ฝากติดตามตอนอื่นๆด้วยนะครับ 

ตอนที่ 1: ออกเดินทาง / Kurama Onsen / Kurama-dera temple:
http://pantip.com/topic/35829376
ตอนที่ 2: ตอนนี้ครับ
ตอนที่ 3: Kiyomizu-dera / Higashiyama area / Modern art museum / Kamo River:
http://pantip.com/topic/35852029
ตอนที่ 4: Arashiyama:
https://pantip.com/topic/36235407
ตอนที่ 5: Takao / Gion:
https://pantip.com/topic/36477145
ตอนที่ 6: Kinkakuji / Ryoanji:
https://pantip.com/topic/36480207
ตอนที่ 2 : Fushimi Inari / Tofukuji temple / Nanzenji temple / Eikando
มาต่อกันวันที่สองนะครับ วันนี้ตั้งใจจะไปเที่ยววัดและศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องชมใบไม้แดง โดยเริ่มจากทางใต้ไล่มาขึ้นเหนือมา
ที่แรกที่จะไปคือศาลเจ้าเสาแดงที่คุ้นตาครับ….เนื่องด้วยว่าเปิดตลอด24 ชม. เลยจัดไว้อันแรก เดินรอระหว่างรอวัดอื่นๆเปิด
ผมตั้งต้นจาก Kyoto Station นั่งรถไฟ JR สาย Nara ไปลงสถานี Inari คืนก่อนแอบมาเดิน survey ว่าต้องขึ้นตรงไหน อะไรยังไง เพื่อตอนเช้าจะได้ไม่วุ่นวาย เพราะได้ยินมาว่า สถานีเกียวโตนั้นใหญ่มาก กลัวหลงเหมือนกันครับ
ปรากฏว่าตื่นสายเพราะลืมตั้งนาฬิกาปลุกครับ 55 เดินมาซื้อตั๋วรถไฟ เดินตามลูกศรมากมายแบบมั่นใจมาก…..
ขึ้นชานชลาไปรอรถ คนน้อยกว่าที่คิดครับ……แต่ชานชลาตรงข้ามคนเยอะมาก
รอไปสักพัก เอ๋!!....ทำไมมันไม่มาสักทีละ จะถึงเวลาแล้วนะ
เริ่มไม่แน่ใจครับ ลงไปดูในสถานีว่ามันยังไงซิ อ่อครับ! รอผิดชานชลาครับ ไอ้ที่คนรอเยอะๆนั้นละครับ ต้องขึ้นตรงนั้น ถึงว่าทำไมไม่มีคนเลย

คนตรงข้ามก็แอบมองผมว่า แกไปยืนไมตรงนั้นอ่อ…แกจะไปไหนอ่อ?

วังเวงมั้ยละครับ
หลังจากได้ขึ้นรถไฟ ที่ควรจะได้ขึ้นตั้งนานละ เดินทางสองสถานี ก็ถึงละครับ Fushimi Inari Shrine ที่เราคุ้นตา



ผมไม่ค่อยแน่ใจนักในส่วนของการไหว้ วัดและศาลเจ้าของที่นี่ สิ่งที่ผมทำได้คือ พนมมือแบบไทยนี่ละครับ แอบๆทำ 55

ตอนแรกตั้งใจมาให้เช้ากว่านี้ครับ แต่ก็แอบนึกว่าถ้าเช้ากว่านี้ไม่มีคนจริง แต่ก็ไม่มีแสงเช่นกัน ผมว่าเวลาที่ไปถึงนี่ก็กำลังพอดีครับ ประมาณ เจ็ดโมงกว่าๆ


ผมเดินมาถึงจุดนึงครับ… วิวมันก็ซ้ำๆละ เลยเดินลงดีกว่าครับ คนก็เริ่มทยอยมากันล่ะ

ร้านค้าข้างล่างก็เริ่มจะเปิดละครับ…. เคยเห็นสิ่งนี้ในรีวิวพี่ๆ ขอแอบชิมซะหน่อยครับ

