สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เจอปัญหานี้เหมือนกันค่ะ แต่ยังถือว่าไม่ร้ายแรงทางกายมากนัก
คือ ลูกโดนเพื่อนรุมว่า จนไม่อยากไปโรงเรียน
แต่กรณีของคุณ คุณต้องลงมือทำอะไรสักอย่างแล้วค่ะ
เราทำแบบนี้ค่ะ
1. ไปหาคุณครูที่โรงเรียน แนะนำว่า ลางานไปเลยค่ะ ทำให้เป็นเรื่องจริงจังและซีเรียส
และทำให้ลูกมั่นใจว่า แม่พร้อมจะไปปกป้องลูก
คุยกับครูประจำชั้น คุยกับครูใหญ่ เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
2. ไลน์ไปหาผู้ปกครองของเด็กคนที่แกล้งลูกคุณค่ะ แล้วโทร.ไปคุยค่ะ
เราทำ 2 วิธีนี้แล้วได้ผล คือ เราทั้งบอกคุณครู และ ไลน์หาผู้ปกครองเด็กคู่กรณีเพื่อขอคุยค่ะ
เราเล่าให้ ทั้งคุณครูและผู้ปกครองของน้องคู่กรณี ฟังถึงเรื่องทั้งหมดว่า เกิดอะไรขึ้น
แต่เราพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ และ ไม่คุกคามนะคะ ตรงนี้ ขอเตือนคุณแม่ให้รีบจัดการเรื่องเสียตั้งแต่ยังไม่บานปลาย
ควรเริ่มลงมือพูดคุยตั้งแต่ ตอนโดนแกล้งผลักประตูปิดแล้วค่ะ เพราะพอเรื่องรุนแรงขึ้น คุณอาจจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ให้พูดดี ๆ ได้อีกต่อไปแล้ว
เราไลน์ไปบอกคุณแม่ของน้องคู่กรณี ว่า รบกวนขอเบอร์นะคะ ขอคุยด้วยนิดนึงเรื่องลูก
พอเค้าโทร.มาน้ำเสียงตกอกตกใจ
เราก็พูดดี ๆ ค่อย ๆ กับเค้า แนะนำตัวเอง แล้วเล่าให้ฟังว่าพอดีเรื่องมันเป็นแบบนี้นะคะ คุณแม่ .....
จากนั้น ก็ค่อย ๆ เล่าว่า ลูกเราโดนอะไรบ้าง
ก็ไม่แน่ใจว่า น้อง***(ลูกเรา) ทำอะไรให้ น้อง *** ไม่พอใจก่อนรึเปล่า อาจจะพูดไม่ถูกหู หรือ
เผลอไปแกล้งโดยไม่ตั้งใจ ถ้าเป็นอย่างนั้น เราขอโทษแทนลูกด้วย แล้วรบกวนคุณแม่คุยกับลูกคุณแม่
นิดนึงสอบถามเรื่องราวให้ด้วยนะคะ เพื่อที่ว่า เด็ก ๆ จะได้รักกันเหมือนเดิม แล้วเรียนด้วยกันอย่างมีความสุข
เรื่องกระทบกระทั่งกัน ถึงระดับหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบเคลียร์ให้ค่ะ
เราบอกให้ลูกเราอดทน รู้จักตอบโต้บ้าง แต่ถ้าเห็นทรงแล้ว ตอบโต้สู้ไม่ได้หรือไม่กล้า เราต้องรีบเข้าไปช่วยค่ะ
บางครั้ง ถ้าเราเอาแต่บอกให้ลูกอดทน อดทน ไปอยู่เรื่อย ๆ เค้าจะเครียด เก็บกด แล้วท้ายที่สุด ก็จะไม่บอกอะไรเราเลย
บางที เราก็ต้องออกโรงเองบ้าง เพื่อป้องกัน ไม่ให้ลูกเกิดความรู้สึกไม่อยากไปโรงเรียน
หรือ กันไม่ให้ปัญหารังแกกันแนว ๆ bully ลุกลามใหญ่โต
การมองโรงเรียนอื่นเพิ่มเติม ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
หาตัวเลือกไว้หลาย ๆ ทาง เพื่อการตัดสินใจที่รอบคอบที่สุด
แต่ย้ำว่า ผู้ปกครองเด็กที่แกล้ง ควรจะมีส่วนได้รับทราบพฤติกรรมลูกตัวเองด้วยนะคะ
