[CR] (CR) Xin Chào เวียดนาม เวอร์ชันรักสบายและไม่กำหนดงบประมาณ Part 1 : ไซกอนแดบลั๊บ ไซกอนโอ๊ย ไซกอนโอย

Xin Chào !!
สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้รีวิวท่องเที่ยว เอ๊ะ
หรือเรียกว่าไดอารี่ที่มีแต่น้ำมากกว่าเนื้อหาที่เป็นประโยชน์จะดีกว่า
รีวิวนี้คุณภาพรูปอาจจะแย่มากๆ (ใช้ iPhone 4S และ Fuji HS20 EXR)
หรือข้อมูลรวมถึงงบประมาณที่ถูกต้องมากสำหรับที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
---------------------------------------------------------------------------------------


ช่วงต้นๆ เดือนมกราคมที่ผ่านมาก็ได้มีเหตุต้องไปประเทศที่ไม่คิดว่าจะไป นั่นก็คือ “ประเทศเวียดนาม”
เนื่องจากว่าทางคณะต้องส่งคนไป Workshop ที่มหาวิทยาลัย Hue University of Science เมืองเว้
และหวยก็มาออกที่กลุ่มของผมพอดี หลังจากรู้ว่าเราจะได้ไปเวียดนามทีนี้จากที่ไม่เคยรู้อะไรเลย
เกี่ยวกับเวียดนาม ตอนนี้ต้องมาศึกษาข้อมูลครั้งยิ่งใหญ่ รวมถึงจัดการจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรม
โดยครั้งนี้จะบอกว่าเป็นครั้งแรกที่ต้อทำการจองตั๋วเองทั้งหมด ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่ต้องจองให้เพื่อนๆ
และอาจารย์ รวมเป็น 10 ชีวิต เอาจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะด้วยความที่ผมเป็นคนบ้าเครื่องบิน
ชอบอ่านรีวิวสายการบิน ชอบกดจิ้มตั๋วดูราคาไฟลท์โน้นไฟลท์นี้บ่อยๆ เรื่องนี้เลยสบายเลยครับ
วางแผนเวลาออกเวลาต่อเครื่องไว้เสร็จสรรพเรียบร้อย  #จบไปพี่จะทำทัวร์

สิริรวมระยะเวลาทั้งหมดยาวถึง 9 วัน แต่ต่อให้วางแผนมาดีขนาดไหน
แต่พอถึงหน้างานมันก็มีอะไรที่คาดไม่ถึงมาให้เราพบเจอเสมอ จริงไหมครับ ...

อันนี้ขอบอกก่อนว่าต่างจากรีวิวเที่ยวเวียดนามหรือรีวิวอื่นๆ ในพันทิพ แบบที่เที่ยวญี่ปุ่น 10 วันงบ 8000
รวมค่าตั๋วแต่อวดเงินเดือนเดือนละ 8 ล้าน ลูกทัวร์ (รวมถึงผมเอง) รักสบาย ไม่มีการนั่งรถยาวๆ ข้ามประเทศ
เหมือนทริปอื่นๆ คนอื่นๆ เพราะเมื่อยและทรมาณ นั่งรถจากเชียงใหม่วันนี้เที่ยงถึงที่โน่นก็พรุ่งนี้สองทุ่มก็คงไม่คุ้ม
รวมถึงเรายังสามารถแวะเที่ยวโฮจิมินได้อีกตั้งวันนึง  และแน่นอนว่าไม่มีการนอนโฮสเทลใดๆ ด้วยเหตุผล
ข้อเดียวกับข้างบน และอีกอย่างหนึ่งคือราคาโรงแรมที่นี่แค่เพิ่มอีกไม่กี่ร้อยก็ได้นอนโรงแรมดีๆ แล้วล่ะครับ

ทริปนี้จึงเป็นที่มาของความวายป่วงมากมายที่จะตามมารวมไปถึงทัศนคติของผมกับประเทศนี้ที่จะเปลี่ยนไปตลอดกาล

เอาล่ะครับ ลากนิ้วผ่านจอ ผ่าน Trackpad Scroll เมาส์หรืออะไรก็แล้วแต่ตามลงมาเลยครับ หัวเราะ  

---------------------------------------------------------------------------------------


9 มกราคม 2559

CNX-BKK
เอ้าทุกคนร้องตามพร้อมๆ กันนะครับ ...
เด็กเอ๋ยเด็กดี เจ้าจะพาพี่ขึ้นเครื่องไม่ทัน ...