สตอร์เบอร์รี่ลูกใหญ่แล้วหวานมากครับ ผมเลือกโมจิชาเขียว ข้างในก็คล้ายๆ ครีมชาเขียว หวานตัดกับ สตอเบอร์รี่ ดีครับ
ชิมเสร็จแล้วก็เดินขึ้นเหนืออีกสักกิโลนึง ไปวัด Tofukuji ช๊อตในใจเลยครับคือถ่ายจากสะพานผ่านสวรรค์อะไรของเค้าสักอย่างครับ แล้วจะได้รูป ที่มีสะพานตรงข้ามอีกอัน ข้างหน้าเป็นทะเลเพลิงสีแดงของต้นเมเปิ้ล

เมืองนี้คนขี่จักรยานเยอะเลยครับ ….. เดินเคี้ยวข้าวปั้นที่พกมาจาก Lawson สักพักก็ถึงที่หมายครับ วัด Tofukuji……

เดินมาภายในวัด ตามองหาสะพานนั้นอยู่ไหนๆๆๆๆๆๆๆๆ …… เจอแล้วครับ แต่เดี๋ยว!!!!!! อะไรคือป้าย
NO PHOTO/ NO PHOTO/ NO PHOTO /NO PHOTO /NO PHOTO /NO PHOTO/ NO PHOTO
ติดแบบนี้เยอะมากก พร้อมมีเจ้าหน้าที่ควบคุม
ไม่แน่ใจ ถามให้ชัวร์เลยว่าไม่ให้ถ่ายหรอครับ …… สรุปเค้าไม่ให้ถ่ายจริงๆด้วย

จะร้องไห้………ซ๊อตนี่ท่องมาจากบ้านเมื่อปีก่อนนะครับว่าต้องมาถ่าย ทำใจเลยเดินไปยืนชื่นชมแบบเจียมตัว
แต่เดี๋ยวก่อน!!!........ ทำไมทุกคนที่มา เค้าแอบถ่ายกันละ? …. พอเห็นดังนั้น เราเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามครับ…..
ท๊าดา!!!!!!!!

ทะเลเพลิงเมเปิ้ลอันร้อนแรงงงงงงง……. เดินหนีเลยครับ อิอิ! เหมือนขโมยอะไรมา
ได้คุยกับพี่ที่เค้าอยู่ที่นี่ เค้าคิดว่า งดถ่ายรูปจุดนี้เพราะว่าเป็นสะพานไม้ครับ คนจะแห่กันมาถ่ายจุดนี้กันจนแน่น คงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยน่ะครับ
จากสะพานนั่น ทางก็บังคับมาให้ผมเจอกับทางออกครับ บังคับเดินวันเวย์


ผมเดินถ่ายรูปเล่นอีกสักพักนึง ก็ล่ำลาครับ ไปวัดต่อไปดีกว่า…… เดินขึ้นเหนือไปอีกหน่อยครับเพื่อไปขึ้นสถานี Tofukuji
ระหว่างทางได้เห็นความน่ารักของคนท้องถิ่นครับ


คุณป้ากำลังอธิบายสาวเสื้อแดงที่เข้าไปถามบางอย่าง คงเกี่ยวกับดอกไม้ที่คุณป้าปลูกล่ะครับ (ผมเดา)

จากสถานี Tofukuji ผมต้องนั่งไปลง Sanjo ครับ เพื่อจะต่อ รถไฟสาย Tozai Line ไปลง สถานี Keage…..
งงอีกแล้วครับ หลงอะไรใต้ดินนักก็ไม่รู้ สุดท้ายก็หาทางออกมาได้ โดยการใช้ Google Maps นี่แหละ อาศัยดูเอามาตอนนี้เราหันไปทิศอะไร แล้วเราต้อง ไปทางทิศไหนครับ

