หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
รีวิวที่เที่ยวที่คนไทยหลายคนอาจจะไม่รู้จัก แบกเป้เดินป่าไต่เขาในเกาะแห่งภูเขาไฟ La Reunion ที่มหาโหดจนไม่มีวันลืม
กระทู้สนทนา
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เดินป่า
เที่ยวภูเขา
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
สวัสดีครับ นี่เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกครับ เลยเปิดตัวด้วยการรีวิวเกาะ La Reunion (ลา เฆรอูนียง)
สถานที่คนไทยหลายคนอาจไม่รู้จักว่ามันคือที่ไหน เกาะนี้เป็นหนึ่งในเกาะที่อยู่ใต้การปกครองของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดียฝั่งตอนใต้ของทวีฟแอฟริกา
เป็นเกาะเล็กๆที่มีเส้นรอบเกาะแค่ 250 กิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นภูเขา หุบเขา และภูเขาไฟ มีที่ราบน้อยมากแค่ที่ชายทะเล ดังนั้นผู้คนจึงไปปลูกบ้านอยู่บนภูเขากัน มีประชากรไม่ถึง 1 ล้านคน ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ในเกาะนี้ ทั้งอินเดีย แอฟริกัน และคนฝรั่งเศสแท้ๆที่ย้ายถิ่นฐานมาก็มากมาย
ทั้งภาษา กฎหมาย ห้างร้าน ธนาคาร บริษัท เงินตรา ก็เหมือนกันกับที่ฝรั่งเศสทุกอย่าง สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆก็เอาข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากแผ่นดินแม่ แต่ก็มีสินค้าบางอย่างที่เป็นของท้องถิ่นเอง ดังที่จะได้เห็นในรีวิวด้านล่าง
ถ้าพูดง่ายๆให้เข้าใจ เกาะนี้ก็เปรียบเสมือนเป็นจังหวัดหนึ่งของฝรั่งเศสนั่นเอง ถึงแม้จะอยู่ใกลกันคนละทวีป เกือนคนละฝั่งซีกโลกก็ตาม
เริ่มต้นจากเพื่อนผม Johnny เป็นคนจากเกาะนี้ มาทำงานที่เมืองไทยได้ 10 กว่าปี ได้เสียชีวิตลงเมื่อปีที่แล้ว นี่ก็ครบ 1 ปีแล้ว ผมได้สัญญากับครอบครัวเค้าว่าจะไปเยี่ยมที่หน้าหลุมศพ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง
สำหรับคนไทยที่อยากไปเที่ยวที่นี่ จำเป็นต้องมีวีซ่าพิเศษสำหรับเกาะนี้โดยเฉพาะ เชงเก้นวีซ่าไม่สามารถใช้แทนกันได้เพราะเกาะนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในยุโรป แต่สามารถไปยื่นเรื่องขอวีซ่าได้ที่เดียวกันกับของฝรั่งเศสเลย
เรื่องการเดินทาง เมื่อก่อนนี้จะมีเที่ยวบินจากกรุงเทพไปหยุดพักที่อินเดียแล้วถึงจะไปเกาะนี้ แต่เมื่อ 3 อาทิตย์ก่อนนี้เอง Air Austral ได้เปิดเส้นทางใหม่เป็นครั้งแรกในไทย ที่บินตรงจากกรุงเทพไปเกาะนี้ได้เลย ใช้เวลาทั้งหมด 8 ชั่วโมง และมีสองเที่ยวต่อสัปดาห์เท่านั้น
ระหว่างเส้นทางบินจากกรุงเทพจนถึงปลายทาง จะไม่บินผ่านพื้นดินเลย ทะเลล้วนๆ ฟังดูน่ากลัวเนอะ แต่ถ้าดูในกูเกิ้ลแมพให้ละเอียด จะเห็นมีเกาะเล็กๆอันนึงชื่อว่า Diego Garcia ห่างใกลอ้างว้างเดียวดายกลางมหาสมุทร ไม่มีบ้านเรือนและประชากร แต่ที่น่าแปลกใจคือที่เกาะนี้ดันมีสนามบินด้วย อาจจะเผื่อเอาไว้เวลามีเครื่องบินลงจอดฉุกเฉินก็เป็นได้ ใครอยากรู้ว่าเกาะนี้คืออะไรก็ลองกูเกิ้ลดูนะครับ
วันเดินทางผมก็ได้แกรนด์โอเพ่นนิ่งเลยแหละ เป็นผู้โดยสารเที่ยวแรกของเส้นทางนี้ ทางสายการบินก็เลยแจกของที่ระลึกมาเพียบเลย ส่วนเครื่องบินก็เป็นเป็นโบอิ้ง 787 เป็นเครื่องใหม่เอี่ยมที่เพิ่งสร้างเสร็จออกมาจากโรงงานสดๆใหม่ๆเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง
ทริปนี้ใช้เวลาทั้งหมด 10 วัน โดยอยู่ทั้งในตัวเมืองและแบกเป้เดินป่ากันเป็นกลุ่ม ... เอาล่ะ มาเริ่มรีวิวกันดีกว่า
ผมเดินทางในวันที่ 3 พ.ย. ที่หน้าจอจะเขียนไว้ว่า "รียูเนี่ยน" แต่จริงๆออกเสียงตามภาษาว่า "เฆรอูนียง"
เครื่องบินใหม่ป้ายแดงมาก เทคโนโลยีต่างๆก็ทันสมัย จอทีวีก็เป็นแบบใหม่ความชัดก็น้องๆไอแพดเลยทีเดียว ระบบสัมผัสหน้าจอก็ปรู๊ดปร๊าดมาก ทำให้การใช้งานลื่นปรื๊ดคล้ายๆแทปเลตเลย
หน้าต่างเครื่องบินเป็นระบบ Dimmable Windows เป็นสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจมาก เค้าบอกว่าเป็นหน้าต่างเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และไม่ต้องเปิดเลื่อนขึ้น-ลงเหมือนแบบก่อนแล้ว แค่แตะที่ปุ่มเบาๆ หน้าต่างก็เปลี่ยนจากใสๆค่อยๆมืดลง และสามารถปรับความมืดได้ 5 ระดับ
และสิ่งที่ดีที่สุดคือ แทบไม่มีผู้โดยสารเลย อาจเพราะเป็นเส้นทางใหม่นั่นเอง รู้สึกเหมือนเหมาลำ
เครื่องบินจะบินอ้อมผ่านไปทางหัวหินและภูเก็ต โดยเลี่ยงที่จะบินผ่านน่านฟ้าของพม่าและอินโดนีเซีย แล้วถึงจะอ้อมวกเข้ามาอยู่ในเส้นทางตรง ใช้เวลา 8 ชั่วโมงก็มาถึง La Reunion
จะบอกไว้ก่อนว่า ที่เกาะนี้ห้ามนำเอาพืช ผลไม้ ทุกชนิดผ่านเข้าเกาะเด็ดขาด ผมเองก็เอากล้วยไม้ที่ซื้อจากสุวรรณภูมิมาฝากคนที่นี่ ก็โดนยึดเอาไปทำลายต่อหน้าต่อตา
Andrea เพื่อนที่เป็นคนจัดทริปนี้ก็มารอรับและพาไปที่พัก Airbnb ใน Saint-Denis ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะ เพราะที่บ้าน Andrea ก็มีอีกกลุ่มหนึ่งพักกันเต็มทุกห้องแล้ว เราจึงแยกออกมา
อ้ออ.. ลืมบอกไปว่าเวลาที่นี่ช้ากว่าที่ไทยแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น พอถึงที่พักก็เริ่มเย็นแล้วจึงออกมาเดินเล่นและหาอะไรกิน
ตามที่บอกไว้ เนื่องด้วยพื้นที่ราบมีน้อยมาก ผู้คนจะสร้างบ้านอยู่บนภูเขากัน
มาถึงที่นี่ทั้งทีก็ต้องนี่เลย BOURBON เป็นเบียร์ประจำเกาะนี้ มีห้ารสชาติ ซึ่งในรีวิวด้านล่างก็จะเห็นค่อนข้างบ่อย จากนั้นก็ตามอาหารกล่องง่ายๆสำหรับเย็นนี้