หลังจากที่งัวเงียแหกขี้ตาตื่นมาแต่เช้า รีบไปรับเพื่อนจากคณะแล้วไปที่สนามบินเชียงใหม่ในวันเด็กแห่งชาติ
โชคดีที่เราออกมาค่อนข้างเช้า เลยทำให้รอดดพ้นจากสภาพการจราจรติดขัดไปได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้นเราจึงเอากระเป๋าไปดรอปที่เคาน์เตอร์ของการบินไทย เนื่องจากเราเช็คอินในอินเตอร์เน็ต
ตั้งแต่หลังเลิกเรียน (สามารถเช็คอินได้ก่อนขึ้นเครื่อง 24 ชั่วโมง) หลังจากดรอปกระเป๋าเรียบร้อย
ในตอนแรกตั้งใจว่าจะถ่าย Group Shot แบบหลวยๆ ที่สนามบิน แต่เพื่อนคนนึงบอกว่า ค่อยไปถ่าย
ที่สุวรรณภูมิก็ได้ ถือแก้ว Starbucks คนละใบถ่ายรูปสวยๆ งี้ ทุกคน(เก็บมือถือ)ตกลงแล้วจากนั้น
ก็ลั้นลาเดินนวยนาดเข้าเกตไปโดยที่ยังไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ...


(ขออภัยในความเบลอของรูปภาพ)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

9:45 (ควรจะ) Boarding Time …
ยังไม่มีวี่แววว่าเกตจะเปิด เอาละไง
บรรดาลูกทัวร์ก็เริ่มโอดครวญกันว่าเมื่อไรจะได้ขึ้นเครื่องกันสักที
ในจอ Flight Status ก็ขึ้นป้ายว่า “DELAYED”
คงแค่สิบยี่สิบนาทีล่ะมั้ง ...
และในที่สุด ...​

10:35
เอ๊อออออออ ได้ขึ้นเครื่องซะที
เอ๊อออออออ วันนี้ได้เครื่องใหม่มากกกกกกกกก
ตองเจ็ดสามร้อยอีอาร์เหวยย Royal Silk สวยมากกกก
ที่นั่งมีจอ มียูเอสบีเสียบชาร์จแบต เออออออ คือดีงามมมม
หลังจากบอร์ดดิ้งได้ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ปิดประตูเครื่องเตรียมแท็กซี่และเทคออฟ
ในขณะเดียวกันกับ Safety Demo ก็ถูกฉายที่จอ IFE ตรงหน้า ...




อ้าว รอคิวอะไรกัน
อ้าว น้องนก น้องแดง น้องสิงโต
อ้าว จอดรออะไรอ่ะ ...

โถ่ พ่อคุณพ่อขนุนหนัง ต่อคิวรอ F16 แลนด์ดิ้งคุณณณณณณณณณณณณ
โอ้โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หนูจะไปต่อเครื่องทันม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ไฟลท์ต่อไปหนูคือบ่ายสองโมงนะคุณณณณณณณณณณณณณณณณณณ ...​

ในที่สุด ... 11:29 Take Off …

Airline : Thai Airways International
Flight : TG103
From : Chiang Mai International Airport  (CNX)  
To : Bangkok “Suvarnabhumi International Airport” (BKK)
Date : 9 January 2016
Dep : 10:05  Arr : 11:25
Real Dep : 11:25 Real Arr : 12:30
Duration : 1hr 5 min
Aircraft : Boeing 777-300er
Departure Gate : 7
Class : Economy Class
Seat : 52K




ตอนนี้น้ำตาแทบจะไหลรินไปกองอยู่รวมกับ Snack Box อันประกอบไปด้วยเบอร์เกอร์ พายหวาน กล้วยตาก และน้ำผลไม้รวม
หลังจากปาดน้ำตาแล้วก็ได้เตรียมนัดแนะเพื่อนๆ และอาจารย์ว่า ถ้าลงเครื่องไปตอนไหนวิ่งเลยนะฮะ เราจะไม่สนอะไรทั้งสิ้น...

12:30 Landed at Suvarnnabhumi Airport

อ่ะเครื่องลงละ เตรียมวิ่งกันนะทุกคนนนนนน
เลขที่ออก ...

