สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 48
ขอแสดงความเห็นตรงนี้อีกทีละกันค่ะ เห็นหลายท่านตำหนิและบอกกล่าว จขกท ถึงเรื่องผลกระทบและความเดือดร้อนที่การตกเครื่องจะก่อให้กับผู้อื่น จริงอยู่ว่ามันทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน และในที่นี้ทุกคนก็มีสิทธิ์ออกความเห็นและวิพากษ์วิจารณ์
แต่สำหรับพนักงาน พนักงานไม่มีหน้าที่ต้องมาตำหนิผู้โดยสารที่ตกเครื่องค่ะ
การมีผู้โดยสารตกเครื่องเป็นหนึ่งในความเสี่ยง/ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ในการทำงาน พูดง่ายๆ ว่ามันมีโอกาสเกิดเป็นประจำอยู่แล้ว และสายการบินก็มีวิธีปฏิบัติสำหรับรับมือกับกรณีแบบนี้อยู่ งานอาจจะหนักขึ้น ยุ่งยากขึ้น กระทบหลายฝ่าย แต่ถึงยังไงมันก็เป็นส่วนหนึ่งของงานค่ะ
การระมัดระวังไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเป็นสิ่งดีค่ะ แต่ไม่จำเป็นเลยค่ะที่พนักงานจะต้องมาตำหนิหรือสั่งสอนผู้โดยสารคนใดคนหนึ่ง ด้วยเหตุผลว่าเพื่อให้สำนึกในความเดือดร้อนที่ก่อให้กับคนอื่น ต่อให้ผู้โดยสารคนนี้ไม่ตกเครื่องอีก สักวันหนึ่งก็ยังจะมีคนอื่นตกเครื่องอยู่ดี หรือต่อให้คนนี้ระวังแค่ไหน คนเราก็ผิดพลาดพลั้งเผลอกันได้ คนที่ไม่เคยตกเครื่องมาก่อนในชีวิต ถ้ามีเหตุสุดวิสัยอะไรเกิดขึ้น ก็อาจจะตกเครื่องได้เหมือนกัน
การที่พนักงานจะหงุดหงิดก็เป็นเรื่องปกติค่ะ แต่ถ้าเอาอารมณ์มาลงที่ผู้โดยสาร หรือออกปากตำหนิผู้โดยสารในกรณีแบบนี้จริง ถือว่าเป็นความบกพร่องในการทำงานของพนักงานคนนั้น ไม่เป็นมืออาชีพ และไม่สมควรอย่างยิ่งค่ะ
แต่สำหรับพนักงาน พนักงานไม่มีหน้าที่ต้องมาตำหนิผู้โดยสารที่ตกเครื่องค่ะ
การมีผู้โดยสารตกเครื่องเป็นหนึ่งในความเสี่ยง/ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ในการทำงาน พูดง่ายๆ ว่ามันมีโอกาสเกิดเป็นประจำอยู่แล้ว และสายการบินก็มีวิธีปฏิบัติสำหรับรับมือกับกรณีแบบนี้อยู่ งานอาจจะหนักขึ้น ยุ่งยากขึ้น กระทบหลายฝ่าย แต่ถึงยังไงมันก็เป็นส่วนหนึ่งของงานค่ะ
การระมัดระวังไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเป็นสิ่งดีค่ะ แต่ไม่จำเป็นเลยค่ะที่พนักงานจะต้องมาตำหนิหรือสั่งสอนผู้โดยสารคนใดคนหนึ่ง ด้วยเหตุผลว่าเพื่อให้สำนึกในความเดือดร้อนที่ก่อให้กับคนอื่น ต่อให้ผู้โดยสารคนนี้ไม่ตกเครื่องอีก สักวันหนึ่งก็ยังจะมีคนอื่นตกเครื่องอยู่ดี หรือต่อให้คนนี้ระวังแค่ไหน คนเราก็ผิดพลาดพลั้งเผลอกันได้ คนที่ไม่เคยตกเครื่องมาก่อนในชีวิต ถ้ามีเหตุสุดวิสัยอะไรเกิดขึ้น ก็อาจจะตกเครื่องได้เหมือนกัน
การที่พนักงานจะหงุดหงิดก็เป็นเรื่องปกติค่ะ แต่ถ้าเอาอารมณ์มาลงที่ผู้โดยสาร หรือออกปากตำหนิผู้โดยสารในกรณีแบบนี้จริง ถือว่าเป็นความบกพร่องในการทำงานของพนักงานคนนั้น ไม่เป็นมืออาชีพ และไม่สมควรอย่างยิ่งค่ะ
ความคิดเห็นที่ 41
เรื่องการสนทนา ไม่ได้อยุ่ในเหตุการณ์ ไม่ขออกความเห็นนะครับ
แต่ในส่วนของความผิดพลาดที่เกิดขึ้น บอกได้เลยว่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนมากกว่าที่คุณ จขกท.จินตนาการหรือคิดไว้เยอะครับ
1. จนท. Ground Staff ต้องวิ่งวุนหาตัวคุณ ติดต่อกับ จนท.ลูกเรือบนเครื่อง ติดต่อกับ Red Cap ในการเอากระเป๋าคุณออกมาจากเครื่อง ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ในส่วนไหนของเครื่อง รวมทั้งหลังจากเครื่องออกไปแล้ว ต้องเขียน Report รายงานอีก
2. กัปตันและนักบินบนเครื่อง ต้องทำ Flight plan ใหม่ในการบินทั้งหมด รวมทั้งบางครั้งอาจต้องเติมน้ำมันเพิ่ม ถ้า Traffic หนาแน่น ยิ่งถ้าทำให้เสีย slot บินไปด้วย เสียเวลาในการรอ slot ใหม่ต่อไปอีก ซึ่งสะเทือนไปถึง Flight ถัดไปทั้งที่รอใช้ Gate ต่อ และ Flight ที่ต่อคิวใช้เครื่องลำดังกล่าวต่อด้วย Deley กันเป็นทอดๆครับ
3. ลูกเรือบนเครื่อง แอร์สจ๊วต ที่ต้องรับหน้าเสื่อรองรับอารมณ์จากผู้โดยสารหลายๆคนที่หงุดหงิดหรือบ่นจากการ Delay รอผุ้โดยสาร ซึ่งบางคนเป็นนักธุรกิจ เวลาที่เสียไป มีผลต่อการทำงานหรือนัดหมายมาก บางคนจำเป้นต่อต่อไฟลท์ ถ้า Delay มากๆ อาจจะต้องตกเครื่องเลยด้วยซ้ำ