รุ่งขึ้นก็เดินสำรวจในเมืองชิลๆก่อน รอเพื่อนอีกสองคนที่ยังมาไม่ถึง พอครบทีมแล้วก็ถึงจะไปเข้าป่ากัน
น่าเสียดายที่เกาะนี้ไม่สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ ทั้งๆที่มีชายหาดงามๆหลายที่ เพราะว่าฉลามชุมมาก ทุกๆปีจะต้องมีข่าวนักท่องเที่ยวที่ไม่สนคำเตือน ลงไปเล่นน้ำแล้วโดนจู่โจมเสียชีวิตหลายราย แต่ทางเกาะก็มีหาดบางแห่งที่เอาตาข่ายกัน และมีเจ้าหน้าที่เฝ้าทั้งทางเรื่อทางบก เฝ้าระวังอยู่อย่างแน่นหนา ผู้คนจึงมาว่านน้ำในที่แห่งนี้กัน
ส่วนผมเองไม่ได้ไป เพราะใช้เวลาเกือบทั้งหมดในการเดินป่าไต่เขาแทน
อีกวันนึงเมื่อเพื่อนมากันครบแล้ว ก็พากันไปเยี่ยมครอบครัว Johnny และพากันไปที่สุสาน
ตกเย็นทุกคนก็แยกย้ายไปที่พักเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่ เพราะต้องใช้เวลาเดินเท้าหลายชั่วโมง ถ้าไปสายก็อาจจะถึงจุดหมายค่ำ
ในกลุ่มมีทั้งหมด 10 คน ซึ่งเป็นเพื่อน Johnny กันทั้งหมด ชาย 9 คน หญิง 1 คน เป็นคนฝรั่งเศส 8 คน อิตาเลี่ยน 1 คน และคนไทย 1 คน ซึ่งก็คือผมเอง และผมก็เป็นคนที่เด็กที่สุดในกลุ่มด้วย หุหุ
พวกเราขับรถ 2 คัน ขึ้นเขาเพื่อไปจุดจอดรถที่ Col des Boeufs ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อจอดรถแล้วก็ต่างแบกสัมภาระของใครของมัน เพราะต้องไปขอนค้างในหุบเขา 2 คืน
ก่อนอื่นก็ขอแชะรูปก่อนว่าเรากำลังจะเริ่มการเดินทางกันแล้วนะ หุบเขาหฤโหดที่ชื่อว่า Mafate
จุดหมายแรกของหุบเขานี้คือหมู่บ้าน Marla เป็นหมู่บ้านที่รถเข้าไม่ถึง ต้องใช้การเดินเท้าลงไป 2 ชั่วโมง โดยความสูงเริ่มต้นอยู่ที่ 2011 เมตร
เนื่องด้วยไม่มีทางรถ คนในหมู่บ้านนี้จึงลำเลียงของกินของใช้กันโดยเฮลอคอปเตอร์เท่านั้น ตรงสุดปลายทางถนนก่อนที่จะเป็นทางเดินเท้า จึงเป็นลานขนส่งและมีตู้คอนเทนเนอร์ไว้สำหรับใส่สินค้า รอพักไว้ให้ ฮ. มารับของและขนไปยังหมู่บ้าน
บรรยากาศระหว่างทางเดิน ระหว่างทางก็มีสตรอว์เบอร์รี่ป่าด้วนนะเออ เดินไปด้วย เก็บกินไปด้วย หนุกหนาน
เราเดินกันมา 2 ชั่วโมงแล้ว ไต่ลงมาประมาณ 600 เมตร ก็ประมาณความสูงของตึกใบหยก 2 ต่อกันสองตึกอ่ะครับ ทำไมมันยังไม่ถึงซักทีวะ ทุกคนก็เลยหาที่นั่งพักกันก่อน บ้างก็นอนไปเลย
สักพักก็ออกเดินต่อ จนถึงลำธารก็เป็นเวลาเที่ยงแล้วล่ะ เลยตั้งวงปิคนิคตรงนี้มันซะเลย มันไม่ใช่อาหารที่เริดหรู แต่ ณ เวลานี้ มันคืออาหารที่อร่อยที่สุดในโลก
ลุง Serge อายุ 67 ซึ่งเป็นคนที่อายุมากที่สุดในทีม เมื่อเห็นลำธารก็รีบถอดรองเท้าและหย่อนก้นทิ้งตัวลงโขดหินทันที พวกเราเรียกเค้าว่า "ลุง KFC"
เดี๋ยวมาต่อครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ประตูทางออกฉุกเฉินเครื่องบินถูก "เปิดกลางอากาศ" จะเกิดอะไรขึ้น?