เดินต่อครับ……..ก็นำมาสู่ Nanzenji Temple ครับ

วัดนี้ผมไม่ได้ตั้งใจมาดูใบไม้แดงอะไรครับ ….. สิ่งที่ดึงดูดความสนใจผมคือ สะพานส่งน้ำโบราณครับ

มาดูแค่นี้จริงๆครับ …… เลยไม่เสียค่าเข้าชม

จากนั้นเดินอีกอึดใจนึง ก็จะถึงวัด Eikan-do ครับ…….
เค้าบอกว่าวัดนี้เป็นวัดแห่งต้นเมเปิ้ลเลยครับ ใครที่จะมาดูใบไม้เปลี่ยนสี ห้ามพลาดวัดนี้ ค่าเข้าแพงมากก 1,000 เยน

ใช้เวลาสักพักนึงก็ออกมาจากวัดครับ…… ผมว่าวัดนี้ค่อนข้างสวยที่เดียวครับ ประทับใจระดับนึง
(ถ้ายังไม่เคยเห็นที่ Takao หรือ Arashiyama นะครับ โปรดติดตาม วันที่ 4-5 ครับ)
หมดไปแล้วนะครับ 4 ที่สำหรับวันนี้ ยังมีอีกที่นึงที่ตั้งใจจะไปครับ ผมต้องเดินกลับไปที่ สถานี Keage เหมือนตอนมา แล้วนั่งต่ออีกหนึ่งสถานีครับ


ขอนั่งพักขาแวะทาน ทาโกะยาอิ สักหน่อยนะครับ รู้สึกท้องโล่งๆ 55
ใช้เวลาเดินสักพัก.... รู้สึกเหนื่อยกว่าขามาอีก 55 แรงเริ่มหมดละครับ…. ถึงสถานี Keage นั่งต่อไปอีก 1 สถานี ลงที่Yamashina
นึกขึ้นได้ว่า วันนี้ยังไม่ได้กินอาหารแบบจริงๆจังๆ เลยแวะร้านเบอร์เกอร์กินกับวนิลลามิลค์เชคแถวสถานี แล้วค่อยไปต่อครับ
วัดที่จะไปชื่อว่า Bishamon-do จริงๆคิดว่าวันนี้ค่อนข้างหนักไป แต่เห็นว่าอยู่ใกล้ๆกัน แล้วทางกลับพอดี ก็แวะหน่อยก็ได้ครับ…..
กินเสร็จก็เดินตาม Map ต่อครับ…… เดินๆไป ผมว่าผมไม่โอเครล่ะ 555555 !!!!!!!
มันอีกกิโลกว่าเลยนะ!!!!!! เหนื่อยครับ เริ่มงอแง เลยมาหยุดที่หน้าโรงเรียน หรือ สนามกีฬา อะไรสักอย่างครับ เงียบดี ……
ผมนั่งพักขา ลมเย็นๆเงียบๆดีครับ ได้เห็นเด็กมัธยม ซ้อมเบสบอลด้วย แลดูจริงจังกันครับ

ผมประทับใจ ความบังเอิญในการมาเจอสถานที่นี้มากๆครับ
มันพอดิบพอดีจริงๆ บรรยากาศมันบอกไม่ถูกครับ มันคืออะไรที่เรียล ไม่มีนักท่องเที่ยว มีแต่คนระแวกนั้นที่ใช้ชีวิตประจำวันของเค้า
นั่งพักใหญ่ๆเลยครับ วัดเวิดไม่ไปละ 555!!! ความพิเศษมันอย่างนี้นี่เอง แค่นั่งมองคนทำกิจกรรมเพลินๆ เงียบๆก็พอละครับ

ผมตัดสินใจกลับห้องตั้งแต่บ่ายสองกว่าๆครับ อยากเก็บแรงไว้วันอื่นๆครับ เพราะพรุ่งนี้นี่เดินล้วนๆ แบบโหดๆเลยครับ แล้วค่อยออกไปเดินเล่นแถวที่พักดีกว่าครับ
นั่งรถไฟ JR ไปลงสถานีเกียวโต จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง และทุกวันของผมครับ