4. จนท.Load สัมภาระ และ Red Cap ต้องมาหากระเป๋าของคุณออก ต้องมาจัดสัมภาระกันใหม่ หรือถ้ารื้อหนักๆอาจต้อง off load ใหม่ทั้งหมด ซ่ึงใช้เวลาขั้นต่ำตั้งแต่เริ่มเอาออกจนถึงใส่กลับเข้าไปใหม่ ไม่ต่ำกว่า 20 นาทีแน่นอน
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับการที่ผู้โดยสายคนหนึ่งไม่ปรากฎตัวบนเครื่อง ไม่ค่อยมีใครสนใจหรือรู้ครับว่าเบื้องหลังมันส่งผลกระทบอย่างไร ทุกคนที่เกี่ยวข้องเครียดมากน้อยแค่ไหน ที่เหลือคุณ จขกท.ก็พิจารณาเอาเองละกันครับ
แต่ในส่วนของความผิดพลาดที่เกิดขึ้น บอกได้เลยว่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนมากกว่าที่คุณ จขกท.จินตนาการหรือคิดไว้เยอะครับ
1. จนท. Ground Staff ต้องวิ่งวุนหาตัวคุณ ติดต่อกับ จนท.ลูกเรือบนเครื่อง ติดต่อกับ Red Cap ในการเอากระเป๋าคุณออกมาจากเครื่อง ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ในส่วนไหนของเครื่อง รวมทั้งหลังจากเครื่องออกไปแล้ว ต้องเขียน Report รายงานอีก
2. กัปตันและนักบินบนเครื่อง ต้องทำ Flight plan ใหม่ในการบินทั้งหมด รวมทั้งบางครั้งอาจต้องเติมน้ำมันเพิ่ม ถ้า Traffic หนาแน่น ยิ่งถ้าทำให้เสีย slot บินไปด้วย เสียเวลาในการรอ slot ใหม่ต่อไปอีก ซึ่งสะเทือนไปถึง Flight ถัดไปทั้งที่รอใช้ Gate ต่อ และ Flight ที่ต่อคิวใช้เครื่องลำดังกล่าวต่อด้วย Deley กันเป็นทอดๆครับ
3. ลูกเรือบนเครื่อง แอร์สจ๊วต ที่ต้องรับหน้าเสื่อรองรับอารมณ์จากผู้โดยสารหลายๆคนที่หงุดหงิดหรือบ่นจากการ Delay รอผุ้โดยสาร ซึ่งบางคนเป็นนักธุรกิจ เวลาที่เสียไป มีผลต่อการทำงานหรือนัดหมายมาก บางคนจำเป้นต่อต่อไฟลท์ ถ้า Delay มากๆ อาจจะต้องตกเครื่องเลยด้วยซ้ำ
4. จนท.Load สัมภาระ และ Red Cap ต้องมาหากระเป๋าของคุณออก ต้องมาจัดสัมภาระกันใหม่ หรือถ้ารื้อหนักๆอาจต้อง off load ใหม่ทั้งหมด ซ่ึงใช้เวลาขั้นต่ำตั้งแต่เริ่มเอาออกจนถึงใส่กลับเข้าไปใหม่ ไม่ต่ำกว่า 20 นาทีแน่นอน
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับการที่ผู้โดยสายคนหนึ่งไม่ปรากฎตัวบนเครื่อง ไม่ค่อยมีใครสนใจหรือรู้ครับว่าเบื้องหลังมันส่งผลกระทบอย่างไร ทุกคนที่เกี่ยวข้องเครียดมากน้อยแค่ไหน ที่เหลือคุณ จขกท.ก็พิจารณาเอาเองละกันครับ
ความคิดเห็นที่ 43
เหตุผลที่เขาตั้งกระทู้ เพราะภาษาพูดและภาษากายนี่แหละค่ะ
เราคงไม่ต้องพูดถึงผลกระทบ ที่เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ว่ามีผลเสียหายมากกับทั้งสายการบิน พนักงาน ผู้โดยสาร และตัวคนที่ตกเครื่องเอง
ตัวคนตกเครื่องรับรู้ดีว่าตัวเองผิด ดังนั้นสิ่งที่ติดข้องอยู่ในใจจนมีกระทู้นี้ คือ ภาษาและอาการของคุณ อ.
เห็นมีหลายความเห็นพยายามจะให้เขาสำนึกมาก ๆ ในความผิด เช่นว่า ทำผิดเข้าไปได้ยังไง ของมันเห็น ๆ ว่าไม่ควรผิด ไม่สำนึกหรือว่าคนอื่นเค้าเดือดร้อน บางรายยกตนข่มท่านอีกว่า ต้องทำตัวอย่างฉันนี่สิ คนอื่นเขาจะได้ไม่เดือดร้อน
มีความเห็นว่าคนอ่านแต่ละคนนี่ รับข้อมูลอย่างเดียวกัน แต่ตอบสนองไปได้ต่าง ๆ กันนะ แล้วแต่มุมมอง แล้วแต่ ego
ความเห็นเราคิดว่า คุณ อ. ใช้ภาษาไทยผิดน่ะค่ะ แล้วถ้ามีใครสอนว่าให้ถามแบบนี้ ในสถานการณ์อย่างนี้ ก็เลิกใช้เถอะนะคะ
ทุกคนคงงง ว่าถามฉันถึงแรงบันดาลใจ จะเอาอะไรมาบันดาลใจได้ให้ตกเครื่อง มันมีแค่เหตุผลค่ะ ไม่ใช่แรงบันดาลใจ
ถ้าอยากรู้จริง และไม่ประชดประชัน ให้ถามผู้โดยสารตรง ๆ ถึงเหตุผลที่อยู่ผิดเกท และบอกอย่างสุภาพ ว่าเพื่อนำไปประกอบรายงานหรือหาทางป้องกันเหตุในอนาคต
ถ้าถามเพื่ออยากด่า และประชด ก็ขอตำหนิคุณ อ. ค่ะ
เราคงไม่ต้องพูดถึงผลกระทบ ที่เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ว่ามีผลเสียหายมากกับทั้งสายการบิน พนักงาน ผู้โดยสาร และตัวคนที่ตกเครื่องเอง
ตัวคนตกเครื่องรับรู้ดีว่าตัวเองผิด ดังนั้นสิ่งที่ติดข้องอยู่ในใจจนมีกระทู้นี้ คือ ภาษาและอาการของคุณ อ.