ประตูทางออกฉุกเฉินเครื่องบินถูก "เปิดกลางอากาศ" จะเกิดอะไรขึ้น? แดน บั๊บ อดีตนักบินสายการบินพาณิชย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยการบิน เปิดเผยกับ Reader’s Digest ว่า หากมีการเปิดประต
ต้นโพธิ์ต้นไทร
Transit tour สนามบินอินซอน ICN
ได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินจากไทยไปอเมริกามีเวลาเปลี่ยนเครื่องนาน จึงทำการจองTransit tour เอาไว้ครับ มีทั้งอาคารผู้โดยสาร1และ2ครับ นี่เป็นเว็บไซต์สำหรับการเข้าไปจองทัวร์ฟรีนะครับ https://www.airport.kr/
Champ CNX
รีวิว สายการบินไทย ชั้นธุรกิจ TG665 เซี่ยงไฮ้ - กรุงเทพฯ
หลังจากที่ไม่ได้เดินทางมานาน กลับมาบินอีกครั้งมีเรื่องให้น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะกับสายการบินไทย ชั้นธุรกิจ บนเส้นทางเซี่ยงไฮ้ - กรุงเทพฯ เที่ยวบิน TG665 ที่ขึ้นชื่อ 🛫 การเช็คอินและการผ่านด่านตรวจคนเข้
GoBkk
ฝรั่งเศสเสริมทัพยูเครนด้วยเครื่องบินรบ Mirage 2000-5F
ฝรั่งเศสเสริมทัพยูเครนด้วยเครื่องบินรบ Mirage 2000-5Fในวันที่ 24 มิถุนายน 2025 ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้พบกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการร
Thai_Weapon
สงสัยว่า Air Austral ที่บินมาจากเกาะ La Reunion ที่มีที่เที่ยวเหมือนไทยคือ ทะเล แสงแดด ภูเขามีผู้โดยสารมาไทยเยอะเหรอครับ
สงสัยว่า Air Austral ที่บินมาจากเกาะ La Reunion (ลา เฆรอูนียง) อาณานิคมโพ้นทะเลของฝรั่งเศสในทวีปแอฟริกา ที่มีที่เที่ยวเหมือนไทยคือ เน้นทะเล แสงแดด อากาศร้อน และภูเขา มีผู้โดยสารมาไทยเยอะเหรอครับ แล้วม
tottui
ปลุกสนามบินเบตง! อีซี่แอร์ไลน์เปิดฟ้าเชื่อม “หาดใหญ่” เริ่ม 27 มิ.ย. กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้
ที่มา :- https://mgronline.com/south/detail/9680000060349 (ชมคลิป) ปลุกสนามบินเบตง! อีซี่แอร์ไลน์เปิดฟ้าเชื่อม “หาดใหญ่” เริ่ม 27 มิ.ย. กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้ อีซี่แอร์ไลน์ (Ezy Airlin
totoonline
รัฐสภาสวีเดนอนุมัติการเจรจากับเปรูเรื่องการขายเครื่องบินรบ Gripen E/F จำนวน 12 ลำ
รัฐสภาสวีเดนอนุมัติการเจรจากับเปรูเรื่องการขายเครื่องบินรบ Gripen E/F จำนวน 12 ลำสต็อกโฮล์ม, สวีเดน – วันที่ 11 มิถุนายน 2568 รัฐสภาสวีเดน (Riksdag) ได้อนุมัติงบประมาณแก้ไขเพิ่มเติมประจำฤดูใบไม้
Thai_Weapon
ฝรั่งเศสและ Saab ลงนามข้อตกลงสำหรับ GlobalEye AEW&C
ฝรั่งเศสและ Saab ลงนามข้อตกลงสำหรับ GlobalEye AEW&C ในงาน Paris Air Show ครั้งนี้ ความร่วมมือด้านกลาโหมของยุโรปได้ก้าวไปอีกขั้น เมื่อบริษัท Saab ของสวีเดน และหน่วยงานจัดซื้อด้านกลาโหมของฝรั่งเศส ไ