สำหรับวันที่สองในเกียวโตของผมก็จบแค่นี้นะครับ …… แอบเหนื่อยเหมือนกัน เลยกลับไปงีบดีกว่า 5555 เป็นทริปที่เอาแต่ใจมาก
หัวค่ำแอบไปดูห้างแถวๆ ที่พัก พอดีที่บ้านฝากซื้อของครับ
แอบดูร้านที่อยากกิน แถวยาวมาก เสียเวลารอ…. ก็เลยซื้อข้าวใน Lawson กลับมากินที่ห้องครับ….. เข้านอนเร็วหน่อยครับ พรุ่งนี้ผมต้องตื่นเช้า
ติดตามวันที่สามกันนะครับ
[CR] ตอนที่ 2 : คนเดียว-เกียวโต l ทริปใบไม้เปลี่ยนสี 10-17 พฤศจิกายน 2559 (Day 2 ตามวัดชมใบไม้แดง)
ตอนที่ 1: ออกเดินทาง / Kurama Onsen / Kurama-dera temple: http://pantip.com/topic/35829376
ตอนที่ 2: ตอนนี้ครับ
ตอนที่ 3: Kiyomizu-dera / Higashiyama area / Modern art museum / Kamo River: http://pantip.com/topic/35852029
ตอนที่ 4: Arashiyama: https://pantip.com/topic/36235407
ตอนที่ 5: Takao / Gion: https://pantip.com/topic/36477145
ตอนที่ 6: Kinkakuji / Ryoanji: https://pantip.com/topic/36480207
ตอนที่ 2 : Fushimi Inari / Tofukuji temple / Nanzenji temple / Eikando
มาต่อกันวันที่สองนะครับ วันนี้ตั้งใจจะไปเที่ยววัดและศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องชมใบไม้แดง โดยเริ่มจากทางใต้ไล่มาขึ้นเหนือมา
ที่แรกที่จะไปคือศาลเจ้าเสาแดงที่คุ้นตาครับ….เนื่องด้วยว่าเปิดตลอด24 ชม. เลยจัดไว้อันแรก เดินรอระหว่างรอวัดอื่นๆเปิด
ผมตั้งต้นจาก Kyoto Station นั่งรถไฟ JR สาย Nara ไปลงสถานี Inari คืนก่อนแอบมาเดิน survey ว่าต้องขึ้นตรงไหน อะไรยังไง เพื่อตอนเช้าจะได้ไม่วุ่นวาย เพราะได้ยินมาว่า สถานีเกียวโตนั้นใหญ่มาก กลัวหลงเหมือนกันครับ
ปรากฏว่าตื่นสายเพราะลืมตั้งนาฬิกาปลุกครับ 55 เดินมาซื้อตั๋วรถไฟ เดินตามลูกศรมากมายแบบมั่นใจมาก…..
ขึ้นชานชลาไปรอรถ คนน้อยกว่าที่คิดครับ……แต่ชานชลาตรงข้ามคนเยอะมาก
รอไปสักพัก เอ๋!!....ทำไมมันไม่มาสักทีละ จะถึงเวลาแล้วนะ
เริ่มไม่แน่ใจครับ ลงไปดูในสถานีว่ามันยังไงซิ อ่อครับ! รอผิดชานชลาครับ ไอ้ที่คนรอเยอะๆนั้นละครับ ต้องขึ้นตรงนั้น ถึงว่าทำไมไม่มีคนเลย
หลังจากได้ขึ้นรถไฟ ที่ควรจะได้ขึ้นตั้งนานละ เดินทางสองสถานี ก็ถึงละครับ Fushimi Inari Shrine ที่เราคุ้นตา