เห็นมีหลายความเห็นพยายามจะให้เขาสำนึกมาก ๆ ในความผิด เช่นว่า ทำผิดเข้าไปได้ยังไง ของมันเห็น ๆ ว่าไม่ควรผิด ไม่สำนึกหรือว่าคนอื่นเค้าเดือดร้อน บางรายยกตนข่มท่านอีกว่า ต้องทำตัวอย่างฉันนี่สิ คนอื่นเขาจะได้ไม่เดือดร้อน
มีความเห็นว่าคนอ่านแต่ละคนนี่ รับข้อมูลอย่างเดียวกัน แต่ตอบสนองไปได้ต่าง ๆ กันนะ แล้วแต่มุมมอง แล้วแต่ ego
ความเห็นเราคิดว่า คุณ อ. ใช้ภาษาไทยผิดน่ะค่ะ แล้วถ้ามีใครสอนว่าให้ถามแบบนี้ ในสถานการณ์อย่างนี้ ก็เลิกใช้เถอะนะคะ
ทุกคนคงงง ว่าถามฉันถึงแรงบันดาลใจ จะเอาอะไรมาบันดาลใจได้ให้ตกเครื่อง มันมีแค่เหตุผลค่ะ ไม่ใช่แรงบันดาลใจ
ถ้าอยากรู้จริง และไม่ประชดประชัน ให้ถามผู้โดยสารตรง ๆ ถึงเหตุผลที่อยู่ผิดเกท และบอกอย่างสุภาพ ว่าเพื่อนำไปประกอบรายงานหรือหาทางป้องกันเหตุในอนาคต
ถ้าถามเพื่ออยากด่า และประชด ก็ขอตำหนิคุณ อ. ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 35
มีคนโพสไปแล้วเรื่องไฟล์ทดีเลย์และต้อง off load กระเป๋าผู้โดยสาร นั่นคือไฟล์ทที่เจ้าของกระทู้ตกเครื่อง
มันไม่ใช่แค่นั้น แต่ไฟล์ทต่อมาที่ต้องใช้เกทต่อจากไฟล์ทนี้ก็จะเดือดร้อนด้วย แค่เจอด้วยตัวเองสามครั้งกับการที่เครื่องออกไม่ได้เพราะผู้โดยสาร No show ทำให้ไฟล์ทต่อไปต้องย้ายเกทและบางทีมันไม่ได้ย้ายไปเกทใกล้ๆ โดยเฉพาะสนามบินที่การจราจรคับคั่งมากๆ บางทีย้ายคนละฝั่งเลย วิ่งกันหน้าตั้ง ผู้โดยสารที่มีเด็ก คนแก่ หอบกันไปลำบากลำบน แถมสุดท้ายไฟล์ทต่อมาก็ต้องดีเลย์ต่อไปอีกอย่างน้อยๆสิบถึงสิบห้านาที
จากข้อความตรงนี้ของเจ้าของกระทู้
ฉันไม่ได้ตั้งใจจะตกเครื่องหรอกค่ะ ค่าตั๋ว 1800 บาท เปลี่ยนตั๋วเสียเงิน 500 บาท เสียเวลาว่อนไปมาแต่ละชั้นเพื่อไปเอากระเป๋า ไปเปลี่ยนตั๋ว ไปโหลดกระเป๋าใหม่ รอเวลา ใช้เวลาไปหลายชั่วโมง ถ้ามันทำให้คุณหงุดหงิดใจกับการพลาดของฉันในครั้งนี้ ต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่เท่าที่เห็น... คุณแสดงพฤติกรรมแบบนั้นกับฉันเสร็จก็เห็นคุณเดินไปพักผ่อนสบายๆนะคะ มีแต่ฉันที่วิ่งวุ่นในสุวรรณภูมิ หวังว่าชาตินี้เราจะไม่ต้องเจอกันอีกนะคะ
ตอนที่คุณถามแรงบันดาลใจในการตกเครื่องของฉัน ฉันไม่ทราบจะตอบยังไงดีเลยค่ะ เพราะมันไม่มีและฉันไม่ได้ตั้งใจ
แต่ตอนนี้... คุณ อ. เป็นแรงบันดาลใจให้กับฉันในการเขียนกระทู้นี้จริงๆค่ะ
เจ้าของกระทู้คิดว่าการตกเครื่องตัวเองเสียหายเดือดร้อนและไม่คิดว่าพนักงานสายการบินจะเดือดร้อน พนักงานเขาเดือดร้อนจนจบไปแล้วเพราะเครื่องออกไปแล้วไง ไม่ใช่แค่พนักงานเดือดร้อนเวลามีกรณีแบบนี้ ผู้โดยสารทั้งลำที่ตกเครื่อง และผู้โดยสารที่รอขึ้นเครื่องเที่ยวบินต่อไปเดือดร้อนค่ะ
ความเห็นที๋โพสส่วนใหญ่มองแค่ว่า ผู้โดยสารยอมรับผิดแล้วไง ก็ถ้าไม่ยอมรับผิดก็คงเละเหมือนกระทู้อื่นๆที่ผ่านมานั่นแหละ และถ้าผู้โดยสารใส่ใจในหน้าที่ตัวเองมากเท่าๆกับใส่ใจในคำพูดของเจ้าหน้าที่สายการบิน รับรองว่าจะไม่ตกเครื่องแน่นอน
เราเองก็อยากรู้นะ เวลานั่งฟังประกาศเรืยกผู้โดยสารประเภทนี้เรานึกเสมอว่า ผู้โดยสารทุกคนรู้ว่าเวลาบอร์ดดิ้งคือเวลาเท่าไหร่ แล้วตอนนี้เวลาเท่าไหร่ เขาไม่รู้หรือว่าเขาควรอยู่ตรงไหนเวลานี้ อันนี้คือหน้าที่ของผู้โดยสารนะ ใครทำแทนให้ไม่ได้
ถ้ายังคิดแค่ว่าฉันตกเครื่อง ฉันเดือดร้อน ฉันต้องเสียเงิน ฉันทำผิดฉันก็ได้ผลแล้วไง ยังจะมาอะไรกับฉันอีก ก็คงออกมาแบบกระทู้นี้