เกต C10  

น้ำตากำลังจะไหลอีกรอบก่อนที่จะมีรถบัสมารับให้ไปส่งที่ Belt ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณเจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิและ
การบินไทยที่เราไม่ต้องวิ่งแวดกันในตอนนี้ แต่อีกเรื่องที่เราลืมนึกไปคือ ...

1.เครื่องที่บินมานั้นคือเครื่อง 777-300 ER 300 กว่าที่นั่ง วันนั้นบอร์ดประมาณ 90%
2.สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินที่ใหญ่มาก
3.สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินที่ใหญ่มาก
4.สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินที่ใหญ่มาก
5.สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินที่ใหญ่มาก
.
.
.
100.สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินที่ใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกกกก



ขณะนี้เวลา 12:50 จำนวนกระเป๋าที่วิ่งว่อนอยู่บนสายพานนั้นเท่ากับ 0 ใบถ้วน
เคาน์เตอร์เช็คอินอีกไฟลท์ปิดก่อนเครื่องขึ้น 1 ชั่วโมง .................................
เริ่มบอร์ดก่อนเวลาบิน 45 นาที โอ๊ย ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี .........................

ไวเท่าความคิด รีบวิ่งไปขอพาสปอร์ตของอาจารย์และเพื่อนๆ สิริรวมทั้งหมด 10 เล่มถ้วน วิ่งขึ้นไปที่ชั้น 4

ในวันนั้น ถ้าใครเห็นไอ้หมีหน้าตาดี (?) ใส่เสื้อสีเทา มีคาร์ดิแกนสีน้ำเงินเข้มใส่คลุม สวมกางเกงยีนส์สีเดียวกันกับเสื้อคลุม
วิ่งราวกับจะไปแข่งกับ Ulsen Bolt ลากรองเท้าแตะพร้อมพาสปอร์ต 10 เล่มอย่างกระหืดกระหอบ ...​นั่นล่ะครับ ผมเอง

13:10
เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน VietJet Air
(ขอแทนตัวเองว่า K และพี่พนักงานว่า G = Ground นะครับ)
K : (เสียงไม่มี หอบแฮ่กๆ เหงื่อแตกเต็มตัว) ไปโฮจิมินห์ครับพี่
G : ไฟลท์กี่โมงคะ ??
K : บ่ายสองโมงครับพี่ (ยื่นพาสปอร์ต)
G: โอเคค่ะ แป๊บนึงนะนะ .. เอ่อไม่ทราบว่ามีกระเป๋ามาหรือเปล่าคะ
K : กำลังตามมาครับ (ใกล้เป็นลม)
G : เอ่อ หลังจากนี้ต้องวิ่งแล้วนะคะ วันนี้เกต E 10 อยู่สุดโน่นเลยค่ะ ...  

เกต E 10 อยู่สุดโน่นเลยค่ะ  ...
เกต E 10 อยู่สุดโน่นเลยค่ะ  ...


อยู่สุดโน่นเลยค่ะ  ...


ทำไมถึงทำกับฉันด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จากนั้นเพื่อนๆ และอาจารย์ก็ลากกระเป๋ามาทำการโหลด แจกใบขาออก พาสปอร์ตและตั๋วเป็นที่เรียบร้อย จากนี้ก็คือวิ่ง
วิ่งยิ่งกว่าแข่ง Running Man วิ่งยิ่งกว่า Maze Runner เพื่อไปพบกับด่านแรก ... X-Ray

โอเค คนเยอะทุกช่อง งั้นต่อช่องที่คนน้อยสุดแล้วกัน แถวตรงนั้นมีคนต่อคิวแค่ 5 คน แต่ว่า ...

