สวัสดีครับ คือขอบอกตรงตรงอันนี้เป็นเรื่องที่เกิดห้าถึงหกปีแล้วแต่ยังไม่กล้าเล่ากลัวเพื่อนที่โรงเรียนหรือคนที่รู้จักจากมาเจอ คือเรื่องมีอยู่ว่าตั้งแต่ผมได้เข้ามารร.นี้ผมถูกเพื่อนๆเกือบทั้งห้องรุมแกล้งผมอยู่คนเดียวทั้งร่างกายและจิตใจ โดยผมจะขอเล่าแต่ละเหตุการณ์นะครับ
เหตุการณ์แบบที่หนึ่ง
ทุกครั้งที่ผมไปเข้าค่ายทัศนศึกษาหรือไปเข้าค่ายลูกเสือกับทางโรงเรียนทุกครั้งที่มีการไปวัดในขณะที่พระทั้งเก้ารูปกำลังทุกครั้งที่ผมไปเข้าค่ายทัศนศึกษาหรือไปเข้าค่ายลูกเสือกับทางโรงเรียนทุกครั้งที่มีการไปวัดในขณะที่พระทั้งเก้ารูปกำลังสวด พอถึงบทสวดศีลห้าพอถึงตรงท่อนหนึ่ง เพื่อนเพื่อนผมมากกว่า 10 คนหรือ 20 คนรุมหัวเราะเยาะผมอยู่คนเดียวแบบค่อนข้างเสียงดังเลยเพียงเพราะว่าชื่อของผมคล้ายกับคำใน เพื่อนเพื่อนผมมากกว่า 10 คนหรือ 20 คนรุมหัวเราะเยาะผมอยู่คนเดียวแบบค่อนข้างเสียงดังเลยเพียงเพราะว่าชื่อคล้ายกับคำในบทสวดโดยไม่ให้เกียรติผู้อื่นหรือสถานที่ในวัดเลยแม้แต่นิดเดียว คือแบบเลวมากๆอ่ะ และไม่ได้ทำไม่ได้ทำครั้งเดียวนะทำแบบนี้ปีละสองถึงสามครั้งทุกครั้งที่พระมาโรงเรียนหรือไปวัดจะทำทุกครั้งเลยเป็นระยะเวลาเจ็ดปีซ้อนแถมไม่อายด้วย(โคตรสุดยอดเลยว่ะ) สงสารพระมากๆๆๆ ถึงตอนนี้มันยังฝังรากลึกในจิตใจผมอยู่เลย
เหตุการณ์แบบที่สอง
เพื่อนผมคนหนึ่งที่เปรียบเสมือนเป็นแกนนำหลังรู้เรื่องว่าพ่อผมได้ช่วยชีวิตดาราคนไว้ กลับล้อผมว่าพ่อผมขาย…เน่า และได้เอาเรื่องนี้ไปชักชวนให้เพื่อนเกือบทั้งห้องล้อผมสุดท้ายเพื่อนผมล้อกันทั้งห้องเลยล้อทุกวันด้วยล้อในขณะที่ครูสอนด้วยและขำหนักมาก สีหน้าแต่ละคนดูสะใจอย่างมาก นั่นทำให้นั่นทำให้ทุกครั้งผมรู้สึกโกรธโมโหเป็นอย่างมาก จนบางครั้งทนไม่ไหว ไปฟาดหัวเพื่อนอยู่แล้วอยู่บางครั้งผมออกมาโรเบิร์ตกลางห้องเลยแบบไม่สนอะไรทั้งสิ้นมันไม่ไหวว่ะ i here คือพ่อของผมอุตส่าห์ช่วยชีวิตคนนะเว้ยแล้ว-ึงมาล้อเลียนเป็นเรื่องตลกแบบเนี่ยมันสมควรไหมอ่ะสมควรเป็นสุภาพบุรุษไหมโดนทุกวันเลย บางครั้งนแอบมาชดูผมฉี่ในห้องน้ำ พร้อมกับยิ้มหัวเราะสะใจ(คือเอาจริงๆพวก-ึงเป็นค…อะไรว่ะ ทั้งชาตินี้ไม่เคยเห็นคนเยี่ยวรึไง แหะๆๆขอโทษครับ ขอระบายหน่อย)