แต่ถ้าเป็นเรานะ เราคงรู้สึกผิดกับเจ้าหน้าที่ผู้โดยสารร่วมเที่ยวบิน และผู้โดยสารเที่ยวบินต่อจากเที่ยวบินที่ทำให้เขาเดือดร้อนวุ่นวาย
และด้วยความคิดนี้แหละที่ทำให้ต้องแน่ใจก่อนว่ามาเกทถูกถึงจะใจเย็นนั่งทำอย่างอื่น ดูป้าย ถาเจ้าหน้าที่ ถามผู้โดยสารที่นั่งรอ
หลายครั้งมากที่มีงานค้าง อยากนั่งทำงานสบายๆในร้านอาหารแล้วใกล้เวลาค่อยเดินไปเกท แต่ก็คิดต่อว่าถ้าเกิดมีการเปลี่ยนเกทจะไม่รู้และวิ่งไปไม่ทันถ้าเกทมันไกลกันมาก ก็เลยไม่ได้นั่งทำงานสบายๆ
ที่มีบางท่านบอกว่าเสียงประกาศไม่ได้ยิน แค่นั้นก็ดังจนผู้โดยสารคนอื่นๆรำคาญแล้วค่ะ มันไม่ใช่ประกาศครั้งเดียว บางสนามบินไม่มีประกาศแบบนี้ด้วยซ้ำ มันเป็นหน้าที่ๆผู้โดยสารต้องรู้ว่าตัวเองต้องอยู่ที่ไหนในเวลาบอร์ดดิ้ง
ถ้าผู้โดยสารเข้าใจว่าการตกเครื่องแบบนี้มันสร้างความเดือดร้อนให้ใครบ้าง ผู้โดยสารจะมีความระมัดระวังมากและไม่พลาด แต่ถ้ายังคิดว่าฉันาตกเครื่องก็ยอมรับผิดแล้วไง ฉันเดือดร้อน ฉํนเสียเงิน แค่นี้ รับรองว่าในชีวิตนี้เดี๋ยวมีตกเครื่องอีกแน่นอน
แปลกนะ ทุกกระทู้ตกเครื่องจะบอกว่า ขึ้นมาบ่อยหลายสารการบินทั้งนั้น แต่ก็ตกเครื่องได้ เพราะคิดแบบข้างบนนี่ไง
มันไม่ใช่แค่นั้น แต่ไฟล์ทต่อมาที่ต้องใช้เกทต่อจากไฟล์ทนี้ก็จะเดือดร้อนด้วย แค่เจอด้วยตัวเองสามครั้งกับการที่เครื่องออกไม่ได้เพราะผู้โดยสาร No show ทำให้ไฟล์ทต่อไปต้องย้ายเกทและบางทีมันไม่ได้ย้ายไปเกทใกล้ๆ โดยเฉพาะสนามบินที่การจราจรคับคั่งมากๆ บางทีย้ายคนละฝั่งเลย วิ่งกันหน้าตั้ง ผู้โดยสารที่มีเด็ก คนแก่ หอบกันไปลำบากลำบน แถมสุดท้ายไฟล์ทต่อมาก็ต้องดีเลย์ต่อไปอีกอย่างน้อยๆสิบถึงสิบห้านาที
จากข้อความตรงนี้ของเจ้าของกระทู้
ฉันไม่ได้ตั้งใจจะตกเครื่องหรอกค่ะ ค่าตั๋ว 1800 บาท เปลี่ยนตั๋วเสียเงิน 500 บาท เสียเวลาว่อนไปมาแต่ละชั้นเพื่อไปเอากระเป๋า ไปเปลี่ยนตั๋ว ไปโหลดกระเป๋าใหม่ รอเวลา ใช้เวลาไปหลายชั่วโมง ถ้ามันทำให้คุณหงุดหงิดใจกับการพลาดของฉันในครั้งนี้ ต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่เท่าที่เห็น... คุณแสดงพฤติกรรมแบบนั้นกับฉันเสร็จก็เห็นคุณเดินไปพักผ่อนสบายๆนะคะ มีแต่ฉันที่วิ่งวุ่นในสุวรรณภูมิ หวังว่าชาตินี้เราจะไม่ต้องเจอกันอีกนะคะ
ตอนที่คุณถามแรงบันดาลใจในการตกเครื่องของฉัน ฉันไม่ทราบจะตอบยังไงดีเลยค่ะ เพราะมันไม่มีและฉันไม่ได้ตั้งใจ
แต่ตอนนี้... คุณ อ. เป็นแรงบันดาลใจให้กับฉันในการเขียนกระทู้นี้จริงๆค่ะ
เจ้าของกระทู้คิดว่าการตกเครื่องตัวเองเสียหายเดือดร้อนและไม่คิดว่าพนักงานสายการบินจะเดือดร้อน พนักงานเขาเดือดร้อนจนจบไปแล้วเพราะเครื่องออกไปแล้วไง ไม่ใช่แค่พนักงานเดือดร้อนเวลามีกรณีแบบนี้ ผู้โดยสารทั้งลำที่ตกเครื่อง และผู้โดยสารที่รอขึ้นเครื่องเที่ยวบินต่อไปเดือดร้อนค่ะ
ความเห็นที๋โพสส่วนใหญ่มองแค่ว่า ผู้โดยสารยอมรับผิดแล้วไง ก็ถ้าไม่ยอมรับผิดก็คงเละเหมือนกระทู้อื่นๆที่ผ่านมานั่นแหละ และถ้าผู้โดยสารใส่ใจในหน้าที่ตัวเองมากเท่าๆกับใส่ใจในคำพูดของเจ้าหน้าที่สายการบิน รับรองว่าจะไม่ตกเครื่องแน่นอน
เราเองก็อยากรู้นะ เวลานั่งฟังประกาศเรืยกผู้โดยสารประเภทนี้เรานึกเสมอว่า ผู้โดยสารทุกคนรู้ว่าเวลาบอร์ดดิ้งคือเวลาเท่าไหร่ แล้วตอนนี้เวลาเท่าไหร่ เขาไม่รู้หรือว่าเขาควรอยู่ตรงไหนเวลานี้ อันนี้คือหน้าที่ของผู้โดยสารนะ ใครทำแทนให้ไม่ได้