Thai_Weapon
รู้จัก "B-2 Spirit" เครื่องบินรบสหรัฐฯ ในปฏิบัติการทิ้งระเบิดอิหร่านสายฟ้าแลบ
รู้จัก "เครื่องบินรบล่องหน B-2" อากาศยานทิ้งระเบิดสหรัฐฯ สุดล้ำ ที่มีเพียง 21 ลำทั่วโลก กับการเผยโฉมครั้งแรกในสงครามคอซอวอ สู่ปฏิบัติการทิ้งระเบิดอิหร่านสายฟ้าแลบ โลกต้องตกตะลึงอีกครั้ง หลัง
น้องริวคุง
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เดินป่า
เที่ยวภูเขา
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 318
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
รีวิวที่เที่ยวที่คนไทยหลายคนอาจจะไม่รู้จัก แบกเป้เดินป่าไต่เขาในเกาะแห่งภูเขาไฟ La Reunion ที่มหาโหดจนไม่มีวันลืม
สถานที่คนไทยหลายคนอาจไม่รู้จักว่ามันคือที่ไหน เกาะนี้เป็นหนึ่งในเกาะที่อยู่ใต้การปกครองของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดียฝั่งตอนใต้ของทวีฟแอฟริกา
เป็นเกาะเล็กๆที่มีเส้นรอบเกาะแค่ 250 กิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นภูเขา หุบเขา และภูเขาไฟ มีที่ราบน้อยมากแค่ที่ชายทะเล ดังนั้นผู้คนจึงไปปลูกบ้านอยู่บนภูเขากัน มีประชากรไม่ถึง 1 ล้านคน ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ในเกาะนี้ ทั้งอินเดีย แอฟริกัน และคนฝรั่งเศสแท้ๆที่ย้ายถิ่นฐานมาก็มากมาย
ทั้งภาษา กฎหมาย ห้างร้าน ธนาคาร บริษัท เงินตรา ก็เหมือนกันกับที่ฝรั่งเศสทุกอย่าง สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆก็เอาข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากแผ่นดินแม่ แต่ก็มีสินค้าบางอย่างที่เป็นของท้องถิ่นเอง ดังที่จะได้เห็นในรีวิวด้านล่าง
ถ้าพูดง่ายๆให้เข้าใจ เกาะนี้ก็เปรียบเสมือนเป็นจังหวัดหนึ่งของฝรั่งเศสนั่นเอง ถึงแม้จะอยู่ใกลกันคนละทวีป เกือนคนละฝั่งซีกโลกก็ตาม
เริ่มต้นจากเพื่อนผม Johnny เป็นคนจากเกาะนี้ มาทำงานที่เมืองไทยได้ 10 กว่าปี ได้เสียชีวิตลงเมื่อปีที่แล้ว นี่ก็ครบ 1 ปีแล้ว ผมได้สัญญากับครอบครัวเค้าว่าจะไปเยี่ยมที่หน้าหลุมศพ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง
สำหรับคนไทยที่อยากไปเที่ยวที่นี่ จำเป็นต้องมีวีซ่าพิเศษสำหรับเกาะนี้โดยเฉพาะ เชงเก้นวีซ่าไม่สามารถใช้แทนกันได้เพราะเกาะนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในยุโรป แต่สามารถไปยื่นเรื่องขอวีซ่าได้ที่เดียวกันกับของฝรั่งเศสเลย
เรื่องการเดินทาง เมื่อก่อนนี้จะมีเที่ยวบินจากกรุงเทพไปหยุดพักที่อินเดียแล้วถึงจะไปเกาะนี้ แต่เมื่อ 3 อาทิตย์ก่อนนี้เอง Air Austral ได้เปิดเส้นทางใหม่เป็นครั้งแรกในไทย ที่บินตรงจากกรุงเทพไปเกาะนี้ได้เลย ใช้เวลาทั้งหมด 8 ชั่วโมง และมีสองเที่ยวต่อสัปดาห์เท่านั้น