ฝากกอดน้องแรง ๆ ทีหนึ่ง
ขอให้คุณและน้องโชคดี ผ่านปัญหานี้มาได้อย่างสวยงามนะคะ
คือ ลูกโดนเพื่อนรุมว่า จนไม่อยากไปโรงเรียน
แต่กรณีของคุณ คุณต้องลงมือทำอะไรสักอย่างแล้วค่ะ
เราทำแบบนี้ค่ะ
1. ไปหาคุณครูที่โรงเรียน แนะนำว่า ลางานไปเลยค่ะ ทำให้เป็นเรื่องจริงจังและซีเรียส
และทำให้ลูกมั่นใจว่า แม่พร้อมจะไปปกป้องลูก
คุยกับครูประจำชั้น คุยกับครูใหญ่ เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
2. ไลน์ไปหาผู้ปกครองของเด็กคนที่แกล้งลูกคุณค่ะ แล้วโทร.ไปคุยค่ะ
เราทำ 2 วิธีนี้แล้วได้ผล คือ เราทั้งบอกคุณครู และ ไลน์หาผู้ปกครองเด็กคู่กรณีเพื่อขอคุยค่ะ
เราเล่าให้ ทั้งคุณครูและผู้ปกครองของน้องคู่กรณี ฟังถึงเรื่องทั้งหมดว่า เกิดอะไรขึ้น
แต่เราพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ และ ไม่คุกคามนะคะ ตรงนี้ ขอเตือนคุณแม่ให้รีบจัดการเรื่องเสียตั้งแต่ยังไม่บานปลาย
ควรเริ่มลงมือพูดคุยตั้งแต่ ตอนโดนแกล้งผลักประตูปิดแล้วค่ะ เพราะพอเรื่องรุนแรงขึ้น คุณอาจจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ให้พูดดี ๆ ได้อีกต่อไปแล้ว
เราไลน์ไปบอกคุณแม่ของน้องคู่กรณี ว่า รบกวนขอเบอร์นะคะ ขอคุยด้วยนิดนึงเรื่องลูก
พอเค้าโทร.มาน้ำเสียงตกอกตกใจ
เราก็พูดดี ๆ ค่อย ๆ กับเค้า แนะนำตัวเอง แล้วเล่าให้ฟังว่าพอดีเรื่องมันเป็นแบบนี้นะคะ คุณแม่ .....
จากนั้น ก็ค่อย ๆ เล่าว่า ลูกเราโดนอะไรบ้าง
ก็ไม่แน่ใจว่า น้อง***(ลูกเรา) ทำอะไรให้ น้อง *** ไม่พอใจก่อนรึเปล่า อาจจะพูดไม่ถูกหู หรือ
เผลอไปแกล้งโดยไม่ตั้งใจ ถ้าเป็นอย่างนั้น เราขอโทษแทนลูกด้วย แล้วรบกวนคุณแม่คุยกับลูกคุณแม่
นิดนึงสอบถามเรื่องราวให้ด้วยนะคะ เพื่อที่ว่า เด็ก ๆ จะได้รักกันเหมือนเดิม แล้วเรียนด้วยกันอย่างมีความสุข
เรื่องกระทบกระทั่งกัน ถึงระดับหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบเคลียร์ให้ค่ะ
เราบอกให้ลูกเราอดทน รู้จักตอบโต้บ้าง แต่ถ้าเห็นทรงแล้ว ตอบโต้สู้ไม่ได้หรือไม่กล้า เราต้องรีบเข้าไปช่วยค่ะ
บางครั้ง ถ้าเราเอาแต่บอกให้ลูกอดทน อดทน ไปอยู่เรื่อย ๆ เค้าจะเครียด เก็บกด แล้วท้ายที่สุด ก็จะไม่บอกอะไรเราเลย
บางที เราก็ต้องออกโรงเองบ้าง เพื่อป้องกัน ไม่ให้ลูกเกิดความรู้สึกไม่อยากไปโรงเรียน
หรือ กันไม่ให้ปัญหารังแกกันแนว ๆ bully ลุกลามใหญ่โต
การมองโรงเรียนอื่นเพิ่มเติม ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
หาตัวเลือกไว้หลาย ๆ ทาง เพื่อการตัดสินใจที่รอบคอบที่สุด
แต่ย้ำว่า ผู้ปกครองเด็กที่แกล้ง ควรจะมีส่วนได้รับทราบพฤติกรรมลูกตัวเองด้วยนะคะ
ฝากกอดน้องแรง ๆ ทีหนึ่ง