ถ้ายังคิดแค่ว่าฉันตกเครื่อง ฉันเดือดร้อน ฉันต้องเสียเงิน ฉันทำผิดฉันก็ได้ผลแล้วไง ยังจะมาอะไรกับฉันอีก ก็คงออกมาแบบกระทู้นี้
แต่ถ้าเป็นเรานะ เราคงรู้สึกผิดกับเจ้าหน้าที่ผู้โดยสารร่วมเที่ยวบิน และผู้โดยสารเที่ยวบินต่อจากเที่ยวบินที่ทำให้เขาเดือดร้อนวุ่นวาย
และด้วยความคิดนี้แหละที่ทำให้ต้องแน่ใจก่อนว่ามาเกทถูกถึงจะใจเย็นนั่งทำอย่างอื่น ดูป้าย ถาเจ้าหน้าที่ ถามผู้โดยสารที่นั่งรอ
หลายครั้งมากที่มีงานค้าง อยากนั่งทำงานสบายๆในร้านอาหารแล้วใกล้เวลาค่อยเดินไปเกท แต่ก็คิดต่อว่าถ้าเกิดมีการเปลี่ยนเกทจะไม่รู้และวิ่งไปไม่ทันถ้าเกทมันไกลกันมาก ก็เลยไม่ได้นั่งทำงานสบายๆ
ที่มีบางท่านบอกว่าเสียงประกาศไม่ได้ยิน แค่นั้นก็ดังจนผู้โดยสารคนอื่นๆรำคาญแล้วค่ะ มันไม่ใช่ประกาศครั้งเดียว บางสนามบินไม่มีประกาศแบบนี้ด้วยซ้ำ มันเป็นหน้าที่ๆผู้โดยสารต้องรู้ว่าตัวเองต้องอยู่ที่ไหนในเวลาบอร์ดดิ้ง
ถ้าผู้โดยสารเข้าใจว่าการตกเครื่องแบบนี้มันสร้างความเดือดร้อนให้ใครบ้าง ผู้โดยสารจะมีความระมัดระวังมากและไม่พลาด แต่ถ้ายังคิดว่าฉันาตกเครื่องก็ยอมรับผิดแล้วไง ฉันเดือดร้อน ฉํนเสียเงิน แค่นี้ รับรองว่าในชีวิตนี้เดี๋ยวมีตกเครื่องอีกแน่นอน
แปลกนะ ทุกกระทู้ตกเครื่องจะบอกว่า ขึ้นมาบ่อยหลายสารการบินทั้งนั้น แต่ก็ตกเครื่องได้ เพราะคิดแบบข้างบนนี่ไง
ความคิดเห็นที่ 53
เราว่า จนท.เค้าคงไม่ได้อยากถามหาแรงบันดาลใจจากจขกท.หรอกค่ะ เค้าคงแค่จะถามว่าไปทำอิท่าไหนถึงได้ไปนั่งผิดเกทอยู่นานสองนาน ประกาศเรียกแล้วก็ไม่ได้ยิน ทำคนอื่นวุ่นวายไปหมด แต่ครั้นจะถามตรงๆ แบบที่เราพิมพ์อยู่นี่ก็คงจะไม่เหมาะสำหรับกาลเทศะของผู้พูดตอนนั้น เลยเปลี่ยนเป็นคำว่าแรงบันดาลใจที่สื่อออกมาแล้วไม่ค่อยตรงความหมายเท่าไหร่ จขกท.ก็เลยไม่เข้าใจถึงต้องมาตั้งกระทู้ถามแบบนี้
ดูเหตุการณ์แล้วก็น่าจะเชคอินจากเคาน์เตอร์ กราวด์ที่ออกตั๋วให้น่าจะได้บอกตอนยื่นตั๋วให้ว่าเรียกขึ้นเครื่อง 8.15 ที่ประตู B6 ประตูปิดก่อนเครื่องออก 20 นาทีนะคะ ประมาณนี้ จขกท.ไม่ได้ฟัง ไม่ได้อ่านบนตั๋วเลยหรือคะ
ลงมาข้างล่างแล้วบอร์ดจะแสดงอีกว่าเที่ยวบินที่จะไปต้องไปเกทไหน เพราะมันจะต้องมีทางแยก A/B จริงมั้ย เจ้าของกระทู้ไม่ได้ดูเลยหรือ
ก่อนจะเข้าเกท จขกท.ไม่ได้ดูเลยหรือว่าที่หน้าเกทจะมีจอแสดงอีกว่า เกทนี้จะบอร์ดไฟล์อะไรไปไหน และไฟล์ทถัดไปคือไฟล์ทอะไร
3ด่านนี้ จขกท.หลุดรอดไปได้ยังไง อะไรดลใจให้เข้าไปที่ เกท 1 ที่ไม่ใช่เกทที่ควรเข้าไป เราเองก็อยากรู้ค่ะ ว่าทำไม
จนไฟนอลคอล ประกาศเรียกกันจนคอแทบแตก ก็ยังไม่ได้ยิน
จนสุดท้ายก็ต้องให้ตกเครื่องไป กระบวนการตกเครื่องนี่กระทบหลายฝ่ายนะคะยิ่งมีโหลดกระเป๋าอีกไม่ใช่เรื่องเล็กเลย อาจทำให้เครื่องดีเลย์ได้ แค่ 1 นาทีก็มีความหมายนะคะ ไฟล์ทเช้าถ้าเป็นไปได้ทุกสายการบินต้องพยายามออกให้เร็วที่สุด เผื่อสภาพอากาศไม่ดี หรือดีเลย์เพราะสาเหตุอื่นๆ มันกระทบกับไฟล์ทข้างหลังไปเป็นโดมิโน่นะคะ ถ้าเราเป็นผู้โดยอยู่บนเครื่องแล้วมีคนทำให้เครื่องดีเลย์เราก็คงให้ศีลให้พรไปแล้ว
ส่วนจขกท.เองก็ไม่ได้โวยวาย และยอมรับผลการกระทำของตัวเองซึ่งเป็นเรื่องที่ควรกระทำอยู่แล้ว จะวุ่นวายขึ้นลงรับกระเป๋าเปลี่ยนตั๋ว เสียเงินเสียทองไม่มากไม่น้อย นั่นก็เป็นธุระของจขกท.