ผมไม่ค่อยแน่ใจนักในส่วนของการไหว้ วัดและศาลเจ้าของที่นี่ สิ่งที่ผมทำได้คือ พนมมือแบบไทยนี่ละครับ แอบๆทำ 55
ตอนแรกตั้งใจมาให้เช้ากว่านี้ครับ แต่ก็แอบนึกว่าถ้าเช้ากว่านี้ไม่มีคนจริง แต่ก็ไม่มีแสงเช่นกัน ผมว่าเวลาที่ไปถึงนี่ก็กำลังพอดีครับ ประมาณ เจ็ดโมงกว่าๆ
ผมเดินมาถึงจุดนึงครับ… วิวมันก็ซ้ำๆละ เลยเดินลงดีกว่าครับ คนก็เริ่มทยอยมากันล่ะ
ชิมเสร็จแล้วก็เดินขึ้นเหนืออีกสักกิโลนึง ไปวัด Tofukuji ช๊อตในใจเลยครับคือถ่ายจากสะพานผ่านสวรรค์อะไรของเค้าสักอย่างครับ แล้วจะได้รูป ที่มีสะพานตรงข้ามอีกอัน ข้างหน้าเป็นทะเลเพลิงสีแดงของต้นเมเปิ้ล
เดินมาภายในวัด ตามองหาสะพานนั้นอยู่ไหนๆๆๆๆๆๆๆๆ …… เจอแล้วครับ แต่เดี๋ยว!!!!!! อะไรคือป้าย
NO PHOTO/ NO PHOTO/ NO PHOTO /NO PHOTO /NO PHOTO /NO PHOTO/ NO PHOTO
ติดแบบนี้เยอะมากก พร้อมมีเจ้าหน้าที่ควบคุม
ไม่แน่ใจ ถามให้ชัวร์เลยว่าไม่ให้ถ่ายหรอครับ …… สรุปเค้าไม่ให้ถ่ายจริงๆด้วย
จะร้องไห้………ซ๊อตนี่ท่องมาจากบ้านเมื่อปีก่อนนะครับว่าต้องมาถ่าย ทำใจเลยเดินไปยืนชื่นชมแบบเจียมตัว
แต่เดี๋ยวก่อน!!!........ ทำไมทุกคนที่มา เค้าแอบถ่ายกันละ? …. พอเห็นดังนั้น เราเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามครับ…..
ท๊าดา!!!!!!!!
ได้คุยกับพี่ที่เค้าอยู่ที่นี่ เค้าคิดว่า งดถ่ายรูปจุดนี้เพราะว่าเป็นสะพานไม้ครับ คนจะแห่กันมาถ่ายจุดนี้กันจนแน่น คงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยน่ะครับ
จากสะพานนั่น ทางก็บังคับมาให้ผมเจอกับทางออกครับ บังคับเดินวันเวย์
ผมเดินถ่ายรูปเล่นอีกสักพักนึง ก็ล่ำลาครับ ไปวัดต่อไปดีกว่า…… เดินขึ้นเหนือไปอีกหน่อยครับเพื่อไปขึ้นสถานี Tofukuji
ระหว่างทางได้เห็นความน่ารักของคนท้องถิ่นครับ
งงอีกแล้วครับ หลงอะไรใต้ดินนักก็ไม่รู้ สุดท้ายก็หาทางออกมาได้ โดยการใช้ Google Maps นี่แหละ อาศัยดูเอามาตอนนี้เราหันไปทิศอะไร แล้วเราต้อง ไปทางทิศไหนครับ
วัดนี้ผมไม่ได้ตั้งใจมาดูใบไม้แดงอะไรครับ ….. สิ่งที่ดึงดูดความสนใจผมคือ สะพานส่งน้ำโบราณครับ
จากนั้นเดินอีกอึดใจนึง ก็จะถึงวัด Eikan-do ครับ…….
เค้าบอกว่าวัดนี้เป็นวัดแห่งต้นเมเปิ้ลเลยครับ ใครที่จะมาดูใบไม้เปลี่ยนสี ห้ามพลาดวัดนี้ ค่าเข้าแพงมากก 1,000 เยน