ขอให้คุณและน้องโชคดี ผ่านปัญหานี้มาได้อย่างสวยงามนะคะ
ความคิดเห็นที่ 6
ขอต่ออีกประเด็น ในอีกความเห็น
จริง ๆแล้ว เราอยากจะให้กระทรวงศึกษาธิการยกระดับปัญหาการแกล้งกันของเด็กขึ้นมาเป็นประเด็นระดับชาติด้วยซ้ำ
แล้วทุกสิ่งควรเริ่มจากทัศนคติที่ถูกต้องของครู
ไม่ใช่ว่าเด็กแกล้งกัน ไปฟ้องครู แล้วโดนหาว่าอ่อนแอ ขี้ฟ้อง ถ้าเด็กเก็บกดหยิบมีดมาแทงเพื่อน คนเป็นครูควรเป็นจำเลยคนหนึ่งด้วยนะคะ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ควรมีการสื่อสารกันระหว่างผู้ปกครองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องพฤติกรรมลูก และปลูกฝังทัศนคติให้ถูกต้อง ไม่ปล่อยให้เรื่องบานปลายใหญ่โตจนทนกันไม่ไหวแล้วมาทะเลาะกันแรง ๆ จะคุยกันไม่รู้เรื่อง
เพื่อให้ยุติธรรมกับเด็ก ควรช่วยกันวิเคราะห์ด้วยว่าที่เด็กไม่มีเพื่อนเล่นด้วยเพราะอะไร จะได้ร่วมกันหาทางแก้ไขแนะแนวกันได้ แลกเปลี่ยนการพูดคุยแบบตัวเป็น ๆ หรือ ทางไลน์ก็ได้นี่คะ
1. เด็กบางคนมีพัฒนาการช้า อาจทำให้เพื่อนเบื่อที่จะเล่นด้วย ลูกคนเล็กเราก็อยู่หมวดนี้
2. เด็กบางคนเล่นกับเพื่อนไม่เป็น เอาแต่ใจ อันนี้ ลองให้คุณพ่อคุณแม่ของเด็กคู่กรณีถามจากลูกเค้าก็ได้ว่า ทำไมถึงไม่ค่อยชอบลูกคุณจะได้ปรับปรุงแก้ไข
3. เด็กบางคนเหมือนมีกรรม เพื่อนหมั่นไส้ จะด้วยหมั่นไส้ที่หน้าตาดี เล่นกีฬาเก่ง หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้โดนแกล้ง
โดยส่วนตัว ดิฉันคิดว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่ที่เพิกเฉยไม่ได้ค่ะ
แต่ถ้าดูท่าทางแล้ว เคมีของลูกเราเข้ากับเคมีของเด็กโดยรวมไม่ได้ ไม่มีใครผิดใครถูก เราเลือกย้ายโรงเรียนค่ะ
จริง ๆแล้ว เราอยากจะให้กระทรวงศึกษาธิการยกระดับปัญหาการแกล้งกันของเด็กขึ้นมาเป็นประเด็นระดับชาติด้วยซ้ำ
แล้วทุกสิ่งควรเริ่มจากทัศนคติที่ถูกต้องของครู
ไม่ใช่ว่าเด็กแกล้งกัน ไปฟ้องครู แล้วโดนหาว่าอ่อนแอ ขี้ฟ้อง ถ้าเด็กเก็บกดหยิบมีดมาแทงเพื่อน คนเป็นครูควรเป็นจำเลยคนหนึ่งด้วยนะคะ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ควรมีการสื่อสารกันระหว่างผู้ปกครองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องพฤติกรรมลูก และปลูกฝังทัศนคติให้ถูกต้อง ไม่ปล่อยให้เรื่องบานปลายใหญ่โตจนทนกันไม่ไหวแล้วมาทะเลาะกันแรง ๆ จะคุยกันไม่รู้เรื่อง
เพื่อให้ยุติธรรมกับเด็ก ควรช่วยกันวิเคราะห์ด้วยว่าที่เด็กไม่มีเพื่อนเล่นด้วยเพราะอะไร จะได้ร่วมกันหาทางแก้ไขแนะแนวกันได้ แลกเปลี่ยนการพูดคุยแบบตัวเป็น ๆ หรือ ทางไลน์ก็ได้นี่คะ
1. เด็กบางคนมีพัฒนาการช้า อาจทำให้เพื่อนเบื่อที่จะเล่นด้วย ลูกคนเล็กเราก็อยู่หมวดนี้