แล้วส่วนแบบอื่นๆก็จะเป็นการล้อเลียนทั้งฉายาหรือล้อเลียนในแบบอื่นๆ ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างหนักมากโดนแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา บางคนนี่ขณะเข้าแถวแอบมาหยิกผมตอนที่ยืนอยู่ข้างหลังหลังผมแล้วพอครูเห็นเหตุการณ์หรือเพื่อนคนอื่นเห็นเหตุการณ์เพื่อนคนนั้นก็เสแสร้งทำเป็นไม่ได้ทำสตอเบอแหลมากE SAD Kuay แล้วผมจะเอาคืนมันก็ต่อยผมแล้วก็จะเอาไปฟ้องครูทั้งที่ตัวเองเป็นคนเริ่มก่อนแท้แท้และสุดท้ายครูส่วนใหญ่ก็จะเข้าข้างพวกมันผิดคนเดียวคือมันชั่วนะเว้ยเพื่อนที่แกล้งผมอ่ะทั้งไม่อาย สตอเบอแหลโกหกครูแกล้งผมล้อผมทุกวินาทีที่อยู่โรงเรียนแถมเฉยบอกว่าจะแก้แต่ก็ไม่แก้เลยแม้แต่นิดเดียวจนสุดท้ายแม่ผมทนไม่ไหวต้องให้ผมโรงเรียนนี้สิ่งที่ผมโดนมันหนักมากเลยนะครับผมขอบอกตรงตรงขนาดที่ว่าตอน ครูจากโรงเรียนใหม่ตอบรับผมให้เข้าเรียนที่โรงเรียนใหม่ผมร้องไห้กลางห้องเลยแบบไม่สนอะไรทั้งสิ้นทั้งคุณครูที่นั่งอยู่ประมาณสี่ถึงห้าคน ต่างพากันงงเลยว่าผมร้องไห้ทำไม คือมันสุดจะบรรยายจริงๆแทบไม่อยู่เลยเปรียบเสมือนเราถูกบังคับอยู่ในคุกถูกทรมานทุบตีหนาสาหัสวันนึงเราได้รับการปล่อยตัวเป็นอย่างนั้นเลยครับ คือสรุปแล้วเพื่อนที่แกล้งผมทุกคนคือพวกเขาเลวมากจริงๆครับ(โคตรเ-ี้ยเลยว่ะE SAD….)โทดครับหลุดอีกแล้ว5555 คือมันสุดแล้วจริงๆครับอยากระบายมากๆ
เอออีกเรื่องนึงผมเกือบลืมไป มีเพื่อนผมสองคนที่เป็นที่ชอบแกล้งผมเป็นประจำได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นอีกด้วยผมตกใจมากได้รางวัลได้ยังไงทั้งทั้งที่แกล้งผมเป็นประจำทุกวัน คือคณะครูปล่อยผ่านมาได้ยังไง
แล้วสุดท้ายเหตุการณ์การโดนกลั่นแกล้งก่อนที่แม่ผมจะตัดสินใจให้ผมลาออก
มันเป็นประมาณว่าเพื่อนผมประมาณห้าถึงหกคนชักชวนให้ผมมาเล่นต่อยมวยแบบเล่นจริงๆแบบเล่นรุนแรงโดยที่ผมไม่ได้อยากเล่นด้วยเลยแต่พวกเขาบังคับผมแล้วก็เริ่มต่อยเลยไม่ถามผมอะไรใดใดทั้งสิ้นผมปกป้องตัวเองอย่างถึงที่สุด และมีช่วงนึงที่ผมเอารองเท้าปลาใส่เพื่อนทุกคนแล้วทุกคนที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครช่วยผมเลยเอาแต่ส่งเสียงเชียร์ว่า “เห้ยๆเอาแ-่งเลย55ประมาณ60กว่าคนครับ และหลังครูเห็นเหตุการณ์ครูทำอะไรรู้มั้ยครับ ปล่อยให้เพื่อนที่แกล้งผมทุกคนเข้าห้องไปอย่างหน้าตาเฉยและดุด่าผมคนเดียวและโทรไปแจ้งแม่ผมด้วยโดยที่ไม่สอบถามเหตุการณ์เลยแม้แต่นิดเดียวจนสุดท้ายแม่ผมคิดว่าผมไม่ใช่คนอย่างนั้นเลยตัดสินใจเอาผมออกจากโรงเรียนนี้เพราะผมดูไม่เหมาะกับโรงเรียนนี้ วินาทีนั้นผมดีใจมากๆน้ำตาจะไหลเลยไม่เคยคิดว่าในชีวิตผมจะได้มาถึงวันนี้ เป็นวันที่ผมเฝ้ารอคอยมานานตั้งแต่ ป. 3 จนมาถึงวันนี้ตอน ม. 1 เทอม 2 วินาทีนั้นผมอยากจะกราบพระพุทธเจ้าว่าขอบคุณครับที่ช่วยคุ้มครองผมมอบความยุติธรรมให้กับผมโดยสรุปแล้วผมไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ลาออกจากโรงเรียนนั้นมา
สุดท้ายนี้ถ้าผมพิมพ์ไปแล้วไม่ถูกใจใครผมต้องกราบขอโทษด้วยนะครับแต่ผมอยากระบายกับสิ่งที่ผมเจอมาจริงๆมันอัดอั้นมานานมากแล้วแล้วผมไม่สามารถระบายได้เลยกลัวทำให้ทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง และประเด็นคือ พ่อแม่ผมอุตส่าห์เสียตังค์เพื่อมาจ่ายค่าเทอมในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงชายล้วนชื่อดังในกรุงเทพแต่ได้รับสังคมแบบนี้น่ะหรอได้รับความยุติธรรมแบบนี้น่ะหรอมันคุ้มไหมกับสิ่งที่เจอผมซึมเศร้าเลยนะครับมันเจ็บปวดจริงๆผมแทบไม่มีความสุขเลยในโรงเรียนนี้ตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่ แล้วใครคิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องราวที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้คอมเม้นต์มาพูดคุยกันได้เลยนะครับผมอยากจะฟังความคิดเห็นของทุกคนครับ
แชร์ประสบการณ์การถูกบูลลี่ในรร.คริสต์ชื่อดังในกทม
เหตุการณ์แบบที่หนึ่ง
ทุกครั้งที่ผมไปเข้าค่ายทัศนศึกษาหรือไปเข้าค่ายลูกเสือกับทางโรงเรียนทุกครั้งที่มีการไปวัดในขณะที่พระทั้งเก้ารูปกำลังทุกครั้งที่ผมไปเข้าค่ายทัศนศึกษาหรือไปเข้าค่ายลูกเสือกับทางโรงเรียนทุกครั้งที่มีการไปวัดในขณะที่พระทั้งเก้ารูปกำลังสวด พอถึงบทสวดศีลห้าพอถึงตรงท่อนหนึ่ง เพื่อนเพื่อนผมมากกว่า 10 คนหรือ 20 คนรุมหัวเราะเยาะผมอยู่คนเดียวแบบค่อนข้างเสียงดังเลยเพียงเพราะว่าชื่อของผมคล้ายกับคำใน เพื่อนเพื่อนผมมากกว่า 10 คนหรือ 20 คนรุมหัวเราะเยาะผมอยู่คนเดียวแบบค่อนข้างเสียงดังเลยเพียงเพราะว่าชื่อคล้ายกับคำในบทสวดโดยไม่ให้เกียรติผู้อื่นหรือสถานที่ในวัดเลยแม้แต่นิดเดียว คือแบบเลวมากๆอ่ะ และไม่ได้ทำไม่ได้ทำครั้งเดียวนะทำแบบนี้ปีละสองถึงสามครั้งทุกครั้งที่พระมาโรงเรียนหรือไปวัดจะทำทุกครั้งเลยเป็นระยะเวลาเจ็ดปีซ้อนแถมไม่อายด้วย(โคตรสุดยอดเลยว่ะ) สงสารพระมากๆๆๆ ถึงตอนนี้มันยังฝังรากลึกในจิตใจผมอยู่เลย