ใช้เวลาสักพักนึงก็ออกมาจากวัดครับ…… ผมว่าวัดนี้ค่อนข้างสวยที่เดียวครับ ประทับใจระดับนึง
(ถ้ายังไม่เคยเห็นที่ Takao หรือ Arashiyama นะครับ โปรดติดตาม วันที่ 4-5 ครับ)
หมดไปแล้วนะครับ 4 ที่สำหรับวันนี้ ยังมีอีกที่นึงที่ตั้งใจจะไปครับ ผมต้องเดินกลับไปที่ สถานี Keage เหมือนตอนมา แล้วนั่งต่ออีกหนึ่งสถานีครับ
ใช้เวลาเดินสักพัก.... รู้สึกเหนื่อยกว่าขามาอีก 55 แรงเริ่มหมดละครับ…. ถึงสถานี Keage นั่งต่อไปอีก 1 สถานี ลงที่Yamashina
นึกขึ้นได้ว่า วันนี้ยังไม่ได้กินอาหารแบบจริงๆจังๆ เลยแวะร้านเบอร์เกอร์กินกับวนิลลามิลค์เชคแถวสถานี แล้วค่อยไปต่อครับ
วัดที่จะไปชื่อว่า Bishamon-do จริงๆคิดว่าวันนี้ค่อนข้างหนักไป แต่เห็นว่าอยู่ใกล้ๆกัน แล้วทางกลับพอดี ก็แวะหน่อยก็ได้ครับ…..
กินเสร็จก็เดินตาม Map ต่อครับ…… เดินๆไป ผมว่าผมไม่โอเครล่ะ 555555 !!!!!!!
มันอีกกิโลกว่าเลยนะ!!!!!! เหนื่อยครับ เริ่มงอแง เลยมาหยุดที่หน้าโรงเรียน หรือ สนามกีฬา อะไรสักอย่างครับ เงียบดี ……
ผมนั่งพักขา ลมเย็นๆเงียบๆดีครับ ได้เห็นเด็กมัธยม ซ้อมเบสบอลด้วย แลดูจริงจังกันครับ
มันพอดิบพอดีจริงๆ บรรยากาศมันบอกไม่ถูกครับ มันคืออะไรที่เรียล ไม่มีนักท่องเที่ยว มีแต่คนระแวกนั้นที่ใช้ชีวิตประจำวันของเค้า
นั่งพักใหญ่ๆเลยครับ วัดเวิดไม่ไปละ 555!!! ความพิเศษมันอย่างนี้นี่เอง แค่นั่งมองคนทำกิจกรรมเพลินๆ เงียบๆก็พอละครับ
ผมตัดสินใจกลับห้องตั้งแต่บ่ายสองกว่าๆครับ อยากเก็บแรงไว้วันอื่นๆครับ เพราะพรุ่งนี้นี่เดินล้วนๆ แบบโหดๆเลยครับ แล้วค่อยออกไปเดินเล่นแถวที่พักดีกว่าครับ
นั่งรถไฟ JR ไปลงสถานีเกียวโต จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง และทุกวันของผมครับ
สำหรับวันที่สองในเกียวโตของผมก็จบแค่นี้นะครับ …… แอบเหนื่อยเหมือนกัน เลยกลับไปงีบดีกว่า 5555 เป็นทริปที่เอาแต่ใจมาก
หัวค่ำแอบไปดูห้างแถวๆ ที่พัก พอดีที่บ้านฝากซื้อของครับ
แอบดูร้านที่อยากกิน แถวยาวมาก เสียเวลารอ…. ก็เลยซื้อข้าวใน Lawson กลับมากินที่ห้องครับ….. เข้านอนเร็วหน่อยครับ พรุ่งนี้ผมต้องตื่นเช้า
ติดตามวันที่สามกันนะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น