ระหว่างเส้นทางบินจากกรุงเทพจนถึงปลายทาง จะไม่บินผ่านพื้นดินเลย ทะเลล้วนๆ ฟังดูน่ากลัวเนอะ แต่ถ้าดูในกูเกิ้ลแมพให้ละเอียด จะเห็นมีเกาะเล็กๆอันนึงชื่อว่า Diego Garcia ห่างใกลอ้างว้างเดียวดายกลางมหาสมุทร ไม่มีบ้านเรือนและประชากร แต่ที่น่าแปลกใจคือที่เกาะนี้ดันมีสนามบินด้วย อาจจะเผื่อเอาไว้เวลามีเครื่องบินลงจอดฉุกเฉินก็เป็นได้ ใครอยากรู้ว่าเกาะนี้คืออะไรก็ลองกูเกิ้ลดูนะครับ
วันเดินทางผมก็ได้แกรนด์โอเพ่นนิ่งเลยแหละ เป็นผู้โดยสารเที่ยวแรกของเส้นทางนี้ ทางสายการบินก็เลยแจกของที่ระลึกมาเพียบเลย ส่วนเครื่องบินก็เป็นเป็นโบอิ้ง 787 เป็นเครื่องใหม่เอี่ยมที่เพิ่งสร้างเสร็จออกมาจากโรงงานสดๆใหม่ๆเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง
ทริปนี้ใช้เวลาทั้งหมด 10 วัน โดยอยู่ทั้งในตัวเมืองและแบกเป้เดินป่ากันเป็นกลุ่ม ... เอาล่ะ มาเริ่มรีวิวกันดีกว่า
ผมเดินทางในวันที่ 3 พ.ย. ที่หน้าจอจะเขียนไว้ว่า "รียูเนี่ยน" แต่จริงๆออกเสียงตามภาษาว่า "เฆรอูนียง"
เครื่องบินใหม่ป้ายแดงมาก เทคโนโลยีต่างๆก็ทันสมัย จอทีวีก็เป็นแบบใหม่ความชัดก็น้องๆไอแพดเลยทีเดียว ระบบสัมผัสหน้าจอก็ปรู๊ดปร๊าดมาก ทำให้การใช้งานลื่นปรื๊ดคล้ายๆแทปเลตเลย
หน้าต่างเครื่องบินเป็นระบบ Dimmable Windows เป็นสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจมาก เค้าบอกว่าเป็นหน้าต่างเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และไม่ต้องเปิดเลื่อนขึ้น-ลงเหมือนแบบก่อนแล้ว แค่แตะที่ปุ่มเบาๆ หน้าต่างก็เปลี่ยนจากใสๆค่อยๆมืดลง และสามารถปรับความมืดได้ 5 ระดับ
และสิ่งที่ดีที่สุดคือ แทบไม่มีผู้โดยสารเลย อาจเพราะเป็นเส้นทางใหม่นั่นเอง รู้สึกเหมือนเหมาลำ
เครื่องบินจะบินอ้อมผ่านไปทางหัวหินและภูเก็ต โดยเลี่ยงที่จะบินผ่านน่านฟ้าของพม่าและอินโดนีเซีย แล้วถึงจะอ้อมวกเข้ามาอยู่ในเส้นทางตรง ใช้เวลา 8 ชั่วโมงก็มาถึง La Reunion
จะบอกไว้ก่อนว่า ที่เกาะนี้ห้ามนำเอาพืช ผลไม้ ทุกชนิดผ่านเข้าเกาะเด็ดขาด ผมเองก็เอากล้วยไม้ที่ซื้อจากสุวรรณภูมิมาฝากคนที่นี่ ก็โดนยึดเอาไปทำลายต่อหน้าต่อตา
Andrea เพื่อนที่เป็นคนจัดทริปนี้ก็มารอรับและพาไปที่พัก Airbnb ใน Saint-Denis ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะ เพราะที่บ้าน Andrea ก็มีอีกกลุ่มหนึ่งพักกันเต็มทุกห้องแล้ว เราจึงแยกออกมา
อ้ออ.. ลืมบอกไปว่าเวลาที่นี่ช้ากว่าที่ไทยแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น พอถึงที่พักก็เริ่มเย็นแล้วจึงออกมาเดินเล่นและหาอะไรกิน
ตามที่บอกไว้ เนื่องด้วยพื้นที่ราบมีน้อยมาก ผู้คนจะสร้างบ้านอยู่บนภูเขากัน