เรื่องอารมณ์และน้ำเสียงของจนท.คนนั้น เราไม่ขอออกความเห็นนะคะ
กลับมาเรื่องแรงบันดาลใจดีกว่า
สนามบินมีด่านถึง 3 ด่าน แต่จขกท.สามารถหลุดไปได้หมดทุกด่าน โดยส่วนตัวแล้ว เราก็คิดแหละค่ะว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง คนแบบไหนที่บอกว่าขึ้นเครื่องบ่อยๆแต่ก็ยังทำตัวเองตกเครื่องได้ทั้งๆที่ไม่น่าเกิด ทางสกบ.คงจะต้องทำรายงานความเสี่ยงมั้งคะ ว่า 3 - 4 ด่านในกระบวนการขึ้นเครื่องที่ว่ามานั้นเพียงพอรึเปล่า จะได้หาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกและไม่เป็นภาระกับสายการบินและส่วนรวม
นิสัยไม่ดีของคนที่ทำอะไรบ่อยๆ คือละเลยการใส่ใจการให้ความสำคัญกับสิ่งๆนั้น เพราะถือว่าฉันทำจนชินแล้ว คล่องแล้ว ไม่ต้องมาบอกฉันฟังมาเป็นร้อยรอบละขี้เกียจฟัง บลาๆ ดังนั้นเราก็ควรมีสติอยู่ตลอดค่ะ
ดูเหตุการณ์แล้วก็น่าจะเชคอินจากเคาน์เตอร์ กราวด์ที่ออกตั๋วให้น่าจะได้บอกตอนยื่นตั๋วให้ว่าเรียกขึ้นเครื่อง 8.15 ที่ประตู B6 ประตูปิดก่อนเครื่องออก 20 นาทีนะคะ ประมาณนี้ จขกท.ไม่ได้ฟัง ไม่ได้อ่านบนตั๋วเลยหรือคะ
ลงมาข้างล่างแล้วบอร์ดจะแสดงอีกว่าเที่ยวบินที่จะไปต้องไปเกทไหน เพราะมันจะต้องมีทางแยก A/B จริงมั้ย เจ้าของกระทู้ไม่ได้ดูเลยหรือ
ก่อนจะเข้าเกท จขกท.ไม่ได้ดูเลยหรือว่าที่หน้าเกทจะมีจอแสดงอีกว่า เกทนี้จะบอร์ดไฟล์อะไรไปไหน และไฟล์ทถัดไปคือไฟล์ทอะไร
3ด่านนี้ จขกท.หลุดรอดไปได้ยังไง อะไรดลใจให้เข้าไปที่ เกท 1 ที่ไม่ใช่เกทที่ควรเข้าไป เราเองก็อยากรู้ค่ะ ว่าทำไม
จนไฟนอลคอล ประกาศเรียกกันจนคอแทบแตก ก็ยังไม่ได้ยิน
จนสุดท้ายก็ต้องให้ตกเครื่องไป กระบวนการตกเครื่องนี่กระทบหลายฝ่ายนะคะยิ่งมีโหลดกระเป๋าอีกไม่ใช่เรื่องเล็กเลย อาจทำให้เครื่องดีเลย์ได้ แค่ 1 นาทีก็มีความหมายนะคะ ไฟล์ทเช้าถ้าเป็นไปได้ทุกสายการบินต้องพยายามออกให้เร็วที่สุด เผื่อสภาพอากาศไม่ดี หรือดีเลย์เพราะสาเหตุอื่นๆ มันกระทบกับไฟล์ทข้างหลังไปเป็นโดมิโน่นะคะ ถ้าเราเป็นผู้โดยอยู่บนเครื่องแล้วมีคนทำให้เครื่องดีเลย์เราก็คงให้ศีลให้พรไปแล้ว
ส่วนจขกท.เองก็ไม่ได้โวยวาย และยอมรับผลการกระทำของตัวเองซึ่งเป็นเรื่องที่ควรกระทำอยู่แล้ว จะวุ่นวายขึ้นลงรับกระเป๋าเปลี่ยนตั๋ว เสียเงินเสียทองไม่มากไม่น้อย นั่นก็เป็นธุระของจขกท.
เรื่องอารมณ์และน้ำเสียงของจนท.คนนั้น เราไม่ขอออกความเห็นนะคะ
กลับมาเรื่องแรงบันดาลใจดีกว่า
สนามบินมีด่านถึง 3 ด่าน แต่จขกท.สามารถหลุดไปได้หมดทุกด่าน โดยส่วนตัวแล้ว เราก็คิดแหละค่ะว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง คนแบบไหนที่บอกว่าขึ้นเครื่องบ่อยๆแต่ก็ยังทำตัวเองตกเครื่องได้ทั้งๆที่ไม่น่าเกิด ทางสกบ.คงจะต้องทำรายงานความเสี่ยงมั้งคะ ว่า 3 - 4 ด่านในกระบวนการขึ้นเครื่องที่ว่ามานั้นเพียงพอรึเปล่า จะได้หาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกและไม่เป็นภาระกับสายการบินและส่วนรวม
นิสัยไม่ดีของคนที่ทำอะไรบ่อยๆ คือละเลยการใส่ใจการให้ความสำคัญกับสิ่งๆนั้น เพราะถือว่าฉันทำจนชินแล้ว คล่องแล้ว ไม่ต้องมาบอกฉันฟังมาเป็นร้อยรอบละขี้เกียจฟัง บลาๆ ดังนั้นเราก็ควรมีสติอยู่ตลอดค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ตกเครื่อง!! การบินไทย TG104 แต่กลับถูกพนักงานถามหาแรงบันดาลใจ!!!
วันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมาซื้อตั๋วการบินไทยเพื่อไปเชียงใหม่ บินเวลา 8.45 น. (ทำการเช็คอินในเว็บก่อนล่วงหน้า 1 วันเรียบร้อย)
ไปถึงเคาน์เตอร์เพื่อรับ boarding pass และโหลดกระเป๋าเวลาราวๆ 7.15 น. จากนั้นก็เดินเข้าเกตทันที แต่ความผิดของเราคือ... เข้าไปนั่งเกตผิดค่ะ!! เกตที่ระบุตามตั๋วคือ Gate 6 แต่ไปนั่งที่ Gate 1 ตั้งแต่เวลาราวๆ 7.30 ได้ นั่งเฉยๆ ไม่คุยโทรศัพท์ ไม่ฟังเพลง มีเล่นเฟซบุคบ้าง เอาหนังสือขึ้นมาอ่านบ้าง คอยมองๆคนอื่นบ้าง แต่เวลาผ่านไปจนถึงราวๆ 8.35 น. ก็ไม่เห็นมีการต่อแถวเพื่อขึ้นเครื่อง แล้วก็ได้ยินคนพูดกันเรื่องไปกระบี่ ก็ตกใจรีบหยิบตั๋วขึ้นมาดู ปรากฎว่านั่งรอผิดเกตเลยรีบวิ่งไปเดี๋ยวนั้นจาก Gate 1 ซึ่งอยู่ทางหนึ่งเพื่อไปเกือบสุดทางของอีกฝั่งไปยัง Gate 6 ผ่านไปหลายนาทีถึง พอเดินไปว่างเปล่า ไม่มีผู้โดยสารสักคน มีเพียงพนักงานการบินไทยอยู่ที่เคาน์เตอร์ในเกต 3 คน ผู้หญิง 1 คน (ทราบชื่อภายหลัง คุณ ส.ยืนอยู่ด้านขวามือสุด) ผู้ชาย 2 คนยืนซ้ายและกลาง (ทราบชื่อภายหลัง คุณ ส. คุณ อ.) วิ่งไปแบบกระหืดกระหอบแบบยังพูดตอบไม่ได้ ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์เหรอหรา
จะมีบทสนทนาแค่เรา พนักงานหญิง ส. กับ พนักงานชาย อ. ค่ะ
คุณ ส. : มารอของเที่ยวบินถัดไปหรอคะ (แบบยิ้มแย้ม งงๆ)
เรา : ไม่ใช่ค่ะ เที่ยวบินนี้ค่ะ (พร้อมยื่น boarding pass ) เอ่อ.. ไม่ทันใช่มั้ยคะ
คุณ ส. : ถ้าเที่ยวนี้ไม่ทันแล้วค่ะ เพิ่งออกไปมะกี๊เลยค่ะ เสียดายจังเลยนะคะ
เรา : เอ่อ... ไม่ได้ไปแน่แล้วใช่มั้ยคะ (กำลังรู้สึกกลุ้มเพราะมีนัดธุระไว้และบอกเวลาบินเค้าไปเสร็จสรรพ)
คุณ ส. : ถ้าเที่ยวนี้ไม่ทันค่ะ ต้องไปเที่ยวบินหน้า มีกระเป๋ามั้ยคะ
เรา : เอ่อ มีค่ะ โหลดไปด้วยอ่ะค่ะ แล้ว... อย่างงี้... จะต้องไปตามกระเป๋าที่นู่นหรอคะ
คุณ ส. : สักครู่นะคะ (หันไปโทรศัพท์)
คุณ อ. : (ซึ่งอายุดูจะราวๆ 40 กว่าอัพ ยืนอยู่ตรงกลาง มองหน้าแบบดูตำหนิตั้งแต่แรก) คุณไปอยู่ไหนมาครับ (พูดทันทีเมื่อคุณ ส. พูดจบ ด้วยน้ำเสียงตำหนิ)
เรา : ความผิดฉันเองค่ะ พอดีว่าไปนั่งผิดเกต
คุณ อ. : คุณไปนั่งเกตไหนครับ (ด้วยเสียงและหน้าตาตำหนิ)
ตอนช่วงนี้เราก็รู้สึกนิดๆว่าดูหน้าตาท่าทาง น้ำเสียงตำหนิจนเกินพอดีไป แต่ก็คิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง เลยยอมรับจุดนี้
เรา : ไปนั่ง Gate 1 ค่ะ พอเห็นว่าแปดโมงครึ่งก็แปลกใจทำไมไม่เห็นเรียกให้ขึ้นเครื่องก็เลยหยิบตั๋วขึ้นมาดู รู้ว่าผิดเกตก็รีบวิ่งมานี่ค่ะ แต่... (...ก็ไม่ทันแล้ว | ที่ต้องการจะพูดแต่ก็ถูกพูดตัดมาก่อน )
คุณ อ. : คุณไม่ได้ยินประกาศ final call หรอครับ
เรา : เอ่อ... ไม่ได้ยินนะคะ
พูดทันที
คุณ อ. : ไม่ทราบว่าทำอะไรอยู่ครับ
เรา : เอ่อ ก็... นั่งเฉยๆนะคะ มีอ่านหนังสือบ้าง (รู้สึกเริ่มหงุดหงิดบ้างกับคำพูด ท่าทาง น้ำเสียง ที่ดูสอบสวนและตำหนิสุดๆ)
คุณ อ. : ไม่ทราบว่าคุณมีแรงบันดาลใจยังไงหรอครับ
เรา : (งงเล็กๆ)
คุณ ส. หันกลับมาบอกผลการประสานงาน
คุณ ส. : ติดต่อเรียบร้อยแล้วนะคะ กระเป๋าเอาลงจากเครื่องทันค่ะ แล้วก็ขึ้นไปชั้นบนนะคะ เพื่อเปลี่ยนตั๋วใหม่ อาจจะมีเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการเปลี่ยนนะคะ
เรา : ได้ค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่จริงเป็นความผิดฉันเอง ขอบคุณมากเลยค่ะ.... (ยังพูดไม่จบ)