เหตุการณ์แบบที่สอง
เพื่อนผมคนหนึ่งที่เปรียบเสมือนเป็นแกนนำหลังรู้เรื่องว่าพ่อผมได้ช่วยชีวิตดาราคนไว้ กลับล้อผมว่าพ่อผมขาย…เน่า และได้เอาเรื่องนี้ไปชักชวนให้เพื่อนเกือบทั้งห้องล้อผมสุดท้ายเพื่อนผมล้อกันทั้งห้องเลยล้อทุกวันด้วยล้อในขณะที่ครูสอนด้วยและขำหนักมาก สีหน้าแต่ละคนดูสะใจอย่างมาก นั่นทำให้นั่นทำให้ทุกครั้งผมรู้สึกโกรธโมโหเป็นอย่างมาก จนบางครั้งทนไม่ไหว ไปฟาดหัวเพื่อนอยู่แล้วอยู่บางครั้งผมออกมาโรเบิร์ตกลางห้องเลยแบบไม่สนอะไรทั้งสิ้นมันไม่ไหวว่ะ i here คือพ่อของผมอุตส่าห์ช่วยชีวิตคนนะเว้ยแล้ว-ึงมาล้อเลียนเป็นเรื่องตลกแบบเนี่ยมันสมควรไหมอ่ะสมควรเป็นสุภาพบุรุษไหมโดนทุกวันเลย บางครั้งนแอบมาชดูผมฉี่ในห้องน้ำ พร้อมกับยิ้มหัวเราะสะใจ(คือเอาจริงๆพวก-ึงเป็นค…อะไรว่ะ ทั้งชาตินี้ไม่เคยเห็นคนเยี่ยวรึไง แหะๆๆขอโทษครับ ขอระบายหน่อย)
แล้วส่วนแบบอื่นๆก็จะเป็นการล้อเลียนทั้งฉายาหรือล้อเลียนในแบบอื่นๆ ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างหนักมากโดนแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา บางคนนี่ขณะเข้าแถวแอบมาหยิกผมตอนที่ยืนอยู่ข้างหลังหลังผมแล้วพอครูเห็นเหตุการณ์หรือเพื่อนคนอื่นเห็นเหตุการณ์เพื่อนคนนั้นก็เสแสร้งทำเป็นไม่ได้ทำสตอเบอแหลมากE SAD Kuay แล้วผมจะเอาคืนมันก็ต่อยผมแล้วก็จะเอาไปฟ้องครูทั้งที่ตัวเองเป็นคนเริ่มก่อนแท้แท้และสุดท้ายครูส่วนใหญ่ก็จะเข้าข้างพวกมันผิดคนเดียวคือมันชั่วนะเว้ยเพื่อนที่แกล้งผมอ่ะทั้งไม่อาย สตอเบอแหลโกหกครูแกล้งผมล้อผมทุกวินาทีที่อยู่โรงเรียนแถมเฉยบอกว่าจะแก้แต่ก็ไม่แก้เลยแม้แต่นิดเดียวจนสุดท้ายแม่ผมทนไม่ไหวต้องให้ผมโรงเรียนนี้สิ่งที่ผมโดนมันหนักมากเลยนะครับผมขอบอกตรงตรงขนาดที่ว่าตอน ครูจากโรงเรียนใหม่ตอบรับผมให้เข้าเรียนที่โรงเรียนใหม่ผมร้องไห้กลางห้องเลยแบบไม่สนอะไรทั้งสิ้นทั้งคุณครูที่นั่งอยู่ประมาณสี่ถึงห้าคน ต่างพากันงงเลยว่าผมร้องไห้ทำไม คือมันสุดจะบรรยายจริงๆแทบไม่อยู่เลยเปรียบเสมือนเราถูกบังคับอยู่ในคุกถูกทรมานทุบตีหนาสาหัสวันนึงเราได้รับการปล่อยตัวเป็นอย่างนั้นเลยครับ คือสรุปแล้วเพื่อนที่แกล้งผมทุกคนคือพวกเขาเลวมากจริงๆครับ(โคตรเ-ี้ยเลยว่ะE SAD….)โทดครับหลุดอีกแล้ว5555 คือมันสุดแล้วจริงๆครับอยากระบายมากๆ