2. เด็กบางคนเล่นกับเพื่อนไม่เป็น เอาแต่ใจ อันนี้ ลองให้คุณพ่อคุณแม่ของเด็กคู่กรณีถามจากลูกเค้าก็ได้ว่า ทำไมถึงไม่ค่อยชอบลูกคุณจะได้ปรับปรุงแก้ไข
3. เด็กบางคนเหมือนมีกรรม เพื่อนหมั่นไส้ จะด้วยหมั่นไส้ที่หน้าตาดี เล่นกีฬาเก่ง หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้โดนแกล้ง
โดยส่วนตัว ดิฉันคิดว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่ที่เพิกเฉยไม่ได้ค่ะ
แต่ถ้าดูท่าทางแล้ว เคมีของลูกเราเข้ากับเคมีของเด็กโดยรวมไม่ได้ ไม่มีใครผิดใครถูก เราเลือกย้ายโรงเรียนค่ะ
ความคิดเห็นที่ 7
คือ อ่านมาทั้งหมด เคสอื่นเราว่าก็ปกติของการแกล้ง แล้วถ้าน้องเป็นเด็กไม่ค่อยกล้าพูด ไม่แก้ตัวเท่าไหร่ ก็จะโดนคนอื่นแกล้งบ่อย
....แต่เคสเอาสายน้ำทิ่มทวารเนี่ย รุนแรงมากนะคะ ถึงขั้นแจ้งความได้เลยค่ะ
เพราะเราเคยอ่านข่าวนานมากแล้ว มีเด็กปั๊มแกล้งเพื่อนเอาสายน้ำฉีดทวาร สุดท้ายคนโดนแกล้งตายนะคะ เพราะน้ำมีแรงอัดสูงมากและเข้า
ร่างกายเยอะเกิน
เรื่องที่ต้องตามก็คือ บอก ผอ.เรื่องแม่บ้าน และเรื่องเด็กสองคนนั่น ต้องบังคับให้จัดการค่ะ ต้องตามเอาความให้ได้ ต้องให้เรียกผู้ปกครองเด็ก
ทั้งสองมาคุยด้วย ว่าถ้าไม่เลิก คุณจะแจ้งความค่ะ ขู่ๆกันมั่ง ไม่งั้นมันได้ใจอะค่ะ (คุณไปหาข่าวเก่าๆมาอ่านนะ เคสฉีดน้ำมีจริงน่ากลัวมาก)
เอาไปยืนยันกับ ผอ.ค่ะ ว่าเรื่องมันอันตราย ไม่ใช่เล่นๆ
ส่วนจะย้ายหรือไม่ย้ายค่อยรอดูอีกที
....แต่เคสเอาสายน้ำทิ่มทวารเนี่ย รุนแรงมากนะคะ ถึงขั้นแจ้งความได้เลยค่ะ
เพราะเราเคยอ่านข่าวนานมากแล้ว มีเด็กปั๊มแกล้งเพื่อนเอาสายน้ำฉีดทวาร สุดท้ายคนโดนแกล้งตายนะคะ เพราะน้ำมีแรงอัดสูงมากและเข้า
ร่างกายเยอะเกิน
เรื่องที่ต้องตามก็คือ บอก ผอ.เรื่องแม่บ้าน และเรื่องเด็กสองคนนั่น ต้องบังคับให้จัดการค่ะ ต้องตามเอาความให้ได้ ต้องให้เรียกผู้ปกครองเด็ก
ทั้งสองมาคุยด้วย ว่าถ้าไม่เลิก คุณจะแจ้งความค่ะ ขู่ๆกันมั่ง ไม่งั้นมันได้ใจอะค่ะ (คุณไปหาข่าวเก่าๆมาอ่านนะ เคสฉีดน้ำมีจริงน่ากลัวมาก)
เอาไปยืนยันกับ ผอ.ค่ะ ว่าเรื่องมันอันตราย ไม่ใช่เล่นๆ
ส่วนจะย้ายหรือไม่ย้ายค่อยรอดูอีกที
แสดงความคิดเห็น
อยากแลกเปลี่ยนความคิด เรื่อง ลูกโดนเพื่อนๆรังแก มีการแก้ปัญหาอย่างไรได้บ้าง
อยากขอคำแนะนำว่า เราควรทำยังไงดี กับเด็ก2คนนี้ ไม่งั้นต้องมาทำลูกเราอีกแน่ ส่วนเรื่องแม่บ้านมาใช้ลูกเราล้างห้องน้ำ เราควรไปฟ้องผอ.โรงเรียนเลยมั้ย คือรับไม่ได้อ่ะ เป็นร.รเอกชน เสียเงินแพงซะป่าว ปต่การดูแลเด็กนี่ใช้ไม่ได้เลยอ่ะ เด็กพูดอะไรก็ไม่เชื่อ แถมโดนตีฟรีๆอีกต่างหาก เราเสียใจมากคะ ขอความคิดเห็นหน่อยนะคะ