่ได้คุยกันเกือบสองวัน พอมาถึงช่วงเดือนที่ 4 ก่อนเรากลับไทย เราจับได้ว่าเอสูบบุหรี่ เพราะเพื่อนต่างชาติเราไปเห็น แล้วเอก็บอกกับเพื่อนเราว่า อย่าบอกเรานะ แต่สุดท้ายเพื่อนก็มาบอกเรา แล้ววันนั้นมันเป็นวันที่ เอไปดูดกุกับเพื่อน แต่ก่อนที่ไป เราก็ถามเอว่าจะไปไหนหรอ เพราะเอดูรีบมาก เอก็บอกว่าไปกินข้าวกับเพื่อน เราก็เลยไม่ได้เอ๊ะใจอะไร จนสุดท้ายที่มารู้ก็คือว่าที่ไม่ชวนเพราะไปดูดบารากุ
ตอนนั้นก็เสียใจนะ แล้วเราก็โทรไปบอกเลิกเอ เอก็แบบรู้อะไรมา ใครบอก เราก็บอกไปว่า เรารู้สิ่งที่เอทำ ที่เอโกหก เอก็บอกว่าไม่เลิก แล้วเราก็วางสายไป แล้วเอก็อยู่กับเพื่อนต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่เราก็นั่งเสียใจอยู่ที่ห้องเรา แล้วตอนกลางคืนเอก็มาขอคืนดี วันรุ่งขึ้นเอก็มาหา มาง้อ แล้วก็ไปส่งเราที่สนามบินที่จะกลับไทย พอช่วงปีใหม่เราก็ทะเลาะกัน คือเอมีกินเลี้ยงฉลองปีใหม่ คือเรายอมรับนะว่าตอนนั้นเราโคตรงี่เง่า ช่วงนั้นเราติดเอมาก อยากคุยตลอดเวลา พอใกล้จะเที่ยงคืน เอก็หายไปเลย เราก็เลยโกรธ เราก็เลยไม่ค่อยได้คุยกัน วันรุ่งขึ้น เราก้หายโกรธเอ แล้วก็เป็นวันที่เราต้องบินกลับ เอก็มารับที่สนามบิน เอาดอกไม้มาให้ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
เราเป็นคนที่ยอมตลอด ทำการบ้านให้ เอขออะไรก็ให้ สอนหนังสือ โทรปลุกให้ไปเรียน พอมาถึงช่วงสอบไฟนอล เราไม่รู้เลยว่าเค้ากำลังเบื่อเรา ช่วงนั้นเอต้องย้ายหอ หอเก่าเอจะอยู่ใกล้ๆหอเรา เลยเจอกันสะดวก แต่พอเอย้าย ก็ไกลกว่าเดิม แล้วเอเป็นคนไม่ชอบเดิน เราก็ทำตัวเหมือนเดิมคือ โทรหาเอชวนมากินข้าวด้วยกันทุกเย็น เอก็ตกลงทุกครั้ง เพราะทุกที ถ้าวันไหนเราไม่ออก เอก็จะงอนๆ เราก็เลยคิดว่าเออยากเจอเราเหมือนที่เราอยากเจอเอ พอช่วงสอบ เราก็ติดต่อกันน้อยลง เพราะต้องอ่านหนังสือ เอโทรหาเราน้อยลง เวลาคุยก็จะบอกว่า วางได้ไหม ไม่มีอะไรคุย วันนี้ก็เจอกันเอง ทำให้เรารู้สึกแปลกๆเพราะทุกทีเอจะเป็นคนอยากคุยตลอด เอก็ไม่มากินข้าวกลางวันกับข้าวเย็นกับเรา วันไหนถ้ามากินก็จะดูเงียบๆ แล้วก็รีบกลับ พอถึงวันสุดท้ายของการสอบไฟนอล เอก็รีบกลับไป ไม่บอกลาเลยสักนิด พอโทรไป คุยแล้วเราโมโห เอก็จะหาข้ออ้างมาว่าไม่รู้ เราเลยโมโห เลยตัดสายไป ปกติเอจะโทรกลับแต่ครั้งนี้ไม่โทรกลับ เราเลยเริ่มตะหงิดๆ วันนั้นเรา เอ และเพื่อนๆเราก็บินกลับไทยกัน วันหยุดยาว เราก็นั่งข้างเอ เอก็คอยห่มผ้าห่มให้ พอถึงไทย เราก็แยกย้ายกัน เอก็ส่งข้อความมาหาเราว่า เอมีเบอร์โทรศัพย์แล้วนะ เดี๋ยวกลับบ้านก่อนแล้วคุยกัน หลังจากวันนั้น เอก็ไม่ติดต่อเรามาเลย เราก็ส่งข้อความไปว่าทำอะไร ทำไมไม่คุยกันเลย ไม่อยากคุยกันแล้วหรอ เอก็จะบอกว่าไม่ใช่ เออยู่กับเพื่อน แล้วก็ตัดบทสนทนาว่าเอจะไปนอน จะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง จนเข้าสู่วันที่5 เราหมดความอดทน เราก็ไม่อยากให้ทางบ้านรู้ว่าเราทะเลาะกัน
เราเลยบอกเอทางไลน์ว่า ถ้าเอเป็นแบบนี้เราคงไปกันไม่รอดนะ เอก็บอกว่า เอรู้ เอคิดอยู่ เราก็เลยแบบ อ่าว ทำไมต้องคิดละ ไม่รักแล้วหรอ งั้นเราพอแค่นี้ไหม เอก็บอกว่า ถ้าเราต้องการแบบนั้นก็พอแค่นี้ก็ได้ ของทุกอย่างที่เอเคยให้เอบอกว่าไม่เอาคืนนะ ตอนนั้นเราน้ำตาร่วงอะ แบบไม่คิดว่าเอจะพูดแบบนี้ เอพูดเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น ไม่เสียใจ เราเลยโทรไป แล้วเราก็ร้องไห้ เอก็บอกว่า จริงๆเอเบื่อเราตั้งแต่ช่วงที่อยู่ต่างประเทศแล้ว แต่ไม่กล้าบอก กลัวเราเสียใจ เราก็เลยขอเหตุผล เอบอกเราว่า เพราะอยากชวนไปค้างคืนที่ไหนเราก็ไปไม่ได้ เราเลยงง คือเอไม่เคยชวนเราไปเที่ยวเลยด้วยซ้ำแล้วทำไมมาพูดแบบนี้ เหมือนหาข้ออ้างมั่วๆ เราร้องไห้ เอบอกว่าไม่ต้องร้อง ไม่ต้องร้อง เราก็เลยวางสายไป เค้าก็ไม่ติดต่อมาเลย เราเลยคุยกับเพื่อนของเอ เพื่อนของเอก็ปลอบเรา แล้วก็บอกว่าเพราะเรากับเอต่างกันเกินไป เราร้องไห้หนักมาก ตาบวม เราไปง้อเอ เราขอโทษเอ เราบอกเอว่าเราจะเปลี่ยนตัวเราเอง ขอร้องไม่ไปได้ไหม ถ้ายังรักกันอยู่ ขอโอกาสให้เราบ้าง เอก็บอกว่าเอให้โอกาสเราได้เสมอ เอยังรักเราอยู่ แต่เอบอกว่าเอขอเวลาหน่อยได้ไหม ขออยู่กับตัวเอง เราเลยถามนานไหม เอาบอกว่า2 เดือน เราก็แบบได้ หลังจากนั้นเอก็ไม่ทักเรามาเลย
เราจะเป็นคนคอยทัก อยากคุย คิดถึง จนสุดท้ายผ่านไปเดือนกว่า เราไม่ไหวจริงๆ เราขอเลิก เอก็บอกว่าโอเค บอกว่าขอโทษ บอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับเรา ยังรักเราอยู่แต่รักแบบเพื่อน ไม่ได้รู้สึกเหมือนแต่ก่อนแล้ว เราเสียใจมาก เอบอกว่าขอให้เราคุยกันเหมือนแต่ก่อน เล่นกันเหมือนแต่ก่อน เป็นห่วงกันเหมือนเมื่อก่อน เราก็ยิ่งเสียใจ เราทำไม่ได้ เพราะสถานะมันไม่เหมือนเดิมแล้ว หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกัน พอกลับต่างประเทศ เราอยากเจอเอ สุดท้ายเราก็ไปหาเอ เอาของไปคืน เอบอกว่าคืนทำไม เราก็บอกไปว่าก็เราเลิกกันแล้วนิ แล้วเราก็เริ่มร้องไห้ เอก็เข้ามากอด แล้วก็บอกว่าเอยังรักเรานะ กลับมาคบกันไหมละ คือทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็บอกเราว่าเอขอ3อย่าง เราก็ให้ แต่หลังจากนั้น 2 อาทิตย์เราก็เลิกกัน เพราะมันไม่ใช่ เอไม่ได้รักเราเลย เอบอกว่าความรู้สึกมันไม่กลับมา เราร้องไห้ แล้วเอก็เริ่มร้องไห้ เอบอกว่าเอก็ใช้ชีวิตของเอแบบนี้ ทำอะไรไม่ได้หรอก ขอโทษ เออยากให้เราบอกเลิก เราไม่พูด เราจะให้เอพูด สุดท้ายเอก็พูด วันนั้นเราร้องไห้หนักมาก
หลังจากนั้นเราก็เจอกันในห้องเรียนทุกวัน เราทำเป็นไม่สนใจเอ แต่เอจะทำเป็นเหมือน มาขอยืมนู่นยืมนี่เราตลอด เราพยายามไม่สนใจ เราก็จับได้ว่าที่เอเป็นแบบนี้เพราะไปเจอผู้หญิงคนนึงตอนอยู่ที่ไทย
แต่พอถาม เอก็บอกว่าไม่ได้ชอบ แต่ว่ามีรูปอยู่ในโทรศัพท์เอ รูไลค์รูปทุกรูปในเฟสบุคของผู้หญิงคนนั้น พอช่วงใกล้สอบ เราก้เริ่มคุยกัน เราก็ช่วยเอเรียนหนังสือ ตอนอยูในห้องสอบ เราก็ช่วยเอ เวลาเอถาม ตอนนั้นเราเลิกกันมาได้สองเดือนแล้ว เรากำลังจะทำใจได้แล้วเพราะคิดว่ายังไง เอก็ไม่กลับมาแน่ๆ เวลานั่งเรียนในห้องเอก็จะมาเล่นผมเรา ที่ผ่านมาเราจะนั่งอยู่คนละแถวกับเอ หลังๆ เอก็ชวนให้ไปนั่งข้างๆ แล้วก็เล่นกับเรา ขอให้เราทำงานให้เอ พอเราบอกไม่ทำ เอก็จะขอร้อง เราก็ใจอ่อนอีกตามเคย ยอมเสียเวลาทำงานตัวเอง ไปทำงานให้เอเหมือนเมื่อก่อน หลังๆเริ่มมีการมาจับตัว แล้วมีวันนึง อยู่ดีๆเอก็มาจับมือเรา เราก็เลยมองหน้าเอ เอพูดว่า ทำไม จับไม่ได้หรอ เราก็ไม่ได้ตอบอะไร เอก็ถามเราว่าไม่อยากจับหรอ เราก็ไม่ได้ตอบ เอเลยปล่อยมือเรา เอก็บอกให้เราหอมแก้มเอหน่อย ให้เราไปหาเอที่ห้องบ้าง พออีกวันเราไปหาเอที่บ้าน เพราะเราต้องไปสอนหนังสือเพื่อนอีกคนที่อยู่บ้านเอ แล้วก็สอนเอด้วย เอก็มากอดเรา จูบเรา แล้วก็บอกว่าคิดถึงเรา มันทำให้เราใจสั่นนะ แต่เราไม่ได้ถามว่าทำไม วันต่อมาเราเลยถามเอ ว่าทำไปปทำไม เอบอกว่าคิดถึง แล้วเวลาเราเจอเอ เอก็จะทำแบบนั้นกับเราตลอด มากอดเราทุกครั้ง จนเราไม่ไหว เราเลยถามไปตรงๆเลยว่าตกลงเราเป็นอะไรกัน เอบอกว่าก็เพื่อนไง