เอออีกเรื่องนึงผมเกือบลืมไป มีเพื่อนผมสองคนที่เป็นที่ชอบแกล้งผมเป็นประจำได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นอีกด้วยผมตกใจมากได้รางวัลได้ยังไงทั้งทั้งที่แกล้งผมเป็นประจำทุกวัน คือคณะครูปล่อยผ่านมาได้ยังไง
แล้วสุดท้ายเหตุการณ์การโดนกลั่นแกล้งก่อนที่แม่ผมจะตัดสินใจให้ผมลาออก
มันเป็นประมาณว่าเพื่อนผมประมาณห้าถึงหกคนชักชวนให้ผมมาเล่นต่อยมวยแบบเล่นจริงๆแบบเล่นรุนแรงโดยที่ผมไม่ได้อยากเล่นด้วยเลยแต่พวกเขาบังคับผมแล้วก็เริ่มต่อยเลยไม่ถามผมอะไรใดใดทั้งสิ้นผมปกป้องตัวเองอย่างถึงที่สุด และมีช่วงนึงที่ผมเอารองเท้าปลาใส่เพื่อนทุกคนแล้วทุกคนที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครช่วยผมเลยเอาแต่ส่งเสียงเชียร์ว่า “เห้ยๆเอาแ-่งเลย55ประมาณ60กว่าคนครับ และหลังครูเห็นเหตุการณ์ครูทำอะไรรู้มั้ยครับ ปล่อยให้เพื่อนที่แกล้งผมทุกคนเข้าห้องไปอย่างหน้าตาเฉยและดุด่าผมคนเดียวและโทรไปแจ้งแม่ผมด้วยโดยที่ไม่สอบถามเหตุการณ์เลยแม้แต่นิดเดียวจนสุดท้ายแม่ผมคิดว่าผมไม่ใช่คนอย่างนั้นเลยตัดสินใจเอาผมออกจากโรงเรียนนี้เพราะผมดูไม่เหมาะกับโรงเรียนนี้ วินาทีนั้นผมดีใจมากๆน้ำตาจะไหลเลยไม่เคยคิดว่าในชีวิตผมจะได้มาถึงวันนี้ เป็นวันที่ผมเฝ้ารอคอยมานานตั้งแต่ ป. 3 จนมาถึงวันนี้ตอน ม. 1 เทอม 2 วินาทีนั้นผมอยากจะกราบพระพุทธเจ้าว่าขอบคุณครับที่ช่วยคุ้มครองผมมอบความยุติธรรมให้กับผมโดยสรุปแล้วผมไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ลาออกจากโรงเรียนนั้นมา
สุดท้ายนี้ถ้าผมพิมพ์ไปแล้วไม่ถูกใจใครผมต้องกราบขอโทษด้วยนะครับแต่ผมอยากระบายกับสิ่งที่ผมเจอมาจริงๆมันอัดอั้นมานานมากแล้วแล้วผมไม่สามารถระบายได้เลยกลัวทำให้ทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง และประเด็นคือ พ่อแม่ผมอุตส่าห์เสียตังค์เพื่อมาจ่ายค่าเทอมในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงชายล้วนชื่อดังในกรุงเทพแต่ได้รับสังคมแบบนี้น่ะหรอได้รับความยุติธรรมแบบนี้น่ะหรอมันคุ้มไหมกับสิ่งที่เจอผมซึมเศร้าเลยนะครับมันเจ็บปวดจริงๆผมแทบไม่มีความสุขเลยในโรงเรียนนี้ตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่ แล้วใครคิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องราวที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้คอมเม้นต์มาพูดคุยกันได้เลยนะครับผมอยากจะฟังความคิดเห็นของทุกคนครับ