มาถึงที่นี่ทั้งทีก็ต้องนี่เลย BOURBON เป็นเบียร์ประจำเกาะนี้ มีห้ารสชาติ ซึ่งในรีวิวด้านล่างก็จะเห็นค่อนข้างบ่อย จากนั้นก็ตามอาหารกล่องง่ายๆสำหรับเย็นนี้
รุ่งขึ้นก็เดินสำรวจในเมืองชิลๆก่อน รอเพื่อนอีกสองคนที่ยังมาไม่ถึง พอครบทีมแล้วก็ถึงจะไปเข้าป่ากัน
น่าเสียดายที่เกาะนี้ไม่สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ ทั้งๆที่มีชายหาดงามๆหลายที่ เพราะว่าฉลามชุมมาก ทุกๆปีจะต้องมีข่าวนักท่องเที่ยวที่ไม่สนคำเตือน ลงไปเล่นน้ำแล้วโดนจู่โจมเสียชีวิตหลายราย แต่ทางเกาะก็มีหาดบางแห่งที่เอาตาข่ายกัน และมีเจ้าหน้าที่เฝ้าทั้งทางเรื่อทางบก เฝ้าระวังอยู่อย่างแน่นหนา ผู้คนจึงมาว่านน้ำในที่แห่งนี้กัน
ส่วนผมเองไม่ได้ไป เพราะใช้เวลาเกือบทั้งหมดในการเดินป่าไต่เขาแทน
อีกวันนึงเมื่อเพื่อนมากันครบแล้ว ก็พากันไปเยี่ยมครอบครัว Johnny และพากันไปที่สุสาน
ตกเย็นทุกคนก็แยกย้ายไปที่พักเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่ เพราะต้องใช้เวลาเดินเท้าหลายชั่วโมง ถ้าไปสายก็อาจจะถึงจุดหมายค่ำ
ในกลุ่มมีทั้งหมด 10 คน ซึ่งเป็นเพื่อน Johnny กันทั้งหมด ชาย 9 คน หญิง 1 คน เป็นคนฝรั่งเศส 8 คน อิตาเลี่ยน 1 คน และคนไทย 1 คน ซึ่งก็คือผมเอง และผมก็เป็นคนที่เด็กที่สุดในกลุ่มด้วย หุหุ
พวกเราขับรถ 2 คัน ขึ้นเขาเพื่อไปจุดจอดรถที่ Col des Boeufs ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อจอดรถแล้วก็ต่างแบกสัมภาระของใครของมัน เพราะต้องไปขอนค้างในหุบเขา 2 คืน
ก่อนอื่นก็ขอแชะรูปก่อนว่าเรากำลังจะเริ่มการเดินทางกันแล้วนะ หุบเขาหฤโหดที่ชื่อว่า Mafate
จุดหมายแรกของหุบเขานี้คือหมู่บ้าน Marla เป็นหมู่บ้านที่รถเข้าไม่ถึง ต้องใช้การเดินเท้าลงไป 2 ชั่วโมง โดยความสูงเริ่มต้นอยู่ที่ 2011 เมตร
เนื่องด้วยไม่มีทางรถ คนในหมู่บ้านนี้จึงลำเลียงของกินของใช้กันโดยเฮลอคอปเตอร์เท่านั้น ตรงสุดปลายทางถนนก่อนที่จะเป็นทางเดินเท้า จึงเป็นลานขนส่งและมีตู้คอนเทนเนอร์ไว้สำหรับใส่สินค้า รอพักไว้ให้ ฮ. มารับของและขนไปยังหมู่บ้าน
บรรยากาศระหว่างทางเดิน ระหว่างทางก็มีสตรอว์เบอร์รี่ป่าด้วนนะเออ เดินไปด้วย เก็บกินไปด้วย หนุกหนาน
เราเดินกันมา 2 ชั่วโมงแล้ว ไต่ลงมาประมาณ 600 เมตร ก็ประมาณความสูงของตึกใบหยก 2 ต่อกันสองตึกอ่ะครับ ทำไมมันยังไม่ถึงซักทีวะ ทุกคนก็เลยหาที่นั่งพักกันก่อน บ้างก็นอนไปเลย
สักพักก็ออกเดินต่อ จนถึงลำธารก็เป็นเวลาเที่ยงแล้วล่ะ เลยตั้งวงปิคนิคตรงนี้มันซะเลย มันไม่ใช่อาหารที่เริดหรู แต่ ณ เวลานี้ มันคืออาหารที่อร่อยที่สุดในโลก
ลุง Serge อายุ 67 ซึ่งเป็นคนที่อายุมากที่สุดในทีม เมื่อเห็นลำธารก็รีบถอดรองเท้าและหย่อนก้นทิ้งตัวลงโขดหินทันที พวกเราเรียกเค้าว่า "ลุง KFC"
เดี๋ยวมาต่อครับ