เราเลยเสียใจ เลยไปเคลียกับเอตรงๆ เอบอกว่าเอก็อยากกลับไป แต่ขอเวลา ความรู้สึกยังไม่มากพอ เราก็โอเค แล้วมันก็มีเรื่องขึ้นมากับเอ เอจะไม่ได้เรียนต่อเทอมต่อไป ก็คือว่าเราจะไม่ได้เจอเออีกประมาณแปดเดือน เวลาเอมีเรื่อง เอก็จะโทรมาร้องไห้กับเราทุกครั้ง เราก็ปลอบทุกครั้ง ไปหาทุกครั้ง เอบอกรอให้ผ่านแปดเดือนนี้ไปก่อนแล้วเราค่อยมาคุยกัน พอปิดเทอม เรากับเอก็กลับไทย แม่เอก็โทรมาคุยกับเราเรื่องที่เอโดนไม่ให้เรียนต่อ เราก็ช่วยๆเอ กับแม่เอมาตลอด เอหางานทำที่ไทย แล้วเอก็จะหายตัวไปสักพัก พอเอเหงาเอก็เรียกให้เราไปหา เราก็ไปหา เราเลยขอความมั่นใจ เอบอกว่าตอนนี้เราเป็นคนรู้ใจกัน เราเลยบอกว่าแล้วเมื่อไรจะเป็นแฟนกัน ไม่อยากเป็นใช่ไหม เอบอกว่าไม่ใช่ว่าไม่อยากเป็น แต่ความรู้สึกมันไม่มากพอ เอบอกว่า เดี๋ยวพอเรียนจบปี3 คบกัน แล้วแต่งงานเลย เราก็เลยบอกว่า มเราจะแน่ใจได้ยังไง แล้วทำไมต้องรอ เราจะรู้ได้ไงว่าเอจะคบกับเรา เพราะความรู้สึกมันไม่ได้จะอยู่ตลอดไปหรอกนะ เอก็บอกว่า จะได้รู้ว่าเรายังรอเอไหม เหมือนเอคอยให้ความหวังเราเรื่อยๆ หลังจากนั้น เราก็ไม่ได้คุยกันอีก พอคุยเอก็จะคอยบอกว่า อย่ากดดัน เอยังไม่พร้อม เอบอกว่าเอไม่ได้บังคับให้เรารอเอคนเดียวนะ เราก็คุยกับคนอื่นได้ เพราะเอก็ไม่แน่ใจตัวเอง แต่พอถามว่าคิดถึงบ้างไหม เอก็จะบอกว่าคิดถึงตลอด ซึ่งเราก็ไม่ร็ว่าจริงไหม พอเรากลับมาเรียน เราก็ไม่ได้คุยกันเลย เหมือนเอคอยเลี่ยงตอบไลน์เราตลอด เอเล่นเฟสบุค อ่านไลน์กลุ่ม แต่ไม่อ่านไลน์เรา เอไม่เคยทักเรามา นานมากกว่จะตอบข้อความเรา เวลาเราดราม่าใส่เอ เอก็จะบอกว่า ไม่ใช่ไม่อยากคุย แค่ไม่ว่าง บอกว่าเราคิดมาก เอบอกว่าเอไม่ได้มีคนอื่นเลย เราก็เลยไม่ทักเอไป จนถึงตอนนี้เราไม่ทักไป เอก็ไม่ทักมาเหมือนกัน เราก็ไม่ได้คุยกันเลย ถามว่าลืมได้แล้วหรอ บอกได้เลยว่ายังลืมไม่ได้ แต่เราทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ เราพยายามทำทุกอย่างแล้ว เลิกกันมาเกือบ6 เดือนแล้ว ก็ยังคิดถึงเรื่องเก่าๆตลอด แต่เราจะเป็นคนที่เสียใจแต่จะไม่ปะปนกับเรื่องเรียน เลยทำให้ไม่เสียการเรียนค่ะ
เราหาอะไรทำแล้ว เราก็นั่งทำงาน อ่านหนังสือ มันก็ช่วยได้ระดับนึง แต่พอเลิกทำ มันก็จะกลับมาคิดอีกรอบ
พอคิดว่าเค้าจะมีคนใหม่ เราก็ทำใจไม่ได้
ขอคำปรึกษาค่ะ ทำยังไงดีคะ