คุณ อ. : โทษนะครับ ขอทราบแรงบันดาลใจคุณนิดนึงครับ ถ้าเกิดเหตุการณ์ผู้โดยสารเป็นแบบนี้อีก ผมจะได้ทำความเข้าใจเค้าว่าเค้ามีแรงบันดาลใจอะไรกันหรืออะไรดลใจให้ทำแบบนี้ ผมอยากทราบจริงๆครับ (ตอนนี้เรารู้สึกถึงความตำหนิขั้นสุดและหาเรื่อง)
ทุกคนเงียบไปแป๊บนึง เราหันหน้าไปหาคุณ ส. เค้ายิ้มเจื่อนๆ เราพยายามมีสติและพูดต่อ
เรา : อันนี้ขึ้นไปเปลี่ยนได้เลยใช่มั้ยคะ แล้ว... กระเป๋าต้องไปเอาที่ไหนคะ
คุณ ส. : เปลี่ยนได้เลยค่ะที่ห้องบริการเปลี่ยนตั๋ว รับกระเป๋าได้ที่ชั้น 2 นะคะ แล้วหลังจากนั้นก็ไปที่เคาน์เตอร์ตามขั้นตอนเดิมเลยค่ะ โหลดกระเป๋าค่ะ
เรา : เที่ยวบินนี่คือกี่โมงคะ
คุณ ส. : บ่ายโมงสิบห้าค่ะ ขึ้นไปตอนนี้ทันค่ะ (ยิ้ม)
เรา : ขอบคุณมากจริงๆค่ะ ทั้งๆที่เป็นความผิดฉันเอง แต่ก็ขอบคุณที่ช่วยดูแลนะคะ
คุณ ส. : ยินดีค่ะ
เก็บหนังสือกับ boarding pass ลงกระเป๋ากำลังจะผละไปจากเคาน์เตอร์
คุณ อ. : แล้วตกลงแรงบันดาลใจคุณคืออะไรครับ อยากทราบจริงๆ ครั้งหน้าผมจะได้เข้าใจ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกจะได้แก้ปัญหาได้ถูก
ตอนนี้เราเริ่มมีอารมณ์แต่พยายามใจเย็น กรอกตา แล้วหันไปมองหน้า
เรา : ตกลงจะได้ไปมั้ยคะ (เสียงชัด เรียบ แต่เข้มกว่า)
คุณ อ. : ไป ได้ไปครับ ผมก็แค่อยากทราบก็เท่านั้น
เราเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ โทรหาเพื่อนแต่ละคนที่คิดว่าเป็นคนโลกสวย ใจเย็น เพื่อจะถามความคิดเห็นในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ไปถึงเชียงใหม่ก็เล่าให้เพื่อนฟัง บางคนก็หัวเราะ บางคนก็งุนงง บางคนก็หงุดหงิด คืออยากจะถามความคิดเห็นคนอื่นว่าเราคิดไปเองรึเปล่า มีเพื่อนคนหนึ่งตลกมาก และพูดว่า "ไอเชี่ย กูตกเครื่อง ต้องมีแรงบันดาลใจด้วยหรอวะ" เลยปิ๊งขึ้นมาว่า "เออ" นี่แหละคือเหตุที่เรางุนงงและไม่รู้จะตอบอะไร
คุณ อ. ไม่ได้ถามเพื่อแก้ไข แต่ถามเพื่อตอบสนองความต้องการอยากตำหนิของตัวเอง เพราะทุกคำที่พูดเต็มไปด้วยการเหน็บแนม เอาจริงๆ ฉันค่อนข้างแปลกใจว่าฉันกำลังพูดอยู่กับผู้ชายรึเปล่า เพราะไม่เคยเจอผู้ชายแท้ๆพูดด้วยท่าทาง น้ำเสียงแบบนี้ คุณไม่ช่วยใดๆฉันเลย ไม่ว่าจะแก้ปัญหาใดๆ ไม่ช่วยแม้แต่ให้คำแนะนำ แถมยังแสดงทุกสิ่งตามที่ฉันบรรยายมา สายตามองฉันแย่มากประหนึ่งฉันไปทำร้ายครอบครัวคุณ ฉันรู้สึกผิดหวังและแย่ที่มาเจอเหตุการณ์แบบนี้จากสายการบินในดวงใจมากค่ะ ที่ผ่านมาใช้บริการก็ดีดูแลดีค่ะ หวังว่าพนักงานที่มีท่าทาง ความคิด คำถามแบบคุณจะไม่มีมากนะคะ เป็นห่วงภาพลักษณ์คนอื่นๆที่ปฏิบัติดีจะคอยโดนเหมารวมไปด้วยจริงๆ
ฉันไม่ได้ตั้งใจจะตกเครื่องหรอกค่ะ ค่าตั๋ว 1800 บาท เปลี่ยนตั๋วเสียเงิน 500 บาท เสียเวลาว่อนไปมาแต่ละชั้นเพื่อไปเอากระเป๋า ไปเปลี่ยนตั๋ว ไปโหลดกระเป๋าใหม่ รอเวลา ใช้เวลาไปหลายชั่วโมง ถ้ามันทำให้คุณหงุดหงิดใจกับการพลาดของฉันในครั้งนี้ ต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่เท่าที่เห็น... คุณแสดงพฤติกรรมแบบนั้นกับฉันเสร็จก็เห็นคุณเดินไปพักผ่อนสบายๆนะคะ มีแต่ฉันที่วิ่งวุ่นในสุวรรณภูมิ หวังว่าชาตินี้เราจะไม่ต้องเจอกันอีกนะคะ
ตอนที่คุณถามแรงบันดาลใจในการตกเครื่องของฉัน ฉันไม่ทราบจะตอบยังไงดีเลยค่ะ เพราะมันไม่มีและฉันไม่ได้ตั้งใจ
แต่ตอนนี้... คุณ อ. เป็นแรงบันดาลใจให้กับฉันในการเขียนกระทู้นี้จริงๆค่ะ
บายนะคะ
อันนี้บอร์ดดิ้งพาสแรกก่อนตกเครื่อง
แล้วก็บอร์ดดิ้งพาสหลังเปลี่ยนเที่ยวบิน