5 คิวข้างหน้าคือคนจีน

ระหว่างรอคิวเพื่อไม่ให้เสียเวลาจึงหยิบใบขาออกมาเขียนกรอกตรงนั้นเลย ลายมือตอนนั้นคือแย่มาก ยืนเขียน
เขียนไม่สะดวก และมือสั่นมากๆ แต่อย่าลืมว่าข้างหน้าคือ ...​

คนจีน

อื้อหืมมมมมม อะไรจะโอ้เอ้อ้อนแอ้นอีแอ้อีแอ่นอะไรนานกันขนาดนั้นนนนนนน
จะรอเคารพฟ้าดินตามฤกษ์อยู่หรือไงถึงไม่เข้าเครื่องแสกนซะที โอ๊ยยยยยยย

//ทุ่มกระเป๋าเป้ใส่ แต่ลืมไปว่าอาจจะออกนอกประเทศไม่ได้ เลยทำได้แค่แผ่รังสีอำหิตใส่เท่านั้น

หลังจากฝ่าด่านมังกรอรหันต์มาได้ก็เตรียมลงมาที่ด่านต่อไป ... ต.ม.

ขอบคุณสวรรค์อีกครั้ง

Auto Gate ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นอย่างทันตาเห็น ใช้เวลาตรงนั้นตั้งแต่ยื่นใบ ประตูเปิด ตรวจลายนิ้วมือและใบ(หนัง)หน้า
ไม่ถึง ​30 วินาทีด้วยซ้ำ และแล้วเราก็มาถึงดินแดนแห่ง Duty Free ที่ทาง ทอท. และ King Power ได้จัดสรรค์ให้
นักท่องเที่ยวได้ช็อปปิ้ง เดินเล่น กินข้าวกันไปอะไรกันไป ...



แต่แล้วก็มีไอ้หมีคาร์ดิแกนน้ำเงินคนเดิมวิ่งแวดมาพร้อมกับรถเข็นกระเป๋าเป้ North Face ใบยักษ์กำลังวิ่งฝ่าด่าน
คุณนายที่กำลังออกจากช็อปกุชชี่ คราวก่อนๆ ตอนเดินเล่นวนร้านนู้นเข้าร้านนี้มันก็เพลินดีอยู่ แต่ทำไมตอนที่
ตัวเองกำลังจะตกเครื่องทำไมมันรู้สึกว่าร้านค้ามันเยอะแยะขนาดนี้ ไปเดินพารากอนเอ็มควอเทียร์ยังรู้สึกว่าเดินแป๊บๆ
ก็ทั่วห้างแล้ว แต่นี่ทำไมมันยังไม่หมดซะทีคุณ !!!

13:45

500 เมตรผ่านไป สิ้นสุดดง Duty Free มาถึงสี่แยก มองไปข้างหน้าที่เกต E10 ... อีก 500 เมตร
วิ่งตอนสอบ รด. ยังไม่พีคขนาดนี้ ยังไม่เหนื่อยขนาดนี้ ถ้า รด. ไม่ทันเวลาอย่างมากสุดก็ไม่ผ่าน ลุ้นไปจับใบดำใบแดง
ตอนเรียนมหาลัยเอาแต่นี่ถ้าไม่ทันรอบนี้คือตกเครื่องเลยนะ แล้วจะเอายังไงต่อล่ะ? จองเที่ยวบินใหม่ ? โรงแรมล่ะยังไง?
กระเป๋าล่ะ? ไฟลท์ต่อไปก็ทุ่มกว่าเลยนะ

13:50

อีก 500 เมตรถัดมา ถึงเกต ...

ไหนเครื่องบิน หื้มมมมมมมมมมมม

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หลังจากที่มาถึงเกตสักพัก เพื่อนๆ และอาจารย์ก็วิ่งตามหลังทันมาที่เกตพอดี โอเคทันเวลาไม่หล่นหายไม่ตายกลางดง
Duty Free ปลอดภัยดีทุกคน จากนั้นก็ยกขโยงกันไปเข้าห้องน้ำและให้เพื่อนอีกครึ่งหนึ่งเฝ้ากระเป๋าไว้ ไปถึงก็จัดการธุระ
ตัวเอง เช็ดเหงื่อเช็ดตัวล้างหน้าอะไรกันไปเอาขวดน้ำเปล่าที่ซื้อจากเซเว่นหลังมอเมื่อเช้ามาเติมน้ำเย็นเอาไว้ดื่มระหว่าง
ไฟลท์เนื่องจากไม่มีการเสริฟอาหารและเครื่องดื่มใดๆ

เอาล่ะ ได้เวลาบอร์ดดิ้งกันเสียที

อีก 8 วันเจอกันประเทศไทย ยิ้ม


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

//เช็ดกระจกหน่อยไหม
ชื่อสินค้า:   เวียดนาม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่